[CR] มือใหม่ตะลุยมาเลเซียคนเดียว ตอนที่1 (DMK-LCCT-Melaka)

(DMK-LCCT-Melaka-Kualalumper-Genting-Kualalumper-LCCT-HDY-BKK)
ถ้าเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกต้องหรือสะกดผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ตอนที่ 2
ตอนที่ 3


13/12/56 (DMK-LCCT-Melaka)

วันแรกของการเดินทางออกจากบ้านตอน 4.30น. ไปถึงสนามบิน 5.00น. เราก็เดินไปตรงที่กรอกแบบฟอร์มขาออกและขาเข้าประเทศ ปรากฏว่า ไม่มีแบบฟอร์มให้หยิบไปกรอกก็เลยถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าให้ไปเอาที่เคาน์เตอร์เช็คอินได้ทุกช่อง เราก็เดินไปเอามากรอกแบบฟอร์มให้เรียบร้อยเเล้วก็ผ่าน ต.ม. ไปด้านใน ซึ่งเราต้องใจว่าจะมาเอา แฮมเบอเกอร์ของ B-King ที่ร่วมกับ True card แต่หา B-King ไม่เจอก็เลยไปเอาขนมปังไส้กรอก+น้ำ1แก้ว ที่ DQ พอทานเสร็จก็เดินไปที่Gate ซึ่งวันนี้หวยไปออกที่ Gate 1 ซึ่งเป็นBus Gate ต้องนั่งรถแล้วเดินขึ้นเครื่อง เราก็แอบดีใจเล็กๆ เพราะจะได้ถ่ายรูปสะดวก ตอนที่นั่งรอGateเปิด ก็เห็น airasia จอดอยู่ตรงลานจอดฝั่งอนุสรณ์สถาน เราก็เข้าใจว่าเป็นลำนั้นแน่ๆ เพราะลำอื่นเข้าเทียบอาคารหมด แต่ปรากฏว่า ลำที่จะไปจอดอยู่ฝั่งคลังสินค้า จึงนั่งรถชมวิวภายในสนามบิน เห็นน้องใหม่ Lion air จอดอยู่2ลำ และพอลงจากรถบัสก็ถ่ายรูปเก็บไว้ เครื่องบินที่จะพาเราไป มาเลเซีย เป็นสายการบิน Thai air asia ทะเบียน HS-ABL ซึ่งขณะนั้นเวลา 07.40น.(เวลาไทย)เครื่องได้เวลาTake Off พาเราไปยัง สนามบิน LCCT ของมาเลเซีย ซึ่งเราได้นั่งแถว 9C ริมทางเดิน เราคิดในใจว่า คนข้างๆเราเขาคงไม่สั่งอาหารมายั่วเราแน่ๆ แต่ปรากฏว่า คนที่มานั่งข้างเราแถว 9A และ 9B (ชาวต่างชาติ) ได้สั่งอาหารล่วงหน้า ซึ่ง 9A สั่งข้าวผัดอะไรสักอย่าง ส่วน 9B สั่งข้าวแกงเขียวหวานไก่ กลิ่นมันยั่วได้ใจจริงๆ พอเราหันไปด้านหลังพบว่า แถว 10B ก็สั่งอาหารเช่นกัน และเวลา 07.46น. กัปตันพูดว่า ขณะนี้บินที่ความสูง 37,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล มีเมฆเป็นบางส่วน อากาศที่กัวลาลัมเปอร์ 26 องศา มีเฆมเป็นบางส่วน จะถึงสนามบิน LCCT เวลา 10.10น. (ตั้งแต่นี้ไปเป็นเวลามาเลเซีย) เมื่อถึง LCCT ก็เดินตามผู้โดยสารคนอื่นๆเพื่อไปยังต.ม. หลังจากผ่านต.ม. ก็หาซื้อซิม ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะซื้อของdigi แต่พาไปถึงหน้าร้านพนักงานขายนั่งหลับทั้ง2คน เราจึงเดินไปร้านข้าง ซึ่งเป็นของHotlink

ก็เห็นเขาว่ากันว่าก็โอเคอยู่ คนขายถามเราว่า มาอยู่กี่วัน เราก็บอกว่า 4 วัน เขาก็บอกว่า 20RM ใช้ netได้ 500MB social unlimited ยกเว้น App facebook แต่ facebook message ใช้ unlimited ได้ เเล้วมีเงินให้ 5 หรือ 7 Rm ไม่แน่ใจ พอซื้อซิมเสร็จก็ไปหาตั๋วเพื่อจะไป Melaka Sentral พอเดินออกมาก็เจอสตาร์บัค เดินตรงไปเรื่อยๆก็หาไม่เจอ เห็นพนักงานAirasia ภาคพิ้นดินเดินผ่านมาเราจึงถามว่า ซื้อตั๊วไปมะละกาได้ที่ไหน เข้าก็บอกว่า ด้านใน Domestic เลย เราก็เดินเข้าไปก็หาเจอที่ขายตั๋วรถไปMelaka Sentral แต่เขาติดป้ายว่าห้ามเข้าและก็มียามอยู่เราเลยไม่กล้าเข้าไป

เราก็เดินไปที่ขึ้นรถเห็นรถที่จะไปมะละกา กำลังเข้ามาจอด เราจึงถามคนขับว่า ไปมะละกาใช่ไหม เขาบอกว่าใช่ เเล้วเราถามว่าซื้อตั๋วได้ที่ไหน เขาบอกว่าด้านไหน เราบอกเขาว่า เข้าไปไม่ได้มันเขียนว่าห้ามเข้า เขาเลยยืนคิดสักพัก เขาถามเราว่า มากี่คน บอกว่ามาคนเดียว เราก็ลองถามกลับไปว่า ถ้าไปราคาเท่าไร เขาบอกว่า 34 RM ซึ่งเราคิดในใจว่า เราอ่านรีวิวมาเขาบอกค่ารถประมาณ 20กว่า RM เอง เราจึงบอกเขาว่า ขอบคุณ หลังจากได้ราคาที่แสนแพงมาเราจึงเดินย้อนกลับไปถามยามว่า ขอเขาไปซื้อตั๋วด้านในได้ไหม จะไปมะละกา ยามก็บอกว่า โอเค เราก็เลยเดินเข้าไป ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก เราก็ได้ตั๋วไปมะละกามาในราคา 24.3 RM ความคิดตอนนั้น คิดว่า ดีน่ะที่ไม่เชื่อคนขับนั้น ไม่งั้นโดนหลอกไป 10 RM



เราได้รถรอบ 11.30น. พอขึ้นไปบนรถ คนขับเดินตรวจตั๋ว เเล้วเห็นเราขึ้นมาพร้อมตั๋วมันทำหน้างงๆใส่เรา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ลืมบอกไปว่าเป็นรถของบริษัท Transnasional ที่นั่งก็สบายดี ด้านหน้ารถแบ่งเป็น 2-2 ส่วนด้านหลังแบ่งเป็น 1-1-1 เราได้นั่งด้านหลังริมหน้าต่างฝั่งคนขับ ซึ่งรถก็ออกตรงเวลาพอดี พอออกจากLCCTมาได้ประมาณ 10 นาที่ ด้านขวาจะเห็นสนามแข่งรถ (sepang-international-circuit)

และรถก็ขับไปเรื่อยๆบนถนน 2 เลน สลับกับ 4 เลน เวลา12.37น. เราก็วิ่งเข้าทางหลวงแล้ว แต่อากาศรู้สึกว่าจะไม่ใช่ 26 องศา ตามที่กัปตันบอกเเล้วมั้ง เพราะนั่งอยู่บนรถโดนแดดส่องยังแสบผิวเลย เส้นทางในมาเลเซียก็จะวิ่งไปตามเนินเขาต่างๆ พอเวลา 13.20น. ก็มาเจอด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง

เมื่อเลยด่านเก็บเงิน ก็เลี้ยวซ้ายวนอยู่บนสะพานเเล้วก็ไปเข้าถนนอีกสาย แต่สิ่งที่สังเกตได้ว่า ทางหลวงของมาเลเซียก็ไม่ค่อยมีไฟส่องถนนเช่นเดียวกับบ้านแต่เขาทีแผงกั้นขอบทางตลอดทางซึ่งบ้านเรายังไม่มีในจุดนี้

เวลา13.45น. ถึง Melaka Sentral พอลงจากรถเราก็เดินสำรวจก่อนเลยว่าพรุ่งนี้จะต้องซื้อตั๋วตรงไหนอย่างไร ก็เห็นว่ารถที่จะไปกัวลาลัมเปอร์ มีแต่รถที่ไป TBS ไม่มีรถไป KL Sentral เลย ก็เลยคิดว่าพรุ่งนี้ออกเช้าหน่อยรึกันได้มีเวลาต่อรถ รถที่จะเข้าตัวเมืองมะละกา จะจอดอยู่ฝั่ง Domestic ส่วนอีกฝั่งจะเป็นรถไปยังเมืองต่างๆ เวลา14.20น. ก็ขึ้นรถสาย 17 ไปลง Dutch Square ตั๋วราคา 1.5RM

เวลาซื้อตั๋วซื้อกับคนขับเท่านั้น และควรเตรียมเงินให้พอดีหรือไม่ก็ควรจ่ายด้วยแบงก์5RM ถ้าจ่ายแบงก์ 10 RM คนขับจะบ่นไปภาษาถิ่นให้ฟัง ซึ่งรถออกจาก Melaka Sentral เวลา 14.25น. และมาถึง Dutch Square เวลา 14.45น.

พอลงรถเราก็คิดว่าไปหาอะไรใส่ท้องก่อนดีกว่า เเล้วเอาของไปเก็บที่โรงแรม เเล้วค่อยออกมาถ่ายรูป ซึ่งเราได้ไปกินข้าวมันไก่ร้านด้านใน




ไก่เนื้อแน่นมาก แถมให้เยอะด้วย แต่น้ำจิ้มขอผ่าน เมืองไทยอร่อยกว่าเยอะ ซึ่งมื้อนี้ ข้าวมันไก่ 1 จาน + น้ำแข็ง 1 แก้ว + โค๊ก 1 กระป๋อง ราคา 4.5RM หลังจากหาของใส่ท้องเรียบร้อยก็เดินไปโรงแรมบาวชู เช็คอินเอาสัมภาระไปเก็บในห้อง ห้องไม่ค่อยสะอาดซักเท่าไรพอซุกหัวนอนได้ ให้ 2/5



พอเอาของไว้ในห้องเสร็จก็มานั่งคิดว่า จะออกไปเดินตอน 15.30หรือ 16.00 ดี ก็ตัดสินใจว่า ออกไปเลยดีกว่าเพราะเดียวกลับมามืด แต่ตอนออกไปแดดร้อนมาก เราก็เดินไปเรื่อยๆจนถึงป้ายยินดีต้อนรับสู่มะละกาและด้านข้างซ้ายมือก็จะเป็นโบสถ์เซนต์ฟรานซิส






ก็เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงหอนาฬิกาหรือDutch Square ก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยจนถึง พิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์ มีเรือจอดอยู่บนบกให้เราได้ถ่ายรูปกันและสามารถเข้าไปถ่ายรูปด้านไหนได้อต่เสียค่าเข้าชม 3 RM


เราก็เดินต่อมาเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็จะเจอ Menara Taming Sari หรือ หอคอยมะละกา สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้มันจะหมุนไป 360 องศา ค่าเข้าคนละ 20 RM


เราก็ยืนถ่ายรูปอยู่ด้านนอกสักพักแต่สู้แดดไม่ไหวจึงเดินตรงไปในห้าง Dataran Pahlawan ซึ่งถ้าเราเข้ามาด้านหน้าห้าง ฝั่งซ้ายของห้างก็จะเป็นพวกช็อปต่างๆอารมณ์คล้ายๆ เซ็นทรัลบ้านเรา ส่วนด้านขวาก็จะขายเสื้อผ้าอารมณ์ประมาณ โบ๊เบ๊บ้านเราเช่นกัน พอหายเหนื่อยเราก็เดินไปที่โบสถ์ ST Paul ซึ่งอยู่สูงพอสมควร




(หลังจากนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเนื่องจากแบตหมดครับ)

ถ้าไม่ได้เครียมตัวมาก็มีเหนื่อยได้เหมือนกัน ด้านบนอากาศดีมากมีการรวบรวมหินที่สลักตัวอักษรไว้มากมาย(ประมาณศิลาจารึกบ้านเรา)พอหายเหนื่อยเราก็ลงมาหาอะไรกินแถว ถนน Jonker Walk กะจะไปกินข้าวมันไก่อีกแล้วนึง แต่พอไปถึงเหมือนกับว่าเขากำลังเก็บร้านเเล้วเราจึงไม่ได้เข้าไป เลยตัดสินใจซื้อของฝากแถวๆนั้น ซึ่งถ้ายิ่งเดินเข้าไปด้านในของยิ่งถูก เมื่อเดินจนเมื่อยเเล้วก็กะว่าจะไปหาอะไรกินระหว่างทางกลับโรงแรม ซึ่งตอนนั้นเวลา 18.00 ก็เพิ่งมีคนมาตั้งร้านข้างถนน(ตอนที่เราซื้อของซื้อในห้องตึกแถว) ถามไปถามมาก็รู้ว่า ถนนเส้นนี้เขาขายของกันตอนดึกๆ เรามองนาฬิกามัน 18.00 เเล้วน่ะก็คงต้องมีร้านตั้งมากกว่านี้น่ะ แต่พอมองขึ้นท้องฟ้าเท่านั้นหล่ะอย่างกะ 16.00 บ้านเราเลย ฟ้ายังสว่างยังมีแดดอยู๋เลย ทำให้เราคิดว่าทำไมไม่ออกช้ากว่านี้น่ะได้ไม่ต้องลุยกับแดด หลังจากซื้อของเสร็จก็ผ่านร้านของหวาน เลยหาอะไรมาลองท้องคืนนี้ดีกว่า เลยสักอะไรไปก็ไม่รู้เห็นในรูปมันมีข้าวโพดกับลอดช่อง คงพอกินได้มั้ง พอเขาเสริฟดูสีเหมือนจะใส่อะไรมาเพิ่มด้วย เราเลยชิมน้ำก็รู้เลยว่ามันไม่ธรรมดาแน่ๆ กินไปสักพักกลิ่นใช่ รสชาติใช่ มันคือ ลอดช่อง +ซุปข้าวโพด+น้ำกะทิ เรากินไปได้ 3/4 ของถ้วยเนื่องจากเสียดาย หมดไป 1.7 RM แล้วก็เดินกลับมายังโรงแรม ลืมบอกไปว่า ที่ไปDataran Pahlawan เพื่อไปหาเจ้าตัว Deve แต่พอเห็นราคาเเล้ว ราคาก็พอๆกับเมืองไทยเลย ส่วนเสื้อผ้าราคาก็พอๆกับเมืองไทยเหมือนกัน แต่ไปเจอ Wii Mini ราคา 39 RM แต่ไม่รู้ว่าประกันอย่างไร แท้หรือปลอมเช่นใด เราเลยไม่กล้าเสี่ยง ตอนที่เขียนเวลา 19.31 นั่งเขียนที่ล็อบบี้ของโรงแรมเพราะบนห้องไม่มีไวไฟ  

สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก
ซิม Hotlink 20 RM
ตั๋วรถไปมะละกา 24.3 RM
น้ำ2ขวด 3 RM
ขนมปัง2ชิ้น 1 RM
ค่ารถเข้าเมืองมะละกา 1.5 RM
ข้าวมันไก่+โค๊ก 4.5 RM
ค่าของฝาก 19 RM
น้ำขวดใหญ่1ขวด 2 RM
ขนมหวาน 1.7 RM

รวมวันแรก 77 RM

ขอจบวันแรกไว้เท่านี้ รอติดตามวันที่ 2 ของการเดินทาง น่ะครับ
ชื่อสินค้า:   (DMK-LCCT-Melaka)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่