ผมขอเล่าและลำดับอาการเป็นขั้นๆ นะครับ

ขั้นที่ 1
ผมมีอาการปวดหลังและสะโพกประมาณเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2559 อาการปวดหลังและสะโพกนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่กำลังจะนั่งหรือลุกจากเก้าอี้ ตอนแรกผมก็คิดว่าอาจเป็นเพราะนอนตะแคงแล้วหลังเคล็ดเฉยๆเนื่องจากหลังและสะโพกที่ปวดนั้นปวดอยู่ข้างเดียว (ข้างซ้าย)  และไม่ได้แสดงอาการอะไรเพิ่มนอกจากนี้ จนกระทั่งในวันที่ 17 ธ.ค. 2559 ผมไปช่วยงานญาติที่ร้านค้าแล้วไปยกลังน้ำก็รู้สึกปวดหลังกว่าเดิม กลับบ้านมาก็ให้หลานเหยียบหลังให้แต่ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นจึงไปนอนพัก

ขั้นที่ 2
เช้าวันต่อมาผมกลับปวดหลังมากกว่าเดิมโดยเฉพาะตอนที่นั่งเก้าอี้ แต่เวลาเดิน ยืน หรือนอนอาการปวดบรรเทาลงมาก วันที่ 19 ธ.ค. ผมจึงไปหาหมอครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากเป็นหมออายุรกรรมทั่วไปจึงยังวินิจฉัยโรคไม่ได้ จึงจ่ายยาและนัดให้มาหาหมอกระดูกในวันที่ 22 ธ.ค. เมื่อมาหาหมอกระดูกในครั้งที่ 2 แล้วหมอก็วินิจฉัยด้วยการให้ลองทำท่าทางต่างๆ สอบถามอาการและระยะเวลาที่เป็นมาทั้งหมดก่อนจะระบุว่าผมเป็นโรค HNP ซึ่งผมลองมาหาข้อมูลดูจึงรู้ว่าเป็นโรค หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท หมอสั่งจ่ายยาและให้ผมไปกายภาพบำบัดด้วยการประคบร้อน ดึงหลัง และใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หลังทำเสร็จนักกายภาพบำบัดก็นัดมาทำอีกครั้งในวันที่ 23 ธ.ค. และหลังจากทำกายภาพครั้งที่ 2 ผมมีธุระที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ไม่สามารถไปกายภาพได้อีกจึงปรึกษากับนักกายภาพว่าจะเป็นปัญหาหรือไม่ ซึ่งนักกายภาพก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรสามารถไปได้แต่อาจต้องทำท่าบริหารบ้างเพื่อเป็นการกายภาพบำบัดด้วยตนเอง

ขั้นที่ 3
หลังจากที่เสร็จธุระที่ จ.เชียงใหม่ ผมเดินทางกลับในวันที่ 4 ม.ค. 2560 ด้วยรถทัวร์ แต่อย่างที่บอกว่าผมนั่งนานไม่ค่อยได้ และอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้ในวันรุ่งขึ้นผมปวดหลังรุนแรงขนาดที่ว่าเดินได้ประมาณไม่เกิน 10 ก้าว ก็ต้องรีบกลับไปนอนทันที เพราะปวดที่หลังและสะโพกมาก เวลากินข้าวก็ต้องนอนคว่ำและชันอกขึ้นตักข้าวกิน ผมนอนอยู่อย่างนั้นประมาณ 5 วันและเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยมากทานข้าวก็น้อยลงน้ำหนักลดลงไปประมาณ 7 ก.ก. ในวันที่ 9 ม.ค. ผมตัดสินใจเรียกรถ TAXI และนอนที่เบาะหลังไปโรงพยาบาล การมาหาหมอครั้งที่ 3 นี้ได้เจอกับหมออายุรกรรมทั่วไป ซึ่งผมก็บอกอาการและการวินิจฉัยของหมอ 2 ครั้งแรกไปแต่หมอไม่แน่ใจว่าเป็น HNP จริงจึงจ่ายยาและนัดให้มาหาหมอกระดูกในวันที่ 12 ม.ค. แทน (เดาว่าหมอกระดูกอาจจะลงตรวจเฉพาะวันพฤหัส) และพอมาหาหมอกระดูกในวันที่ 12 ม.ค. โดยเป็นการหาหมอครั้งที่ 4 (และคนที่ 4) หมอก็ยืนยันว่าเป็นโรค HNP จริง แต่เนื่องจากที่ผ่านมาอาการผมดีขึ้นหมอจึงให้พักผ่อนและรอดูอาการ โดยบอกว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หากไม่ดีขึ้นอาจจะต้อง ผ่าตัด พร้อมทั้งจ่ายยามาให้กินตามเคยโดยบอกว่ายาที่ให้นี้ไม่ต้องกินก็ได้ เพราะยาช่วยแค่บรรเทาอาการปวด การรักษาที่ดีคือการปฏิบัติตนมากกว่า โดยหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่เสี่ยงต่อการทำให้อาการทรุดลง แต่หากอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องผ่าตัด และพอวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. ผมก็กลับไปขอทำกายภาพบำบัดที่มหาวิทยาลัยต่อ (วันที่ 16 เปิดเทอม) โดยทำต่อเนื่องถึงวันที่ 19 และหาหมอกระดูก(คนเดิมที่หาในครั้งที่ 2) เพื่อให้ดูอาการเพิ่มเติม ซึ่งหมอก็บอกว่าดีขึ้นแล้ว (ผมเดินได้ไกลขึ้น แต่เดินไปนานๆจะต้องนั่งพัก เพราะปวดน่อง สะโพก หลัง ส่วนการนั่งดีขึ้น นั่งได้นานโดยไม่ปวด) และให้หยุดกายภาพบำบัด

ขั้นที่ 4
ผมหยุดกายภาพบำบัดมาได้ประมาณเกือบ 3 เดือน สรุปอาการโดยรวมในปัจจุบันสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ แต่เดินได้ไม่ไกลมาก ประมาณ 100 เมตรก็เริ่มไม่ไหวต้องนั่งพัก การยืนก็ไม่ค่อยไหว ส่วนการนั่งการนอนไม่มีปัญหา จนกระทั่งประมาณ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมมีอาการหนึ่งคือนอนแล้วปวดหลังกับขา ไม่ได้ปวดมากแต่ปวดจนรำคาญนอนไม่หลับ จนเดี๋ยวนี้ต้องหันมากินยาเดิมที่หยุดกินไปตั้งแต่เดือน ม.ค.

สุดท้าย

การรักษาที่ผ่านมากว่า 4-5 เดือน อาการโดยรวมก็ดีขึ้นแต่ไม่หายขาด มันทำให้รำคาญเพราะทำอะไรไม่สะดวก ผมจึงอยากรู้ว่า
1. เวลา 4-5 เดือนแล้วยังไม่หาย ถือว่าควรผ่าตัดหรือยัง
2. ถ้าต้องผ่าตัดจะสามารถใช้สิทธิ์บัตรทองได้ไหม
3. ถ้าผ่าตัดพักฟื้นนานไหม
4. การตรวจโรค HNP ต้องใช้ MRI ไหม เพราะบางคนบอกว่าโรคนี้จะระบุได้ต้องตรวจด้วย MRI และราคาแพง ซึ่งไม่รู้ว่าใช้บัตรทองได้หรือเปล่า
5. มันมีทางที่จะหายเองได้ไหม หรือจะต้องผ่าตัด (มีคนแนะนำฝังเข็ม โหนบาร์ ว่ายน้ำด้วย แต่ยังไม่สะดวกไปครับ)