เกริ่นคร่าวๆนิดนึงครับ หลายๆท่านรวมถึงตัวผมเองก็อาจจะเคยได้ยินคำที่ผู้ใหญ่เคยสอนว่า "สุภาพบุรุษไม่พึงนินทาผู้หญิง" หรือ "การนินทานั้นเป็นจริตของผู้หญิง" ซึ่งจนมาถึงทุกวันนี้ก้เข้าวัยยี่สิบกลางๆจะค่อนปลายแล้ว ผมกล้าพูดได้ว่ามันไม่จริง ไม่จริงเอามากๆด้วย ขนาดคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านยังตรัสไว้เลยว่า "ผู้ไม่ถูกนินทา ย่อมไม่มีในโลก" ทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นทั้งผู้นินทา หรือผู้ถูกนินทาได้ทั้งนั้น
ส่วนสำหรับบางท่านที่ยังยึดถือคติว่า เป็นผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็ไม่ควรนินทาผุ้หญิง(หรือนินทาผู้ชายด้วยกันเองได้หรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบ) เอาจริงๆส่วนตัวผมว่าผู้หญิงเองถ้าจะถือตนเป็นสุภาพสตรีก็ไม่ควรจะนินทาเหมือนกันนะ แต่ผมก็รู้แล้วว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าหากบางท่านยึดมั่นมากว่าจะไม่นินทาใครผมว่าไม่ว่าจะหญิงหรือชาย หรือเพศสภาพไหนก็สามารถยึดถือมั่นไว้ได้เหมือนกันนะ ไม่น่าจะโยนให้ฝ่ายชายผู้เดี่ยว เหมือนกับว่าผู้ชายมักจะต้องห้ามพูดห้ามแสดงความเห็นใดๆ ต้องเก็บกดไว้(ต่อหน้าห้ามเถียงผู้หญิง ถ้าเถียงชนะคือตุ้ด ไม่แมน ไม่ให้เกียรติผู้หญิง ต่อหน้าก็ไม่ได้แถมลับหลังก็ห้ามด้วยอีก เออเนอะ แล้วในกรณีที่ผู้หญิงนินทาผู้ชาย หรือว่าผู้ชายต่อหน้าสาธารณะนี่ให้เกียรติกันมากเลย)
ที่หยิบขึ้นมาตั้งกระทู้นี้เพราะอยากจะเล่าสักหน่อยครับ เจอมาบ้างกับวลีเหล่านี้ทั้งในชีวิตจริงหรือในโลกอินเตอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ หรือในพันทิพก็เช่นกัน วลีเด็ดๆพวกนี้จะลอยๆมา ไม่ว่าจะเคลมโดยผู้หญิงบ้าง โดยผู้ชายบ้าง ราวกับว่า โอ้โหผมประพฤติตนว่าเป็นสุภาพบุรุษ ไม่นินทาผู้หญิง มันไม่มีหญิงไหนหรือใครมายินดีชื่นชมครับ โน-บอ-ดี้-แคร์ หรือหากคิดว่าจะเก็บไว้เป็นความภาคภูมิใจเล็กๆน้อยส่วนตน อันนั้นก็ไม่ว่ากันครับ แต่สังคมการนินทาก็จะยังมีและดำเนินต่อไป ไม่ว่าเราจะเข้าร่วมวงด้วยหรือไม่
ส่วนตัว จขกท เองก็เคยเผลอร่วมวงเป็นบางครั้งครับ อาจจะเพราะสบโอกาสเพื่อเป็นการระบายความอัดอั้นในบางครั้งที่มีต่อเป้าหมายผู้ถูกกล่าวถึง แต่ผมก็ปลงตัวไว้อยู่แล้วว่าตัวเองก็มีอยู่แล้วที่ตกเป้นผู้ถูกกล่าวถึงบ้าง แต่ปกติแล้วผมจะเป็นเหมือนผู้รับรู้เรื่องราวการนินทาซะส่วนมาก ตอนสมัยเรียนเคยพบเคยได้ยินบ้าง แต่พอเข้าวัยทำงานนี่เจอบ่อยมากเลย ยิ่งสำนักงานเป็นแบบชั้นเปิดโล่ง (Open Plan) มีผนังคอกกั้นโต๊ะทำงาน (Partition) สูงแค่ระดับหน้าอก ก๊กไหนกลุ่มไหนเล่าเม้าท์อะไรกัน เสียงนี่ลอยมาเลย(นี่ไม่ได้ว่าแอบฟังคนอื่นนะครับ ก็นั่งอยู่ในห้องเดียวกันถึงจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ฟัง แต่ก็ได้ยินหมดเลย) ทำให้รับรู้หมดครับ แวดวงของการนินทามันมีครบหมด ไม่ว่าจะ หญิงนินทาหญิง หญิงนินทาชาย ชายนินทาชาย หรือแม้แต่ชายนินทาหญิง มันมีครบหมดครับ เรื่องชีวิตรัก เรื่องการงาน(วัยนี้ก็น่าจะเจอประเด็นนี้เยอะสุดละ) บ้างก็ลามถึงเรื่องส่วนตัว
ก็เลยจะฝากบอกเอาไว้ครับ ว่าถ้าตัวเองก็ยังชอบนินทาก็อย่างไปคาดหวังกับคนอื่นไม่ให้นินทาหรือติว่าว่าเขากำลังนินทาคนอื่น โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงที่ไปเคลมกับคุณผู้ชายว่าไม่ให้นินทาครับ (วงสังสรรค์คุณผู้ชายเม้าท์ถึงเมียก็มีเยอะครับ) ท้ายที่สุดแล้ว จขกท จะยึดถือว่า การจะนินทาหรือไม่นินทา ล้วนขึ้นอยู่กับตัวบุคคลครับ ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นชายหรือหญิงหรือเพศสภาพไหนๆก็ตาม แล้วการนินทาสามารถเกิดได้ทั้งจากความรู้สึกอัดอั้น อึดอัดใจ ต้องการระบาย หรือเพราะต้องการปองร้าย เพื่อสร้างความอับอายแก่ผู้ถูกกล่าวถึง หรือจะด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ทุกคนตกเป็นผู้ถูกกล่าวถึงได้เสมอครับ อยู่ที่ว่าจะปล่อยผ่านไปหรือจะเก็บมาใส่ใจ ก็แค่นั้นเอง เราไปห้ามผู้อื่นไม่ให้พูดถึงเราได้ไม่หมดทุกคนหรอก
ผู้ชายไม่ควรนินทาผู้หญิง มันไม่จริง
ส่วนสำหรับบางท่านที่ยังยึดถือคติว่า เป็นผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็ไม่ควรนินทาผุ้หญิง(หรือนินทาผู้ชายด้วยกันเองได้หรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบ) เอาจริงๆส่วนตัวผมว่าผู้หญิงเองถ้าจะถือตนเป็นสุภาพสตรีก็ไม่ควรจะนินทาเหมือนกันนะ แต่ผมก็รู้แล้วว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าหากบางท่านยึดมั่นมากว่าจะไม่นินทาใครผมว่าไม่ว่าจะหญิงหรือชาย หรือเพศสภาพไหนก็สามารถยึดถือมั่นไว้ได้เหมือนกันนะ ไม่น่าจะโยนให้ฝ่ายชายผู้เดี่ยว เหมือนกับว่าผู้ชายมักจะต้องห้ามพูดห้ามแสดงความเห็นใดๆ ต้องเก็บกดไว้(ต่อหน้าห้ามเถียงผู้หญิง ถ้าเถียงชนะคือตุ้ด ไม่แมน ไม่ให้เกียรติผู้หญิง ต่อหน้าก็ไม่ได้แถมลับหลังก็ห้ามด้วยอีก เออเนอะ แล้วในกรณีที่ผู้หญิงนินทาผู้ชาย หรือว่าผู้ชายต่อหน้าสาธารณะนี่ให้เกียรติกันมากเลย)
ที่หยิบขึ้นมาตั้งกระทู้นี้เพราะอยากจะเล่าสักหน่อยครับ เจอมาบ้างกับวลีเหล่านี้ทั้งในชีวิตจริงหรือในโลกอินเตอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ หรือในพันทิพก็เช่นกัน วลีเด็ดๆพวกนี้จะลอยๆมา ไม่ว่าจะเคลมโดยผู้หญิงบ้าง โดยผู้ชายบ้าง ราวกับว่า โอ้โหผมประพฤติตนว่าเป็นสุภาพบุรุษ ไม่นินทาผู้หญิง มันไม่มีหญิงไหนหรือใครมายินดีชื่นชมครับ โน-บอ-ดี้-แคร์ หรือหากคิดว่าจะเก็บไว้เป็นความภาคภูมิใจเล็กๆน้อยส่วนตน อันนั้นก็ไม่ว่ากันครับ แต่สังคมการนินทาก็จะยังมีและดำเนินต่อไป ไม่ว่าเราจะเข้าร่วมวงด้วยหรือไม่
ส่วนตัว จขกท เองก็เคยเผลอร่วมวงเป็นบางครั้งครับ อาจจะเพราะสบโอกาสเพื่อเป็นการระบายความอัดอั้นในบางครั้งที่มีต่อเป้าหมายผู้ถูกกล่าวถึง แต่ผมก็ปลงตัวไว้อยู่แล้วว่าตัวเองก็มีอยู่แล้วที่ตกเป้นผู้ถูกกล่าวถึงบ้าง แต่ปกติแล้วผมจะเป็นเหมือนผู้รับรู้เรื่องราวการนินทาซะส่วนมาก ตอนสมัยเรียนเคยพบเคยได้ยินบ้าง แต่พอเข้าวัยทำงานนี่เจอบ่อยมากเลย ยิ่งสำนักงานเป็นแบบชั้นเปิดโล่ง (Open Plan) มีผนังคอกกั้นโต๊ะทำงาน (Partition) สูงแค่ระดับหน้าอก ก๊กไหนกลุ่มไหนเล่าเม้าท์อะไรกัน เสียงนี่ลอยมาเลย(นี่ไม่ได้ว่าแอบฟังคนอื่นนะครับ ก็นั่งอยู่ในห้องเดียวกันถึงจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ฟัง แต่ก็ได้ยินหมดเลย) ทำให้รับรู้หมดครับ แวดวงของการนินทามันมีครบหมด ไม่ว่าจะ หญิงนินทาหญิง หญิงนินทาชาย ชายนินทาชาย หรือแม้แต่ชายนินทาหญิง มันมีครบหมดครับ เรื่องชีวิตรัก เรื่องการงาน(วัยนี้ก็น่าจะเจอประเด็นนี้เยอะสุดละ) บ้างก็ลามถึงเรื่องส่วนตัว
ก็เลยจะฝากบอกเอาไว้ครับ ว่าถ้าตัวเองก็ยังชอบนินทาก็อย่างไปคาดหวังกับคนอื่นไม่ให้นินทาหรือติว่าว่าเขากำลังนินทาคนอื่น โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงที่ไปเคลมกับคุณผู้ชายว่าไม่ให้นินทาครับ (วงสังสรรค์คุณผู้ชายเม้าท์ถึงเมียก็มีเยอะครับ) ท้ายที่สุดแล้ว จขกท จะยึดถือว่า การจะนินทาหรือไม่นินทา ล้วนขึ้นอยู่กับตัวบุคคลครับ ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นชายหรือหญิงหรือเพศสภาพไหนๆก็ตาม แล้วการนินทาสามารถเกิดได้ทั้งจากความรู้สึกอัดอั้น อึดอัดใจ ต้องการระบาย หรือเพราะต้องการปองร้าย เพื่อสร้างความอับอายแก่ผู้ถูกกล่าวถึง หรือจะด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ทุกคนตกเป็นผู้ถูกกล่าวถึงได้เสมอครับ อยู่ที่ว่าจะปล่อยผ่านไปหรือจะเก็บมาใส่ใจ ก็แค่นั้นเอง เราไปห้ามผู้อื่นไม่ให้พูดถึงเราได้ไม่หมดทุกคนหรอก