สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
คอมเม้นกันอุดมคติมากกกก ทำเหมือนประเทศตัวเองไม่มีโจรปล้น ทุกคนใฝ่หาความสุข ถามจริง ๆ เถอะครับ ไอที่เม้นมาเนี่ย พี่ขี่ม้าไปทำงานหรือขี่รถไป เศรษฐีบ้านเราก็มีถมไป ไอโฟน คอมพิวเตอร์ ก็ใช้กันหมด อินเทอเนตก็มี พวกคุณท่านอยู่ใน "โลกวัตถุนิยม" และ "ทุนนิยม" แล้ว(โว๊ยยยย) วัดยังเสียเงินสร้างประตู อุโบสถมีลายสวยงามราคาเป็น 10 ๆ ล้าน
ไม่ต้องไปว่าว่าตะวันตกมันวัตถุนิยมอะไรเลยครับ ประเทศตะวันตกน่ะ โลกทางปรัชญา การถกเถียงทางด้านวิชาการ ระบบสวัสดิการรัฐ การรักษาความปลอดภัย คุณภาพชีวิต สิทธิเสรีภาพ ยังดีกว่าประเทศพุทธ(ละมั้ง)แถวนี้อีก ไม่เช่นนั้นระบบการบริหาร การศึกษา การจัดการปกครอง จะถูกนำมาใช้ถีงตะวันออกเหรอ
เถียงกันก็เถียงในเชิงประวัติศาสตรืสิครับ ไม่ใช่ "ไม่รู้" "ไม่เห็น" ก็เอามายำมั่ว ว่าดินแดนนู้น ชมดินแดนนี้ ทำดินแดนพุทธดูใสสะอาด (หลักพุทธศาสนาก็สอนว่าอย่ามดเท็จโกหก มั่วในสื่งที่ไม่รู้ไม่ใช่หรือไง?) ไอที่บอกว่าเพราะชาวพุทธสันติสุข ดูอย่างเมียนมาร์สิครับ จังหวัดแถวอีสานเราก็ได้ พระออกมาต่อต้านอิสลาม ทั้งที่หลักคำสอนก็บอกว่าศาสนาพุทไม่เป้นภัยกับศาสนาใด
=มาลองดูคำตอบผมบ้าง=
ถ้าคุณถามว่า ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่ไปถึงตะวันตก มันก็อาจจะต้องถามด้วยครับว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงมาถึงที่นี่? และศาสนาพุทธเข้ากับที่ใดๆได้บ้าง? คำตอบคือ สำหรับภูมิภาคนี้ ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มาถึงก่อน หากแต่เข้ามา "ผสมผสาน" กับศาสนา "ผี" ในพื้นที่เดิม (บ้างก็ว่าผ่านการบังคับ ต่อสู้ จนถึงผสมผสาน) แล้วอะไรเป็นสิ่งที่นำพาศาสนาพุทธมา? คำตอบคือ เรือสินค้าครับ พื้นที่เขตแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เดิมทำการค้าขายกับชาวอินเดีย หรือเรียกว่า อินเดียเป็นตัวนำพาวิวัฒนาการหลักให้กับพื้นที่แห่งนี้ นับตั้งแต่วิทยาการด้านศิลปกรรม พระปรางค์ เจดีย์ วิธีนุ่งห่ม และอีกหลากหลายอย่าง
ยกตัวอย่างให้ชัดยิ่งขึ้น หากลองเสิชหาประวัติวัตถุโบราณที่ค้นพบในช่วงต้น ๆ ประวัติศาสตร์ เช่น หินลูกปัด หินคาเนเลียน ก็จะพบเป็นของที่ค้าขายไปมากับอินเดียทั้งสิ้นครับ อีกทั้งยังสังเกตได้ว่า อาณาจักรอย่างขอมโบราณที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนกลุ่มบ้านเมืองชาติพันธุ์ไท(ผมตั้งใจใช้คำนี้เพราะ ไท มีหลากหลายชาติพันธุ์ เช่น ไทลื้อ ไทเขิน และอีกมากมายเป็นต้น มิใช่ "ชาติไทย")ในภูมิภาคนี้ก็ยังรับเอาศาสนาฮินดูจากอินเดียมาก่อน ต่อด้วยการรับเอาวัฒนธรรมการสร้างเทวสถานด้วยหิน และมาเปลี่ยนเอาเป็นพุทธในภายหลัง(แต่ก็ยังคงมีคติความเชื่อพราหมณ์สืบต่อมาเช่นกัน มิได้ทิ้งไปทั้งหมด)ครับ และแน่นอนว่า ต้องมีการติดต่อค้าขายไปมาหาสู่กันอย่างแน่นอนครับ
ยังไม่หมดเพียงเ่านี้ ทางเหนือขึ้นไป แม้แต่เขตมหาอาณาจักรอย่างจีนเอง ปรมาจารย์คนสำคัญที่มีคุณูปการต่อวงการศิลปะการต่อสู้และวัดเส้าหลินอย่างปรมาจารย์ตั๊กม้อ(ภาษาญี่ปุ่นเรียก ดารุมะ - พระตุ๊กตาทรงกลมสีแดงเพื่อขอพรแล้วทาสีตาน่ะครับ)ก็ยังเป็นชาวอินเดียจากแคว้นคันธารราช ซึ่งจีนเองก็ยังคงค้าขายกับทางชมพูทวีปอยู่เป็นนิจด้วยเส้นทางสายไหมและทางทะเลครับ
แต่การค้าเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ยังมีเหตุผลมากกว่านั้นครับ ถามว่าคืออะไร? ก็เพราะการเผยแพร่พุทธศาสนาเข้ามาในเอเชียนั้น เป็นระบบแบบ "ประนีประนอม" คือ อนุญาตให้เรามีเทพหลายพระองค์หรือ "ไม่ต้องละทิ้งความเชื่อเดิม" อันเป็นการผสมผสานเข้ากับศาสนาความเชื่อเดิมอื่น ๆ (ไม่ว่าผีหรือฮินดู) ดังที่ผมเกริ่นไปแต่ต้นครับ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในการเผยแพร่และยอมรับได้ง่าย เช่น ชินโตของญี่ปุ่น(ชินโตนี่ก็ผีดี ๆ นี่เองครับ มีเทพมากกว่า 8 ล้านองค์) ผีของไทย(คงไม่ต้องอธิบายนะครับ ว่า"ผี"ของเรามีอะไรบ้าง คือ สิ่งเหนือธรรมชาตินั่นเอง ผีข้าว(โพสพ) ผีด้ำบรรพบุรุษ ผีเรือน และผีอีกสารพัดผี (ลองไปดูในประเพณี 12 เดือนดูครับ ศาสนาผีทั้งน้านนนน) หรือแม้แต่ศาสนาเทพหลายองค์แบบจีน(ก็ไม่พ้นผีบรรพบุรุษหรือเทพท้องถิ่นที่มีอยู่เดิมเอามาผสมผสานกับพุทธ)ครับ กล่าวมาถึงนี่ ก็อาจเรียกได้ว่า "ผีกันทั้งภูมิภาค" แล้วครับ
หากถามว่าความเป็น "ศาสนาผี" ที่มีมาก่อนในภูมิภาคนี้ เข้มข้นแค่ไหน ก็เรียกได้ว่า แม้แต่ทางใต้ของเราก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นอิสลามจ๋ากันเลย ถ้าลองอ่านใน "นบีไม่กินหมาก" งานวิจัยของอาจารย์ อณุสรณ์ อุณโณ นักวิจัยภาคสนามดูครับ ในหนังสือ ก็อธิบายว่า ในภาคใต้ของเราก็มีแต่เรื่องของคุณไสย ไสยศาสตร์ มีเหล่าพ่อมดหมอผีปลุกเสกที่นับถืออิสลามกันมากมายพร้อมกับถือศาสนาอิสลามไปด้วย(ไม่เชื่อก็ไปเสิชข่าวกินน้ำส้วมดูนะครับ ภาพที่ถ่ายมา คนที่ตักสวมฮิญาบทั้งนั้น) และที่รับศาสนาอิสลามเข้ามา ก็เพราะการค้าขายกับอาณาจักรออตโตมัน เปอเซียร์นั่นเอง
แต่ก็ยังไม่หมด... เพราะจากเรื่องการค้าและการผสมผสาน ยังมีอีกเหตุผลนึงครับ เพราะเมื่อหากพิจารณาถึงระบบการเมืองการปกครอง ศาสนาพุทธก็แทบจะเป็นตัวรองรับและมีส่วนเสริมในการคงไว้ซึ่งความชอบธรรมชนชั้นปกครองในภูมิภาคอย่างสำคัญเช่นกัน ซึ่งยังเข้าได้ดีกับระบบพราหมณ์ฮินดูที่มีมาแต่เดิมอีกด้วย เช่น สยาม - ระบบสมมติเทพ(อยุธยา) พระมหากษัตริย์ตั้งเป็นทั้งศาสนูปถัมพก พุทธมามกะ และเป็นดังพระโพธิสัตว์อวตารลงมาโปรดมนุษย์สามัญชน ซึ่งทุกวันนี้เราก็เห็นพราหมณ์ทำงานร่วมกับพระในพระราชพิธีต่าง ๆ ควบคู่กันไปได้ จีน - พุทธศาสนาไม่ได้ขัดขวางกับระบบ "เฟิ้งเทียน" หรือ "โอรสสวรรค์" ซึ่งรวมไปถึงระบบเทนโนะจักรพรรดิในญี่ปุ่นซึ่งศาสนาพุทธก็มิได้ขัดขวาง (เกาหลีไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะก็มีผีผสมพุทธเหมือนกันกับที่อื่น ระบบปกครองตามแบบจีน)
สรุปในประเด็นแรกได้ว่า ศาสนาพุทธ(หรือศาสนาอื่น ๆ)ที่เข้ามาในเขตนี้ได้ ก็เพราะ 1.การค้า 2. การยอมรับให้เกิดความผสมผสานกับศาสนาผีที่เข้มข้น และ 3.ระบบการปกครอง นั่นเองครับ ที่ผมกล่าวถึงประเด็นนี้ก่อน ก็เพราะว่าผมจะใช้ผลสรุปและวิธีการนี้ในการพิจารณาให้เห็นภาพในคำถามของคุณซึ่งจะนำเสนอในข้อความด้านล่างนี้ต่อไปนั่นเอง
คราวนี้ มาถึงคำถามของผู้ถามครับ ทำไมศาสนาพุทธจึงไม่ไปถึงตะวันตก เรามาดูว่าอาณาจักรอะไรขั้นขวางระหว่าง "ทางไป" และจนถึง "ตะวันตก" บ้างครับ 1.อิสลาม 2.คริสเตียน 3.เทงกรี (มองโกล) เทงกรีคือเทพเจ้าของชาวมองโกล แต่สุดท้ายชาวมองโกลก็รับเอาพุทธจากทิเบตเข้าไปได้ในที่สุด ฉะนั้น ตัด 3 ออกไปครับ เหลือ 1 กับ 2 2ศาสนานี้มีความคล้ายกันยังไงครับ? ง่าย ๆเลย 1. นับถือเทพเจ้าองค์เดียว และที่สำคัญ "เกลียดผี" ครับ ในเวลาที่ศาสนาต่าง ๆ ยังไม่ได้ปรับตัวตามยุคสมัย ศาสนาพวกนี้มิได้อนุโลมความเป็นผีให้เข้ามาอยู่ในปริมณฑลทางศาสนานัก ในยุโรปยุคกลาง คุณจะเห็นคนถูกเผา ปาหิน ฆ่าและทรมานในวิธีอื่น ๆ ถ้าเค้ารู้ว่าคุณ "มีเวทมนตร์" นั่นคือสิ่งที่ต่อต้าน "พระเจ้า" และไม่อยู่ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ (อย่าลืมหันมามองดูที่สิ่งผมอธิบายไปด้านบนเรื่องศาสนาพุทธกับผีในเอเชีย - ถ้าเอาคริสต์เข้ามาใช้ ก็ได้เผาตายตั้งแต่ฮ่องเต้ยันจักรพรรดิเลยครับ เพราะ ผู้ที่กุมสวรรค์ในทางคริสต์คือrระเจ้า ไม่ใช่ "โอรสสวรรค์" เทพอีก 8 ล้านองค์ก็ไม่ต้องพูดถึง เละเทะครับ) แม้แต่อิสลามซึ่งมีกฎห้ามมีรูปเคารพ ทั้งที่อยู่ขั้นกลางระหว่างยุโรปและเอเชีย(พุทธ+ผี+พราหมณ์)แท้ ๆ ก็ยังไม่สามารถจะขยายอิทธิพลเข้าไปในพื้นที่ตอนในส่วนใหญ่ของทั้ง 2 ทวีปได้เลยครับ เพราะไม่อนุโลมการมีรูปปั้น การบูชาผีสาง (ในกรณีภาคใต้ที่กล่าวไป ยังถือเป็นที่ที่ห่างไกลจากอำนาจความเคร่งในเอเชียกลาง)
มาดูอันที่ 2 ระบบการปกครอง ในยุคกลางจนไปถึงต้นเรอเนซองก์ ระบบคริสตจักรคือระบบเดียวที่รองรับความชอบธรรมของกษัตริย์ชาวคริสต์ (Divide Right) คุณต้องได้รับการยอมรับจากศาสนาจักรให้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ซึ่งเหมือนกับการได้รับการยอมรับจากพระเจ้า คุณถึงจะเป็นกษัตริย์ที่ชอบธรรมได้ ภายใต้การปกครองของศาสนจักร(พระสันตะปาปา) ซึ่งศาสนาพุทธให้อะไรแบบนี้ไม่ได้ในความเชื่อแบบศักดินาตะวันตก ระบบวัดในยุคกลางยังเป็นที่จดทะเบียนคนเกิด (ศีลจุ่ม) และคนตาย(การเจิมครั้งสุดท้ายและฝัง) ของระบบศักดินายุโรป รวมไปถึงการเรียนอ่านเขียนภาษาละติน หรือภาษาของโบสถ์ จนกระทั่งยุคเรอเนซองก์ ศาสนาจักรเสื่อมลง แต่ระบบเหตุผลและการรื้อฟื้นแนวคิดมนุษยนิยมก็พัฒนาจนกระทั่งไปไกลเกินกว่าศาสนาพุทธจะเข้ามาแล้วครับ เพราะพุทธในเอเชียเวลานั้นยังคงเป็นความเชื่อ ภพชาติ มนุษย์เกิดมาใช้กรรม ในขณะที่ยุโรปมุ่งไปสู่วิธีคิด "มนุษย์ทำได้ทุกอย่างเพราะความสามารถ" ไปแล้ว คุณจึงเห็นศิลปินมากความสามารถอย่าง ลีโอนาโด ดาวินชี่ๅม คริสโตเฟอ โคลัมบัสม, ยาวเรื่อยไปจนถึงศตวรรษที่ 17 - 18 ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ ปฏิวัติอุตสาหกรรม ไม่หยุดนิ่งอีกต่อไปแล้ว
ในขณะที่อิสลาม ระบบกาลิฟ(คอลิฟะ)หรือเจ้าผู้ปกครองทั้งในทางโลกและทางธรรมก็อนุญาตให้ผู้นำอิสลามมีความชอบธรรมได้ในระบบของตนเอง ระบบคำสอนในศาสนาอิสลามแต่เดิมยังสอดแทรกวิธีเรียนรู้ทั้งกฎหมาย วิทยาการวิทยาศาสตร์เบื้องต้น (รับเอามาตั้งแต่ยุคกรีก) โลกอิสลามในเวลาเดียวกับยุดรปยุคกลางนั้น นับว่าเจริญกว่ายุโรปและก้าวหน้ามากในเวลานั้นครับ (ก่อนพวกเขาจะกลับมาเคร่งศาสนาและหมกมุ่นอยู่กับการตีความคำภีร์ไม่หยุดหย่อน)
อย่างไรก็ตาม ควรกล่าวด้วยว่า ระบบแต่ละระบบเมื่อพัฒนาขึ้นให้ถูกครอบคุลมทั้งในทางธรรมและทางการเมืองก็ย่อมจะต้องมีการ "ปกป้องตัวมันเอง" ครับ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม การสอดส่องและทำลาย "ศัตรู" ที่แตกต่างนี้ก็เช่น สงครามครูเสด ระหว่างอิสามและคริสต์ หรือแม้แต่พุทธในอยุธยา ญี่ปุ่น เกาหลี หรือจีนเองก็ยังมี แม้จะไม่ใช่ศึกขนาดใหญ่แบบคริสจักร แต่ก็ยังปรากฏเป็นลายลักษณือักษรและตัวบทกฎหมาย เช่น ในกฎหมายตราสามดวง ห้ามคบหาแต่งงานกับมิชฉาทิษฐิ คือ พวกต่างศาสนา หรือในญีุ่ปุ่น จีน เกาหลี ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ ฆ่าทิ้งทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะมาพร้อมกับภัยต่างชาติ(เช่น ทำให้เกิดกบฏชาวคริสต์ เป็นต้น) ศาสนาคริสต์ที่ลืมตาอ้าปากมานับถือกันก็ภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งนั้น เช่น การเปลี่ยนราชวงศ์ชิง,โชซอน การปฏิรูปเมจิ ส่วนของไทยก็เกิดจากหมอสอนศาสนาเข้าไปในที่ทุรกันดารเช่นหมู่บ้านชาวภูเขาทางเหนือช่วงร.5 แล้ว และการตั้งโรงเรียนที่มาพร้อมกับการสอนศาสนาในกรุงเทพ เป็นต้น
ขออภัยที่เขียนมายาว นี่อาจจะพอตอบได้ว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงไปไม่ถึงตะวันตกครับ เพราะแต่ละศาสนาต่างมีคุณูปการทั้งทางวิถีชีวิตและการเมืองในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งแต่ละตำแหน่งแห่งที่ก้ยังมีการปกป้อง "ศาสนา" ของตนเองเช่นกัน เพราะมันหมายถึงการปกป้องความชอบธรรมของระบบการเมืองด้วยครับ (ศาสนากับการเมืองจึงแยกกันไม่ได้มานานแล้ว) คงจะพอเป็นคำตอบให้ได้นะครับ
ไม่ต้องไปว่าว่าตะวันตกมันวัตถุนิยมอะไรเลยครับ ประเทศตะวันตกน่ะ โลกทางปรัชญา การถกเถียงทางด้านวิชาการ ระบบสวัสดิการรัฐ การรักษาความปลอดภัย คุณภาพชีวิต สิทธิเสรีภาพ ยังดีกว่าประเทศพุทธ(ละมั้ง)แถวนี้อีก ไม่เช่นนั้นระบบการบริหาร การศึกษา การจัดการปกครอง จะถูกนำมาใช้ถีงตะวันออกเหรอ
เถียงกันก็เถียงในเชิงประวัติศาสตรืสิครับ ไม่ใช่ "ไม่รู้" "ไม่เห็น" ก็เอามายำมั่ว ว่าดินแดนนู้น ชมดินแดนนี้ ทำดินแดนพุทธดูใสสะอาด (หลักพุทธศาสนาก็สอนว่าอย่ามดเท็จโกหก มั่วในสื่งที่ไม่รู้ไม่ใช่หรือไง?) ไอที่บอกว่าเพราะชาวพุทธสันติสุข ดูอย่างเมียนมาร์สิครับ จังหวัดแถวอีสานเราก็ได้ พระออกมาต่อต้านอิสลาม ทั้งที่หลักคำสอนก็บอกว่าศาสนาพุทไม่เป้นภัยกับศาสนาใด
=มาลองดูคำตอบผมบ้าง=
ถ้าคุณถามว่า ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่ไปถึงตะวันตก มันก็อาจจะต้องถามด้วยครับว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงมาถึงที่นี่? และศาสนาพุทธเข้ากับที่ใดๆได้บ้าง? คำตอบคือ สำหรับภูมิภาคนี้ ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มาถึงก่อน หากแต่เข้ามา "ผสมผสาน" กับศาสนา "ผี" ในพื้นที่เดิม (บ้างก็ว่าผ่านการบังคับ ต่อสู้ จนถึงผสมผสาน) แล้วอะไรเป็นสิ่งที่นำพาศาสนาพุทธมา? คำตอบคือ เรือสินค้าครับ พื้นที่เขตแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เดิมทำการค้าขายกับชาวอินเดีย หรือเรียกว่า อินเดียเป็นตัวนำพาวิวัฒนาการหลักให้กับพื้นที่แห่งนี้ นับตั้งแต่วิทยาการด้านศิลปกรรม พระปรางค์ เจดีย์ วิธีนุ่งห่ม และอีกหลากหลายอย่าง
ยกตัวอย่างให้ชัดยิ่งขึ้น หากลองเสิชหาประวัติวัตถุโบราณที่ค้นพบในช่วงต้น ๆ ประวัติศาสตร์ เช่น หินลูกปัด หินคาเนเลียน ก็จะพบเป็นของที่ค้าขายไปมากับอินเดียทั้งสิ้นครับ อีกทั้งยังสังเกตได้ว่า อาณาจักรอย่างขอมโบราณที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนกลุ่มบ้านเมืองชาติพันธุ์ไท(ผมตั้งใจใช้คำนี้เพราะ ไท มีหลากหลายชาติพันธุ์ เช่น ไทลื้อ ไทเขิน และอีกมากมายเป็นต้น มิใช่ "ชาติไทย")ในภูมิภาคนี้ก็ยังรับเอาศาสนาฮินดูจากอินเดียมาก่อน ต่อด้วยการรับเอาวัฒนธรรมการสร้างเทวสถานด้วยหิน และมาเปลี่ยนเอาเป็นพุทธในภายหลัง(แต่ก็ยังคงมีคติความเชื่อพราหมณ์สืบต่อมาเช่นกัน มิได้ทิ้งไปทั้งหมด)ครับ และแน่นอนว่า ต้องมีการติดต่อค้าขายไปมาหาสู่กันอย่างแน่นอนครับ
ยังไม่หมดเพียงเ่านี้ ทางเหนือขึ้นไป แม้แต่เขตมหาอาณาจักรอย่างจีนเอง ปรมาจารย์คนสำคัญที่มีคุณูปการต่อวงการศิลปะการต่อสู้และวัดเส้าหลินอย่างปรมาจารย์ตั๊กม้อ(ภาษาญี่ปุ่นเรียก ดารุมะ - พระตุ๊กตาทรงกลมสีแดงเพื่อขอพรแล้วทาสีตาน่ะครับ)ก็ยังเป็นชาวอินเดียจากแคว้นคันธารราช ซึ่งจีนเองก็ยังคงค้าขายกับทางชมพูทวีปอยู่เป็นนิจด้วยเส้นทางสายไหมและทางทะเลครับ
แต่การค้าเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ยังมีเหตุผลมากกว่านั้นครับ ถามว่าคืออะไร? ก็เพราะการเผยแพร่พุทธศาสนาเข้ามาในเอเชียนั้น เป็นระบบแบบ "ประนีประนอม" คือ อนุญาตให้เรามีเทพหลายพระองค์หรือ "ไม่ต้องละทิ้งความเชื่อเดิม" อันเป็นการผสมผสานเข้ากับศาสนาความเชื่อเดิมอื่น ๆ (ไม่ว่าผีหรือฮินดู) ดังที่ผมเกริ่นไปแต่ต้นครับ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในการเผยแพร่และยอมรับได้ง่าย เช่น ชินโตของญี่ปุ่น(ชินโตนี่ก็ผีดี ๆ นี่เองครับ มีเทพมากกว่า 8 ล้านองค์) ผีของไทย(คงไม่ต้องอธิบายนะครับ ว่า"ผี"ของเรามีอะไรบ้าง คือ สิ่งเหนือธรรมชาตินั่นเอง ผีข้าว(โพสพ) ผีด้ำบรรพบุรุษ ผีเรือน และผีอีกสารพัดผี (ลองไปดูในประเพณี 12 เดือนดูครับ ศาสนาผีทั้งน้านนนน) หรือแม้แต่ศาสนาเทพหลายองค์แบบจีน(ก็ไม่พ้นผีบรรพบุรุษหรือเทพท้องถิ่นที่มีอยู่เดิมเอามาผสมผสานกับพุทธ)ครับ กล่าวมาถึงนี่ ก็อาจเรียกได้ว่า "ผีกันทั้งภูมิภาค" แล้วครับ
หากถามว่าความเป็น "ศาสนาผี" ที่มีมาก่อนในภูมิภาคนี้ เข้มข้นแค่ไหน ก็เรียกได้ว่า แม้แต่ทางใต้ของเราก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นอิสลามจ๋ากันเลย ถ้าลองอ่านใน "นบีไม่กินหมาก" งานวิจัยของอาจารย์ อณุสรณ์ อุณโณ นักวิจัยภาคสนามดูครับ ในหนังสือ ก็อธิบายว่า ในภาคใต้ของเราก็มีแต่เรื่องของคุณไสย ไสยศาสตร์ มีเหล่าพ่อมดหมอผีปลุกเสกที่นับถืออิสลามกันมากมายพร้อมกับถือศาสนาอิสลามไปด้วย(ไม่เชื่อก็ไปเสิชข่าวกินน้ำส้วมดูนะครับ ภาพที่ถ่ายมา คนที่ตักสวมฮิญาบทั้งนั้น) และที่รับศาสนาอิสลามเข้ามา ก็เพราะการค้าขายกับอาณาจักรออตโตมัน เปอเซียร์นั่นเอง
แต่ก็ยังไม่หมด... เพราะจากเรื่องการค้าและการผสมผสาน ยังมีอีกเหตุผลนึงครับ เพราะเมื่อหากพิจารณาถึงระบบการเมืองการปกครอง ศาสนาพุทธก็แทบจะเป็นตัวรองรับและมีส่วนเสริมในการคงไว้ซึ่งความชอบธรรมชนชั้นปกครองในภูมิภาคอย่างสำคัญเช่นกัน ซึ่งยังเข้าได้ดีกับระบบพราหมณ์ฮินดูที่มีมาแต่เดิมอีกด้วย เช่น สยาม - ระบบสมมติเทพ(อยุธยา) พระมหากษัตริย์ตั้งเป็นทั้งศาสนูปถัมพก พุทธมามกะ และเป็นดังพระโพธิสัตว์อวตารลงมาโปรดมนุษย์สามัญชน ซึ่งทุกวันนี้เราก็เห็นพราหมณ์ทำงานร่วมกับพระในพระราชพิธีต่าง ๆ ควบคู่กันไปได้ จีน - พุทธศาสนาไม่ได้ขัดขวางกับระบบ "เฟิ้งเทียน" หรือ "โอรสสวรรค์" ซึ่งรวมไปถึงระบบเทนโนะจักรพรรดิในญี่ปุ่นซึ่งศาสนาพุทธก็มิได้ขัดขวาง (เกาหลีไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะก็มีผีผสมพุทธเหมือนกันกับที่อื่น ระบบปกครองตามแบบจีน)
สรุปในประเด็นแรกได้ว่า ศาสนาพุทธ(หรือศาสนาอื่น ๆ)ที่เข้ามาในเขตนี้ได้ ก็เพราะ 1.การค้า 2. การยอมรับให้เกิดความผสมผสานกับศาสนาผีที่เข้มข้น และ 3.ระบบการปกครอง นั่นเองครับ ที่ผมกล่าวถึงประเด็นนี้ก่อน ก็เพราะว่าผมจะใช้ผลสรุปและวิธีการนี้ในการพิจารณาให้เห็นภาพในคำถามของคุณซึ่งจะนำเสนอในข้อความด้านล่างนี้ต่อไปนั่นเอง
คราวนี้ มาถึงคำถามของผู้ถามครับ ทำไมศาสนาพุทธจึงไม่ไปถึงตะวันตก เรามาดูว่าอาณาจักรอะไรขั้นขวางระหว่าง "ทางไป" และจนถึง "ตะวันตก" บ้างครับ 1.อิสลาม 2.คริสเตียน 3.เทงกรี (มองโกล) เทงกรีคือเทพเจ้าของชาวมองโกล แต่สุดท้ายชาวมองโกลก็รับเอาพุทธจากทิเบตเข้าไปได้ในที่สุด ฉะนั้น ตัด 3 ออกไปครับ เหลือ 1 กับ 2 2ศาสนานี้มีความคล้ายกันยังไงครับ? ง่าย ๆเลย 1. นับถือเทพเจ้าองค์เดียว และที่สำคัญ "เกลียดผี" ครับ ในเวลาที่ศาสนาต่าง ๆ ยังไม่ได้ปรับตัวตามยุคสมัย ศาสนาพวกนี้มิได้อนุโลมความเป็นผีให้เข้ามาอยู่ในปริมณฑลทางศาสนานัก ในยุโรปยุคกลาง คุณจะเห็นคนถูกเผา ปาหิน ฆ่าและทรมานในวิธีอื่น ๆ ถ้าเค้ารู้ว่าคุณ "มีเวทมนตร์" นั่นคือสิ่งที่ต่อต้าน "พระเจ้า" และไม่อยู่ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ (อย่าลืมหันมามองดูที่สิ่งผมอธิบายไปด้านบนเรื่องศาสนาพุทธกับผีในเอเชีย - ถ้าเอาคริสต์เข้ามาใช้ ก็ได้เผาตายตั้งแต่ฮ่องเต้ยันจักรพรรดิเลยครับ เพราะ ผู้ที่กุมสวรรค์ในทางคริสต์คือrระเจ้า ไม่ใช่ "โอรสสวรรค์" เทพอีก 8 ล้านองค์ก็ไม่ต้องพูดถึง เละเทะครับ) แม้แต่อิสลามซึ่งมีกฎห้ามมีรูปเคารพ ทั้งที่อยู่ขั้นกลางระหว่างยุโรปและเอเชีย(พุทธ+ผี+พราหมณ์)แท้ ๆ ก็ยังไม่สามารถจะขยายอิทธิพลเข้าไปในพื้นที่ตอนในส่วนใหญ่ของทั้ง 2 ทวีปได้เลยครับ เพราะไม่อนุโลมการมีรูปปั้น การบูชาผีสาง (ในกรณีภาคใต้ที่กล่าวไป ยังถือเป็นที่ที่ห่างไกลจากอำนาจความเคร่งในเอเชียกลาง)
มาดูอันที่ 2 ระบบการปกครอง ในยุคกลางจนไปถึงต้นเรอเนซองก์ ระบบคริสตจักรคือระบบเดียวที่รองรับความชอบธรรมของกษัตริย์ชาวคริสต์ (Divide Right) คุณต้องได้รับการยอมรับจากศาสนาจักรให้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ซึ่งเหมือนกับการได้รับการยอมรับจากพระเจ้า คุณถึงจะเป็นกษัตริย์ที่ชอบธรรมได้ ภายใต้การปกครองของศาสนจักร(พระสันตะปาปา) ซึ่งศาสนาพุทธให้อะไรแบบนี้ไม่ได้ในความเชื่อแบบศักดินาตะวันตก ระบบวัดในยุคกลางยังเป็นที่จดทะเบียนคนเกิด (ศีลจุ่ม) และคนตาย(การเจิมครั้งสุดท้ายและฝัง) ของระบบศักดินายุโรป รวมไปถึงการเรียนอ่านเขียนภาษาละติน หรือภาษาของโบสถ์ จนกระทั่งยุคเรอเนซองก์ ศาสนาจักรเสื่อมลง แต่ระบบเหตุผลและการรื้อฟื้นแนวคิดมนุษยนิยมก็พัฒนาจนกระทั่งไปไกลเกินกว่าศาสนาพุทธจะเข้ามาแล้วครับ เพราะพุทธในเอเชียเวลานั้นยังคงเป็นความเชื่อ ภพชาติ มนุษย์เกิดมาใช้กรรม ในขณะที่ยุโรปมุ่งไปสู่วิธีคิด "มนุษย์ทำได้ทุกอย่างเพราะความสามารถ" ไปแล้ว คุณจึงเห็นศิลปินมากความสามารถอย่าง ลีโอนาโด ดาวินชี่ๅม คริสโตเฟอ โคลัมบัสม, ยาวเรื่อยไปจนถึงศตวรรษที่ 17 - 18 ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ ปฏิวัติอุตสาหกรรม ไม่หยุดนิ่งอีกต่อไปแล้ว
ในขณะที่อิสลาม ระบบกาลิฟ(คอลิฟะ)หรือเจ้าผู้ปกครองทั้งในทางโลกและทางธรรมก็อนุญาตให้ผู้นำอิสลามมีความชอบธรรมได้ในระบบของตนเอง ระบบคำสอนในศาสนาอิสลามแต่เดิมยังสอดแทรกวิธีเรียนรู้ทั้งกฎหมาย วิทยาการวิทยาศาสตร์เบื้องต้น (รับเอามาตั้งแต่ยุคกรีก) โลกอิสลามในเวลาเดียวกับยุดรปยุคกลางนั้น นับว่าเจริญกว่ายุโรปและก้าวหน้ามากในเวลานั้นครับ (ก่อนพวกเขาจะกลับมาเคร่งศาสนาและหมกมุ่นอยู่กับการตีความคำภีร์ไม่หยุดหย่อน)
อย่างไรก็ตาม ควรกล่าวด้วยว่า ระบบแต่ละระบบเมื่อพัฒนาขึ้นให้ถูกครอบคุลมทั้งในทางธรรมและทางการเมืองก็ย่อมจะต้องมีการ "ปกป้องตัวมันเอง" ครับ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม การสอดส่องและทำลาย "ศัตรู" ที่แตกต่างนี้ก็เช่น สงครามครูเสด ระหว่างอิสามและคริสต์ หรือแม้แต่พุทธในอยุธยา ญี่ปุ่น เกาหลี หรือจีนเองก็ยังมี แม้จะไม่ใช่ศึกขนาดใหญ่แบบคริสจักร แต่ก็ยังปรากฏเป็นลายลักษณือักษรและตัวบทกฎหมาย เช่น ในกฎหมายตราสามดวง ห้ามคบหาแต่งงานกับมิชฉาทิษฐิ คือ พวกต่างศาสนา หรือในญีุ่ปุ่น จีน เกาหลี ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ ฆ่าทิ้งทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะมาพร้อมกับภัยต่างชาติ(เช่น ทำให้เกิดกบฏชาวคริสต์ เป็นต้น) ศาสนาคริสต์ที่ลืมตาอ้าปากมานับถือกันก็ภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งนั้น เช่น การเปลี่ยนราชวงศ์ชิง,โชซอน การปฏิรูปเมจิ ส่วนของไทยก็เกิดจากหมอสอนศาสนาเข้าไปในที่ทุรกันดารเช่นหมู่บ้านชาวภูเขาทางเหนือช่วงร.5 แล้ว และการตั้งโรงเรียนที่มาพร้อมกับการสอนศาสนาในกรุงเทพ เป็นต้น
ขออภัยที่เขียนมายาว นี่อาจจะพอตอบได้ว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงไปไม่ถึงตะวันตกครับ เพราะแต่ละศาสนาต่างมีคุณูปการทั้งทางวิถีชีวิตและการเมืองในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งแต่ละตำแหน่งแห่งที่ก้ยังมีการปกป้อง "ศาสนา" ของตนเองเช่นกัน เพราะมันหมายถึงการปกป้องความชอบธรรมของระบบการเมืองด้วยครับ (ศาสนากับการเมืองจึงแยกกันไม่ได้มานานแล้ว) คงจะพอเป็นคำตอบให้ได้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่เผยแพร่ไปทางทิศตะวันตกครับ?