“2 ล้อ 2 น่อง ท่อง 2 แผ่นดิน มุกดาหาร (ไทย) - สะหวันนะเขต (สปป. ลาว)

Tour of Mukdahan - Savannakhet 2017

ในขณะที่ใครหลายคน ออกไปเล่นน้ำหรือไปเที่ยวในช่วงสงกรานต์ แต่ผมเพิ่งมีเวลามานั่งเคลียงาน พอได้เห็นรูปของงานนี้ มันทำให้ย้อนไปถึงความสุขและความสนุก ที่คิดว่าเราไม่ควรเก็บไว้คนเดียว กับ งาน Tour of Mukdahan - Savannakhet 2017 หรือ  “2 ล้อ 2 น่อง ท่อง 2 แผ่นดิน มุกดาหาร (ไทย) - สะหวันนะเขต (สปป. ลาว)” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา อย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5

วัตถุประสงค์ของงานก็คือ กระชับความสัมพันธไมตรีอันดีระหว่าง 2 เมือง 2 ประเทศ และเปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวด้วยจักรยาน ซึ่งในงานนี้มีนักปั่นมาจากหลายจังหวัด รวมถึงพวกเราที่มาจากกรุงเทพ โดยงานจัดขึ้น 2 วัน วันแรกเป็นการปั่นเพื่อการท่องเที่ยว ชมตัวเมืองมุกดาหารใน ธีม “ปั่น ชิลล์ แชะ แชร์ ท่องเที่ยวมุกดาหาร” ผ่านแหล่งท่องเที่ยว ที่เป็นไฮไลต์ของตัวเมือง เช่น ศาลหลักเมือง ตลาดอินโดจีน ตลาดสำคัญแหล่งช๊อปปิ้งของชาวลาว ที่เวลาข้ามฝั่งมาต้องแวะสักนิดก่อนกลับ แล้วไปไหว้พระที่วัดต่างๆ ที่สำคัญของมุกดาหาร และที่ไฮไลต์คือ พระใหญ่ภูมโนรมย์ จุดชมวิวแบบพาโนรามามองเห็นวิวทิวทัศน์ไปไกลสุดลูกหูลูกตา ยิ่งในวันที่อากาศดีก็จะเห็นไปถึง สปป. ลาว กันเลยทีเดียว

ตอนเปิดงาน

นักปั่นมากันเยอะมาก

วันที่สอง วันนี้เราจะปั่นจากประเทศไทย ไป สปป.ลาว โดยเริ่มจาก ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ข้ามสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 ผ่านไปยังวงเวียนไดโนเสาร์ เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปที่ สถานกงสุลไทย ณ แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งที่นี่ ท่านกงศุลไทยก็ได้ให้การต้อนรับ รอคอยขบวนนักปั่นอยู่แล้ว หลังจากนั้นเราก็ปั่นเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ชาวเมืองสะหวันนะเขต แวะตามสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญของ สะหวันนะเขต

หน้าสถานกงสุลไทย ณ แขวงสะหวันนะเขต

“โบสถ์เซนต์เทเรซ่า” โบสถ์เก่าแก่กลางเมือง ที่สร้างในสไตล์ศิลปะฝรั่งเศส

เราก็แวะพักดื่มน้ำกันที่ลานหน้า “โบสถ์เซนต์เทเรซ่า” เพื่อพักคลายเหนื่อยกันสักนิด ก่อนที่จะปั่นไป “พระธาตุอิงฮัง” พระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวลาวที่ให้ความเคารพนับถือกันมาก โดยพระธาตุองค์นี้สร้างมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ช่วงปี พ.ศ. 400 โน่น

พระธาตุอิงฮัง

Fat Bike มากันเยอะเหมือนกัน

ชาวสะหวันนะเขต จัดงานต้อนรับอย่างดี

ถนนหนทางใกล้ๆ กับโบสถ์เซนต์เทเรซ่า ยังดูบ้านๆ

สำหรับผมและเพื่อนๆ ที่อุตส่าห์หนีความวุ่นวายมาจากกรุงเทพ ในเมื่อเรามาเที่ยวทั้งเมืองเก่าแก่สุดคลาสสิคอย่างสะหวันนะเขตทั้งที ก็ตกลงกันว่า ... คืนนี้พวกเราจะไม่นอนที่มุกดาหาร เพราะเคยมาเที่ยวหลายครั้งแล้ว แต่จะย้อนกลับไปนอนที่สะหวันนะเขต โดยจะใช้วิธีนั่งเรือข้ามไปแทน พร้อมขนจักรยานเอาไปปั่นเล่นด้วย ซึ่งตัวผมเองแม้จะมางาน “2 ล้อ 2 น่อง ท่อง 2 แผ่นดิน” เป็นครั้งที่ 3 แต่ก็ยังไม่เคยได้ไปค้างคืนเลยสักครั้งเหมือนกัน

สะหวันนะเขต เป็นเมืองเก่าแก่ มาตั้งแต่ยุคขอมเรืองอำนาจ (ช่วงราวๆ ปี พ.ศ. 2100) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญอีกแห่งของ สปป. ลาว ที่เมืองนี้คนไทยไปเที่ยวกันเยอะครับ เพราะไปง่าย แค่ลงเรือข้ามแม่น้ำโขงราวๆ 30 นาที ก็ถึงแล้ว

จักรยานต้องแบกลงเรือกันเองนะครับ บันไดก็ชันพอสมควร

จักรยานต้องไปอยู่บนหลังคาเรือ ที่จะไปฝั่งลาว เนื่องจากมากันหลายคันเกิน

ก็นั่งกันไปบนหลังคานั่นแหละครับ

คืนนั้น เราพักกันที่นี่ ซึ่งที่จริงมีโรงแรมที่พักในละแวกนั้น เยอะพอสมควร

แหล่งที่นักท่องเที่ยวชอบไปพักก็คือรอบๆ “ตะหลาดสะหวันลาตี” โดยในช่วงกลางคืน ลานแห่งนี้จะมีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดมาเปิดมากมายหลายร้านให้เราได้เลือกชิม ทั้งแบบชาวลาวแท้ๆ หรือแบบโมเดิร์นสมัยใหม่ก็มี หรือถ้าใครชอบประเภทสังสรรค์เฮฮา แถวนั้นก็มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการด้วยเหมือนกัน

บริเวณใกล้ๆ กับตะหลาดสะหวันลาตี ยังมีตึกรามบ้านช่องแบบเก่าๆ คลาสสิคให้เห็น


เช้ามา เราก็ปั่นจักรยานเที่ยว สำรวจตัวเมืองสะหวันนะเขตกัน



รถยนต์ยี่ห้อฮุนได ที่นี่ใช้กันเยอะ

ปั่นไปปั่นมาหิว..ก็จัดสิฮะ ... เฝอเนื้อ เนื้อนุ่มมากกกกก

วันนั้นก่อนกลับกรุงเทพ เราก็เพลินกับการถ่ายรูปโพสต์ท่ากันในมุมเก๋ๆ ซึ่งมีเพียบ

สาวลาวที่นี่ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเติมแต่งแต้มสีสันกันมาก

บรรยากาศที่ดูคลาสสิคของเมืองเงียบๆ แต่ไม่เหงา รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ยิ่งได้อยู่กับเพื่อนๆ ที่นานๆ ได้เจอกันที ยิ่งทำให้เรามีความสุขมากยิ่งขึ้น จนต้องคิดว่าถ้ามีโอกาสจะต้องกลับไปที่สะหวันนะเขตอีกอย่างแน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่