คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
รัฐออกกฏหมาย เพื่อให้ Uber สามารถทำกิจการได้
แล้วตั้งองค์กร หรือลงทุนในบริษัทเอกชน เพื่อทำระบบคล้ายๆ Uber มาคุมแท็กซี่อีกต่อหนึ่ง
ตั้งระบบตรวจสอบก่อนวิ่งกันไปตามเรื่องตามราว ก็สิ้นเรื่องครับ
จะได้แก้ปัญหาหลายๆด้านไปได้ในตัว ทั้งปัญหาแท็กซี่เดิมๆ และปัญหาเรื่อง Uber
ส่วนเรื่องผลประโยชน์ ก็ให้ไปเคลียร์กันเอง ใครไม่เข้าระบบใหม่ก็ไม่ต้องวิ่ง
คนอื่นๆที่สอบผ่านตามข้อกำหนดของรัฐก็ควรได้สิทธิ์วิ่งด้วยเช่นกัน
------------------------------------------------------------------------------------------
ทำไมกฏหมายต้องล้าหลัง กฏหมายทันเวลาก็ได้ ทันท่วงทีก็ได้ มันอยู่ที่คนทั้งนั้น
กฏหมายต้องเอื้อให้
คนใช้บริการได้ความสะดวกปลอดภัย
คนขับได้ความปลอดภัยและเงิน
รัฐก็ต้องสามารถดูแลประชาชนได้ด้วยเช่นกัน
แล้วตั้งองค์กร หรือลงทุนในบริษัทเอกชน เพื่อทำระบบคล้ายๆ Uber มาคุมแท็กซี่อีกต่อหนึ่ง
ตั้งระบบตรวจสอบก่อนวิ่งกันไปตามเรื่องตามราว ก็สิ้นเรื่องครับ
จะได้แก้ปัญหาหลายๆด้านไปได้ในตัว ทั้งปัญหาแท็กซี่เดิมๆ และปัญหาเรื่อง Uber
ส่วนเรื่องผลประโยชน์ ก็ให้ไปเคลียร์กันเอง ใครไม่เข้าระบบใหม่ก็ไม่ต้องวิ่ง
คนอื่นๆที่สอบผ่านตามข้อกำหนดของรัฐก็ควรได้สิทธิ์วิ่งด้วยเช่นกัน
------------------------------------------------------------------------------------------
ทำไมกฏหมายต้องล้าหลัง กฏหมายทันเวลาก็ได้ ทันท่วงทีก็ได้ มันอยู่ที่คนทั้งนั้น
กฏหมายต้องเอื้อให้
คนใช้บริการได้ความสะดวกปลอดภัย
คนขับได้ความปลอดภัยและเงิน
รัฐก็ต้องสามารถดูแลประชาชนได้ด้วยเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
<VISION> ล่าแท็กซี่หื่น จะข่มขืนสาวพม่า เกิดแล้วเกิดอีกบทลงโทษน้อยไปหรือเปล่า
สาวพม่าจ้างไปส่งหาเพื่อน กลับจอดข้างทางบังคับจะข่มขืน เหยื่อฉวยจังหวะกัดอวัยวะเพศ แล้ววิ่งหนีไปเรียกแท็กซี่พลเมืองดีช่วยพาแจ้ง ตร.ก่อนหมดสติที่โรงพัก
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 1 เมษายน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวเมียนมา เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ศรีพงษ์ ลาพานิย รองสว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง ภายหลังถูกคนขับรถแท็กซี่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนขณะนั่งมาในรถ
พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รองผบก.อก.น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหมดสติไป จึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ จึงยังไม่ได้สอบปากคำอย่างละเอียด เบื้องต้นทราบเพียงว่าน.ส.เอ เรียกรถแท็กซี่จากซอยอุดมเกียรติเพื่อไปหาเพื่อนที่ย่านพัฒนาการ แต่แท็กซี่ขับไปจอดบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม. ตัดใหม่) จากนั้นได้ใช้กำลังบังคับจะข่มขืน น.ส.เอ แต่น.ส.อ้าย เป็นประจำเดือน คนร้ายจึงใช้มือกดหัวน.ส.เอ บังคับให้สำเร็จความใคร่ให้ทางปาก น.ส.เอ จึงฉวยโอกาสกัดอวัยวะเพศของคนร้ายแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกมาได้ จังหวะนั้นมีรถแท็กซี่อีกคันผ่านมาแล้วจอดให้ความช่วยเหลือ ขณะที่คนร้ายได้ขับรถแท็กซี่ของตนเองหลบหนีไปตามเส้นทางถนนพระราม 9 ขณะนี้ตำรวจกำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้อยู่
“โชคดีที่ผู้เสียหายมีไหวพริบที่ถ่ายบัตรประจำตัวคนขับไว้ได้ ซึ่งได้มอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัว ผู้เสียหายยืนยันว่าภาพบุคคลในบัตรและขับรถเป็นบุคคลเดียวกัน แต่รายละเอียดต้องรอให้ผู้เสียหายอาการดีขึ้นก่อนจึงสอบปากคำได้”พ.ต.อ.อาคม กล่าว
พ.ต.อ.อาคม กล่าวต่อว่า จากการสอบพยานที่ให้การช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ ให้การว่า ขณะขับแท็กซี่ไปตามถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม.ตัดใหม่) พบหญิงสาวคนดังกล่าววิ่งมาขอความช่วยเหลือ บอกให้รีบขับตามรถแท็กซี่คันก่อเหตุไป แต่แท็กซี่คันดังกล่าวขับรถหลบหนีไปด้วยความรวดเร็ว จึงไม่สามารถไล่ตามได้ทัน จึงพาหญิงสาวคนดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อตำรวจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้