ระหว่าง ความฝันพ่อแม่ที่มั่นคง กับ ความฝันเราแต่ไม่มั่นคงจะเลือกอะไร

คิดหนัก เรื่องเลือกคณะ คณะที่พ่อแม่อยากให้เรียน จบมามีงานทำแน่นอน(งานที่บ้าน)  กับคณะที่เราชอบ แต่งานไม่ค่อยมั่นคง(ดูจากที่เขาเล่ามา) จบมาค่อนข้างเสี่ยง ไม่เก่งไม่รุ่ง ทำไงเราถึงจะมีกำลังใจไปตามความฝันเราต่อ หรือเราควรจะมองความเป็นจริง
ไม่ขอระบุ คณะ นะคะ กลัวจะมีการโต้แย้งเกี่ยวกับคณะนั้นอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
เรียนสิ่งที่อยากเรียนเถอะค่ะน้อง แล้วน้องจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังแบบพี่ พี่เสียเวลาเกือบ5ปีกับการที่พี่เรียนในคณะที่พ่อแม่อยากให้เรียน (คำใบ้: จบมามีงานทำ เงินเดือนดี แต่เวลาพักผ่อนไม่มี ต้องอยู่เวร) สุดท้าย พี่ทำมันได้ค่อนข้างแย่ และสุขภาพจิตเสียมากๆ วันนี้พี่กำลังจะออกจากสิ่งนั้นแล้วค่ะ ไปเริ่มต้นใหม่ในคณะที่อยากเรียนมาตลอด เป็นปี1ใหม่ พี่อยากจะบอกน้องว่า น้องจะเรียนอะไรก็ได้ ขอแค่น้องเป็นคนดีและมีความสามารถในสิ่งที่น้องทำ อนาคตที่ดีรอน้องอยู่แน่ๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
มันแล้วแต่มุมมองครับ
ผมเข้าใจ จขกทนะ เพราะ ผมก็เคยผ่านประสบการณ์แบบนั้นมา
ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆแล้วกัน

1. ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้ทำงานที่มั่นคง เพราะในวัยของพ่อแม่ เคยผ่านยุค 40 มา ยุคที่คนตกงาน คนที่ฆ่าตัวตายกันเป็นเบือ คนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน ยุคที่ฟองสบู่แตก การมีการงานที่มั่นคง ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดในตอนนั้น

การที่ จขกท ในวัยนี้ ไม่ต้องการความมั่นคงในชีวิต เพราะ จขกท อยากออกไปฝัน ไปผจญภัย ไปทำในสิ่งที่ชอบ
แต่ในวันที่ จขกท มีครอบครัว มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากๆ เช่น ลูก หรือ แฟน วันนั้น จขกท จะเริ่มมีความคิดอยากผจญภัยน้อยลง  ต้องการรับผิดชอบดูแลครอบครัวให้ได้  

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทำไม พ่อแม่ ผู้ใหญ่ยุคก่อนๆ ถึงมองโลกแบบนั้น มุมนั้น เพราะเขาผ่านความลำบาก ที่หนักหนามาแล้ว

2. ทำไมจขกท อยากเรียนตามสิ่งที่ชอบ ตามความฝัน ถึงแม้มันจะเสี่ยง แต่ก็ท้าทานและน่าลิ้มลอง
เพราะในวันนี้ จขกท อยู่ในยุคที่ทุกอย่างมันดีกว่าสมัยก่อนมากแล้ว  
จขกท รู้จัก BTS สะพานควาย BTS อารีย์ ในกรุงเทพหรือเปล่า(ไม่แน่ใจว่าเป็นคนกรุงเทพไหม)
ปัจจุบันวันนี้ มีBTS ผ่าน มีคอนโดหรู มีoffice ทำงานมากมาย
แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 50ปีที่แล้ว เชื่อไหม ว่าตรงนั้นคือทุ่งนา นั่นคือที่มาของสะพานควาย  เพราะเขาเอาควายข้ามสะพานไปกินหญ้าตรงนั้น


มันไม่ผิด ไม่ว่าจะเป็นใคร ทั้ง จขกท และพ่อแม่
1.โลกเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยน พ่อแม่อาจจะตามไม่ทันวัยรุ่น หรือ เราไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อแม่ห่วงและกังวลเพราะเราไม่เคยเจอ
2.อดีตคืออดีต แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก
3.มุมมองที่มองโลก มันต่างกัน ในวันที่เราเป็นเด็ก เราจะมองว่าโลกนี้สวยงาม น่าอยู่ น่าผจญภัย มีอะไรเรียนรู้อีกมากมาย
แต่ในวันที่เราโตขึ้น มีลูก มีครอบครัวต้องดูแล เราจะกลัว ระวัง ระแวง ใครจะมาหลอกลูกเราไหม ใครจะมาทำร้ายลูกเราไหม เราเชื่อใจคนๆนี้ได้หรือเปล่า


อยากให้ จขกท ใจเย็นๆ ทุกๆคนมีสิทธิ เสรี ในการเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง
ผมเชื่อว่าถ้า จขกท จะ ดันทุรัง ทำตามสิทธิเสรีที่อยากทำ พ่อแม่ก็ยินดี และถ้ามันสำเร็จผ่านไปได้ด้วยดี ก็เรียกว่า จขกท เก่ง และพ่อแม่ก็จะภูมิใจ
แต่ถ้ามันล้มเหลว ผมก็เชื่อว่าก็ยังมีพ่อแม่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างหลังเสมอ แม้ว่ามันจะไปไม่รอดก็ตาม

ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะให้ จขกท ไปทางไหน
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมบอกได้และมันเป็นจริงแน่นอน คือ กรรม เป็น ผล ของ การ กระ ทำ
สู้ๆครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่