กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (17 Apr 17)

กระทู้สนทนา



สวัสดียามยามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ภายหลังจากหยุดยาวไปนานหลายวัน
เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน

เมื่อวันพุธ(12 เมษายน)ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ยังคงพุ่งทะยานใต่ระดับขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง อนิสงค์ Fund Flow
ไหลเข้ามาอย่างหนาแน่น เพราะนักลงทุนต่างชาติ มีความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียด ในคาบสุมทรเกาหลี จึงโยกเงินเข้าสู่
สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe haven) Gold,Bond,Emerging Market เช่นตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังเก็งผลประกอบการ
บริษัทจดทะเบียนต่างๆไตรมาสที่1/2560 ที่กำลังจะประกาศออกมาเร็วๆนี้ ดังนั้นจึงทำให้ ดัชนี SET index ทะยานขึ้นไปปิดตัว
ที่ระดับ 1589 จุด +6.72 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถทะยานขึ้นไปปิดตัวยืนเหนือระดับ 1600 จุด ได้หรือไม่

Fundamental

"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดใน
คาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธในช่วงเช้าวานนี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินเยนยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มส่งออก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดลบ 95.79 จุด หรือ -0.52% แตะที่ 18,239.84 จุด ทั้งนี้ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธในช่วงเช้าวานนี้
ที่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกใกล้กับเมืองซินโป จังหวัดฮัมกยองใต้ โดยแม้การยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ประสบความล้มเหลว แต่ก็สร้างความวิตก
กังวลให้กับหลายฝ่าย

ญี่ปุ่นได้ยื่นเรื่องประท้วงการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือผ่านทางช่องทางการทูต โดยชี้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรี
ความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดเจน


"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้าย
ในสัปดาห์นี้ ก่อนที่ตลาดจะหยุดยาวเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์
ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งจากสถานการณ์ซีเรีย เกาหลีเหนือ และหลังจากที่ล่าสุดมีรายงานว่าสหรัฐทิ้งระเบิด MOAB
(Mother of All Bombs) ในอัฟกานิสถาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,453.25 จุด ลดลง 138.61 จุด หรือ -0.67%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,328.95 จุด ลดลง 15.98 จุด หรือ -0.68%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,805.15 จุด ลดลง 31.01 จุด หรือ -0.53%

สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1%, S&P 500 ลดลง 1.1% และ Nasdaq ลดลง 1.2%

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวัน Good Friday เทศกาลอีสเตอร์
หุ้นกลุ่มการเงินถูกจับตา เนื่องจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการวานนี้

ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้
ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจากปีที่แล้ว รวมทั้งผลประกอบการ
จากธุรกิจวาณิชธนกิจ เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 2.56 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 6.45 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.65 ดอลลาร์/หุ้น
ในไตรมาส 1 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 2.49 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.52 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 1

ด้านซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากรายได้จากการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแผนกวาณิชธนกิจ และจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย

ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีรายได้ 1.812 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 4.1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.35 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้
ที่ระดับ 1.776 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.24 ดอลลาร์/หุ้น

ส่วนธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร
และรายได้ลดลงในไตรมาส 1 โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และค่าธรรมเนียมเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ลดลง

เวลส์ ฟาร์โก ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 2.20 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 5.06 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.00 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 1 ขณะที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 0.96 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนักลงทุนรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทต่างๆแล้ว ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ โดยในช่วง
สัปดาห์นี้ ตลาดถูกปกคลุมด้วยความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่ประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับความตึงเครียดที่สูงขึ้นระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ

ล่าสุด กระทรวงกลาโหมของสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพสหรัฐได้ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ที่สุดที่ไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์ลงในอัฟกานิสถาน
เพื่อโจมตีเป้าหมายของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)

รายงานระบุว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้มีคำสั่งให้ทางกองทัพทิ้งระเบิด GBU-43 หรือ Massive Ordnance Air Blast (MOAB)
ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 22,000 ปอนด์ ไปที่เป้าหมายของกลุ่ม IS ในจังหวัดนันการ์ฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ระเบิด
ดังกล่าวในการสู้รบ

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากการที่นักลงทุนกังวลต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเขากล่าว
เตือนถึงการแข็งค่าของดอลลาร์ ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความเห็นเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยกล่าวว่า ดอลลาร์กำลังแข็งค่ามากเกินไปในขณะนี้ ทั้งยังระบุว่า เขาชอบนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายเดือน
ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2012 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนก.พ.
ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร พลังงาน และภาคบริการ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ.

ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว
สู่ระดับ 234,000 ราย โดยเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และอยู่ใกล้ระดับ 227,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 44 ปีที่ทำไว้ในเดือนก.พ.

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 247,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลดลง โดยหุ้นเจพี มอร์แกน ร่วง 1.2% ซิตี้กรุ๊ปลดลง 0.8% แม้ธนาคารเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่เวลส์ ฟาร์โก
ร่วง 3.3%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน หุ้นเชฟรอน ร่วง 2.6%
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ลบ 1.9%

"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลดลง 1.32 จุด หรือ -0.35% แตะที่ 380.58 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,071.10 จุด ลดลง 30.01 จุด หรือ -0.59%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,109.00 จุด ลดลง 45.70 จุด หรือ -0.38%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,327.59 จุด ลดลง 21.40 จุด หรือ -0.29%

วันพฤหัสบดีถือเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวัน Good Friday และวันจันทร์
เนื่องในวันหยุด Easter

ทั้งนี้ แม้ธนาคารหลายแห่งของสหรัฐได้เปิดเผยผลประกอบการที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งรวมถึง ซิตี้กรุ๊ป และ เจพี มอร์แกน แต่ก็ไม่สามารถช่วย
กระตุ้นแรงซื้อได้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนชะลอเทรดก่อนหยุดยาวหลายวันเนื่องในเทศกาล Easter

หุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปร่วงลงเกือบทั้งหมด แม้ธนาคารหลายแห่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงซิตี้กรุ๊ป และ เจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยผลประกอบที่ออกมาดี
เกินคาด แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นแรงซื้อได้ ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจากปีที่แล้ว
รวมทั้งผลประกอบการจากธุรกิจวาณิชธนกิจ เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 2.56 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 6.45 พันล้านดอลลาร์
หรือ 1.65 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 1 ทั้งนี้ หุ้นเครดิต อากริโคล ร่วง 1.7% เอชเอสบีซี ร่วง 1.7% สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลดลง 1.6%
รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (อาร์บีเอส) ลดลง 1.3% คอมเมิร์ซแบงก์ ลดลง 1.1% บาร์เคลย์ ลบ 0.5% อย่างไรก็ดี ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป
เพิ่มขึ้น 0.3%

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์


Technical Analysis

SET index TF Day : เมื่อวานพุธ(12 เมษา) ที่ผ่านมา ดัชนี ได้พุ่งทะยานทะลุแนวต้านระดับ 1585 จุด ขึ้นไปได้อย่างสวยงาม
อลังการตระการตา งานสร้าง  พร้อมกับปิดแท่งเทียนไปแบบ "Marubozu" แท่งเขียวเต็มๆแท่ง  ซึ่งทำให้ภาพของ "ไหล่ขวา"
รูปแบบกลับตัว "Invested Head & Shoulder" ค่อนข้างชัดเจน และแนวโน้มวันนี้ คาดว่า ดัชนีน่าจะขึ้นไปทดสอบ 1600 จุด
ถ้าผ่านขึ้นไปได้ ดัชนีก็จะ โบยบินสูงดวงดาวอันไกลโพ้น

S50M17 TF Day : เมื่อวานพุธ(12 เมษา) ที่ผ่านมา ดัชนีได้ขึ้นมายืนเหนือระดับ 1000 จุด ได้อย่างแข็งแกร่ง สวยงาม
แม้ภาพรวมทิศทางการเคลื่อนไหว จะยังคงเป็น "Sideway up" แบบค่อยเป็น ค่อยไป และแนวโน้มคาดว่า ดัชนีจะยังคงทะยาน
ใต่ระดับขึ้นไป New High เรื่อย อย่างไรก็ตามด้วยการที่ดัชนี ค่อยใต่ระดับขึ้นมเรื่อยๆ โดยไม่มีการพักฐานใดๆ ทำให้ Indicator บางตัว
ส่งสัญญาณ Over bought บ้างแล้ว บวกกับ Volume ที่ค่อยๆลดลง ไม่สัมพันธ์กับ Index ที่ทำ New high ทุกวี่วัน
จึงทำให้เห็นสัญญาณ Selling Climax   ดังนั้นจึงให้ระมัดระวัง การพักฐาน ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ก็เป็นได้

TF60: เวลาผ่านมา 1 เดือนเต็มๆ ดัชนีก็ยังคงมีทิศทาง "Sideway up" ใต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนเมื่อวันพุธ(12 เมษา) ที่ผ่านมา
ดัชนีได้ทะยานขึ้นไปปิดตัวยืนเหนือระดับ 1000 จุด ได้สำเร็จ จึงทำให้ภาพรวมดูสวยงามยิ่งนัก และแนวโน้มคาดว่า ดัชนีจะยังคงทะยาน
ใต่ระดับขึ้นไป New High เรื่อยๆ  // อย่างไรก็ตามด้วยการที่ดัชนี ค่อยใต่ระดับขึ้นมาโดยไม่มีการพักฐานใดๆ ทำให้ Indicator บางตัว
ส่งสัญญาณ Over bought บ้างแล้ว  ดังนั้นจึงให้ระมัดระวัง การพักฐาน ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ก็เป็นได้

Resistance 1005 1011 1015 / 1595 1600 1606
Support 999 995 990 / 1585 1580 1577

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่