วันนี้ ถ้าใครกำลังเหนื่อย ท้อใจ กับปัญหาชีวิตเรื่องงาน หรือความรัก ลองใช้เวลาอ่านเรื่องราวของยายน้อย และน้องสมาน เพราะ 1 นาทีต่อจากนี้อาจเปลี่ยนความคิดของคุณ
นึกภาพยายวัย 80 ที่ตาบอดทั้งสองข้าง...แค่เพียงความแก่ชรา ก็น่าจะทำให้ยายน้อยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้วแต่ยังต้องมาพิการตาบอดอีก เราคงนึกภาพความลำบากของคุณยายคนนี้ไม่ออกเลยทีเดียว
แย่ไปกว่านั้น คือลูกสาวของยายน้อยพาลูกมาฝากให้ดูแล หลานชายคนนี้ไม่มีโอกาสได้กินนมและอาหารบำรุงร่างกายเลยตั้งแต่เกิดมาเพราะยายกับตานั้นยากจน พออายุได้ 13 ขวบ ขนาดของร่างกายและพัฒนาการทางสมองจึงผิดปกติหรือที่เรียกว่า ดาวน์ซินโดรม
ในช่วงกลางวันคุณตาต้องออกไปรับจ้างเลี้ยงวัวข้างนอกปล่อยให้ยายน้อยดูแลหลาน หรือ น้องสมาน เพียงลำพัง ยายน้อยต้องช่วยเหลือทุกอย่างทั้งกินข้าว ใส่เสื้อผ้า อาบน้ำ เข้าห้องน้ำ ที่ขาของน้องสมานจะมีเชือกผูกไว้เพราะยายน้อยกลัวว่าการที่ตัวเองมองไม่เห็นจะไม่สามารถระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับหลานได้
แม้วันนี้ทางซีพีจะเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของยายน้อยและน้องสมานในโครงการ ซีพีเพื่อความยั่งยืน ปรับปรุงบ้านให้มีความสะดวกและสภาพความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นพาน้องสมานไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ได้ช่วยเหลือในเรื่องของเงินสงเคราะห์เช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องของยายน้อยและน้องสมานทำให้เราต้องกลับมาถามตัวเองว่าปัญหาที่เราเจอ เรื่องที่ทำให้คิดว่า เราคือคนที่โชคร้ายที่สุดนั้นมันเทียบได้กับความลำบาก ทุกข์ยาก ที่ยายน้อยและน้องสมานต้องเจอมาตลอดมั้ย
ทุกครั้งที่รู้สึกท้ออย่าลืมนึกถึงยายน้อยและน้องสมานนะคะ
ที่มา :
http://www.thairath.co.th/content/230332
1 นาทีต่อจากนี้ ยายน้อยและน้องสมาน อาจเปลี่ยนความคิดของคุณ
นึกภาพยายวัย 80 ที่ตาบอดทั้งสองข้าง...แค่เพียงความแก่ชรา ก็น่าจะทำให้ยายน้อยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้วแต่ยังต้องมาพิการตาบอดอีก เราคงนึกภาพความลำบากของคุณยายคนนี้ไม่ออกเลยทีเดียว
แย่ไปกว่านั้น คือลูกสาวของยายน้อยพาลูกมาฝากให้ดูแล หลานชายคนนี้ไม่มีโอกาสได้กินนมและอาหารบำรุงร่างกายเลยตั้งแต่เกิดมาเพราะยายกับตานั้นยากจน พออายุได้ 13 ขวบ ขนาดของร่างกายและพัฒนาการทางสมองจึงผิดปกติหรือที่เรียกว่า ดาวน์ซินโดรม
ในช่วงกลางวันคุณตาต้องออกไปรับจ้างเลี้ยงวัวข้างนอกปล่อยให้ยายน้อยดูแลหลาน หรือ น้องสมาน เพียงลำพัง ยายน้อยต้องช่วยเหลือทุกอย่างทั้งกินข้าว ใส่เสื้อผ้า อาบน้ำ เข้าห้องน้ำ ที่ขาของน้องสมานจะมีเชือกผูกไว้เพราะยายน้อยกลัวว่าการที่ตัวเองมองไม่เห็นจะไม่สามารถระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับหลานได้
แม้วันนี้ทางซีพีจะเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของยายน้อยและน้องสมานในโครงการ ซีพีเพื่อความยั่งยืน ปรับปรุงบ้านให้มีความสะดวกและสภาพความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นพาน้องสมานไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ได้ช่วยเหลือในเรื่องของเงินสงเคราะห์เช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องของยายน้อยและน้องสมานทำให้เราต้องกลับมาถามตัวเองว่าปัญหาที่เราเจอ เรื่องที่ทำให้คิดว่า เราคือคนที่โชคร้ายที่สุดนั้นมันเทียบได้กับความลำบาก ทุกข์ยาก ที่ยายน้อยและน้องสมานต้องเจอมาตลอดมั้ย
ทุกครั้งที่รู้สึกท้ออย่าลืมนึกถึงยายน้อยและน้องสมานนะคะ
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/230332