ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่เผยแพร่ไปทางทิศตะวันตกครับ?

ทั้งๆที่พระเจ้าอโศกได้เคยส่งสมณฑูตไปยังตะวันตกคือโยนกประเทศ เปอร์เซีย แต่ทำศาสนาพุทธถึงไม่แพร่หลายยังแถบนั้นครับจนไปถึงยุโรป
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
คอมเม้นกันอุดมคติมากกกก ทำเหมือนประเทศตัวเองไม่มีโจรปล้น ทุกคนใฝ่หาความสุข ถามจริง ๆ เถอะครับ ไอที่เม้นมาเนี่ย พี่ขี่ม้าไปทำงานหรือขี่รถไป เศรษฐีบ้านเราก็มีถมไป ไอโฟน คอมพิวเตอร์ ก็ใช้กันหมด อินเทอเนตก็มี พวกคุณท่านอยู่ใน "โลกวัตถุนิยม" และ "ทุนนิยม" แล้ว(โว๊ยยยย) วัดยังเสียเงินสร้างประตู อุโบสถมีลายสวยงามราคาเป็น 10 ๆ ล้าน  

ไม่ต้องไปว่าว่าตะวันตกมันวัตถุนิยมอะไรเลยครับ ประเทศตะวันตกน่ะ โลกทางปรัชญา การถกเถียงทางด้านวิชาการ ระบบสวัสดิการรัฐ การรักษาความปลอดภัย คุณภาพชีวิต สิทธิเสรีภาพ ยังดีกว่าประเทศพุทธ(ละมั้ง)แถวนี้อีก ไม่เช่นนั้นระบบการบริหาร การศึกษา การจัดการปกครอง จะถูกนำมาใช้ถีงตะวันออกเหรอ

เถียงกันก็เถียงในเชิงประวัติศาสตรืสิครับ ไม่ใช่ "ไม่รู้" "ไม่เห็น" ก็เอามายำมั่ว ว่าดินแดนนู้น ชมดินแดนนี้ ทำดินแดนพุทธดูใสสะอาด (หลักพุทธศาสนาก็สอนว่าอย่ามดเท็จโกหก มั่วในสื่งที่ไม่รู้ไม่ใช่หรือไง?) ไอที่บอกว่าเพราะชาวพุทธสันติสุข ดูอย่างเมียนมาร์สิครับ จังหวัดแถวอีสานเราก็ได้ พระออกมาต่อต้านอิสลาม ทั้งที่หลักคำสอนก็บอกว่าศาสนาพุทไม่เป้นภัยกับศาสนาใด


=มาลองดูคำตอบผมบ้าง=

ถ้าคุณถามว่า ทำไมศาสนาพุทธถึงไม่ไปถึงตะวันตก มันก็อาจจะต้องถามด้วยครับว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงมาถึงที่นี่? และศาสนาพุทธเข้ากับที่ใดๆได้บ้าง? คำตอบคือ สำหรับภูมิภาคนี้ ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มาถึงก่อน หากแต่เข้ามา "ผสมผสาน" กับศาสนา "ผี" ในพื้นที่เดิม (บ้างก็ว่าผ่านการบังคับ ต่อสู้ จนถึงผสมผสาน) แล้วอะไรเป็นสิ่งที่นำพาศาสนาพุทธมา? คำตอบคือ เรือสินค้าครับ พื้นที่เขตแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เดิมทำการค้าขายกับชาวอินเดีย หรือเรียกว่า อินเดียเป็นตัวนำพาวิวัฒนาการหลักให้กับพื้นที่แห่งนี้ นับตั้งแต่วิทยาการด้านศิลปกรรม พระปรางค์ เจดีย์ วิธีนุ่งห่ม และอีกหลากหลายอย่าง

ยกตัวอย่างให้ชัดยิ่งขึ้น หากลองเสิชหาประวัติวัตถุโบราณที่ค้นพบในช่วงต้น ๆ ประวัติศาสตร์ เช่น หินลูกปัด หินคาเนเลียน ก็จะพบเป็นของที่ค้าขายไปมากับอินเดียทั้งสิ้นครับ อีกทั้งยังสังเกตได้ว่า อาณาจักรอย่างขอมโบราณที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนกลุ่มบ้านเมืองชาติพันธุ์ไท(ผมตั้งใจใช้คำนี้เพราะ ไท มีหลากหลายชาติพันธุ์ เช่น ไทลื้อ ไทเขิน และอีกมากมายเป็นต้น มิใช่  "ชาติไทย")ในภูมิภาคนี้ก็ยังรับเอาศาสนาฮินดูจากอินเดียมาก่อน ต่อด้วยการรับเอาวัฒนธรรมการสร้างเทวสถานด้วยหิน และมาเปลี่ยนเอาเป็นพุทธในภายหลัง(แต่ก็ยังคงมีคติความเชื่อพราหมณ์สืบต่อมาเช่นกัน มิได้ทิ้งไปทั้งหมด)ครับ และแน่นอนว่า ต้องมีการติดต่อค้าขายไปมาหาสู่กันอย่างแน่นอนครับ

ยังไม่หมดเพียงเ่านี้ ทางเหนือขึ้นไป แม้แต่เขตมหาอาณาจักรอย่างจีนเอง ปรมาจารย์คนสำคัญที่มีคุณูปการต่อวงการศิลปะการต่อสู้และวัดเส้าหลินอย่างปรมาจารย์ตั๊กม้อ(ภาษาญี่ปุ่นเรียก ดารุมะ - พระตุ๊กตาทรงกลมสีแดงเพื่อขอพรแล้วทาสีตาน่ะครับ)ก็ยังเป็นชาวอินเดียจากแคว้นคันธารราช ซึ่งจีนเองก็ยังคงค้าขายกับทางชมพูทวีปอยู่เป็นนิจด้วยเส้นทางสายไหมและทางทะเลครับ

แต่การค้าเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ยังมีเหตุผลมากกว่านั้นครับ ถามว่าคืออะไร? ก็เพราะการเผยแพร่พุทธศาสนาเข้ามาในเอเชียนั้น เป็นระบบแบบ "ประนีประนอม" คือ อนุญาตให้เรามีเทพหลายพระองค์หรือ "ไม่ต้องละทิ้งความเชื่อเดิม" อันเป็นการผสมผสานเข้ากับศาสนาความเชื่อเดิมอื่น ๆ (ไม่ว่าผีหรือฮินดู) ดังที่ผมเกริ่นไปแต่ต้นครับ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในการเผยแพร่และยอมรับได้ง่าย เช่น ชินโตของญี่ปุ่น(ชินโตนี่ก็ผีดี ๆ นี่เองครับ มีเทพมากกว่า 8 ล้านองค์) ผีของไทย(คงไม่ต้องอธิบายนะครับ ว่า"ผี"ของเรามีอะไรบ้าง คือ สิ่งเหนือธรรมชาตินั่นเอง ผีข้าว(โพสพ) ผีด้ำบรรพบุรุษ ผีเรือน และผีอีกสารพัดผี (ลองไปดูในประเพณี 12 เดือนดูครับ ศาสนาผีทั้งน้านนนน) หรือแม้แต่ศาสนาเทพหลายองค์แบบจีน(ก็ไม่พ้นผีบรรพบุรุษหรือเทพท้องถิ่นที่มีอยู่เดิมเอามาผสมผสานกับพุทธ)ครับ กล่าวมาถึงนี่ ก็อาจเรียกได้ว่า "ผีกันทั้งภูมิภาค" แล้วครับ

หากถามว่าความเป็น "ศาสนาผี" ที่มีมาก่อนในภูมิภาคนี้ เข้มข้นแค่ไหน ก็เรียกได้ว่า แม้แต่ทางใต้ของเราก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นอิสลามจ๋ากันเลย ถ้าลองอ่านใน "นบีไม่กินหมาก" งานวิจัยของอาจารย์ อณุสรณ์ อุณโณ นักวิจัยภาคสนามดูครับ ในหนังสือ ก็อธิบายว่า ในภาคใต้ของเราก็มีแต่เรื่องของคุณไสย ไสยศาสตร์ มีเหล่าพ่อมดหมอผีปลุกเสกที่นับถืออิสลามกันมากมายพร้อมกับถือศาสนาอิสลามไปด้วย(ไม่เชื่อก็ไปเสิชข่าวกินน้ำส้วมดูนะครับ ภาพที่ถ่ายมา คนที่ตักสวมฮิญาบทั้งนั้น) และที่รับศาสนาอิสลามเข้ามา ก็เพราะการค้าขายกับอาณาจักรออตโตมัน เปอเซียร์นั่นเอง


แต่ก็ยังไม่หมด... เพราะจากเรื่องการค้าและการผสมผสาน ยังมีอีกเหตุผลนึงครับ เพราะเมื่อหากพิจารณาถึงระบบการเมืองการปกครอง ศาสนาพุทธก็แทบจะเป็นตัวรองรับและมีส่วนเสริมในการคงไว้ซึ่งความชอบธรรมชนชั้นปกครองในภูมิภาคอย่างสำคัญเช่นกัน ซึ่งยังเข้าได้ดีกับระบบพราหมณ์ฮินดูที่มีมาแต่เดิมอีกด้วย เช่น สยาม - ระบบสมมติเทพ(อยุธยา) พระมหากษัตริย์ตั้งเป็นทั้งศาสนูปถัมพก พุทธมามกะ และเป็นดังพระโพธิสัตว์อวตารลงมาโปรดมนุษย์สามัญชน ซึ่งทุกวันนี้เราก็เห็นพราหมณ์ทำงานร่วมกับพระในพระราชพิธีต่าง ๆ ควบคู่กันไปได้ จีน - พุทธศาสนาไม่ได้ขัดขวางกับระบบ "เฟิ้งเทียน" หรือ "โอรสสวรรค์" ซึ่งรวมไปถึงระบบเทนโนะจักรพรรดิในญี่ปุ่นซึ่งศาสนาพุทธก็มิได้ขัดขวาง (เกาหลีไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะก็มีผีผสมพุทธเหมือนกันกับที่อื่น ระบบปกครองตามแบบจีน)

สรุปในประเด็นแรกได้ว่า ศาสนาพุทธ(หรือศาสนาอื่น ๆ)ที่เข้ามาในเขตนี้ได้ ก็เพราะ 1.การค้า 2. การยอมรับให้เกิดความผสมผสานกับศาสนาผีที่เข้มข้น และ 3.ระบบการปกครอง นั่นเองครับ ที่ผมกล่าวถึงประเด็นนี้ก่อน ก็เพราะว่าผมจะใช้ผลสรุปและวิธีการนี้ในการพิจารณาให้เห็นภาพในคำถามของคุณซึ่งจะนำเสนอในข้อความด้านล่างนี้ต่อไปนั่นเอง

คราวนี้ มาถึงคำถามของผู้ถามครับ ทำไมศาสนาพุทธจึงไม่ไปถึงตะวันตก เรามาดูว่าอาณาจักรอะไรขั้นขวางระหว่าง "ทางไป" และจนถึง "ตะวันตก" บ้างครับ  1.อิสลาม 2.คริสเตียน 3.เทงกรี (มองโกล) เทงกรีคือเทพเจ้าของชาวมองโกล แต่สุดท้ายชาวมองโกลก็รับเอาพุทธจากทิเบตเข้าไปได้ในที่สุด ฉะนั้น ตัด 3 ออกไปครับ เหลือ 1 กับ 2  2ศาสนานี้มีความคล้ายกันยังไงครับ? ง่าย ๆเลย 1. นับถือเทพเจ้าองค์เดียว และที่สำคัญ "เกลียดผี" ครับ ในเวลาที่ศาสนาต่าง ๆ ยังไม่ได้ปรับตัวตามยุคสมัย ศาสนาพวกนี้มิได้อนุโลมความเป็นผีให้เข้ามาอยู่ในปริมณฑลทางศาสนานัก ในยุโรปยุคกลาง คุณจะเห็นคนถูกเผา ปาหิน ฆ่าและทรมานในวิธีอื่น ๆ ถ้าเค้ารู้ว่าคุณ "มีเวทมนตร์" นั่นคือสิ่งที่ต่อต้าน "พระเจ้า" และไม่อยู่ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ (อย่าลืมหันมามองดูที่สิ่งผมอธิบายไปด้านบนเรื่องศาสนาพุทธกับผีในเอเชีย - ถ้าเอาคริสต์เข้ามาใช้ ก็ได้เผาตายตั้งแต่ฮ่องเต้ยันจักรพรรดิเลยครับ เพราะ ผู้ที่กุมสวรรค์ในทางคริสต์คือrระเจ้า ไม่ใช่ "โอรสสวรรค์" เทพอีก 8 ล้านองค์ก็ไม่ต้องพูดถึง เละเทะครับ) แม้แต่อิสลามซึ่งมีกฎห้ามมีรูปเคารพ ทั้งที่อยู่ขั้นกลางระหว่างยุโรปและเอเชีย(พุทธ+ผี+พราหมณ์)แท้ ๆ ก็ยังไม่สามารถจะขยายอิทธิพลเข้าไปในพื้นที่ตอนในส่วนใหญ่ของทั้ง 2 ทวีปได้เลยครับ เพราะไม่อนุโลมการมีรูปปั้น การบูชาผีสาง (ในกรณีภาคใต้ที่กล่าวไป ยังถือเป็นที่ที่ห่างไกลจากอำนาจความเคร่งในเอเชียกลาง)

มาดูอันที่ 2 ระบบการปกครอง ในยุคกลางจนไปถึงต้นเรอเนซองก์ ระบบคริสตจักรคือระบบเดียวที่รองรับความชอบธรรมของกษัตริย์ชาวคริสต์ (Divide Right) คุณต้องได้รับการยอมรับจากศาสนาจักรให้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ซึ่งเหมือนกับการได้รับการยอมรับจากพระเจ้า คุณถึงจะเป็นกษัตริย์ที่ชอบธรรมได้ ภายใต้การปกครองของศาสนจักร(พระสันตะปาปา) ซึ่งศาสนาพุทธให้อะไรแบบนี้ไม่ได้ในความเชื่อแบบศักดินาตะวันตก ระบบวัดในยุคกลางยังเป็นที่จดทะเบียนคนเกิด (ศีลจุ่ม) และคนตาย(การเจิมครั้งสุดท้ายและฝัง) ของระบบศักดินายุโรป รวมไปถึงการเรียนอ่านเขียนภาษาละติน หรือภาษาของโบสถ์ จนกระทั่งยุคเรอเนซองก์ ศาสนาจักรเสื่อมลง แต่ระบบเหตุผลและการรื้อฟื้นแนวคิดมนุษยนิยมก็พัฒนาจนกระทั่งไปไกลเกินกว่าศาสนาพุทธจะเข้ามาแล้วครับ เพราะพุทธในเอเชียเวลานั้นยังคงเป็นความเชื่อ ภพชาติ มนุษย์เกิดมาใช้กรรม ในขณะที่ยุโรปมุ่งไปสู่วิธีคิด "มนุษย์ทำได้ทุกอย่างเพราะความสามารถ" ไปแล้ว คุณจึงเห็นศิลปินมากความสามารถอย่าง ลีโอนาโด ดาวินชี่ๅม คริสโตเฟอ โคลัมบัสม, ยาวเรื่อยไปจนถึงศตวรรษที่ 17 - 18 ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ ปฏิวัติอุตสาหกรรม ไม่หยุดนิ่งอีกต่อไปแล้ว  

ในขณะที่อิสลาม ระบบกาลิฟ(คอลิฟะ)หรือเจ้าผู้ปกครองทั้งในทางโลกและทางธรรมก็อนุญาตให้ผู้นำอิสลามมีความชอบธรรมได้ในระบบของตนเอง ระบบคำสอนในศาสนาอิสลามแต่เดิมยังสอดแทรกวิธีเรียนรู้ทั้งกฎหมาย วิทยาการวิทยาศาสตร์เบื้องต้น (รับเอามาตั้งแต่ยุคกรีก) โลกอิสลามในเวลาเดียวกับยุดรปยุคกลางนั้น นับว่าเจริญกว่ายุโรปและก้าวหน้ามากในเวลานั้นครับ (ก่อนพวกเขาจะกลับมาเคร่งศาสนาและหมกมุ่นอยู่กับการตีความคำภีร์ไม่หยุดหย่อน)

อย่างไรก็ตาม ควรกล่าวด้วยว่า ระบบแต่ละระบบเมื่อพัฒนาขึ้นให้ถูกครอบคุลมทั้งในทางธรรมและทางการเมืองก็ย่อมจะต้องมีการ "ปกป้องตัวมันเอง" ครับ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม การสอดส่องและทำลาย "ศัตรู" ที่แตกต่างนี้ก็เช่น สงครามครูเสด ระหว่างอิสามและคริสต์ หรือแม้แต่พุทธในอยุธยา ญี่ปุ่น เกาหลี หรือจีนเองก็ยังมี แม้จะไม่ใช่ศึกขนาดใหญ่แบบคริสจักร แต่ก็ยังปรากฏเป็นลายลักษณือักษรและตัวบทกฎหมาย เช่น ในกฎหมายตราสามดวง ห้ามคบหาแต่งงานกับมิชฉาทิษฐิ คือ พวกต่างศาสนา หรือในญีุ่ปุ่น จีน เกาหลี ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ ฆ่าทิ้งทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะมาพร้อมกับภัยต่างชาติ(เช่น ทำให้เกิดกบฏชาวคริสต์ เป็นต้น) ศาสนาคริสต์ที่ลืมตาอ้าปากมานับถือกันก็ภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งนั้น เช่น การเปลี่ยนราชวงศ์ชิง,โชซอน การปฏิรูปเมจิ ส่วนของไทยก็เกิดจากหมอสอนศาสนาเข้าไปในที่ทุรกันดารเช่นหมู่บ้านชาวภูเขาทางเหนือช่วงร.5  แล้ว และการตั้งโรงเรียนที่มาพร้อมกับการสอนศาสนาในกรุงเทพ เป็นต้น


ขออภัยที่เขียนมายาว นี่อาจจะพอตอบได้ว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงไปไม่ถึงตะวันตกครับ เพราะแต่ละศาสนาต่างมีคุณูปการทั้งทางวิถีชีวิตและการเมืองในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งแต่ละตำแหน่งแห่งที่ก้ยังมีการปกป้อง "ศาสนา" ของตนเองเช่นกัน เพราะมันหมายถึงการปกป้องความชอบธรรมของระบบการเมืองด้วยครับ (ศาสนากับการเมืองจึงแยกกันไม่ได้มานานแล้ว) คงจะพอเป็นคำตอบให้ได้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่