*** โรมานส์ ยุโรป ตะวันออก ในคืนหนาว ***

[CR] * โรมานส์ ยุโรป ตะวันออก ในคืนหนาว *

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ ภาพถ่าย ปราก

ตอนที่ 3 ปราก อารยธรรมอันเรืองรอง
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 เวียนนา สุดแสนคลาสสิก https://ppantip.com/topic/36334046
ตอนที่ 2 บูดาเปส งดงามดั่งภาพฝัน https://ppantip.com/topic/36335087
ตอนที่ 3 ปราก อารยธรรมอันเรืองรอง https://ppantip.com/topic/36338524
ตอนที่ 4 เชสกี้ คลุมลอฟ ไขมุกแห่งเรเนอซอง https://ppantip.com/topic/36340061
ตอนที่ 5 ฮอลสตัท อ่อนหวาน งดงาม สมคำร่ำลือ https://ppantip.com/topic/36340110
ตอนที่ 6 อินท์บรูก อ้อมกอดแห่งขุนเขา https://ppantip.com/topic/36343020
ตอนที่ 7 ฟุตเซ่นต์ ธรรมชาติ ปราสาทอลังการ https://ppantip.com/topic/36350525

Night Train มาถึง Prague ประมาณ 7 โมงเศษ ตรงเวลาดี เรารีบลงกันมาเข้าห้องน้ำกันให้หายอยาก เสียเงินอีกตามเคย ใช้ยูโรได้ แวะซื้อ 24 Hrs. Ticket คนละ 110 Ck. ผมเลือกที่พักใกล้กับ Charles Bridge เลยคล้ายกับเมื่อวาน มีแม่น้ำด้านหน้าแต่เป็นแม่น้ำวัลตาวา มีรถรางวิ่งผ่านริมน้ำ วิวสวย ฉ่ำเย็นเหมือนกัน

เรามาถึงเช้าสะพานเลยเงียบกันอยู่

ดินแดนแถบนี้แต่เดิมเรียกว่าแคว้นโบฮีเมีย (Bohemia) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นครปรากแห่งนี้ แต่ต่อมาโบฮีเมียกลับถูกปกครองด้วยประเทศมหาอำนาจใหญ่ ๆ มาโดยตลอด จนเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีล่มสลายลง ดินแดนแถบนี้จึงรวมตัวกันประกาศอิสรภาพเป็นประเทศเช็คโกสโลวาเกีย (Czechoslovakia) แต่ว่าหลังจากได้รับอิสรภาพไม่นานก็ถูกครอบครองและครอบงำจากนาซีเยอรมัน แล้วต่อด้วยคอมมิวนิสต์โซเวียตหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

สุดท้ายก็แยกออกเป็นสาธารณรัฐเช็ค และสาธารณรัฐสโลวัก เมื่อปี พ.ศ. 2536

หลังจากหา ร.ร. เจอทานอาหารเช้าเสร็จก็ขึ้นปราสาทปราก อย่าไปเดินขึ้นนะครับ นั่งรถราง สาย 22,23 ลง Prasky hrad ไว้ค่อยเดินขาลงสุนทรีย์กว่าเยอะ

วันนี้คิวยาวมากแต่แค่ตรวจอาวุธเท่านั้นรอไม่นาน

ปรากตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำวัตตาวา (Vltava) ซึ่งเป็นแม่น้ำสำคัญของสาธารณรัฐเช็ค โดยแม่น้ำวัตตาวาแบ่งเมืองออกเป็นสี่เขตใหญ่ ทางฝั่งขวาหรือฝั่งตะวันออกของแม่น้ำประกอบด้วยเขตเมืองเก่า และเขตเมืองใหม่ ส่วนทางฝั่งซ้ายหรือฝั่งตะวันตกของแม่น้ำประกอบด้วยเขตปราสาทปราก

เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นตัวปราสาทได้จากมุมต่างๆ ของเมือง ปราสาทปรากคือปราสาทโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดเนื้อที่ใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 7 สนามรวมกัน อายุของ Prague Castle แล้ว ต้องมองย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 9 หรือราวปี ค.ศ. 870 – 880

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีการบันทึกเรื่องราวของปราสาทแห่งนี้ นอกจากความเก่าแก่ร่วมพันปีแล้ว ปราสาทแห่งนี้ยังผ่านเรื่องราวมาอย่างโชกโชนทั้งสงครามกลางเมือง ไฟไหม้ การบูรณะซ่อมแซม จนมาถึงทุกวันนี้ ปราสาทแห่งนี้ได้รับการบันทึกใน Guinness Book ว่าเป็น Coherent Castle ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเนื้อที่ประมาณประมาณ 70,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ Prague Castle ยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย

St. Vitus Cathedral พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ในศิลปะแบบโกธิกเพื่อแทนโบสถ์หลังเดิม ใช้เวลาก่อสร้างมากกว่า 500 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 นี่เอง เรียกได้ว่าเริ่มสร้างในยุคโกธิกและเสร็จในยุคนีโอโกธิค

มหาวิหาร (Cathedral) เป็นคำเรียกโบสถ์ (Church) ขนาดใหญ่ เซนต์วิตุสเป็นมหาวิหารอายุกว่า 600 ปี ใช้ประกอบศาสนกิจและพระราชพิธีสำคัญของประเทศ

เจองาน Food Festival อีกแล้วข้างโบสถ์เลย

เริ่มเดินลงเขาละ

ระหว่างทางลง

มองขึ้นไป เป็นไร่อรุ่น

กลับลงมาพักที่ ร.ร. อีกที Charles Bridge

สัญลักษณ์สำคัญของปรากที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดในเมือง สร้างบนจุดที่น้ำตื้นที่สุดขนาดเดินลุยน้ำเพื่อข้ามฝั่งได้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 แห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1357 เพื่อทดแทนสะพานแห่งเดิมที่พังทลายจากน้ำท่วม สะพานชาร์ลส์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือแห่งนี้ ทอดตัวข้ามแม่น้ำวัลตาวา (Vltava River) ในกรุงปราก รูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดตรงนี้คือ รูปปั้นไม้กางเขนที่มีพระเยซูถูกตรึงอยู่ (ค.ศ.1657) ตั้งอยู่ใกล้กับปลายสะพานด้านเมืองเก่า (Old Town) ข้อความที่จารึกในแผ่นป้ายภาษาฮิบบรูที่เคลือบทองเขียนไว้ว่า “แด่พระเจ้าผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์” ‘Holy, holy, holy, the Lord of Hosts’ ด้วยการได้ทุนสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1694 รูปปั้นที่น่าสนใจและเก่าแก่ที่สุดคือรูปปั้นของ จอหน์ เนปโปมุค(รูปปั้นที่ 8 ทางขวามือถ้าหากคุณข้ามมาจากทางปราสาท) และเราก็ออกเดินไป Old Town Square

นึกว่าจะหาเจอง่าย เดินวนไปวนมาอยู่

เข้าไปดูใน Town Hall Clock

ลบิฟท์เสีย(อีกแล้ว) ต้องเดินขึ้นถึงยอดเลย

ภาพที่เห็น คุ้มกับที่เหนื่อย

โบสถ์ชื่อแปลก Church of Our Lady before Tyn

ข้างล่างก็มี Food Festival เหมือนกัน

โบสถ์ที่เริ่มต้นสร้างเมื่อกลางศริสต์ศตวรรษที่ 14 แล้วเสร็จราวต้นศริสต์ศตวรรษที่ 16 นี้ เป็นสิ่งก่อสร้างสไตล์โกธิคที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในปราก แต่สถาปัตยกรรมภายในได้รับการตกแต่งใหม่ในสไตล์บารอกราวศริสต์ศตวรรษที่ 17 ออร์แกน(ค.ศ. 1673)อายุ 340 ปี เก่าแก่ที่สุดในปราก ก็ได้รับการเก็บรักษาไว้ที่นี่ ใช้เวลาสร้าง 150 ปี

เสร็จก็กลับมารอตอนคำ่อีกครั้งนึง

กลางคืน หนาวแล้วก็เหงาเชียว

พอเช้าเราก็ออกมาเดินชมสะพานกันแต่เช้า คนน้อยดีครับ วันนี้ช่วงเช้าเราไป Saint Peter and Paul Cathedral แนะนำให้นั่งใต้ดินสีแดงลง Vylehrad เดินตามป้ายออกเบี่ยงไปทางขวามือ เราจะเห็นหอคอยคู่อยู่ห่างๆ

ทางเข้าครับ

เด็กๆ มาทำกิจกรรมกัน ท่าทางสนุก

วิวเป็นมุมสูงพอสวยเห็นแม่น้ำทั้ง 2 ด้าน ขากลับแนะนำลองเปลี่ยนเส้นทาง เดินออกจากโบสถ์ ทางซ้ายจะมีเส้นลงเขาเดินไปขึ้นรถรางกลับได้ครับ

ช่วงบ่ายเราไปที่ Petrin Tower
นักดนตรีนิรนาม กับเครื่องดนตรีแปลกๆ แต่ไพเราะดี

โชคดีช่วงนี้ซากุระสีขาว สีชมภูกำลังออกพอดีเลย ลงที่สถานี Ujezd ขึ้นรถรางใช้ 24 Hrs. ขึ้นได้แต่ขึ้น Tower ต้องเสียอีก 210 Ck. ถ้าขึ้นลิฟท์

เพ็ตทรีนทาวเวอร์ หรือปรากไอเฟล ตั้งอยู่บนยอดเขาเพ็ตทรีนซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในกรุงปราก หอคอยลุ๊คเอาท์เปอร์ตริน เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นด้วยเหล็กมีความสูง 60 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1891 โดย เอ็ฟ. ปราซิล เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี ของการแสดงนิทรรศการ ซึ่งได้สร้างเลียนแบบหอคอยไอเฟิลในปารีส ด้วยการมีบันได 299 ขั้น สู่พื้นด้านบนสุดของหอคอย