[CR] "สะบายดีสะหวันนะเขต" "เมืองดึกดำบรรพ์ สะหวันนะเขต เหตุแห่งการสโลว์ไลฟ์ สัมผัสกลิ่นอายของอดีต"

สะหวันนะเขต เป็นแขวงหนึ่งใน สปป.ลาว ที่มีประชากรมากที่สุด มีเนื้อที่มากที่สุด
มีเมืองเอกคือ เมืองไกสอน พมวิหาน (คันทะบูลี) เป็นเมืองๆ หนึ่งที่ยังคงสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลไว้อย่างยาวนาน ทั้งนี้ยังมีเมืองหลวงพระบาง เมืองปากเซ และ นครหลวงเวียงจันทน์ ที่ยังคงสถาปัตยกรรมไว้เช่นกัน
สะหวันนะเขต เป็นแขวงหรือเมืองที่ใครๆ ก็สามารถไปได้ โดยขึ้นรถอินเตอร์บัสจาก คิวรถ บขส. มุกดาหาร ก็ได้ นั่งเรือข้ามฟากก็ดี ได้บรรยากาศอีกแบบ
"แค่ 20 นาที อารมณ์ก็เปลี่ยน" พี่เล็ก ใบเมี่ยง เจ้าของหนังสือ "โรงรูปเงา ลาวเจริญรามา" ได้เขียนเอาไว้



ผมกับเพื่อนเดินทางตั้งแต่ 8 - 12 ธันวาคม 2559.
*ขออนุญาตสรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ก่อนเลย คิดเป็นรายหัว ต่อคนนะครับ*
-ค่ารถ บขส. ม.4(ข) กทม.- มุกดาหาร 439 บาท (รวมกลับด้วย ก็ 878 บาท)
-ค่ารถอินเตอร์บัส มุกดาหาร-สะหวันนะเขต 50 บาท (มีหนังสือเดินทางกับใบผ่านแดนด้วยนะครับ)
-ค่าธรรมเนียมเข้าเมือง 50 บาท (ฝั่งลาว) -ค่าไข่กระทะ 25000 กีบ (90 บาท)
-ค่าที่พักคืนแรก (โฮสเทล) 350 บาท (เกิดความผิดพลาดของที่พักเนื่องจากเต็มในคืนวันที่ 9 เลยได้นอนโฮสเทล ทำให้คืนนั้น พวกเราสองคน ครองชั้น 3 ครับ 555)
-ค่าเฝอกะทิ 15000 (60 บาท)
-ค่าบัตรเติมเงิน 50000+10000 = 60000 กีบ (240 บาท)
-ค่าเบียร์ลาว ประมาณ 600 บาท (นับรวม 3 วัน)
-ค่าอาหารสะหวันราตรี คืนแรก 90 บาท/2 ก็ 45 บาท
-ค่าอาหารสะหวันราตรี คืนสอง 120 บาท/2 ก็ 60 บาท
-ค่าข้าวผัดกะเพราหมู ร้านสุกสะหวัน คนละ 90 บาท
-ค่าเรือข้ามฟาก สะหวันนะเขต - มุกดาหาร 50 บาท
-ค่าธรรมเนียมออกเมือง 120 บาท (สำหรับวันหยุดราชการ)  80 บาท (สำหรับวันธรรมดา)
***รวมทั้งหมด ต่อหัว ก็ 2788 บาท เท่ากับว่า สะหวันนะเขตมาเที่ยว 3 วัน 3000 บาท ก็พอแล้วครับ***
(ค่าใช้จ่ายในทริป อาจจะเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับการใช้เงินในการเดินทางของเพื่อนสมาชิก)


จุดเริ่มต้นของพวกเราสองคน จริงๆ แล้ว เริ่มที่ กรุงเทพฯ นะครับ แต่เนื่องจากว่า ไม่ได้ถ่ายไว้เลย
เพิ่งจะได้มาเก็บภาพที่นี่ ที่มุกดาหารเป็นที่แรก
(ผมมากับเพื่อนอีกคนนึงชื่อเอิร์ธ มันบอกว่า อยากไปเมืองนอกสักหน่อย ก็จัดให้เลย 555)
- การเดินทางข้ามไปยังฝั่งสะหวันนะเขต สามารถเดินทางได้ทั้งรถอินเตอร์บัส (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ซึ่งจะไปทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2
หรือจะข้ามเรือข้ามฟากก็ได้ ซึ่งได้บรรยากาศอีกแบบ (เรือข้ามฟากชาวต่างชาติไม่สามารถข้ามได้นะ ได้เฉพาะผู้โดยสารไทย-ลาว เท่านั้นจ้ะ)
-ค่าใช้จ่ายค่ารถ ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว มีทุก ชม.  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เข้ามาฝั่งลาวแล้ว อะไรๆ ก็เปลี่ยน เช่น ตัวหนังสือ...


09.10 น. ก็ถึงคิวรถสะหวันนะเขตแล้ววววว !!
คิวรถสะหวันนะเขตนี้ นอกจากจะเป็นคิวรถที่ไปยังแขวงต่างๆ เช่น นครหลวงเวียงจันทน์ ท่าแขก สาละวัน จำปาสัก (ปากเซ)
และยังเป็นคิวรถที่มีรถไปยังประเทศเวียดนามด้วย เช่น ไป ฮานอย ฮาตินห์ กวางบินห์ เว้ ดานัง ฯลฯ


ออกจากคิวรถ ก็ไปหาแลกเงินดีกว่า..
พวกเราเลยตัดสินใจไปแลกเงินที่ ธนาคารพงสะหวัน ซึ่งอยู่ห่างจากคิวรถแห่งนี้ถึง 1.2 กม.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ระหว่างทางไปแลกเงินที่ธนาคาร
"เห้ย ! พวกเอ็งทำอะไรกัน เดี๋ยวแจ้งเสมารักษ์เลย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ระหว่างทาง...อีกแล้ว !!
"ยำยำ ยำถึงลาวเลยทีเดียวเชียว" 555


หลังจากที่เราแลกเงินมาแล้ว เราจะได้เงินมากถึง หนึ่งล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นนิดๆ กีบ (แลกไป หกพันหนึ่งร้อยบาทไทย)


สายๆ แบบนี้
สิ่งแรกที่ผมอยากกินเลยก็คือ
นี่ครับ "สเต็กไข่ดาว" หรือ "ไข่กระทะ" หรือ "บั๋น หมี่ อ๊อบ ลา"
มีทั้งสองแบบให้เลือกครับ คือ หมู กับ เนื้อ
มีขนมปังฝรั่งเศส (เข้าจี่) เสิร์ฟมาด้วย
ราคา 25000 กีบ
พิกัด ตรงข้ามธนาคารพงสะหวัน ติดกับร้านขายขนมเค้ก ถัดไปทางซ้ายก็ ร้านขายโทรศัพท์ซัมซุง


เอาให้เห็นชัดๆ กันไปเล้ยย


กินเสร็จแล้วก็เดินมาที่พักที่เราจะพักค้างกันใน 2 คืนนับจากนี้ ก็ คือ ที่นี่ครับ
"สะหวัน คาเฟ่ เบด แอนด์ ฟู้ด"
พิกัด อยู่ใกล้ๆ กับ ท่าเรือข้ามฟากสะหวันนะเขต-มุกดาหาร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


บรรยากาศภายในตัวอาคารที่พัก...
บรรยากาศสไตล์คลาสสิค สไตล์ฮ่องกงยุค 60  ก็ว่าได้


บรรยากาศในที่พัก ก็จะอยู่ในลักษณะนี้ ก็ คือ เตียงใหญ่ มีหลายสไตล์ สำหรับห้องนี้ จะเป็นสไตล์หว่อง
เนื่องจากมีพื้นที่ในห้องน้อย เลยต้องแยกห้องน้ำเป็น 2 ส่วนคือ ห้องแรกจะเป็นห้องอาบน้ำ และ อีกห้องนึงจะเป็นห้องส้วม ส่วนตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้า/มือ เป็นการใช้สอยพื้นที่ได้เกิดประโยชน์มากก


สภาพอ่างล้างมือที่ว่านี่แหละครับ
ตื่นเช้ามาก็ ลุกขึ้นมาล้างหน้าได้เลย เพราะอยู่ใกล้เตียง ไม่ต้องเข้าไปห้องน้ำ


นี่คือเตียงนอนควีนไซส์หรือเปล่าไม่แน่ใจ
แต่แอร์เย็นดี


เปิดหน้าต่างออกไปก็เจอร้านค้าครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


บ่ายๆ มาก็ ออกเดินเล่นไปเรื่อยๆ
และนี่คือ "หอมเหสักข์" ครับ อยู่ริมแม่น้ำโขง ตรงข้าม "วัดไชยะพูมาราม"
แถวๆ ร้านซิ้นดาด จิ้มจุ่ม มุมสะบาย

หลังจากนั้นก็เดินวนไปวนมาเรื่อยๆ จนถึงร้านกาแฟลินครับ จะอยู่ใกล้กับตลาดกลางคืน และโบสถ์เซนต์เทเรซ่า บรรยากาศหน้าร้านก็ตามภาพครับผม
ผมสั่งกาแฟหยอดกิน 18000 กีบ ประมาณ 80 บาท ผมไม่ได้ถ่ายกาแฟหยอดไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


และนี่คือ "ตลาดสะหวันลาตี"
ตลาดกลางคืนของชาวเมืองไกสอนฯ (เมืองเอกของแขวงสะหวันะเขต) ที่พร้อมจะฝากท้องในมื้อเย็นของแต่ละวัน


นี่ก็คือ
"บาร์บีคิว" แบบ จีน (คนลาวเรียกปิ้งจีน คนไทยเรียก "ซาวข่าว" ใช่ไหม?)
ราคาจะเริ่มต้นที่ 2000-5000 กีบ


นี่คือหน้าตาของบาร์บีคิวสไตล์จีน ครับ
หมดนี่แค่ 21000 กีบ เองครับ (95 บาท)


ใกล้ๆ กันกับตลาดกลางคืนก็จะเป็น ร้านนั่งชิลล์ ที่มีชื่อว่า "สุกสะหวัน" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ร้านเปิดแต่ 5 โมงเย็นยันเที่ยงคืนครับ


แต่ก่อนอื่น ผมขอมาแวะมาร้านนี้ก่อนครับบ
"สะหวันแคมของ"
ร้านอาหาร นั่งกินดื่ม บรรยากาศคล้ายบ้านเรา
มีคาราโอเกะให้ร้องด้วย (โต๊ะละ 1 เพลง ถ้าจะไม่ร้อง ฟังเพลงเอาก็ได้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เบียร์ลาว เบียร์ของคนลาว คนจริงใจ
กินน้อยมาก 4 แก้วเอง 555 (แก้วแปลว่าขวด)

กินเสร็จก็เดินกลับมาที่ร้าน "สุกสะหวัน"
ฟังดนตรีสดกันต่อไป พร้อมกับจิบเบียร์ลาว 2 แก้ว พร้อมข้าวผัดกะเพราหมู คนละ 1 จาน


บรรยากาศในร้านสุกสะหวันครับ คลาสสิคไปไหนนั่น แต่ร้านดูดีมากเลยครับ


โฉมหน้านักร้อง ในคืนนี้

หลังจากที่สัมผัส อาหารดี ดนตรีไพเราะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ครับ

------จบทริปวันแรก------


*** เดี๋ยวกลับมาต่อนะครับ พี่น้องชาวบลูฯ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่