เพิ่งแลนด์มาสดๆร้อนๆค่ะ
ไปเที่ยวหยุดยาวมา ผู้ใหญ่ที่บ้านอยากให้พาเที่ยวหน่อย เราก็ยังทำงานเนอะ ก็หาเวลาว่างลงตัวที่ไม่ต้องลางานเยอะช่วงสงกรานต์ละกันแล้วค่อยเลือกสถานที่เอา ก็ตกลงใจว่าไปยุโรป!!!!
แต่ไปๆมาๆ เพิ่งจบทริป เลยมากดๆเงินดูว่าใช้ไปเท่าไหร่ เฮ้ยยย!!! ทัวร์ 16 วัน 14 คืน 12 ประเทศ ขี่ Mercedes Benz ไปกันสี่คน คนละ 6x,xxx บาท!!!!
แต่เดี๋ยวก่อน!!! บางคนจะคิดว่าเห้ยไปเยอะขนาดนี้จะได้เที่ยวได้ดูอะไรๆ เหรอฟะ โฉบทัวร์ป่ะเนี่ย ... ชะโงกทัวร์แน่ๆ ขอค่ะ หยุดดราม่า.. อยู่ตรงนั้น
เพราะทริปนี้พาเหล่า สว. ไป ซึ่งไม่ถนัดเดินเยอะนัก เน้นชมธรรมชาติ ดูสถาปัตยกรรม ดูบ้านเมือง เข้าถึงสถานที่ไฮไลท์ ประกอบกับเจ้าของกระทู้แบกแพกยุโรปมาแล้ว ตั้งแต่สมัยยังไม่มีสมาร์ทโฟนเลย อินเตอร์เนต ยังไดออล ตรู้ดดดด อี้ดดดด ออดดดด เอิ้ดดดด
ขอกรุณาอย่าค่อนแคะว่าอยู่หลายประเทศ ประเทศเยอะไป เอาเป็นว่าตัด แบริเออร์ เรื่องประเทศ แล้วสนใจว่าจากจุด A B C D ไปจนเสร็จ มีอะไรๆ ที่แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมต่างกันอย่างไร ศิลปะแบบ บอรอค โกธิค คลาสสิค โรแมนติค เรเนอซอง เพราะทริปนี้แทบจะ เรียน ไฮไลท์ อารยธรรมตะวันตก 101 ได้เกือบทั้งเล่ม (มหาลัยไหนมีวิชานี้อยู่บ้าง) ตั้งแต่ยุคเผยแผ่ ยันหลังสงครามโลกครั้งที่สอง (ยกเว้นอิตาลี ไม่ได้ไป ถ้าไปประเทศนี้ นี่ ไม่จบ 16 วันแน่ๆค่ะ)
(ฝรั่งเศส เยอรมัน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เชค สโลวะเกีย โครเอเชีย ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ สโลวะเนีย ลิคเตนสไตน์)
1. ตั๋วโปร กดดีดีเลือกเวลาให้เหมาะ เช่นตอนนี้มี เวียดนามแอร์ 15,000 บาท
แต่พลอยบิน เอมิเรตส์ 23,000 ลงปารีส แล้วขับทั่วยุโรป บินกลับจาก ซูริค อันนี้ควรกลับจากที่เดิมราคาจะถูกกว่ามาก จะเหลือ 19,000 แต่ว่าตอนนั้นเลือกวันว่า ลางานเท่านี้พอ ก็มีแต่ประเทศนี้ล่ะมีไฟลท์ออก
2. ที่พัก นอกจากช่วงโปร
การเลือกฤดูกาลมีผลกับราคาค่าห้องพัก
ช่วงเวลาที่ค่าที่พักในยุโรปไม่แพงคือ เมษายน แล้วแต่ปี แล้วแต่ดวงว่าจะเจอฝนไหม ไม่เจอคือ ดี โชคดีเว่อร์ และค่าที่พักจะแพงเรื่อยๆ จนถึงเดือนสิงหาคม จากนั้นก็จะราคาลดลงมา ช่วงเดือนตุลาจะเป็นราคากลางๆ คนไปดูใบไม้เปลี่ยนสี เลือกเวลากันให้เหมาะให้ดี
ที่พักมีหลากหลายแบบ ควรศึกษาว่าแต่ละประเทศค่าครองชีพเป็นอย่างไร ถ้าจะคุมราคา เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สโลวะเกีย ของถูกมาก คุณจะได้พักสี่ดาว พร้อมอาหารเช้า ห้อง Family ราคา 4,000-8,000 บาท
อพาร์ทเม้นท์ มีครัวทำอาหารเองได้ เผื่อเบื่ออาหารต่างชาติ ซื้อของจาก ซุปเปอร์มาทำ ราคาที่พักต่อคืนจะไม่แพงกว่าโรงแรม แต่เลือกดีดี หน่อย บางที่อาจไม่มีคนพักนาน อะไรๆอาจติดขัด เจอไปคืนนึง ฮีตเตอร์ไม่ทำงานจ้า หนาวสั่น เมลคุยกะเจ้าของ เค้าขอโทษขอโพยใหญ่ แต่สรุปก็ทำงานตอนกลางดึก ราคาประมาณ 2,000-4,000 บาท
สรุปที่พัก 14 คืน ตกต่อคน 1,200 กลมๆ จริงๆไม่ถึงเลย
รวม 16,800 บาท
3. รถ ตอนแรกจำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน เพราะค่าคืนต่างสถานที่ค่อนข้างแพง 350 ยูโร แต่จองตั๋วเครื่องมาแล้ว จะทำไงได้ รับสภาพไป
เราเป็นสมาชิก Hertz มาสิบปีแล้ว เช่าปีละ 2-3 ที จนเป็น Gold Member เวลาจองจะมี CDP code (ไม่รู้จะหมดอายุเมื่อไหร่ ใครจะใช้ใส่ไปค่ะ 706900 หลังไมค์มาเยอะมาก หนูตอบไม่ทัน) ให้ใส่ บวกกับ promotion code ที่บางที Hertz จะส่งมาให้ทางอีเมล ราคาลดจากเช่าปกติ ไปได้ 20%
เช่ารถแล้วควรเตรียมพร้อมรถว่า จะไปกี่คนใส่กระเป๋ายังไง เปิดค่ะ google ดูว่าแต่ละคัน Trunk capacity ดูมิติให้ชัดไปเลย Hertz จะแจ้งว่าใส่ใบใหญ่ได้กี่ใบ ใบเล็กได้กี่ใบ พอมาดูๆก็กะเอาว่า ใบใหญ่ 2 เล็ก 2
คนที่ได้ใบเล็กจะได้รับอนุญาตให้เอาเป๋าลูกไป หรือเป้ไป เพื่อจะสามารถจัดยัดๆลงขอบของท้ายรถได้ เป้ควรใส่เสื้อผ้าที่ flexi คือยัดๆ ลงท้ายรถได้เลย
คราวนี้เช่า MB เพราะลองเทียบทีแรกเช่ารถ Compact รวมค่าคืนต่างสาขา 350 ยูโร ราคา 2 weeks 750 ยูโรสำหรับเกียร์ธรรมดา ซึ่งต่างบ้านต่างเมืองนั้นไม่ควรเอา ขับคนละข้างด้วย ออโต้เถอะ จริงๆก็ขับเป็นนะ แต่ไม่เสี่ยง พอขยับมา Auto ราคาแพงขึ้นอีกเป็น 900 ยูโร
แล้ว GPS ละ ค่าเช่าต่างหาก 100 กว่ายูโร ตอนแรกจะใช้ Google Map ซื้อ sim2fly ของ One2call ราคา 890 บาท ใช้ได้ 15 วัน ไม่ครอบคลุม ทุกประเทศที่จะไปเช่น Luxemberg Croatia
เราไปเองก็ทำการบ้านว่าประเทศไหน ไม่มี Roaming บ้าง สุดท้ายตกลงใจเช่าดีกว่า ครอบคลุมหมด
บวกราคาไปมาต่างกับ MB ที่เป็นดีเซล ประหยัด 20 โลลิตร มี GPS ในตัว ต่างกันหลัก 100 ยูโร เลยเอา MB
ที่ราคา 1,174 รวมประกัน ประกันต้องดูดีดีเพราะยุโรปจะยิบย่อยมาก ทั้งประกันอุบัติเหตุรถ ประกันส่วนตัว ประกันกระจก ประกันยางแมกซ์แยกต่างหาก เลือกซื้อตามอัธยาศัยนะ
สรุปราคาที่ 1,200 ปัดขึ้นถ้วนๆ ละกัน
บางประเทศ มีค่าทางด่วนด้วย ประเทศในเขตยุโรปจะคิดค่าใช้ทาง ต้องซื้อ vignette เป็นสติ๊กเกอร์แปะรถ
Switzerland 39 euro
Austria 10 euro
Slovenia 15 euro
Hungary 10.90 euro เป็น e-vignette
Croatia จ่ายแบบ toll booth โดนไปเกือบ 30 เหมือนกัน
รวมๆจ่ายไป 100 ยูโรได้
ค่าน้ำมันเอาบิลมารวมๆ ตกประมาณ 550 ยูโร เพราะรถประหยัดด้วย เป็นเครื่องดีเซล แล้วน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซิน ลิตรละ 1-1.4 ยูโรค่ะ เติมที 60 ยูโร อยู่ไป 2 วัน
เรื่องรถต้องเผื่อค่าที่จอดรถไว้นิดนึง ราคาไม่มากจอดตามสถานที่ท่องเที่ยว ก็น่าจะตกวันละ 10 ยูโรได้
หน้าตาบัตรจอดรถ จะมีการจอดแบบ กดรับบัตรแล้วจะผ่านเข้าที่จอด ตอนจะออกก็เอาบัตรไปเสียบที่ตู้แล้วจ่ายเงินผ่านตู้ แล้วเอาบัตรคืนมาไปสอดตรงทางออกเลยค่ะ
อีกแบบจะเป็นการจอดข้างทาง จะมีตู้ให้หยอดเหรียญ แล้วจะเป็นสลิปออกมาว่าจอดได้นานเท่าไหร่ เอาวางไว้ที่แดชบอร์ดหน้ารถค่ะ
หารต่อคนเลยขอปัดกลมๆ รถ ทางด่วน น้ำมัน ค่าจอด
76,000 บาท
ต่อคน 19,000
รวมตั๋ว ที่พัก รถ น้ำมัน ตกคนละ 58,000 บาท
ความโชคดีของทริปนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ รถคันนี้ที่ได้เป็นรถใหม่เอี่ยม วิ่งมา 22 กม. เอง เหมือนเราซื้อรถใหม่เป็นคันนี้เลยค่ะ รถจดทะเบียน 20 มีค. เราเอาออกมา 1 เม.ย.
ทริปที่วิ่งทั้งหมด 8,000 กว่าโล
ถ้าเฉลี่ยขับวันละ 500 โลไม่ได้เยอะอะไรมากมายเลย คนชอบคิดว่าโฉบทัวร์ ทั้งๆที่เดินป่า เข้ามิวเซียม ขึ้นเขา เดินปราสาท ล่องเรือ ไปวัดไทย ไหว้พระสงน้ำสงกรานต์ กิจกรรมครอบครัว ลงทะเล ครบ!!
แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดวันละ 500 โลทุกวันๆ เพราะว่าบางทีเวลาที่อยู่เยอรมันค่อนข้างเยอะ แล้วเวลาขับ Autobahn ทำความเร็วได้ดี ก็ไปขับกลางคืน เอาไว้เมืองที่ห่างกันมากๆ อย่าง คืนหนึ่งขับ ยาวจาก โคโลญจ์ไปเบอร์ลินเลย เพราะไม่คิดจะแวะเมืองระหว่างทาง ก็ใช้เวลาไม่นาน (ยืน 180) เลยจะดูเหมือนว่า เฉลี่ยขับ 500 โล จริงๆถ้าวันที่ไม่ได้วางแผนว่าจะยาวจากเมืองนึงไปเมืองนึงที่ห่างกันมากๆ ก็ใช้เวลาบนรถน้อยมาก วันละ 2-3 ชม.
บางที่ก็อยู่นาน พักหลายคืน เช่นโครเอเชีย ไปสถานที่ ไฮไลท์ ซากร๊าบ พลิตวิเช่ ซาดาร์ แล้วย้อนกลับมาที่ปูลาเดินเล่นชมหาดทั้งวัน
บางที่ก็จัดเองเหมือนโปรแกรมทัวร์พิมพ์นิยม พักสถานที่ใกล้เคียงตามทัวร์ซึ่ง ทัวร์ก็จะขาย 9 วัน 6 คืน นับคืนเอาแล้ว เรามีเวบาเยอะกว่าเขาอีก เช่น ปราก-เคสกี้ครุมลอฟ-บราติสลาวา-บูดาเปสต์ - Siofok แล้วด้วยรถเก๋งสปีดลิมิตสูงกว่ารถบัสก็เลยได้เที่ยวเยอะเที่ยวนานค่ะ
กิจกรรมเช้ามาเดินไปเที่ยวเมืองที่พัก สิบโมง ขับไปอีกสัก ชม. ไปอีกเมืองห่างกัน 100-200โล ถึงเที่ยงพอดีทานข้าว ชมสถานที่ท่องเที่ยว ก็ออกไปอีกที่ใกล้เคียง เดินเล่นจนเย็น ขับต่ออีกสักพัก จนมืดก็โผล่อีกประเทศเลยค่ะ ยิ่งฤดูนี้สว่างยันสองทุ่มเลย ได้เดินชม ได้ไปหลายที่เยอะมากค่ะ
4. ค่าอาหาร ค่าท่องเที่ยว ขออนุญาตไม่รวม เพราะว่านานาจิตตังเรื่องอาหาร พวกแม่ๆชอบอาหารไทย อาหารทำเอง เข้า Supermarket ซื้อของสด ไม่แพงเลย ชอปที 10-20 ยูโร ชอปอยู่ สามสี่ครั้ง ให้เขาทำอาหารเวลาอยู่อพาร์ตเม้นท์ ส่วนตอนกลางวันทำไปเผื่อๆ ก็ไปทานของเขาบ้าง แต่เราชอบไปหาไปดูอาหารท้องถิ่นมากกว่า
เพราะฉะนั้นขออนุญาต รีวิวส่วนเกินที่ตนเองออก คือค่าอาหารของตัวเอง และค่าเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว เช่น เข้า MB museum เข้า ปราสาท ตอนไปโครเอเชีย เข้าอุทยานเดินป่า ค่าล่องเรือ ค่าอาหารที่ร้าน ค่าดื่ม นี่คือส่วนเกินของพลอยเองหมดเลย
คือ เอาเงินไป 250 ยูโร เงินหมดจ้า
+ เพิ่มอีก 10,000 นะ ของพลอยอ่ะ
จบ
5. แถม. ชอปปิ้งของหรู ของฝากตามอัธยาศัย ถ้าจะใช้บัตรเครดิต ลองโทรถามธนาคารก่อนว่าบัตรเป็น Chip and Pin หรือไม่ และอย่าลืมจำพินไปด้วยนะคะ เครื่องรูด automate ที่ยุโรปคือต้องใส่พิน ซึ่งเราไม่เคยจำเลย เพราะคิดว่าไม่ได้กดเงินสด พลาดไป อดใช้บัตรเครดิต เงินสดโลด ส่วนเครื่อง EDC แบบเดิมที่เป็น Chip and Signature ตามร้านยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ก็ถามร้านค้าก่อนว่า รับบัตร Chip and Signature ไหม ทั้งนี้ก็เผื่อๆไว้ด้วยค่ะ
ถ้าจองโรงแรมผ่านเวบจะตัดบัตรได้ทันที แต่ถ้าซื้อของที่ร้านที่เป็นเครื่องรูด Chip and Pin พิมพ์นิยมสไตล์ยุโรปก็อย่าลืมพิน!!! (ขออนุญาต edit เพิ่มเติมค่ะ)
6. แถม. ช่วงนี้เหมาะในการไปเที่ยว เพราะสว่างนานยันสองทุ่ม เราจะได้ไปวันละสองเมือง เดินชมเดินเล่นสบายๆ พอมืดแล้วขับไปอีกสัก1-2 ชม. ก็โผล่อีกประเทศเลย ทำให้ได้เที่ยวเยอะมากๆ
7. แถม. หากคุณอยากจะทานหรูอยู่สบาย ทุกมื้อ เพิ่มไปวันละ 2,000 คร่าวๆ
ข้อแนะนำ
1. ไปกลับที่เดียวเถอะเธอ!!
2. เพราะมันจะประหยัดไปได้อีกคนละ 6,000 เลยนะเธอ!!
3. ช่วงพค. - สิงหา ควรมาเพราะได้เที่ยวยาวๆ จนกว่าจะมืด ถ้าเข้าพัก ใจกลางเมือง
ตื่นเช้ามาก็เดินชมเมือง ที่พักได้เลย สิบโมงก็ออก ขับไปอีกที ก็เที่ยง เที่ยว 2 ชม ขับออกอีก ได้อีกสถานที่จนถึงสองทุ่ม ขับอีกนิด โผล่อีกประเทศแล้วค่ะ แต่ร่างกายคนขับต้องพร้อมมากๆจริงๆ
4. ทำอาหารกินเองคือสวรรค์ ควรมีแม่ครัวมาด้วย ควรมีเครื่องปรุงมาด้วย! Lobo คือพระเจ้า!
5. ควรมีคนที่ทำการบ้านว่าแต่ละเมืองห่างกันอย่างไร อ่านประวัติศาสตร์ จะได้เป็นไกด์ในตัว ซึ่งคือ ชั้นเอง!!
6. ของในร้านสะดวกซื้อแพงกว่า ซุปเปอร์ 200% เพราะงั้นขับรถเองไปซุปเปอร์ได้ ซื้อน้ำเปล่ามาตุนเลยค่ะ น้ำเปล่าขวดใหญ่ 19 เซนต์ ไข่ไก่โหลละ 1 ยูโร เนื้อสัตว์ ไส้กรอก โลละ 5 ยูโร ผักสดหนักเป็นกิโลๆ หลัก 1 ยูโรเอง
7. กินตามร้าน แล้วแต่ความหรู แต่ก็ไม่เคยเกิน 20 ยูโร รวมทิปนะ แต่ว่าจานใหญ่มากเอากลับมากินต่อได้อีกมื้อสองมื้อ
8. ถ้าเป็นสายพิพิธภัณฑ์ เข้าชมประวัติศาสตร์ และเป็น นศ. อยู่ ควรไปสมัคร international student card บัตร ISIC จะลดไป 50% คุ้มมากๆค่ะ
[img]
https://f.ptcdn.info/636/050/000/oor56obqiLq2
ใครใครก็ไปยุโรป!! 16 วัน 14 คืน 12 ประเทศ ขับ Mercedes Benz นอน 4 ดาว+อพาร์ทเม้น เห้ยย 6x,xxx ก็ทำได้อ่า
ไปเที่ยวหยุดยาวมา ผู้ใหญ่ที่บ้านอยากให้พาเที่ยวหน่อย เราก็ยังทำงานเนอะ ก็หาเวลาว่างลงตัวที่ไม่ต้องลางานเยอะช่วงสงกรานต์ละกันแล้วค่อยเลือกสถานที่เอา ก็ตกลงใจว่าไปยุโรป!!!!
แต่ไปๆมาๆ เพิ่งจบทริป เลยมากดๆเงินดูว่าใช้ไปเท่าไหร่ เฮ้ยยย!!! ทัวร์ 16 วัน 14 คืน 12 ประเทศ ขี่ Mercedes Benz ไปกันสี่คน คนละ 6x,xxx บาท!!!!
แต่เดี๋ยวก่อน!!! บางคนจะคิดว่าเห้ยไปเยอะขนาดนี้จะได้เที่ยวได้ดูอะไรๆ เหรอฟะ โฉบทัวร์ป่ะเนี่ย ... ชะโงกทัวร์แน่ๆ ขอค่ะ หยุดดราม่า.. อยู่ตรงนั้น
เพราะทริปนี้พาเหล่า สว. ไป ซึ่งไม่ถนัดเดินเยอะนัก เน้นชมธรรมชาติ ดูสถาปัตยกรรม ดูบ้านเมือง เข้าถึงสถานที่ไฮไลท์ ประกอบกับเจ้าของกระทู้แบกแพกยุโรปมาแล้ว ตั้งแต่สมัยยังไม่มีสมาร์ทโฟนเลย อินเตอร์เนต ยังไดออล ตรู้ดดดด อี้ดดดด ออดดดด เอิ้ดดดด
ขอกรุณาอย่าค่อนแคะว่าอยู่หลายประเทศ ประเทศเยอะไป เอาเป็นว่าตัด แบริเออร์ เรื่องประเทศ แล้วสนใจว่าจากจุด A B C D ไปจนเสร็จ มีอะไรๆ ที่แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมต่างกันอย่างไร ศิลปะแบบ บอรอค โกธิค คลาสสิค โรแมนติค เรเนอซอง เพราะทริปนี้แทบจะ เรียน ไฮไลท์ อารยธรรมตะวันตก 101 ได้เกือบทั้งเล่ม (มหาลัยไหนมีวิชานี้อยู่บ้าง) ตั้งแต่ยุคเผยแผ่ ยันหลังสงครามโลกครั้งที่สอง (ยกเว้นอิตาลี ไม่ได้ไป ถ้าไปประเทศนี้ นี่ ไม่จบ 16 วันแน่ๆค่ะ)
(ฝรั่งเศส เยอรมัน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เชค สโลวะเกีย โครเอเชีย ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ สโลวะเนีย ลิคเตนสไตน์)
1. ตั๋วโปร กดดีดีเลือกเวลาให้เหมาะ เช่นตอนนี้มี เวียดนามแอร์ 15,000 บาท
แต่พลอยบิน เอมิเรตส์ 23,000 ลงปารีส แล้วขับทั่วยุโรป บินกลับจาก ซูริค อันนี้ควรกลับจากที่เดิมราคาจะถูกกว่ามาก จะเหลือ 19,000 แต่ว่าตอนนั้นเลือกวันว่า ลางานเท่านี้พอ ก็มีแต่ประเทศนี้ล่ะมีไฟลท์ออก
2. ที่พัก นอกจากช่วงโปร
การเลือกฤดูกาลมีผลกับราคาค่าห้องพัก
ช่วงเวลาที่ค่าที่พักในยุโรปไม่แพงคือ เมษายน แล้วแต่ปี แล้วแต่ดวงว่าจะเจอฝนไหม ไม่เจอคือ ดี โชคดีเว่อร์ และค่าที่พักจะแพงเรื่อยๆ จนถึงเดือนสิงหาคม จากนั้นก็จะราคาลดลงมา ช่วงเดือนตุลาจะเป็นราคากลางๆ คนไปดูใบไม้เปลี่ยนสี เลือกเวลากันให้เหมาะให้ดี
ที่พักมีหลากหลายแบบ ควรศึกษาว่าแต่ละประเทศค่าครองชีพเป็นอย่างไร ถ้าจะคุมราคา เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สโลวะเกีย ของถูกมาก คุณจะได้พักสี่ดาว พร้อมอาหารเช้า ห้อง Family ราคา 4,000-8,000 บาท
อพาร์ทเม้นท์ มีครัวทำอาหารเองได้ เผื่อเบื่ออาหารต่างชาติ ซื้อของจาก ซุปเปอร์มาทำ ราคาที่พักต่อคืนจะไม่แพงกว่าโรงแรม แต่เลือกดีดี หน่อย บางที่อาจไม่มีคนพักนาน อะไรๆอาจติดขัด เจอไปคืนนึง ฮีตเตอร์ไม่ทำงานจ้า หนาวสั่น เมลคุยกะเจ้าของ เค้าขอโทษขอโพยใหญ่ แต่สรุปก็ทำงานตอนกลางดึก ราคาประมาณ 2,000-4,000 บาท
สรุปที่พัก 14 คืน ตกต่อคน 1,200 กลมๆ จริงๆไม่ถึงเลย
รวม 16,800 บาท
3. รถ ตอนแรกจำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน เพราะค่าคืนต่างสถานที่ค่อนข้างแพง 350 ยูโร แต่จองตั๋วเครื่องมาแล้ว จะทำไงได้ รับสภาพไป
เราเป็นสมาชิก Hertz มาสิบปีแล้ว เช่าปีละ 2-3 ที จนเป็น Gold Member เวลาจองจะมี CDP code (ไม่รู้จะหมดอายุเมื่อไหร่ ใครจะใช้ใส่ไปค่ะ 706900 หลังไมค์มาเยอะมาก หนูตอบไม่ทัน) ให้ใส่ บวกกับ promotion code ที่บางที Hertz จะส่งมาให้ทางอีเมล ราคาลดจากเช่าปกติ ไปได้ 20%
เช่ารถแล้วควรเตรียมพร้อมรถว่า จะไปกี่คนใส่กระเป๋ายังไง เปิดค่ะ google ดูว่าแต่ละคัน Trunk capacity ดูมิติให้ชัดไปเลย Hertz จะแจ้งว่าใส่ใบใหญ่ได้กี่ใบ ใบเล็กได้กี่ใบ พอมาดูๆก็กะเอาว่า ใบใหญ่ 2 เล็ก 2
คนที่ได้ใบเล็กจะได้รับอนุญาตให้เอาเป๋าลูกไป หรือเป้ไป เพื่อจะสามารถจัดยัดๆลงขอบของท้ายรถได้ เป้ควรใส่เสื้อผ้าที่ flexi คือยัดๆ ลงท้ายรถได้เลย
คราวนี้เช่า MB เพราะลองเทียบทีแรกเช่ารถ Compact รวมค่าคืนต่างสาขา 350 ยูโร ราคา 2 weeks 750 ยูโรสำหรับเกียร์ธรรมดา ซึ่งต่างบ้านต่างเมืองนั้นไม่ควรเอา ขับคนละข้างด้วย ออโต้เถอะ จริงๆก็ขับเป็นนะ แต่ไม่เสี่ยง พอขยับมา Auto ราคาแพงขึ้นอีกเป็น 900 ยูโร
แล้ว GPS ละ ค่าเช่าต่างหาก 100 กว่ายูโร ตอนแรกจะใช้ Google Map ซื้อ sim2fly ของ One2call ราคา 890 บาท ใช้ได้ 15 วัน ไม่ครอบคลุม ทุกประเทศที่จะไปเช่น Luxemberg Croatia
เราไปเองก็ทำการบ้านว่าประเทศไหน ไม่มี Roaming บ้าง สุดท้ายตกลงใจเช่าดีกว่า ครอบคลุมหมด
บวกราคาไปมาต่างกับ MB ที่เป็นดีเซล ประหยัด 20 โลลิตร มี GPS ในตัว ต่างกันหลัก 100 ยูโร เลยเอา MB
ที่ราคา 1,174 รวมประกัน ประกันต้องดูดีดีเพราะยุโรปจะยิบย่อยมาก ทั้งประกันอุบัติเหตุรถ ประกันส่วนตัว ประกันกระจก ประกันยางแมกซ์แยกต่างหาก เลือกซื้อตามอัธยาศัยนะ
สรุปราคาที่ 1,200 ปัดขึ้นถ้วนๆ ละกัน
บางประเทศ มีค่าทางด่วนด้วย ประเทศในเขตยุโรปจะคิดค่าใช้ทาง ต้องซื้อ vignette เป็นสติ๊กเกอร์แปะรถ
Switzerland 39 euro
Austria 10 euro
Slovenia 15 euro
Hungary 10.90 euro เป็น e-vignette
Croatia จ่ายแบบ toll booth โดนไปเกือบ 30 เหมือนกัน
รวมๆจ่ายไป 100 ยูโรได้
ค่าน้ำมันเอาบิลมารวมๆ ตกประมาณ 550 ยูโร เพราะรถประหยัดด้วย เป็นเครื่องดีเซล แล้วน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซิน ลิตรละ 1-1.4 ยูโรค่ะ เติมที 60 ยูโร อยู่ไป 2 วัน
เรื่องรถต้องเผื่อค่าที่จอดรถไว้นิดนึง ราคาไม่มากจอดตามสถานที่ท่องเที่ยว ก็น่าจะตกวันละ 10 ยูโรได้
หน้าตาบัตรจอดรถ จะมีการจอดแบบ กดรับบัตรแล้วจะผ่านเข้าที่จอด ตอนจะออกก็เอาบัตรไปเสียบที่ตู้แล้วจ่ายเงินผ่านตู้ แล้วเอาบัตรคืนมาไปสอดตรงทางออกเลยค่ะ
อีกแบบจะเป็นการจอดข้างทาง จะมีตู้ให้หยอดเหรียญ แล้วจะเป็นสลิปออกมาว่าจอดได้นานเท่าไหร่ เอาวางไว้ที่แดชบอร์ดหน้ารถค่ะ
หารต่อคนเลยขอปัดกลมๆ รถ ทางด่วน น้ำมัน ค่าจอด
76,000 บาท
ต่อคน 19,000
รวมตั๋ว ที่พัก รถ น้ำมัน ตกคนละ 58,000 บาท
ความโชคดีของทริปนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ รถคันนี้ที่ได้เป็นรถใหม่เอี่ยม วิ่งมา 22 กม. เอง เหมือนเราซื้อรถใหม่เป็นคันนี้เลยค่ะ รถจดทะเบียน 20 มีค. เราเอาออกมา 1 เม.ย.
ทริปที่วิ่งทั้งหมด 8,000 กว่าโล
ถ้าเฉลี่ยขับวันละ 500 โลไม่ได้เยอะอะไรมากมายเลย คนชอบคิดว่าโฉบทัวร์ ทั้งๆที่เดินป่า เข้ามิวเซียม ขึ้นเขา เดินปราสาท ล่องเรือ ไปวัดไทย ไหว้พระสงน้ำสงกรานต์ กิจกรรมครอบครัว ลงทะเล ครบ!!
แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดวันละ 500 โลทุกวันๆ เพราะว่าบางทีเวลาที่อยู่เยอรมันค่อนข้างเยอะ แล้วเวลาขับ Autobahn ทำความเร็วได้ดี ก็ไปขับกลางคืน เอาไว้เมืองที่ห่างกันมากๆ อย่าง คืนหนึ่งขับ ยาวจาก โคโลญจ์ไปเบอร์ลินเลย เพราะไม่คิดจะแวะเมืองระหว่างทาง ก็ใช้เวลาไม่นาน (ยืน 180) เลยจะดูเหมือนว่า เฉลี่ยขับ 500 โล จริงๆถ้าวันที่ไม่ได้วางแผนว่าจะยาวจากเมืองนึงไปเมืองนึงที่ห่างกันมากๆ ก็ใช้เวลาบนรถน้อยมาก วันละ 2-3 ชม.
บางที่ก็อยู่นาน พักหลายคืน เช่นโครเอเชีย ไปสถานที่ ไฮไลท์ ซากร๊าบ พลิตวิเช่ ซาดาร์ แล้วย้อนกลับมาที่ปูลาเดินเล่นชมหาดทั้งวัน
บางที่ก็จัดเองเหมือนโปรแกรมทัวร์พิมพ์นิยม พักสถานที่ใกล้เคียงตามทัวร์ซึ่ง ทัวร์ก็จะขาย 9 วัน 6 คืน นับคืนเอาแล้ว เรามีเวบาเยอะกว่าเขาอีก เช่น ปราก-เคสกี้ครุมลอฟ-บราติสลาวา-บูดาเปสต์ - Siofok แล้วด้วยรถเก๋งสปีดลิมิตสูงกว่ารถบัสก็เลยได้เที่ยวเยอะเที่ยวนานค่ะ
กิจกรรมเช้ามาเดินไปเที่ยวเมืองที่พัก สิบโมง ขับไปอีกสัก ชม. ไปอีกเมืองห่างกัน 100-200โล ถึงเที่ยงพอดีทานข้าว ชมสถานที่ท่องเที่ยว ก็ออกไปอีกที่ใกล้เคียง เดินเล่นจนเย็น ขับต่ออีกสักพัก จนมืดก็โผล่อีกประเทศเลยค่ะ ยิ่งฤดูนี้สว่างยันสองทุ่มเลย ได้เดินชม ได้ไปหลายที่เยอะมากค่ะ
4. ค่าอาหาร ค่าท่องเที่ยว ขออนุญาตไม่รวม เพราะว่านานาจิตตังเรื่องอาหาร พวกแม่ๆชอบอาหารไทย อาหารทำเอง เข้า Supermarket ซื้อของสด ไม่แพงเลย ชอปที 10-20 ยูโร ชอปอยู่ สามสี่ครั้ง ให้เขาทำอาหารเวลาอยู่อพาร์ตเม้นท์ ส่วนตอนกลางวันทำไปเผื่อๆ ก็ไปทานของเขาบ้าง แต่เราชอบไปหาไปดูอาหารท้องถิ่นมากกว่า
เพราะฉะนั้นขออนุญาต รีวิวส่วนเกินที่ตนเองออก คือค่าอาหารของตัวเอง และค่าเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว เช่น เข้า MB museum เข้า ปราสาท ตอนไปโครเอเชีย เข้าอุทยานเดินป่า ค่าล่องเรือ ค่าอาหารที่ร้าน ค่าดื่ม นี่คือส่วนเกินของพลอยเองหมดเลย
คือ เอาเงินไป 250 ยูโร เงินหมดจ้า
+ เพิ่มอีก 10,000 นะ ของพลอยอ่ะ
จบ
5. แถม. ชอปปิ้งของหรู ของฝากตามอัธยาศัย ถ้าจะใช้บัตรเครดิต ลองโทรถามธนาคารก่อนว่าบัตรเป็น Chip and Pin หรือไม่ และอย่าลืมจำพินไปด้วยนะคะ เครื่องรูด automate ที่ยุโรปคือต้องใส่พิน ซึ่งเราไม่เคยจำเลย เพราะคิดว่าไม่ได้กดเงินสด พลาดไป อดใช้บัตรเครดิต เงินสดโลด ส่วนเครื่อง EDC แบบเดิมที่เป็น Chip and Signature ตามร้านยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ก็ถามร้านค้าก่อนว่า รับบัตร Chip and Signature ไหม ทั้งนี้ก็เผื่อๆไว้ด้วยค่ะ
ถ้าจองโรงแรมผ่านเวบจะตัดบัตรได้ทันที แต่ถ้าซื้อของที่ร้านที่เป็นเครื่องรูด Chip and Pin พิมพ์นิยมสไตล์ยุโรปก็อย่าลืมพิน!!! (ขออนุญาต edit เพิ่มเติมค่ะ)
6. แถม. ช่วงนี้เหมาะในการไปเที่ยว เพราะสว่างนานยันสองทุ่ม เราจะได้ไปวันละสองเมือง เดินชมเดินเล่นสบายๆ พอมืดแล้วขับไปอีกสัก1-2 ชม. ก็โผล่อีกประเทศเลย ทำให้ได้เที่ยวเยอะมากๆ
7. แถม. หากคุณอยากจะทานหรูอยู่สบาย ทุกมื้อ เพิ่มไปวันละ 2,000 คร่าวๆ
ข้อแนะนำ
1. ไปกลับที่เดียวเถอะเธอ!!
2. เพราะมันจะประหยัดไปได้อีกคนละ 6,000 เลยนะเธอ!!
3. ช่วงพค. - สิงหา ควรมาเพราะได้เที่ยวยาวๆ จนกว่าจะมืด ถ้าเข้าพัก ใจกลางเมือง
ตื่นเช้ามาก็เดินชมเมือง ที่พักได้เลย สิบโมงก็ออก ขับไปอีกที ก็เที่ยง เที่ยว 2 ชม ขับออกอีก ได้อีกสถานที่จนถึงสองทุ่ม ขับอีกนิด โผล่อีกประเทศแล้วค่ะ แต่ร่างกายคนขับต้องพร้อมมากๆจริงๆ
4. ทำอาหารกินเองคือสวรรค์ ควรมีแม่ครัวมาด้วย ควรมีเครื่องปรุงมาด้วย! Lobo คือพระเจ้า!
5. ควรมีคนที่ทำการบ้านว่าแต่ละเมืองห่างกันอย่างไร อ่านประวัติศาสตร์ จะได้เป็นไกด์ในตัว ซึ่งคือ ชั้นเอง!!
6. ของในร้านสะดวกซื้อแพงกว่า ซุปเปอร์ 200% เพราะงั้นขับรถเองไปซุปเปอร์ได้ ซื้อน้ำเปล่ามาตุนเลยค่ะ น้ำเปล่าขวดใหญ่ 19 เซนต์ ไข่ไก่โหลละ 1 ยูโร เนื้อสัตว์ ไส้กรอก โลละ 5 ยูโร ผักสดหนักเป็นกิโลๆ หลัก 1 ยูโรเอง
7. กินตามร้าน แล้วแต่ความหรู แต่ก็ไม่เคยเกิน 20 ยูโร รวมทิปนะ แต่ว่าจานใหญ่มากเอากลับมากินต่อได้อีกมื้อสองมื้อ
8. ถ้าเป็นสายพิพิธภัณฑ์ เข้าชมประวัติศาสตร์ และเป็น นศ. อยู่ ควรไปสมัคร international student card บัตร ISIC จะลดไป 50% คุ้มมากๆค่ะ
[img]https://f.ptcdn.info/636/050/000/oor56obqiLq2