แบกเป้ เหล่ชาวมอญ ตะลอนสังขละบุรี ep.เดียว กระทู้แรกจ้าาาา
"นั่งรถไฟ ไปไหนดี" คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของชะนีนางหนึ่ง ผู้ซึ่งเกิดมา 22 ปี ยังไม่เคยนั่งรถไฟ
ประกอบกับหนึ่งหนุ่มซึ่งไม่เคยนั่งรถไฟเช่นกันเสนอ สังขละบุรี ขึ้นมา
เราทั้งคู่เลยใช้เวลาเก็บข้อมูล 1 วัน และใช้เวลาช่วงหยุดสงกรานต์นี้แหละ ไปกันเลย โดยคิดกันว่าจะไป 2 วัน 1 คืน เท่านั้นนน
เริ่มต้นจากการออกจากชลบุรี เวลาดี 4.44 น. ถึงท่าพระจันทร์ประมาณ 6 โมงนิดๆ แล้วก็รอเรือข้ามฟากไป ท่ารถไฟ 3 บาท
ลงจากเรือเดินไปศิริราช ต่อสองแถว 7 บาทไปยังสถานีรถไฟธนบุรี
และก็ต่อแถวรับตั๋วฟรี โดยยื่นบัตร ปชช แล้วก็รอรับตั๋ว เราจะไปยังสถานีน้ำตก ซึ่งรถไฟจะออกจากสถานีเวลา 7.50 น.จ้าาา
ได้ตั๋วมาแล้ว ก็ทำภารกิจหนักเบา 3 บาทก่อนขึ้นรถไฟ เราก็รอ รอ เรื่อยๆ พอรถไฟมาเท่านั้นแหละ คนกรูขึ้นกัน รถไฟยังไม่ทันหยุดเลยน้าาา เราก็ยืนงงๆ สักพัก ขึ้นไปนั่งหันหน้าชนกะลุงคนนึง ตรงกะทางออกเลยทีเดียว และรถไฟก็ออกจากสถานี เวลา 7.55 น.
รถไฟก็ออกมาเรื่อยๆ แวะรับคนตามสถานีต่างๆ เราก็เหงื่อท่วม ร้อนมาก แถมนั่งตรงที่ไม่มีพัดลม ธรรมชาติสุดๆ นั่งมาเรื่อยๆ ก็มีพ่อค้าแม่ค้าแบกของเดินขายทั้งน้ำ ทั้งขนม แล้วก็ข้าวกระทง แต่เราไม่ได้กิน นาทีนั้นมันกระหายน้ำอย่างเดียวเลย
หลังจากที่หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ในที่สุดก็ถึงสถานีกาญ -_- ตอนแรกคิดว่าพลาดสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่ไหนได้ ยังไม่ถึง
สะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ววว
จากนั้นก็เป็นทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หนึ่งหมอนรถไฟต่อหนึ่งชีวิต เราไปสัมผัสมาแล้วนะ บางคนชะโงกออกไปน่ากลัวตกมาก เห็นแล้วเสียวไส้
บรรยากาศก็เป็นริมแม่น้ำแคว มีแพลอยน้ำและธรรมชาติที่สวยงาม เวลานั่งวิวก็จะอยู่ด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะเป็นหิน
ถัดจากสถานีถ้ำกระเเซก็เป็นวังโพธิ์ แล้วก็แดนมหามงคล ซึ่งคนที่ใส่ชุดขาวลงกันเยอะะพอสมควร ตอนแรกก็งงๆว่าเค้าใส่ชุดขาวไปไหนกัน ลงมาปฏิบัติธรรมที่นี่นี่เอง
นั่งมาเรื่อยๆ เราก็ถึงสถานีน้ำตก เยเย่ พอลงจากรถไฟก็งงเล็กน้อย ทราบมาว่าต้องนั่งรถไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย เลยขึ้นรถกะบะสองแถว 20 บาท ไปยังน้ำตกไทรโยคน้อย และหารถเมแดงต่อไปสังขละบุรี
พอถึงน้ำตกไทรโยคเราก็มองหาเซเว่น อยู่ฝั่งตรงข้ามน้ำตก แวะตากแอร์หาอะไรใส่ท้องหน่อยและกัน
พอชื่นใจแล้ว เราก็ออกมาหารถเมแดงไปสังขละ บุรีต่อ รถกาญจนบุรี ทองผาภูมิ สังขละบุรี ซึ่งรถมาคันแรก นึกถึงปลากระป๋องเลย รอคันต่อไปแล้วกัน
........
20 นาทีผ่านไป มีเพื่อนสองคนคิงควีนน่ารัก ไปสังขละเหมือนเรา ได้เพื่อนร่วมชะตากรรมแล้ว และแล้วรถคันนี้ก็มา ยังพอมีที่ว่างให้เราสองคนนั่ง เฮ้อออ รถคันนี้ก็ไปแค่ทองผาภูมิในราคา 60 บาท คุณหลอกดาว คุณไม่ไปสังขละ ซึ่งเราต้องต่อรถตู้ไปสังขละอีก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม 20 นาที 72 กม.แค่คิดก็เหนื่อยแล้วพี่บัวลอย >0<
พอถึงจุดตรวจก็มีคนขอดูบัตร เราก็ควักบัตร ปชช เรามา มองอีกที อ้าว!คนบนรถส่วนใหญ่ถือพาสปอตกัน เบ้าหน้าสวยกว่าเราอีก โว้ว
และก็ถึงทองผาภูมิ อากาศเริ่มเย็นและ บ่ายแก่ๆ รถก็มาส่งเราที่ทองผาภูมิ ซึ่งต้องเดินเข้าไปตึกด้านใน มีคิวรถอยู่ รถตู้ไปสังขละ 80 บาท เราและเพื่อนใหม่สองคนก็ขึ้นเลยจ้าาา
นั่งข้างคนขับ ลุงคนขับรถตู้บอกมีไปรถเมแดงไปถึงสังขละแค่ 3-4 คันต่อวัน แล้วแต่ดวงเลยครัช อยู่ตรงนี้เห็นวิวสองข้างเต็มสองตา
และรถตู้ก็มาสิ้นสุดที่สังขละบุรี ในเวลา 6 โมงกว่า เพื่อนควีนที่หน้าตาดีจนชะนีน้ำตาไหล ก็ถามเราว่าเรามีที่พักยัง โฮะๆ มาแบบแบกแพกจ้าา ไม่มีที่พัก เพื่อนควีนเลยโทรถามให้ ก็เต็ม เราก็เดินหากันต่อปายยย~
แบกเป้ เหล่ชาวมอญ ตะลอนสังขละบุรีจ้าาา~
"นั่งรถไฟ ไปไหนดี" คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของชะนีนางหนึ่ง ผู้ซึ่งเกิดมา 22 ปี ยังไม่เคยนั่งรถไฟ
ประกอบกับหนึ่งหนุ่มซึ่งไม่เคยนั่งรถไฟเช่นกันเสนอ สังขละบุรี ขึ้นมา
เราทั้งคู่เลยใช้เวลาเก็บข้อมูล 1 วัน และใช้เวลาช่วงหยุดสงกรานต์นี้แหละ ไปกันเลย โดยคิดกันว่าจะไป 2 วัน 1 คืน เท่านั้นนน
เริ่มต้นจากการออกจากชลบุรี เวลาดี 4.44 น. ถึงท่าพระจันทร์ประมาณ 6 โมงนิดๆ แล้วก็รอเรือข้ามฟากไป ท่ารถไฟ 3 บาท
ลงจากเรือเดินไปศิริราช ต่อสองแถว 7 บาทไปยังสถานีรถไฟธนบุรี
และก็ต่อแถวรับตั๋วฟรี โดยยื่นบัตร ปชช แล้วก็รอรับตั๋ว เราจะไปยังสถานีน้ำตก ซึ่งรถไฟจะออกจากสถานีเวลา 7.50 น.จ้าาา
ได้ตั๋วมาแล้ว ก็ทำภารกิจหนักเบา 3 บาทก่อนขึ้นรถไฟ เราก็รอ รอ เรื่อยๆ พอรถไฟมาเท่านั้นแหละ คนกรูขึ้นกัน รถไฟยังไม่ทันหยุดเลยน้าาา เราก็ยืนงงๆ สักพัก ขึ้นไปนั่งหันหน้าชนกะลุงคนนึง ตรงกะทางออกเลยทีเดียว และรถไฟก็ออกจากสถานี เวลา 7.55 น.
รถไฟก็ออกมาเรื่อยๆ แวะรับคนตามสถานีต่างๆ เราก็เหงื่อท่วม ร้อนมาก แถมนั่งตรงที่ไม่มีพัดลม ธรรมชาติสุดๆ นั่งมาเรื่อยๆ ก็มีพ่อค้าแม่ค้าแบกของเดินขายทั้งน้ำ ทั้งขนม แล้วก็ข้าวกระทง แต่เราไม่ได้กิน นาทีนั้นมันกระหายน้ำอย่างเดียวเลย
หลังจากที่หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ในที่สุดก็ถึงสถานีกาญ -_- ตอนแรกคิดว่าพลาดสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่ไหนได้ ยังไม่ถึง
สะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ววว
จากนั้นก็เป็นทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หนึ่งหมอนรถไฟต่อหนึ่งชีวิต เราไปสัมผัสมาแล้วนะ บางคนชะโงกออกไปน่ากลัวตกมาก เห็นแล้วเสียวไส้
บรรยากาศก็เป็นริมแม่น้ำแคว มีแพลอยน้ำและธรรมชาติที่สวยงาม เวลานั่งวิวก็จะอยู่ด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะเป็นหิน
ถัดจากสถานีถ้ำกระเเซก็เป็นวังโพธิ์ แล้วก็แดนมหามงคล ซึ่งคนที่ใส่ชุดขาวลงกันเยอะะพอสมควร ตอนแรกก็งงๆว่าเค้าใส่ชุดขาวไปไหนกัน ลงมาปฏิบัติธรรมที่นี่นี่เอง
นั่งมาเรื่อยๆ เราก็ถึงสถานีน้ำตก เยเย่ พอลงจากรถไฟก็งงเล็กน้อย ทราบมาว่าต้องนั่งรถไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย เลยขึ้นรถกะบะสองแถว 20 บาท ไปยังน้ำตกไทรโยคน้อย และหารถเมแดงต่อไปสังขละบุรี
พอถึงน้ำตกไทรโยคเราก็มองหาเซเว่น อยู่ฝั่งตรงข้ามน้ำตก แวะตากแอร์หาอะไรใส่ท้องหน่อยและกัน
พอชื่นใจแล้ว เราก็ออกมาหารถเมแดงไปสังขละ บุรีต่อ รถกาญจนบุรี ทองผาภูมิ สังขละบุรี ซึ่งรถมาคันแรก นึกถึงปลากระป๋องเลย รอคันต่อไปแล้วกัน
........
20 นาทีผ่านไป มีเพื่อนสองคนคิงควีนน่ารัก ไปสังขละเหมือนเรา ได้เพื่อนร่วมชะตากรรมแล้ว และแล้วรถคันนี้ก็มา ยังพอมีที่ว่างให้เราสองคนนั่ง เฮ้อออ รถคันนี้ก็ไปแค่ทองผาภูมิในราคา 60 บาท คุณหลอกดาว คุณไม่ไปสังขละ ซึ่งเราต้องต่อรถตู้ไปสังขละอีก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม 20 นาที 72 กม.แค่คิดก็เหนื่อยแล้วพี่บัวลอย >0<
พอถึงจุดตรวจก็มีคนขอดูบัตร เราก็ควักบัตร ปชช เรามา มองอีกที อ้าว!คนบนรถส่วนใหญ่ถือพาสปอตกัน เบ้าหน้าสวยกว่าเราอีก โว้ว
และก็ถึงทองผาภูมิ อากาศเริ่มเย็นและ บ่ายแก่ๆ รถก็มาส่งเราที่ทองผาภูมิ ซึ่งต้องเดินเข้าไปตึกด้านใน มีคิวรถอยู่ รถตู้ไปสังขละ 80 บาท เราและเพื่อนใหม่สองคนก็ขึ้นเลยจ้าาา
นั่งข้างคนขับ ลุงคนขับรถตู้บอกมีไปรถเมแดงไปถึงสังขละแค่ 3-4 คันต่อวัน แล้วแต่ดวงเลยครัช อยู่ตรงนี้เห็นวิวสองข้างเต็มสองตา
และรถตู้ก็มาสิ้นสุดที่สังขละบุรี ในเวลา 6 โมงกว่า เพื่อนควีนที่หน้าตาดีจนชะนีน้ำตาไหล ก็ถามเราว่าเรามีที่พักยัง โฮะๆ มาแบบแบกแพกจ้าา ไม่มีที่พัก เพื่อนควีนเลยโทรถามให้ ก็เต็ม เราก็เดินหากันต่อปายยย~