เรียนท่านผู้รู้กฏหมายหรือทนายความ
เมื่อปีที่แล้วดิฉันถูกผู้หนึ่งฟ้องร้องทางแพ่งเรื่องคดีละเมิด ที่ทรัพย์สินของดิฉันเป็นบ้านทำให้รถยนต์ของฝ่ายผู้เสียหาย (โจทย์ ) ได้รับความเสียหาย เมื่อตกลงไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวหาข้อยุติไม่ได้ ทั้ง 2 ฝ่ายก็นำคดีขึ้นพิจารณาของศาล ศาลก็ได้พิพากษาให้ดิฉัน (จำเลย ) ชดใช้ค่าเสียหายพร้อมทั้งค่าทนายและค่าฤชาธรรมเนียม นอกจากฝ่ายโจทย์เรียกค่าเสียหายแล้ว ยังเรียกให้ดิฉันชดใช้ค่าเช่ารถยนต์ในระหว่างที่รถทีเสียหายเข้าซ่อม ในระหว่างที่พยานโจทย์คือตัวโจทย์เองกำลังเบิกความ ทนายฝ่ายดิฉันพยายามซักค้าน ดิฉันหรือแม้แต่ท่านผู้พิพากษาเองก็ยังงงในการให้คำเบิกความ คล้ายกับว่าจะมีพิรุธ แต่ฝ่ายดิฉันมิอาจจะอ้างพยานใดๆมาสืบหักล้างในประเด็นนี้ได้ ศาลก็กำหนดให้ดิฉันรับผิดชอบค่าเช่ารถที่ฝ่ายโจทย์เช่าตามราคาที่ระบุในสัญญาเช่ารถ คดีนี้สิ้นสุดไปแล้ว. ต่อมาอีกไม่นานดิฉันทราบจากบุคคลอีกคนหนึ่งว่าสัญญาเช่ารถนั้นเป็นการสร้างข้อความเท็จขึ้นมาว่าได้เช่ารถ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วมิได้มีการเช่าจริง แต่ทางฝ่ายโจทย์ไปติดต่อหรือกับเจ้าของที่ปล่อยรถเช่าให้เขียนแต่งสัญญาเช่าขึ้นมามีตราประทับของร้านพร้อมลายเซ็นของผู้เช่า (โจทย์) และเจ้าของรถเช่า วันที่และระยะเวลาการเช่า ทั้งสองคนก็รับรู้ความประสงค์ของเอกสารนี้เป็นอย่างดีว่า เป็นเอกสารที่มีข้อความไม่เป็นความจริง
จึงกราบขอเรียนท่านผู้รู้กฏหมายหรือทนายความที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ว่า ดิฉันมีโอกาศจะฟ้องฝ่ายโจทย์เป็นคดีอาญาได้หรือไม่ ระหว่ามาตรา 180 มาตรา 264 และมาตรา 341 แห่งประมวลกฏหมายอาญา ( ดิฉันอ่านจาก กูเกิ้ล ค่ะ )
ขออภัยที่กระทู้มีข้อความยาวและขอขอบพระคุณค่ะ
คดีแพ่งครั้งก่อนฝ่ายโจทย์ใช้และแสดงเอกสารที่มีข้อความอันเป็นเท็จ
เมื่อปีที่แล้วดิฉันถูกผู้หนึ่งฟ้องร้องทางแพ่งเรื่องคดีละเมิด ที่ทรัพย์สินของดิฉันเป็นบ้านทำให้รถยนต์ของฝ่ายผู้เสียหาย (โจทย์ ) ได้รับความเสียหาย เมื่อตกลงไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวหาข้อยุติไม่ได้ ทั้ง 2 ฝ่ายก็นำคดีขึ้นพิจารณาของศาล ศาลก็ได้พิพากษาให้ดิฉัน (จำเลย ) ชดใช้ค่าเสียหายพร้อมทั้งค่าทนายและค่าฤชาธรรมเนียม นอกจากฝ่ายโจทย์เรียกค่าเสียหายแล้ว ยังเรียกให้ดิฉันชดใช้ค่าเช่ารถยนต์ในระหว่างที่รถทีเสียหายเข้าซ่อม ในระหว่างที่พยานโจทย์คือตัวโจทย์เองกำลังเบิกความ ทนายฝ่ายดิฉันพยายามซักค้าน ดิฉันหรือแม้แต่ท่านผู้พิพากษาเองก็ยังงงในการให้คำเบิกความ คล้ายกับว่าจะมีพิรุธ แต่ฝ่ายดิฉันมิอาจจะอ้างพยานใดๆมาสืบหักล้างในประเด็นนี้ได้ ศาลก็กำหนดให้ดิฉันรับผิดชอบค่าเช่ารถที่ฝ่ายโจทย์เช่าตามราคาที่ระบุในสัญญาเช่ารถ คดีนี้สิ้นสุดไปแล้ว. ต่อมาอีกไม่นานดิฉันทราบจากบุคคลอีกคนหนึ่งว่าสัญญาเช่ารถนั้นเป็นการสร้างข้อความเท็จขึ้นมาว่าได้เช่ารถ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วมิได้มีการเช่าจริง แต่ทางฝ่ายโจทย์ไปติดต่อหรือกับเจ้าของที่ปล่อยรถเช่าให้เขียนแต่งสัญญาเช่าขึ้นมามีตราประทับของร้านพร้อมลายเซ็นของผู้เช่า (โจทย์) และเจ้าของรถเช่า วันที่และระยะเวลาการเช่า ทั้งสองคนก็รับรู้ความประสงค์ของเอกสารนี้เป็นอย่างดีว่า เป็นเอกสารที่มีข้อความไม่เป็นความจริง
จึงกราบขอเรียนท่านผู้รู้กฏหมายหรือทนายความที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ว่า ดิฉันมีโอกาศจะฟ้องฝ่ายโจทย์เป็นคดีอาญาได้หรือไม่ ระหว่ามาตรา 180 มาตรา 264 และมาตรา 341 แห่งประมวลกฏหมายอาญา ( ดิฉันอ่านจาก กูเกิ้ล ค่ะ )
ขออภัยที่กระทู้มีข้อความยาวและขอขอบพระคุณค่ะ