พวกเราเป็นนักษาศึกของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนลงทะเบียนเรียนเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวิชานี้เท่าไรนัก สิ่งที่รู้จากชื่อวิชาคือเป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม พอเปิดเรียนและเรียนมาซักพักถึงรู้ว่าต้องแบ็กแบ็ค โดยมีข้อกำหนดอีกว่าต้องให้ประหยัดที่สุด เราก็ทำการปรึกษาหารือกันอยู่พักใหญ่จนตกลงกันได้คือที่หัวหินเมื่อเขียนแผนการเดินทางเสร็จได้เข้าไปปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาของกลุ่ม ได้ข้อสรุปการเดินทางคือวันที่18 มีนาคม -21 มีนาคม 60 กลุ่มเราทั้งหมดมี 5คน โดยในวันที่17 มีนาคม 60 ได้มีเพื่อนไปติดต่อสถานที่พักไว้ล่วงหน้า ที่พักของเราคือเป็นบ้านพักของญาติเพื่อนในกลุ่ม เราจึงสามารถประหยัดค่าที่พักไปอีกครับ
วันแรก
เราได้ซื้อตั๋วรถไฟไว้ล่วงหน้าแล้ว กำหนดการรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงเป็นเวลา15.35น. สถานีรถไฟอยู่ฝั่งตรงข้ามเราจะข้ามถนนก็อันตรายเพราะช่วงนี้ถนนแถวนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างรถก็เยอะจากนั้นพวกเราก็เดินลงไปทางรถไฟใต้ดินเพื่อข้ามถนนไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพงระยะทางก็เดินเหนื่อยพอสมควร555 ซึ่งระหว่างทางเดินไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพงนั้นมาภพประวัติของรถไฟไทยอยู่ติดอยู่ริมผนัง2ข้างทางเดินมากมายเลยว่าประเทศไทยมีรถไฟไทยมาตั้งแต่สมัย ร.5 แล้วก็มีรถไฟใต้ดินตอนสมัยของ ในหลวงรัชกาลที่9 ของเราตั้งในปี2547 ก็จะมีประวัติเรียงรายอยู่เต็ม 2 ข้างทางก่อนจะขึ้นไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพง
รถไฟของเราอยู่ที่ชานชาลาที่9 รถไฟกรุงเทพ-หาดใหญ่ จากนั้นพวกเราก็เดินๆหาโบกี้ของที่นั่งของพวกเราที่นั่งของเราอยู่ที่โบกี้10 เป็นโบกี้ใหม่จึงสะอาดมากที่นั่งอะไรก็ใหม่หมด เราจึงขึ้นมาที่ที่นั่งของเราเตรียมตัวเดินทางไปหัวหิน เรามาถึงและหาที่นั่งเจอก่อนเวลานิดหน่อย อีก5นาทีรถไฟจะออกเราก็นั่งรอบนรถไฟมีแม่ค้าพ่อค้าขายของกันว่อนเลยแม่ค้าพ่อค้าจะเดินผ่านตลอดทุกๆ3-5นาที มีของขายมากมายตั้งแต่เครื่องดื่ม ขนม ข้าวกล่อง ยันหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ สมแล้วที่เป็นรถไฟไทยยังไงเราก็ไม่อดตายยกเว้นเราไม่มีเงิน 555 เพราะของกินบนรถไฟจะแพงกว่าเซเว่นทั่วไปถึง2เท่ายกเว้นน้ำเปล่าอย่างเดียวที่ราคามาตรฐาน เรานั่งรอมาจน20นาทีรถไฟก็ยังไม่มีวี่แววที่จะออก
จนป่านนี้เวลา15.55น. ก็มีเสียงประกาศมาว่า “ ขณะนี้รถไฟกรุงเทพ-หาดใหญ่มีปัญหาขัดข้องต้องขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วย ” อย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ ผมนั่งจนรถไฟชานชาลาข้างๆเข้ามาจนออกไปแล้วรถไฟขบวนผมยังไม่มีวี่แววว่าจะออกสักที จากที่คึกคักพร้อมลุยผมร็สึกเริ่มห่อเหี่ยวลงมาเรื่อยเพราะอากาศภายในรถไฟร้อนมากๆ เนื่องจากพัดลมบริเวณที่นั่งของเราเสีย (ไอ่ที่โบกี้ใหม่ๆที่นั่งสะอาดๆนั้นหลอกให้ตายใจใช่มั้ย เห้อรับกรรมที่ไม่ได้ทำนี้ไปครับ) พอเวลา16.10น. รถไฟเริ่มมีการขับตัวเล็กน้อยเหมือนว่าจะเริ่มออกตัวแล้ว ฟิลลิ่งของผมก็เริ่มกันมาในทันใด เวลา16.15น. รถไฟขบวนผมก็สามารถเดินทางออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงจนได้
บนรถไฟกรุงเทพ-หาดใหญ่ รถไฟกำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็วพร้อมเสียงรถไฟดังไปตลอดทาง ฉึกฉัก ฉึกฉัก พร้อมเสียงพ่อค้าแม่ค้าขายของตลอดทางเดินเป็นช่วงๆ เราก็นั่งชมวิวริมหน้าต่างเพลินๆลมเย็นๆจากภายนอก เรารู้สึกดีใจว่าเรามาขึ้นรถไฟในช่วงนี้มันดีมากอย่างหนึ่งเพราะไม่ร้อนเลยแดดเริ่มจางลงเพราะพระอาทิตย์เริ่มตกดินท้องฟ้าข้างนอกสวยมากพอนั่งไปนานๆทำให้เราหิวน้ำขึ้นมาเราจึงซื้อน้ำจากพ่อค้าที่ถือถังใส่เครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มหลากหลายยี่ห้อมาก ผมก็เลือกซื้อไวตามิลล์ขวดหนึ่งซึ่งราคาตามเซเว่นมันประมาณขวดละ15บาท แต่ซื้อบนรถไฟนี่ขวดละ 30บาท ผมนี่อึ้งเลยทีเดียว
พอขบวนรถไฟจะเริ่มเดินทางออก พ่อค้าแม่ค้าที่ขายข้าวก็เริ่มเดินขายของเยอะยิ่งขึ้นเพราะว่าพ่อค้าแม่ค้าจะต้องลงสถานีถัดไปแล้วรอรถไฟกลับหัวลำโพงแล้วเพื่อไปขายของต่อบนรถไฟอีกขบวนหนึ่งตัวผมก็นั่งชมวิวข้างทางจนมีพ่อค้าคนหนึ่งเดินขายข้าวกล่องในราคา20บาทเพราะเหลือกล่องสุดท้ายแล้วผมจึงซื้อไว้ข้าวกล่องนั้นเป็นข้าวกระเพราหมูไข่เจียวซึ่งปริมาณเยอะมาก
พอเข้าจังหวัดนครปฐมก็มีพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ขึ้นมาขายของบนรถไฟ ของที่มาขายก็จะเป็นพวกของที่แตกต่างจากพ่อค้าแม่ค้าก่อนหน้านี้ มีทั้งกุนชียง ข้าวหลาม ก๋วยเตี๋ยวแห้งราคา10บาท ทองม้วนฯลฯ (ในตอนนั้นผมนึกคิดดูว่าการนั่งรถไฟนี่ก็เพลินดีเหมือนกันมีอะไรต่างๆเยอะแยะเลยที่เราไม่รู้)เมื่อนั่งไปเรื่อยๆเพลินๆจากนั้นเวลา19.00น. พระอาทิตย์เริ่มตกดินท้องฟ้าข้างทางสวยงามมาก แล้วเพื่อนผู้หญิงผมคนหนึ่งก็รู้สึกหิวขึ้นมาก็ซื้อก๋วยเตี๋ยวราคา10มาลองกินดู ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งมีลูกชิ้นปลาให้อยู่3ชิ้นรสชาติออกจะเผ็ดหน่อยเพราะเค้าใส่พริกปรุงให้หมดแล้วปริมาณก๋วยเตี๋ยวก็ถือว่าเยอะในราคา10บาท
เวลา 20.45น. พวกเรามาถึงสถานีรถไฟหัวหิน
นี้แหละครับ มาถึงหัวหินก็ต้องมีการถ่ายรูกกับป้ายสถานีรถไฟกัน
เวลา 21.15น. เรามาถึงสถานที่พักของเราเป็นบ้านพักของน้าเพื่อนที่เป็นผู้ดูแล พวกเราจึงได้ที่พักที่บ้านพักฟรี บ้านพักอยู่ที่ซอยหัวหิน102เมื่อพวกพวกเรามาถึงบ้านพักก็เจอเพื่อนอีก2คนที่เป็นคนไปสำรวจเส้นทางรอบไว้เรียบร้อยแล้วและซื้ออาหารทะเลมาเตรียมไว้กินในมื้อดึกนี้จากนั้นพวกเราก็นำสัมภาระไปเก็บแล้วมาช่วยกันทำอาหารกันแล้วก็ไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ใกล้บ้านพัก(คันละ200บาทต่อวันน้ำมันครึ่งถัง)ก็ไปนั่งกินข้าวกันที่ริมสระว่ายน้ำของบ้านแล้วก็เล่นน้ำกันด้วยความสนุกเพราะเนื่องจากวันนี้ดึกแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราได้ทำการเขียนใหม่เพราะทางอาจารย์ที่ปรึกษาได้แนะนำถึงการพูดถึงชื่อวิชาและมหาลัยคะ จึงขอลบกระทู้เดิมไป
[CR] กินๆเดินๆริมทะเลหัวหิน
วันแรก
เราได้ซื้อตั๋วรถไฟไว้ล่วงหน้าแล้ว กำหนดการรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงเป็นเวลา15.35น. สถานีรถไฟอยู่ฝั่งตรงข้ามเราจะข้ามถนนก็อันตรายเพราะช่วงนี้ถนนแถวนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างรถก็เยอะจากนั้นพวกเราก็เดินลงไปทางรถไฟใต้ดินเพื่อข้ามถนนไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพงระยะทางก็เดินเหนื่อยพอสมควร555 ซึ่งระหว่างทางเดินไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพงนั้นมาภพประวัติของรถไฟไทยอยู่ติดอยู่ริมผนัง2ข้างทางเดินมากมายเลยว่าประเทศไทยมีรถไฟไทยมาตั้งแต่สมัย ร.5 แล้วก็มีรถไฟใต้ดินตอนสมัยของ ในหลวงรัชกาลที่9 ของเราตั้งในปี2547 ก็จะมีประวัติเรียงรายอยู่เต็ม 2 ข้างทางก่อนจะขึ้นไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพง รถไฟของเราอยู่ที่ชานชาลาที่9 รถไฟกรุงเทพ-หาดใหญ่ จากนั้นพวกเราก็เดินๆหาโบกี้ของที่นั่งของพวกเราที่นั่งของเราอยู่ที่โบกี้10 เป็นโบกี้ใหม่จึงสะอาดมากที่นั่งอะไรก็ใหม่หมด เราจึงขึ้นมาที่ที่นั่งของเราเตรียมตัวเดินทางไปหัวหิน เรามาถึงและหาที่นั่งเจอก่อนเวลานิดหน่อย อีก5นาทีรถไฟจะออกเราก็นั่งรอบนรถไฟมีแม่ค้าพ่อค้าขายของกันว่อนเลยแม่ค้าพ่อค้าจะเดินผ่านตลอดทุกๆ3-5นาที มีของขายมากมายตั้งแต่เครื่องดื่ม ขนม ข้าวกล่อง ยันหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ สมแล้วที่เป็นรถไฟไทยยังไงเราก็ไม่อดตายยกเว้นเราไม่มีเงิน 555 เพราะของกินบนรถไฟจะแพงกว่าเซเว่นทั่วไปถึง2เท่ายกเว้นน้ำเปล่าอย่างเดียวที่ราคามาตรฐาน เรานั่งรอมาจน20นาทีรถไฟก็ยังไม่มีวี่แววที่จะออก
จนป่านนี้เวลา15.55น. ก็มีเสียงประกาศมาว่า “ ขณะนี้รถไฟกรุงเทพ-หาดใหญ่มีปัญหาขัดข้องต้องขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วย ” อย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ ผมนั่งจนรถไฟชานชาลาข้างๆเข้ามาจนออกไปแล้วรถไฟขบวนผมยังไม่มีวี่แววว่าจะออกสักที จากที่คึกคักพร้อมลุยผมร็สึกเริ่มห่อเหี่ยวลงมาเรื่อยเพราะอากาศภายในรถไฟร้อนมากๆ เนื่องจากพัดลมบริเวณที่นั่งของเราเสีย (ไอ่ที่โบกี้ใหม่ๆที่นั่งสะอาดๆนั้นหลอกให้ตายใจใช่มั้ย เห้อรับกรรมที่ไม่ได้ทำนี้ไปครับ) พอเวลา16.10น. รถไฟเริ่มมีการขับตัวเล็กน้อยเหมือนว่าจะเริ่มออกตัวแล้ว ฟิลลิ่งของผมก็เริ่มกันมาในทันใด เวลา16.15น. รถไฟขบวนผมก็สามารถเดินทางออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงจนได้ บนรถไฟกรุงเทพ-หาดใหญ่ รถไฟกำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็วพร้อมเสียงรถไฟดังไปตลอดทาง ฉึกฉัก ฉึกฉัก พร้อมเสียงพ่อค้าแม่ค้าขายของตลอดทางเดินเป็นช่วงๆ เราก็นั่งชมวิวริมหน้าต่างเพลินๆลมเย็นๆจากภายนอก เรารู้สึกดีใจว่าเรามาขึ้นรถไฟในช่วงนี้มันดีมากอย่างหนึ่งเพราะไม่ร้อนเลยแดดเริ่มจางลงเพราะพระอาทิตย์เริ่มตกดินท้องฟ้าข้างนอกสวยมากพอนั่งไปนานๆทำให้เราหิวน้ำขึ้นมาเราจึงซื้อน้ำจากพ่อค้าที่ถือถังใส่เครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มหลากหลายยี่ห้อมาก ผมก็เลือกซื้อไวตามิลล์ขวดหนึ่งซึ่งราคาตามเซเว่นมันประมาณขวดละ15บาท แต่ซื้อบนรถไฟนี่ขวดละ 30บาท ผมนี่อึ้งเลยทีเดียว
พอขบวนรถไฟจะเริ่มเดินทางออก พ่อค้าแม่ค้าที่ขายข้าวก็เริ่มเดินขายของเยอะยิ่งขึ้นเพราะว่าพ่อค้าแม่ค้าจะต้องลงสถานีถัดไปแล้วรอรถไฟกลับหัวลำโพงแล้วเพื่อไปขายของต่อบนรถไฟอีกขบวนหนึ่งตัวผมก็นั่งชมวิวข้างทางจนมีพ่อค้าคนหนึ่งเดินขายข้าวกล่องในราคา20บาทเพราะเหลือกล่องสุดท้ายแล้วผมจึงซื้อไว้ข้าวกล่องนั้นเป็นข้าวกระเพราหมูไข่เจียวซึ่งปริมาณเยอะมาก พอเข้าจังหวัดนครปฐมก็มีพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ขึ้นมาขายของบนรถไฟ ของที่มาขายก็จะเป็นพวกของที่แตกต่างจากพ่อค้าแม่ค้าก่อนหน้านี้ มีทั้งกุนชียง ข้าวหลาม ก๋วยเตี๋ยวแห้งราคา10บาท ทองม้วนฯลฯ (ในตอนนั้นผมนึกคิดดูว่าการนั่งรถไฟนี่ก็เพลินดีเหมือนกันมีอะไรต่างๆเยอะแยะเลยที่เราไม่รู้)เมื่อนั่งไปเรื่อยๆเพลินๆจากนั้นเวลา19.00น. พระอาทิตย์เริ่มตกดินท้องฟ้าข้างทางสวยงามมาก แล้วเพื่อนผู้หญิงผมคนหนึ่งก็รู้สึกหิวขึ้นมาก็ซื้อก๋วยเตี๋ยวราคา10มาลองกินดู ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งมีลูกชิ้นปลาให้อยู่3ชิ้นรสชาติออกจะเผ็ดหน่อยเพราะเค้าใส่พริกปรุงให้หมดแล้วปริมาณก๋วยเตี๋ยวก็ถือว่าเยอะในราคา10บาท
เวลา 20.45น. พวกเรามาถึงสถานีรถไฟหัวหิน
นี้แหละครับ มาถึงหัวหินก็ต้องมีการถ่ายรูกกับป้ายสถานีรถไฟกัน
เวลา 21.15น. เรามาถึงสถานที่พักของเราเป็นบ้านพักของน้าเพื่อนที่เป็นผู้ดูแล พวกเราจึงได้ที่พักที่บ้านพักฟรี บ้านพักอยู่ที่ซอยหัวหิน102เมื่อพวกพวกเรามาถึงบ้านพักก็เจอเพื่อนอีก2คนที่เป็นคนไปสำรวจเส้นทางรอบไว้เรียบร้อยแล้วและซื้ออาหารทะเลมาเตรียมไว้กินในมื้อดึกนี้จากนั้นพวกเราก็นำสัมภาระไปเก็บแล้วมาช่วยกันทำอาหารกันแล้วก็ไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ใกล้บ้านพัก(คันละ200บาทต่อวันน้ำมันครึ่งถัง)ก็ไปนั่งกินข้าวกันที่ริมสระว่ายน้ำของบ้านแล้วก็เล่นน้ำกันด้วยความสนุกเพราะเนื่องจากวันนี้ดึกแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้