[CR] มาเลเซีย 4 days 3 nights ด้วยงบ 7,000 บาท (ที่พัก KL หลักพันต้นๆแต่วิวหลักล้าน )

สวัสดีค่ะ พวกเราจะมารีวิว ทริป มาเลเซีย 4 วัน 3 คืน  ทริปนี้ที่พักเริ่ด อาหารเพียบ แต่ถูกและคุ้มจนต้องแชร์รัวๆ
โดยคืนแรกเราไปพักที่เมืองมะละกา และกลับมาที่กัวลาลัมเปอร์อีก 2 คืนค่ะ ค่าเงินริงกิตมาเลเซียช่วงนี้ถูก ประมาณ 8 บาทต่อ 1 ริงกิต(RM)
เริ่มต้นเราจองตั๋วเครื่องบินข้ามปี บินตรงจากเชียงใหม่ถึงสนามบิน Klia2 ซึ่งเป็นสนามบินสำหรับสายการบินโลว์คอส ของกัวลาลัมเปอร์ โดยสายการบินหางแดง ในราคาไปกลับคนละ 2,500 บาท ทริปนี้แบกเป้ ไม่โหลดเป๋า เซฟเงินค่ะ อิอิ
Day1
ออกเดินทาง 9 โมงตรง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง  ก็แลนดิ้งสู่กัวลาลัมเปอร์ เวลาที่นู่นเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง เวลาที่ถึงคือ บ่ายโมง ลงเครื่องมาไม่สนใจอะไร ซื้อซิมเนตก่อนเลยค่า 555 เราซื้อของค่ายสีแดง ราคา 30 RM คิดเป็นเงินไทยประมาณ 240 บาท 4G ใช้ได้ 7 วัน unlimited (คนขายจัดการเปลี่ยนซิมให้ อธิบายละเอียด  คือพูดไทยได้ อันนี้ดีชอบ 555 ราคารับไหว จัดไปคนละซิม)
ขั้นต่อไป ต้องเจอ ตม. ซึ่งไม่มีขั้นตอนอะไรมาก ไม่ต้องกรอกใบอะไรทั้งนั้น  ต่อแถวยื่น passport สแกนนิ้ว ก็ผ่านชิลๆ ไม่เครียดเหมือน ตม.เกาหลีค่ะ ^^ เนื่องจากแพลนของเราคืนแรกจะไปพักและเที่ยวกันที่เมืองมะละกา ซึ่งต้องไปขึ้นรถบัสที่อยู่ชั้น 1 เราเดินผ่านโซน duty free แล้วมองหาป้าย เดินตามป้ายไปเลยค่ะ ไม่ยาก ลงไปชั้น 1 (ผนังบันไดเลื่อนทางลงไปชั้น 1 เพื่อขึ้นรถบัสมีป้ายใหญ่มาก ใช้ทั้งผนังเป็นป้ายเลย )  ลงมาก็มองหาช่องขายตั๋ว ซื้อได้ที่ช่อง 1 และ 2 บอกคนขายว่าไปมะละกา รถมีเรื่อยๆ คนไม่เยอะ  ตั๋วราคา 24.10 RM ประมาณ 192 บาท รถของเราออก 14.15 น.
ระหว่างรอขึ้นรถ เรามีเวลาประมาณ 40 นาที ด้วยความหิวจึงฝากท้องไว้กับ minimart ในโซนเดียวกัน
มาม่าและเครื่องดื่มคงง่ายสุดละ
นี่คือรถที่เราจะนั่งไปมะละกา รถสภาพโอเค สะอาด แอร์เย็น ถือว่าใช้ได้ราคาไม่แพง ขึ้นรถก็หลับค่ะ ตื่นอีกทีก็ถึงมะละกา ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง
16.15 น. มาถึง Melaka Sentral คือขนส่งนั่นเอง เราลงรถแล้วเดินมายังโซนสำหรับรถเมล์ในเมืองมะละกา  ตามหาชานชาลาที่ 17 เพื่อขึ้นรถสาย 17 เพื่อไปยังใจกลางเมือง ที่พักเราอยู่แถวนั้น ตอนเดินไปถึงรถเพิ่งออกไปได้แต่มองตามตาละห้อย ไม่ทันค่า  เลยเข้าไปถาม information พี่ผู้ชายใจดี แนะนำดีมาก ให้แผนที่เพื่อบอกว่าที่พักเราอยู่ตรงไหน ต้องลงรถตรงไหนแล้วเดินไปเส้นทางตามที่พี่เค้าบอก พอรู้ว่าเรามานอนคืนเดียว เค้าบอกเสียดายอยากให้อยู่อีกคืนเพราะคืนนี้ไม่มีถนนคนเดิน ที่มีวัน ศ-ส-อา (เรานอนคืนพฤหัส อดเลย T T) และพวกเรานั้นก็อึ้ง ตรงนี้พลาดเองไม่หาข้อมูลดีๆ เข้าใจว่า walk street มีทุกวัน แอบเสียดาย แต่พอได้เที่ยวแล้วดีใจที่มาวันนี้เพราะคนไม่เยอะ ถ่ายรูปมันส์มาก ไม่ต้องแย่งวิวกัน หุหุ
รถมาแล้วก็ขึ้นไป จ่ายเงินที่คนขับพร้อมบอกคนขับว่าจะลงที่ Christ Church Melaka ค่ารถคนละ 2 RM เนื่องจากโบสถ์ที่จะไปนี้เป็นสีแดง ด้วยความที่กลัวลงผิด เห็นตึกแดงๆก็เตรียมจะลง พวกเราคงทำท่างงๆ มีป้าคนหนึ่งรีบบอก ยังไม่ใช่ๆๆ อย่าเพิ่งลง (ป้าพูดภาษาจีน  หนูฟังมะออก เดาเอา)  พอถึงที่เราจะลงจริงๆ ป้ารีบหันมาบอก ถึงแล้วๆ(อันนี้ก็ฟังไม่รู้เรื่อง เดาอีก ขอบคุณค่าป้า น่ารักจุง)
ถึงแล้วลงมาก็เจออย่างที่เห็น เป็นใจกลางเมืองคนเยอะ สวยค่ะ ชอบมาก เราตกลงกันว่ารีบไปที่พักก่อน ค่อยมาเดินเล่น กระเป๋าหนักปวดหลัง 555
เดินข้ามสะพานและเดินไปอีกประมาณ 800 เมตร ก็ถึงที่พัก เราพักที่ swiss hotel จองผ่าน air asia go ราคาคืนละ 1,250 บาท ไม่รวมอาหารเช้า เป็นห้อง สำหรับ 3 คน ห้องพักสะอาด สวยค่ะ แต่จริงแล้วที่พักที่ใกล้และถูกกว่ามีเยอะ ถ้าเพื่อนๆจะไปลองหาข้อมูลและจองใน airbnb ดีกว่าค่ะ (เราได้จองที่พักผ่านแอพ airbnb ไว้สำหรับพักในกัวลาลัมเปอร์ รายละเอียดรอชมได้ในรีวิวคืนที่ 2)
ตึกแถวนี้สวยมากเป็นสไตล์ยุโรป มีความวินเทจ ย้อนยุค สวยค่ะ เดินดูเพลินๆ จากนั้นไปถ่ายรูปกัน กิจกรรมนี้สำคัญสุด หุหุ ที่บอกว่าดีใจที่มาวันที่ไม่มีถนนคนเดินเพราะ นักท่องเที่ยวน้อย สามารถเก็บภาพบรรยากาศได้เต็มที่ ถ่ายรูปกันจุจายมากกกก  เดินเล่นและถ่ายรูปริมสองฝั่งแม่น้ำ บรรยากาศดีน่าถ่ายหลายจุด เดินไปถ่ายรูปไป ฟินเฟร่อ จะมีร้านอาหารและบาร์หลายร้านบรรยากาศดี เราเจอร้านของคนไทย เลยบอกว่าเดี๋ยวจะกลับมานั่งร้านนี้  
นี่คือบรรยากาศสองริมฝั่ง เราเดินกันไม่หมด เพราะยาวมาก พอหิวก็กลับมาร้านของพี่คนไทยตามสัญญา  อาหารไม่แพง ป้าคนทำแอบมาคุยด้วยและบอกว่าป้าให้เยอะพิเศษเลยสำหรับคนไทย ว้าว คนไทยใจดี  
นั่งกินข้าวริมแม่น้ำ ดูบรรยากาศชิลล์มาก
บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองมะละกา
Day2
ตื่นมาพร้อมกับพบว่าฝนตก (ใครจะมาเตรียมร่มมาด้วยนะคะ ที่นี่ถ้าฝนไม่ตก ก็แดดแรง ร่มสำคัญจริงๆนะ)  เราตั้งใจจะไปทานข้าวมันไก่ร้านดังที่ใครๆก็รีวิว  แอบถามป้าที่ร้านอาหารเมื่อคืน ป้าบอกคนเยอะต้องต่อแถว  โอเค จัดไปต่อแถวท่ามกลางฝนปรอยๆ ประมาณ 25 นาทีก็ได้เข้าไปทาน ระหว่างนั้นก็ไม่เบื่อค่ะ มองหนุ่มน้อยน่ารักๆไปพลางๆ  9.30 น. ก็ได้ทานข้าวมันไก่
เราสั่งเซต A ได้ไก่ครึ่งตัว และ rice ball มา 2 จาน  จานละ 5 ก้อน ไก่อร่อยใช้ได้ คล้ายๆข้าวมันไก่ที่สิงคโปร์ ส่วน rice ball คือข้าวมันแบบบ้านเรา แต่ปั้นเป็นก้อนๆ ส่วนน้ำ เค้าเอามาเสิร์ฟ ให้เราเลือก เราก็ชี้ๆกันมาโดยไม่รู้ว่าคือน้ำอะไร  สรุปคือน้ำมะพร้าว หรือน้ำอะไรหวานๆ  ค่าเสียหายทั้งหมด 32 RM ทาน 3 คน
อิ่มแล้วก็เดินเล่นเก็บบรรยากาศ ก่อนจะไปเช็คเอาท์ 12.00 น. เดินท่ามกลางสายฝน ฝนหนักก็เดินเข้า museum ฝนเบาก็มาเดินข้างนอก ปรับตัวตามสภาพอากาศค่ะ ^^
12.00 น. เช็คเอาท์ แบกเป๋าเดินมาทางถนนด้านหลังซึ่งเป็นถนนคนเดิน Junker Walk หลายร้านเริ่มตั้งแล้ว คนเริ่มเยอะ ก็คล้ายๆถนนคนเดินที่เชียงใหม่แต่ไม่ยาวค่ะ เราโบกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ Melaka sentral เพื่อขึ้นรถบัสไปยังกัวลาลัมเปอร์ คราวนี้ตั๋วราคา 10 RM ถูกกว่าตอนมาจากสนามบิน แต่ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเท่าๆกัน  สภาพรถก็ดี ตรงเวลาดีมาก รถออก 13.00 น.
ประมาณ 15.00 น. ก็ถึง ที่นี่เปรียบได้กับหมอชิต แต่การจัดการดี สถานที่สะอาด และเป็นศูนย์รวมของรถทุกอย่างทั้งรถบัส รถเมล์ รถไฟฟ้า เราเดินมาขึ้นรถไฟฟ้า KTM เพื่อจะไปสถานี Putra เพื่อไปที่พัก
ขึ้นรถไฟฟ้า KTM เพื่อจะไปสถานี Putra
ที่พักของเราชื่อ Regalia residence มีทั้งส่วนที่เป็นโรงแรมและคอนโด เราจองในส่วนคอนโดผ่านแอพ airbnb ราคาคืนละ 1,400 บาท Host ของเราชื่อคุณ Nani ใจดีและไม่จู้จี้จุกจิก ให้ความเป็นส่วนตัว Host นัดเจอกับเราที่ lobby ใต้ตึก พาไปที่ห้อง อธิบายรายละเอียดของที่พัก แนะนำนู่นนี่โน่น ไม่นานก็ให้เราพักผ่อนกัน
บริเวณล๊อบบี้ชั้น4
มุมนั่งเล่นในห้องพัก
ห้องนอน วิวสามารถมองเห็นตึกแฝด
ภายในห้องน้ำ
มุมทำอาหาร ที่เราสามารถทำอาหารได้อย่างสะดวกสบายเพราะมีอุปกรณ์ครบ
สิ่งแรกที่ทำคือ ลงไป minimart ใต้ตึก ทำอะไรทานง่ายๆ เพราะอยากประหยัดเวลา กิจกรรมที่สำคัญรออยู่จ้า
ผัดหมี่ใส่ไข่ ใส่ไก่ ใส่ผักสามสี อร่อยอยู่นะ เอ๊ะหรือว่าพวกเราหิว
Swimming pool นี่แหละ ฟินสุดๆ เราเลือกพักที่นี่เพราะเหตุนี้ วิวดีมากค่ะ เห็น Petronas Twins Tower และ KL tower ซึ่งสระอยู่ชั้น 37
บรรยากาศยามค่ำคืน บริเวณสระว่ายน้ำชั้น 37
ขึ้นจากสระก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปหาของหม่ำที่ China Town ขึ้นรถไฟฟ้า ไปลงที่ Kuala lumpur station (เรานั่งสายที่มาจาก Putra station เลยลงที่สถานีนี้ แต่สถานีใกล้สุดต้องนั่งสายอื่นแล้วลงที่ Pasar Seni Station สถานีทั้งสองเชื่อมกันอยู่แล้วค่ะ)
เดินเล่น หาไรหม่ำ (สาวๆที่มาต้องระวังผู้ชายมาเลนะคะ เพราะจะมองและเดินมาใกล้ น่ากลัวค่ะ )
ชื่อสินค้า:   มะละกา , กัวลาลัมเปอร์ ,มาเลเซีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่