กลายเป็นข่าวลึกล้ำ พิสดารส่งท้ายเทศกาล สงกรานต์ขึ้นมาทันที
กรณี “หมุดคณะราษฎร” ซึ่งถูกติดตั้งไว้บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ามานานกว่า 80 ปี
ได้ถูกมือดีแกะออกไป แล้วนำหมุดที่หล่อขึ้นใหม่ไปติดไว้แทนที่จุดเดิม
ลึกล้ำพิสดาร เพราะยังหาคำตอบไม่ได้ว่าใครเป็นผู้สั่ง? ใครเป็นผู้ทำ? ทำเมื่อไหร่?
และทำทำไม?
สรุปว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
ไม่ธรรมดา เพราะคนธรรมดาทำแบบนี้ไม่ได้น่ะซีโยม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า “หมุดคณะราษฎร” ของเดิมที่ถูกรื้องัดออกไป
จารึกข้อความว่า
“ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่งคณะราษฎรได้ก่อ
กำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ”
ส่วนหมุดใหม่ที่ถูกนำไปติดตั้งไว้แทนหมุดอันจริง มีข้อความว่า
“ความนับถือรักใคร่ใน
พระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี ในพระราชาของตนก็ดี
ย่อมทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง ขอประเทศสยามจงเจริญยั่งยืนตลอดไป ประชาชน
สุขสันต์หน้าใส เพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน”
ไม่มีข้อความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือเกี่ยวข้องกับคณะราษฎร
หรือการก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศ ไทยแต่อย่างใด
เป็นข้อความใหม่ที่แตกต่างจากหมุดเก่าของเดิม
จึงมีผู้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า
เหตุที่ต้องรื้อ “หมุดคณะราษฎร” ออกไป เพราะไม่ต้องการ
ให้มีสัญลักษณ์ถึงเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ปรากฏอยู่ในพื้นที่เดิม
แต่จะรื้อทิ้งไปดื้อๆ ก็โจ๋งครึ่มเกินไป จึงต้องทำหมุดใหม่คล้ายกับของเดิมมาติดไว้แทนแบบเนียนๆ
“แม่ลูกจันทร์” ย้อนประวัติที่มาที่ไปของ “หมุดคณะราษฎร” ที่ถูกมือดีรื้อออกไปอย่างไร้ร่องรอย
หมุดอันนี้ได้ประกอบพิธีติดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2479
หลังเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองไปแล้วถึง 4 ปี
โดยมี พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหนึ่งในแกนนำ
“คณะราษฎร” เป็นประธานในพิธีฝังหมุดด้วยตนเอง
พล.อ.พหลฯ ได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า “หมุดที่จะวางลง ณ ที่นี้เรียกว่า “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ”
ในมงคลสมัยซึ่งเป็นวันบรรจบครบรอบ 4 ปี แห่งการรับพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร
จึงนับว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะทำพิธีวาง “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าคำปราศรัยของอดีตนายกฯ “พล.อ.พหลพลพยุหเสนา”
ระบุชัดว่า หมุดดังกล่าวนี้เป็น “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” จึงไม่ใช่ “หมุดคณะราษฎร”
อย่างที่เรียกขานกัน
เป็น “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย” ซึ่งได้รับพระราชทานจาก
“พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475
จึงเป็นโบราณวัตถุมรดกทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าชิ้นสำคัญของประเทศไทยโดยตรง
เพราะเป็นต้นกำเนิดที่ทำให้ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมายาวนานถึง 85 ปี
มีลูกหลานเหลนรัฐธรรมนูญสืบทอดสายพันธุ์มาถึง 20 ฉบับนับถึงปัจจุบัน
ดังนั้น “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกผู้ไม่ประสงค์ออกนามสั่งให้ใคร
จัดการรื้อออกไป จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างแรง
ด้วยเหตุนี้ จึงมีกระแสเรียกร้องขอคืน “หมุดอันเก่า” กันอึกทึกครึกโครม
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าสสารย่อมไม่สูญหายไปจากโลก
หมุดประวัติศาสตร์อันนี้น่าจะยังอยู่ที่ไหนแห่งหนึ่งแน่นอน
แต่...แต่การจะเรียกร้องให้ “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกทำให้
สูญหายไปแล้วกลับมาโผล่อยู่ ณ ที่เดิม
เห็นท่าจะลำบากซะแล้วคุณ
ฟันธง...โอกาสได้คืนมีไม่ถึง5เปอร์เซ็นต์.
“แม่ลูกจันทร์”
หมุดที่หายไป ..... แม่ลูกจันทร์ ... ไทยรัฐออนไลน์ ../sao..เหลือ..noi
กรณี “หมุดคณะราษฎร” ซึ่งถูกติดตั้งไว้บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ามานานกว่า 80 ปี
ได้ถูกมือดีแกะออกไป แล้วนำหมุดที่หล่อขึ้นใหม่ไปติดไว้แทนที่จุดเดิม
ลึกล้ำพิสดาร เพราะยังหาคำตอบไม่ได้ว่าใครเป็นผู้สั่ง? ใครเป็นผู้ทำ? ทำเมื่อไหร่?
และทำทำไม?
สรุปว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
ไม่ธรรมดา เพราะคนธรรมดาทำแบบนี้ไม่ได้น่ะซีโยม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า “หมุดคณะราษฎร” ของเดิมที่ถูกรื้องัดออกไป
จารึกข้อความว่า “ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่งคณะราษฎรได้ก่อ
กำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ”
ส่วนหมุดใหม่ที่ถูกนำไปติดตั้งไว้แทนหมุดอันจริง มีข้อความว่า “ความนับถือรักใคร่ใน
พระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี ในพระราชาของตนก็ดี
ย่อมทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง ขอประเทศสยามจงเจริญยั่งยืนตลอดไป ประชาชน
สุขสันต์หน้าใส เพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน”
ไม่มีข้อความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือเกี่ยวข้องกับคณะราษฎร
หรือการก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศ ไทยแต่อย่างใด
เป็นข้อความใหม่ที่แตกต่างจากหมุดเก่าของเดิม
จึงมีผู้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าเหตุที่ต้องรื้อ “หมุดคณะราษฎร” ออกไป เพราะไม่ต้องการ
ให้มีสัญลักษณ์ถึงเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ปรากฏอยู่ในพื้นที่เดิม
แต่จะรื้อทิ้งไปดื้อๆ ก็โจ๋งครึ่มเกินไป จึงต้องทำหมุดใหม่คล้ายกับของเดิมมาติดไว้แทนแบบเนียนๆ
“แม่ลูกจันทร์” ย้อนประวัติที่มาที่ไปของ “หมุดคณะราษฎร” ที่ถูกมือดีรื้อออกไปอย่างไร้ร่องรอย
หมุดอันนี้ได้ประกอบพิธีติดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2479
หลังเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองไปแล้วถึง 4 ปี
โดยมี พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหนึ่งในแกนนำ
“คณะราษฎร” เป็นประธานในพิธีฝังหมุดด้วยตนเอง
พล.อ.พหลฯ ได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า “หมุดที่จะวางลง ณ ที่นี้เรียกว่า “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ”
ในมงคลสมัยซึ่งเป็นวันบรรจบครบรอบ 4 ปี แห่งการรับพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร
จึงนับว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะทำพิธีวาง “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าคำปราศรัยของอดีตนายกฯ “พล.อ.พหลพลพยุหเสนา”
ระบุชัดว่า หมุดดังกล่าวนี้เป็น “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” จึงไม่ใช่ “หมุดคณะราษฎร”
อย่างที่เรียกขานกัน
เป็น “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย” ซึ่งได้รับพระราชทานจาก
“พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475
จึงเป็นโบราณวัตถุมรดกทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าชิ้นสำคัญของประเทศไทยโดยตรง
เพราะเป็นต้นกำเนิดที่ทำให้ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมายาวนานถึง 85 ปี
มีลูกหลานเหลนรัฐธรรมนูญสืบทอดสายพันธุ์มาถึง 20 ฉบับนับถึงปัจจุบัน
ดังนั้น “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกผู้ไม่ประสงค์ออกนามสั่งให้ใคร
จัดการรื้อออกไป จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างแรง
ด้วยเหตุนี้ จึงมีกระแสเรียกร้องขอคืน “หมุดอันเก่า” กันอึกทึกครึกโครม
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าสสารย่อมไม่สูญหายไปจากโลก
หมุดประวัติศาสตร์อันนี้น่าจะยังอยู่ที่ไหนแห่งหนึ่งแน่นอน
แต่...แต่การจะเรียกร้องให้ “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกทำให้
สูญหายไปแล้วกลับมาโผล่อยู่ ณ ที่เดิม
เห็นท่าจะลำบากซะแล้วคุณ
ฟันธง...โอกาสได้คืนมีไม่ถึง5เปอร์เซ็นต์.
“แม่ลูกจันทร์”