สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านครับ
กลับมาแล้ว หลังจากที่ห่างหายจากจากเขียนเล่าประสบการณ์เที่ยวนานนับปี

ปีนี้เรามาเริ่มต้นการเล่าประสบการณ์ของการท่องเที่ยวแบบง่าย ๆ กันดีกว่า
ในช่วงสงกรานต์ (13-15 เม.ย. 60) ที่ผ่านมา
เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวสังขละบุรีและเมืองพญาตองซู
ซึ่งสังขละบุรีเป็นเมืองที่เราปักหมุดจะไปเที่ยวนานมากกกกกกกกก...
พอต้นปีก็รีบกางปฏิทินดูวันหยุดเลยจ้า
ปรากฏว่าไม่มีวันที่จะหยุดได้เลย
ทำงานยังไงไม่ให้มีวันหยุด 555
ได้หยุดกับเขาทั้งทีก็หยุดช่วงเทศกาลยาวๆ เนี่ยแหล่ะครับ

และด้วยความเป็นคนที่ไม่ชอบเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลด้วยครับ
เป็นตั้งแต่สมัยเรียนแล้วด้วย
(อ่อ จขกท.เป็นคนต่างจังหวัด มาทำงานกรุงเทพนะครับ)

เราเริ่มวางแพลนทริปไปสังขละในช่วงสงกรานต์กัน
อ่านรีวิวเยอะมากครับ
แต่รีวิวของการไปเที่ยวสังขละน้อยกว่าที่อื่นๆ พอสมควร

เอาละครับ เข้าเรื่องกันดีกว่า
1. ผมเริ่มหาข้อมูลของสังขละบุรีช่วงเดือนกุมภาพันธ์
หาที่พักเป็นอันดับแรกเลยครับ
พอหาได้ ก็โทรจอง โทรเช็คทันทีเลย
เต็มไปหลายที่เลยครับ เพราะมันอยู่ในช่วงเทศกาลนี่นา
ได้ที่พักเป็นโฮมสเตย์ ราคาคืนละ 700 บาท เป็นห้องแอร์ครับ
เพิ่มที่นอนเสริมอีกคนละ 150 ต่อคืน
จริงๆ ห้องพัดลมก็ถูกกว่าเยอะอยู่ครับ
แต่ก็ช่วงเมษาอะเนาะ อากาศร้อนเป็นธรรมดา
---ค่าที่พักตกอยู่ที่คืนละ 1000 บาท 2 คืน = 2000 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 500 บาท--

2. เริ่มศึกษาเส้นทางที่จะเดินทางครับ
ทีแรกจะซื้อตั๋วรถของ บขส. ที่เดินทางไปถึงที่สังขละบุรีเลย
ตอนนั้นก็ชะล่าใจครับ ยังไม่จอง
พอถึงเดือนมีนา ใกล้เข้ามาทุกที เปิดเว็บดูอีกที
ไม่มีตั๋วให้จ้องละจ้าาาาาาา
ก็ดั้นด้นไปถามที่หมอชิตเลย
พนักงานบอกกับเราว่า ช่วงเทศกาลจะไม่รับจองนะคะ
เอาไงละ อีกทางคือรถไฟไง
ก็ไปเช็คตั๋วที่รถไฟครับ พนักงานบอกว่ามีตั๋วฟรีนะ แต่ต้องไปขึ้นที่สถานีธนบุรี
อีกอย่างก็ต้องเสี่ยงโชคเอานะว่าจะมีตั๋วไหม เพราะมันเป็นช่วงเทศกาล คนจะเยอะเป็นพิเศษ

3. วางแผนทริป ศึกษาสถานที่ที่สำคัญๆของสังขละ และเมืองพญาตองซูฝั่งเมียนมาร์

----------------------
และแล้ววันเดินทางก็มาถึง
เรานัดเจอเพื่อนๆ ที่สถานีธนบุรี ก่อนเวลา 7 โมงเช้าครับ
(จริงๆ รถไฟออก 7.50 น. แต่เพื่อความชัวร์ และความที่ต้องเสี่ยงตั๋ว นัดก่อนเวลาดีกว่า)

ดูคลื่นมหาชนสิครับ ถายซิเขาเหล่านั้นจะไปไหนกัน
ใช่แล้ว เขาไปกาญจน์!!!

ตั๋วรถไฟฟรีของเรา พร้อมลุยจ้า

สวัสดีครับ ^^

เพราะขึ้นชื่อว่าตั๋วฟรีเนาะ ใครใคร่นั่ง นั่ง ใครใคร่ยืน ยืน ใครใคร่นอน นอน
งานนี้นั่งตรงไหนได้ก็นั่งเลยจ้า อ่อ อีกอย่างไม่ต้องกลัวอดนะครับ เพราะมีคนมาขายของกินตลอดเวลา

ถึงสถานีกาญจนบุรีแล้วครับ
เคยอ่านรีวิวบางท่านนะครับ บอกว่าจะลงรถไฟที่สถานีน้ำตกก็ได้ เพราะรถก็ผ่าน แต่เราเลือกลงที่สถานีกาญจนบุรีดีกว่าครับ
เผื่อซวยไม่มีรถไปสังขละ
ลงรถไฟ เราก็ต่อสองแถวไปท่ารถครับ
--ค่าสองแถวก็คนละ 10 บาท--

ตามแผนที่เราตั้งไว้นะครับ ทีแรกจะนั่งรถตู้ไปสังขละบุรี
แต่ด้วยความที่คนเยอะมาก ๆ เราเลยเลือกที่จะขึ้นรถหวานเย็นในตำนานไปดีกว่า
เพราะคนขับบอกว่า คนเต็มแล้วจะออกเลย
เราก็รอจนคนเต็ม แต่ก็ยังไม่ออกสักที ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีถึงจะออก จ้าาาาาาาาาา
ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ถึงนะครับ ถึงแน่นอน จะช้าเร็วค่อยว่ากันอีกที
แล้วก็รถจะเปลี่ยนคันที่อำเภอทองผาภูมินะครับ ไม่ต้องตกใจ
--ราคาโดยสารอยู่ที่ คนละ 130 บาท--

มาถึงสังขละแล้ว หลังจากเช็คอินที่พักเป็นที่เรียบร้อย
สิ่งแรกที่ต้องไปก็คือ สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญนั่นเอง
สะพานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสะพานที่เกิดจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน
และยังเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับสองรองจากพม่าด้วยนะเออ

พอตะวันตกดิน ก็ได้เวลาออกหากินแล้วสิครับ
วันที่เราไปมีถนนคนเดินด้วย เพราะอยู่ในช่วงสงกรานต์
เมนูแรกที่แนะนำด้านบนนะครับ คือ ข้าวโซย (ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบนี้มั้ย เขียนตามสำเนียงป้าคนขาย)
รสชาติคือดีมากครับ เหมือนบะหมี่ปห้งต้มยำประมาณนั้น
ส่วนเมนูที่สองที่พลาดไม่ได้สำหรับการไปสังขละ
คือ หมูจุ่มพม่า ครับ ขายกันอยู่ที่ไม้ละบาท มีน้ำจิ้มให้จิ้มทานไปพร้อมๆกัน
รสชาติจะคล้ายๆหมูพะโล้เลย มีไส้ คอหมู ตับ กระเพาะ และอื่นๆ ทานกันได้ยาวๆไปเลย
แต่เสียดายครับ วันที่ไป ฝนกำลังจะตก เราต้องรีบกลับ
เพราะเหมือนจะพายุเข้า ไฟดับอีกด้วยยยยยยยย

ผ่านไปวันแรกในสังขละบุรี ^^