เรื่องมีอยู่ว่า
(1) เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 60 ผมได้ส่งของให้ลูกค้าโดยมี ฝาจีบ 100 ฝา, Bitter Orange Peel 1 ห่อเล็ก, Lemon Peel 1 ห่อเล็ก โดยส่งผ่าน Kerry Express สาขาบางแสน
(2) วันที่ 1 เม.ย. 60 ผมได้รับอีเมล์จากลูกค้าผู้รับสินค้าแจ้งว่าสินค้าเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ และในอีเมล์ก็แนบรูปภาพมาดังภาพที่โชว์นี้ คือ ฝาจีบบิดงอผิดรูป ดังนั้นผมจึงโทรหาลูกค้าถามรายละเอียดว่าเสียหายเยอะแค่ไหนอย่างไร ลูกค้าตอบว่าฝาจีบจาก 100 ฝา สภาพบิดงอเสียรูปใช้งานไม่ได้ คงเหลือที่ใช้ได้แค่ประมาณ 15 ฝา ผมก็ตัดสินใจทันทีว่าจะส่งของใหม่ทั้งหมดให้ในวันรุ่งขึ้น และจำได้ว่า Kerry มีเขียนที่ใบเสร็จว่า ประกันสินค้ากรณีสูญหายหรือเสียหาย ตามมูลค่าจริงไม่เกิน 2000 บ. ฉะนั้นผมจึงคิดว่าน่าสามารถเคลมเสียหายกับ Kerry ได้
(3) วันรุ่งขึ้น 2 เม.ย. 60 ก็ไปส่งสินค้าใหม่ให้ลูกค้าตามที่แจ้งไว้ ซึ่งก็ยังใช้บริการ Kerry จัดส่งด้วย โดยครั้งนี้ใช้กล่องใหญ่ขึ้นและห่อ bubble ธรรมดาๆรอบเดียว+ใส่ cushion รองไว้แต่ก็ให้มี space คงเหลือให้เคลื่อนไหวได้เพื่อกันการกระแทกแล้วสินค้าอัดตัวกันเอง และตอนอยู่ที่เคาเตอร์บริการก็ได้สอบถามเรื่องการประกันความเสียหาย ซึ่ง พนง. ก็ให้เบอร์ติดต่อในส่วนเคลมสินค้า ผมก็โทรไปและรับทราบว่าต้องนำส่งเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาบุ๊คแบงค์ ใบเสร็จรับเงินค่าขนส่งและ รูปภาพความเสียหาย โดยเย็นวันนั้นผมก็จัดส่งทั้งหมดไปและรอการตอบกลับภายใน 5-7 วันตามที่ Kerry แจ้ง
(4) วันที่ 5 เม.ย. 60 ตอนเช้าได้รับโทรศัพท์จาก Kerry แจ้งว่าไม่สามารถเคลมค่าเสียหายคืนได้ เนื่องจากการบรรจุภัณฑ์ไม่ตรงหรือเป็นไปตามข้อกำหนดซึ่งก็คือไม่ได้มี bubble ป้องกัน ผมอึ้งสักพักจากนั้นจึงเถียงกลับไปว่าฝาเบียร์แข็งๆ แบบนั้นยังบิดงอผิดรูป ต่อให้มี bubble ก็กันไม่ได้เพราะสภาพเหมือนโดนกดทับอย่างรุนแรง กล่องก็กล่องเล็กการโหลดสินค้าขึ้นรถกะบะมีหลังคาขนส่งนั้นก็ต้องเรียงกล่องใหญ่ๆ หนักๆ ก่อนอยู่แล้วจากนั้นถึงจะเอากล่องเล็กๆ เรียงไป ฉะนั้นกล่องเล็กๆ นน.ประมาณ 350g นี้โอกาสเสียหายน่าจะน้อยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ จนท. Kerry ยังกล่าวอีกว่าสินค้าเปลือกส้มแห้งและเปลือกเลมอนแห้ง ถือเป็นอาหารซึ่งก็ผิดตามข้อกำหนดอีก ผมเถียงอีกเช่นกันอาหารคือสิ่งที่กินได้แต่นี่ไม่ได้ใช้กินแต่ใช้เจือแต่งกลิ่นซึ่งเมื่อใช้เสร็จแล้วก็โยนทิ้ง จนท. ยังกล่าวอีกย้ำอีกว่ามันไม่เป็นไปตามกฎข้อกำหนด ผมเถียงเช่นเดิมเพราะผมเคยอ่าน packaging guideline แล้วซึ่งมันไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นเพียงคำแนะนำในการบรรจุสินค้า ฉะนั้นถ้าคุณบอกว่าเป็นกฎข้อบังคับ แสดงว่าเกือบทุกคนที่ส่งเคอรี่ที่ผมเห็นใน shop นั้นก็ผิดหมดสิ เพราะ แม้แต่ พนง. ที่บริการแพ๊คสินค้าให้ลูกค้าบางทีก็ใส่ bubble บางทีก็ไม่ใส่ แถมที่ใส่ bubble ก็ไม่ได้หนาและไม่ได้มี cushion 2 นิ้วระหว่างตัวสินค้าและกล่องตามที่คำแนะนำกล่าวไว้ ยังมีอีกลูกค้าบางรายก็ส่งกล่องเพียวๆ ทั้งกล่องที่มาจากผู้ผลิตเรยโดยแปะแค่ชื่อที่อยู่ผู้รับ เช่นส่งวิทยุรถยนต์ ซึ่งก็เป็นกล่อง original จากผลิตภัณฑ์วิทยุรถยนต์เลยไม่ได้ใส่กล่องซ้อนกล่องตามที่คำแนะนำกล่าวไว้, ลูกค้าอีกรายส่งตู้เชื่อมไฟฟ้าก็ส่งทั้งกล่อง original เช่นกัน ฉะนั้นการที่จะบอกว่าไม่เป็นไปตามกฎนั้นผมรับไม่ได้
(5) วันที่ 5 เม.ย. 60 ตอนเย็น 18.54 น. ผมก็ได้รับอีเมล์แจ้งผลการเคลมอย่างเป็นทางการว่า...การบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสมซึ่งไม่ตรงตามเงื่อนไขการจัดส่ง ผมจึงส่งอีเมล์กลับไปและอธิบายทุกอย่างเหมือนที่กล่าวไปข้างต้นเช่นเดิม และยังกล่าวเพิ่มเติมว่าการตัดสินแบบนี้ไม่เป็นธรรม มันเหมือนการแก้ตัวเอาเรื่องการบรรจุไม่เหมาะสมมาเพื่อปัดความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่มันเสียหายเพราะการจัดการขนส่งของคุณมันไม่ดี โดยเฉพาะเคสผมนี้ต่อให้ใส่ bubble ดียังไงก็เสียหายเพราะฝาจีบแข็งๆ ยังงอผิดรูปเลย
(6) วันที่ 6 เม.ย. 60 ตอนเช้า 9.31 น. ด้วยความอยากรู้ว่าแล้วกล่องสินค้าชุดใหม่ที่ส่งไปสภาพจะเป็นอย่างไร ผมจึงส่งอีเมล์หาลูกค้ารบกวนให้เค้าถ่ายรูปสภาพของกล่องชุดใหม่ให้ดูหน่อย แต่โชคร้ายที่ผมคิดช้าไปหน่อยลูกค้าแกะและทิ้งกล่องไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามลูกค้าก็ส่งอีเมล์ยืนยันว่าสภาพกล่องชุดใหม่ที่ได้รับเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 60 มีความสมบูรณ์ไม่มีรอยใดๆ เมื่อผมทราบดังนั้นผมจึงสงสัยว่าทำไมสภาพกล่องใหม่มันช่างต่างกับกล่องแรกราวฟ้ากับเหวเลย นั่นแสดงว่าถึงผมไม่ห่อ bubble และใส่ cushion ก็ยังได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับกล่องแรกที่เสียหาย การขนส่งมันต้องมีบางอย่างผิดปกติอยู่แล้ว
(7) คหสต. ถ้าจะเอาเรื่องการบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสม ถ้างั้นแสดงว่าทุกคนที่ส่งของต้องใส่ bubble ทุกคนใครไม่ใส่ถือว่าผิดสิ...งั้นก็ควรไปเปลี่ยน Packaging Guideline ใหม่เป็นว่า Packaging Regulation คือ "ต้องทำ" ไม่งั้นไม่ส่งให้ และให้ พนง. ที่ shop เปิดดูทุกกล่องตรวจเช็คว่าตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ อย่างไรก็ตามเรื่องการบรรจุภัณฑ์ว่าจะใส่ bubble หรือไม่ใส่ส่วนใหญ่ก็ต้องพิจารณาจากสินค้านั้นๆ ว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะแตกหรือพังเสียหายหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ฝาจีบแข็งๆ ผมดูแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายต่อการแตกหักพังเสียหาย จึงไม่ได้คำนึงถึง bubble และเคยส่งมาหลายร้อยครั้งก็ไม่เคยเจอว่าถึงปลายทางแล้วมันงอบิดเบี้ยวเลย
(8) คหสต. ที่เลือกส่ง Kerry ก็เพราะเข้าใจว่า Kerry มีการจัดการขนส่งที่ดีกว่าไปรษฯไทย และยังมั่นใจอีกว่า Kerry มีการแสดงชัดเจนที่ใบเสร็จว่ารับประกัน 2000 บาท ก็น่าจะไม่มีปัญหา แต่เจอแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า Kerry ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับข่าวของไปรษฯไทยที่ออกมาให้เห็นบ่อยๆ ทั้งนี้ผมเคยส่งไปรษฯไทยก็เจอสินค้าเสียหายเช่น siphon หัก แต่ผมก็พิจารณาแล้วว่าผมอาจจะแพ๊คไม่ดีเองก็ไม่ได้เคลมไปรษฯไทย และจัดการหากล่องที่มันใหญ่และยาวกว่าตัวก้าน siphon เองเพื่อว่าเวลาโดนกระแทกมันก็เข้าไม่ถึงตัวก้าน Siphon ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอปัญหาอีกเลยจากไปรษฯไทย
(9) ผมไม่ได้เดือดร้อนกับมูลค่าเสียหายของผมที่ 294 บาทหรอก แต่ที่เสียความรู้สึกคือการบอกปัดแบบไร้ตรรกกะและไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งผมผิดหวังมากกับ Kerry ซึ่งเท่าที่ใช้บริการมาปีกว่าๆ เคอรี่ก็มีการปรับขึ้นราคาถึง 3 ครั้ง แต่ทำไมบริการกลับแย่ลง
(10) มีคนแนะนำให้แจ้ง สคบ. ซึ่งผมก็ได้เข้าไปในเว็บไซต์
http://www.ocpb.go.th และพบว่ามีระบบ "ส่งเรื่องร้องเรียนออนไลน์" จึงกรอกข้อมูลและแนบไฟล์ที่จำเป็นทั้งหมดแต่สุดท้ายทำกี่ที กี่ครั้งก็ Server Error ไม่สามารถส่งเรื่องได้ จึงโทรไปสายด่วน 1166 สอบถามว่าทำไมส่งเรื่องออนไลน์ไม่ได้ จนท. สายด่วนก็ถามว่าใช้ browser อะไร ผมตอบว่าใช้ Chrome จนท.จึงแนะนำว่าให้ใช้ IE version 9 ขึ้นไป ผมก็โอเครรับทราบ จากนั้นจึงขอปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความที่อยากทราบแนวทางเบื้องต้นว่าเรื่องแบบนี้อยู่ในข่ายคุ้มครองได้หรือไม่ จนท. บอกว่าผมเป็นผู้ประกอบการ (คนขาย) ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ก็จะร้องเรียนไม่ได้ ต้องให้ลูกค้าเป็นผู้ร้องเรียน ตึ่งโป๊ะ!!! งง อึ้งกันไปอีก .... เมื่อทราบดังนั้นผมก็ยังคงหวังว่าจะกลับไปโพสร้องเรียนออนไลน์อยู่ดีซึ่งก็ไปใช้ IE ก็แล้วใช้ Edge ก็แล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม คือ Server Error เมื่อทุกอย่างไม่ได้ผมจึงอีเมล์เรื่องไปแทน consumer@ocpb.go.th จากนั้นผมก็ส่งอีเมล์รบกวนให้ลูกค้าช่วยแจ้ง สคบ. ซึ่งลูกค้าก็ใจดีแจ้งเรื่องออนไลน์ และพบปัญหาเช่นเดียวกันไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็ตาม Server Error
ผมมาสังเกตๆภายหลังจึงเห็นว่า Error มีเขียน "The length of the string value exceeds the length configured in the mapping /parameter. เฮ้อในหน้าต่างร้องเรียนก็ไม่บอกว่าใส่ได้กี่อักษร เรื่องมันยาวนะ อย่างไรก็ตามจุดสำคัญไม่ใช่เรื่องร้องเรียนแล้ว error แต่มันคือเรื่องที่ผม งง ว่าคนขายร้องเรียน สคบ. ไม่ได้....แต่เวลาลูกค้าได้รับแล้วสินค้าเสียหายส่วนใหญ่ลูกค้าไม่ได้ไปเรียกร้องจากขนส่งนะ มักโทรหาคนขายก่อนเลย แล้วแบบนี้จะให้ทำยังไงกันแน่?
ใครเคยโดน Kerry Express ปฎิเสธเคลมด้วยเหตุผล แบบนี้บ้าง?
(1) เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 60 ผมได้ส่งของให้ลูกค้าโดยมี ฝาจีบ 100 ฝา, Bitter Orange Peel 1 ห่อเล็ก, Lemon Peel 1 ห่อเล็ก โดยส่งผ่าน Kerry Express สาขาบางแสน
(2) วันที่ 1 เม.ย. 60 ผมได้รับอีเมล์จากลูกค้าผู้รับสินค้าแจ้งว่าสินค้าเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ และในอีเมล์ก็แนบรูปภาพมาดังภาพที่โชว์นี้ คือ ฝาจีบบิดงอผิดรูป ดังนั้นผมจึงโทรหาลูกค้าถามรายละเอียดว่าเสียหายเยอะแค่ไหนอย่างไร ลูกค้าตอบว่าฝาจีบจาก 100 ฝา สภาพบิดงอเสียรูปใช้งานไม่ได้ คงเหลือที่ใช้ได้แค่ประมาณ 15 ฝา ผมก็ตัดสินใจทันทีว่าจะส่งของใหม่ทั้งหมดให้ในวันรุ่งขึ้น และจำได้ว่า Kerry มีเขียนที่ใบเสร็จว่า ประกันสินค้ากรณีสูญหายหรือเสียหาย ตามมูลค่าจริงไม่เกิน 2000 บ. ฉะนั้นผมจึงคิดว่าน่าสามารถเคลมเสียหายกับ Kerry ได้
(3) วันรุ่งขึ้น 2 เม.ย. 60 ก็ไปส่งสินค้าใหม่ให้ลูกค้าตามที่แจ้งไว้ ซึ่งก็ยังใช้บริการ Kerry จัดส่งด้วย โดยครั้งนี้ใช้กล่องใหญ่ขึ้นและห่อ bubble ธรรมดาๆรอบเดียว+ใส่ cushion รองไว้แต่ก็ให้มี space คงเหลือให้เคลื่อนไหวได้เพื่อกันการกระแทกแล้วสินค้าอัดตัวกันเอง และตอนอยู่ที่เคาเตอร์บริการก็ได้สอบถามเรื่องการประกันความเสียหาย ซึ่ง พนง. ก็ให้เบอร์ติดต่อในส่วนเคลมสินค้า ผมก็โทรไปและรับทราบว่าต้องนำส่งเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาบุ๊คแบงค์ ใบเสร็จรับเงินค่าขนส่งและ รูปภาพความเสียหาย โดยเย็นวันนั้นผมก็จัดส่งทั้งหมดไปและรอการตอบกลับภายใน 5-7 วันตามที่ Kerry แจ้ง
(4) วันที่ 5 เม.ย. 60 ตอนเช้าได้รับโทรศัพท์จาก Kerry แจ้งว่าไม่สามารถเคลมค่าเสียหายคืนได้ เนื่องจากการบรรจุภัณฑ์ไม่ตรงหรือเป็นไปตามข้อกำหนดซึ่งก็คือไม่ได้มี bubble ป้องกัน ผมอึ้งสักพักจากนั้นจึงเถียงกลับไปว่าฝาเบียร์แข็งๆ แบบนั้นยังบิดงอผิดรูป ต่อให้มี bubble ก็กันไม่ได้เพราะสภาพเหมือนโดนกดทับอย่างรุนแรง กล่องก็กล่องเล็กการโหลดสินค้าขึ้นรถกะบะมีหลังคาขนส่งนั้นก็ต้องเรียงกล่องใหญ่ๆ หนักๆ ก่อนอยู่แล้วจากนั้นถึงจะเอากล่องเล็กๆ เรียงไป ฉะนั้นกล่องเล็กๆ นน.ประมาณ 350g นี้โอกาสเสียหายน่าจะน้อยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ จนท. Kerry ยังกล่าวอีกว่าสินค้าเปลือกส้มแห้งและเปลือกเลมอนแห้ง ถือเป็นอาหารซึ่งก็ผิดตามข้อกำหนดอีก ผมเถียงอีกเช่นกันอาหารคือสิ่งที่กินได้แต่นี่ไม่ได้ใช้กินแต่ใช้เจือแต่งกลิ่นซึ่งเมื่อใช้เสร็จแล้วก็โยนทิ้ง จนท. ยังกล่าวอีกย้ำอีกว่ามันไม่เป็นไปตามกฎข้อกำหนด ผมเถียงเช่นเดิมเพราะผมเคยอ่าน packaging guideline แล้วซึ่งมันไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นเพียงคำแนะนำในการบรรจุสินค้า ฉะนั้นถ้าคุณบอกว่าเป็นกฎข้อบังคับ แสดงว่าเกือบทุกคนที่ส่งเคอรี่ที่ผมเห็นใน shop นั้นก็ผิดหมดสิ เพราะ แม้แต่ พนง. ที่บริการแพ๊คสินค้าให้ลูกค้าบางทีก็ใส่ bubble บางทีก็ไม่ใส่ แถมที่ใส่ bubble ก็ไม่ได้หนาและไม่ได้มี cushion 2 นิ้วระหว่างตัวสินค้าและกล่องตามที่คำแนะนำกล่าวไว้ ยังมีอีกลูกค้าบางรายก็ส่งกล่องเพียวๆ ทั้งกล่องที่มาจากผู้ผลิตเรยโดยแปะแค่ชื่อที่อยู่ผู้รับ เช่นส่งวิทยุรถยนต์ ซึ่งก็เป็นกล่อง original จากผลิตภัณฑ์วิทยุรถยนต์เลยไม่ได้ใส่กล่องซ้อนกล่องตามที่คำแนะนำกล่าวไว้, ลูกค้าอีกรายส่งตู้เชื่อมไฟฟ้าก็ส่งทั้งกล่อง original เช่นกัน ฉะนั้นการที่จะบอกว่าไม่เป็นไปตามกฎนั้นผมรับไม่ได้
(5) วันที่ 5 เม.ย. 60 ตอนเย็น 18.54 น. ผมก็ได้รับอีเมล์แจ้งผลการเคลมอย่างเป็นทางการว่า...การบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสมซึ่งไม่ตรงตามเงื่อนไขการจัดส่ง ผมจึงส่งอีเมล์กลับไปและอธิบายทุกอย่างเหมือนที่กล่าวไปข้างต้นเช่นเดิม และยังกล่าวเพิ่มเติมว่าการตัดสินแบบนี้ไม่เป็นธรรม มันเหมือนการแก้ตัวเอาเรื่องการบรรจุไม่เหมาะสมมาเพื่อปัดความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่มันเสียหายเพราะการจัดการขนส่งของคุณมันไม่ดี โดยเฉพาะเคสผมนี้ต่อให้ใส่ bubble ดียังไงก็เสียหายเพราะฝาจีบแข็งๆ ยังงอผิดรูปเลย
(6) วันที่ 6 เม.ย. 60 ตอนเช้า 9.31 น. ด้วยความอยากรู้ว่าแล้วกล่องสินค้าชุดใหม่ที่ส่งไปสภาพจะเป็นอย่างไร ผมจึงส่งอีเมล์หาลูกค้ารบกวนให้เค้าถ่ายรูปสภาพของกล่องชุดใหม่ให้ดูหน่อย แต่โชคร้ายที่ผมคิดช้าไปหน่อยลูกค้าแกะและทิ้งกล่องไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามลูกค้าก็ส่งอีเมล์ยืนยันว่าสภาพกล่องชุดใหม่ที่ได้รับเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 60 มีความสมบูรณ์ไม่มีรอยใดๆ เมื่อผมทราบดังนั้นผมจึงสงสัยว่าทำไมสภาพกล่องใหม่มันช่างต่างกับกล่องแรกราวฟ้ากับเหวเลย นั่นแสดงว่าถึงผมไม่ห่อ bubble และใส่ cushion ก็ยังได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับกล่องแรกที่เสียหาย การขนส่งมันต้องมีบางอย่างผิดปกติอยู่แล้ว
(7) คหสต. ถ้าจะเอาเรื่องการบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสม ถ้างั้นแสดงว่าทุกคนที่ส่งของต้องใส่ bubble ทุกคนใครไม่ใส่ถือว่าผิดสิ...งั้นก็ควรไปเปลี่ยน Packaging Guideline ใหม่เป็นว่า Packaging Regulation คือ "ต้องทำ" ไม่งั้นไม่ส่งให้ และให้ พนง. ที่ shop เปิดดูทุกกล่องตรวจเช็คว่าตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ อย่างไรก็ตามเรื่องการบรรจุภัณฑ์ว่าจะใส่ bubble หรือไม่ใส่ส่วนใหญ่ก็ต้องพิจารณาจากสินค้านั้นๆ ว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะแตกหรือพังเสียหายหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ฝาจีบแข็งๆ ผมดูแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายต่อการแตกหักพังเสียหาย จึงไม่ได้คำนึงถึง bubble และเคยส่งมาหลายร้อยครั้งก็ไม่เคยเจอว่าถึงปลายทางแล้วมันงอบิดเบี้ยวเลย
(8) คหสต. ที่เลือกส่ง Kerry ก็เพราะเข้าใจว่า Kerry มีการจัดการขนส่งที่ดีกว่าไปรษฯไทย และยังมั่นใจอีกว่า Kerry มีการแสดงชัดเจนที่ใบเสร็จว่ารับประกัน 2000 บาท ก็น่าจะไม่มีปัญหา แต่เจอแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า Kerry ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับข่าวของไปรษฯไทยที่ออกมาให้เห็นบ่อยๆ ทั้งนี้ผมเคยส่งไปรษฯไทยก็เจอสินค้าเสียหายเช่น siphon หัก แต่ผมก็พิจารณาแล้วว่าผมอาจจะแพ๊คไม่ดีเองก็ไม่ได้เคลมไปรษฯไทย และจัดการหากล่องที่มันใหญ่และยาวกว่าตัวก้าน siphon เองเพื่อว่าเวลาโดนกระแทกมันก็เข้าไม่ถึงตัวก้าน Siphon ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอปัญหาอีกเลยจากไปรษฯไทย
(9) ผมไม่ได้เดือดร้อนกับมูลค่าเสียหายของผมที่ 294 บาทหรอก แต่ที่เสียความรู้สึกคือการบอกปัดแบบไร้ตรรกกะและไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งผมผิดหวังมากกับ Kerry ซึ่งเท่าที่ใช้บริการมาปีกว่าๆ เคอรี่ก็มีการปรับขึ้นราคาถึง 3 ครั้ง แต่ทำไมบริการกลับแย่ลง
(10) มีคนแนะนำให้แจ้ง สคบ. ซึ่งผมก็ได้เข้าไปในเว็บไซต์ http://www.ocpb.go.th และพบว่ามีระบบ "ส่งเรื่องร้องเรียนออนไลน์" จึงกรอกข้อมูลและแนบไฟล์ที่จำเป็นทั้งหมดแต่สุดท้ายทำกี่ที กี่ครั้งก็ Server Error ไม่สามารถส่งเรื่องได้ จึงโทรไปสายด่วน 1166 สอบถามว่าทำไมส่งเรื่องออนไลน์ไม่ได้ จนท. สายด่วนก็ถามว่าใช้ browser อะไร ผมตอบว่าใช้ Chrome จนท.จึงแนะนำว่าให้ใช้ IE version 9 ขึ้นไป ผมก็โอเครรับทราบ จากนั้นจึงขอปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความที่อยากทราบแนวทางเบื้องต้นว่าเรื่องแบบนี้อยู่ในข่ายคุ้มครองได้หรือไม่ จนท. บอกว่าผมเป็นผู้ประกอบการ (คนขาย) ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ก็จะร้องเรียนไม่ได้ ต้องให้ลูกค้าเป็นผู้ร้องเรียน ตึ่งโป๊ะ!!! งง อึ้งกันไปอีก .... เมื่อทราบดังนั้นผมก็ยังคงหวังว่าจะกลับไปโพสร้องเรียนออนไลน์อยู่ดีซึ่งก็ไปใช้ IE ก็แล้วใช้ Edge ก็แล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม คือ Server Error เมื่อทุกอย่างไม่ได้ผมจึงอีเมล์เรื่องไปแทน consumer@ocpb.go.th จากนั้นผมก็ส่งอีเมล์รบกวนให้ลูกค้าช่วยแจ้ง สคบ. ซึ่งลูกค้าก็ใจดีแจ้งเรื่องออนไลน์ และพบปัญหาเช่นเดียวกันไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็ตาม Server Error
ผมมาสังเกตๆภายหลังจึงเห็นว่า Error มีเขียน "The length of the string value exceeds the length configured in the mapping /parameter. เฮ้อในหน้าต่างร้องเรียนก็ไม่บอกว่าใส่ได้กี่อักษร เรื่องมันยาวนะ อย่างไรก็ตามจุดสำคัญไม่ใช่เรื่องร้องเรียนแล้ว error แต่มันคือเรื่องที่ผม งง ว่าคนขายร้องเรียน สคบ. ไม่ได้....แต่เวลาลูกค้าได้รับแล้วสินค้าเสียหายส่วนใหญ่ลูกค้าไม่ได้ไปเรียกร้องจากขนส่งนะ มักโทรหาคนขายก่อนเลย แล้วแบบนี้จะให้ทำยังไงกันแน่?