แชร์เทคนิคการชงกาแฟสำเร็จรูปขั้นสูง (Advance)

สวัสดีครับชาวกาแฟ
แม้หลายคนจะคลั่งไคล้กาแฟสดเป็นชีวิตจิตใจ แต่ด้วยความจำเป็นทางเศรษฐกิจ
หรือในการประชุมยามบ่ายอันสุดทานทน เราอาจต้องพึ่งกาแฟสำเร็จรูป
เชื่อหรือไม่ว่าการชงกาแฟสำเร็จรูปไม่ใช่ของง่าย บางคนชงแล้วมีรสเหมือนผงชอล์คละลายน้ำ
หรือมีกลิ่นกะทิจากคอฟฟี่เมต ผสมผสานกับกลิ่นขี้เลื่อยจากกาแฟราคาถูก
ผมขอเสนอสองแนวทางอันจะนำไปสู่กาแฟรสเทพ
โดยสมมุติฐานง่ายๆ คือกาแฟดีต้องร้อน ต้องมีการละลายจนไม่รู้สึกว่ากำลังกินชอล์ก ต้องมีฟองมากๆ
ฟองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อทำให้กาแฟร้อนนาน และเวลาสัมผัสลิ้นเกิดรสนุ่ม
แบบเปอร์เฟคท์
1. เริ่มตั้งแต่กาแฟต้องเก็บอย่างดี ไม่ให้อัดแน่นและชื้น เพราะมันจะทำให้ขมและเปรี้ยวหนักมาก
ดังนั้นกาแฟต้องเก็บโดยการคว่ำเอาปากขวดลงดังขวดซ้ายในภาพ
2.เตรียมอุปกรณ์คือแก้วสองใบ ตะเกียบหนึ่งอัน เตาไมโครเวฟ(ถ้าใช้นม) หรือน้ำร้อนถ้าใช้คอฟฟี่เมต
แต่วันนี้ผมเลือกใช้แลคตาซอย
3.อุ่นนมให้ร้อน หรือเทน้ำร้อน
4.ใส่กาแฟลงไปเท่าที่ต้องการ +-คอฟฟี่เมตและน้ำตาล
5.ชงด้วยตะเกียบประมาณ 100 ครั้ง โดยไม่ใช่ชงแบบทวนเข็มหรือตามเข็ม แต่ให้ชงเป็นสโตรคซ้ำที่เดิม
คล้ายๆเวลาตีไข่ จนขึ้นฟอง เคยมีเพื่อนในพันทิปถามว่าต้องเป็นตะเกียบหรือ ใช้ช้อนได้เปล่า ผมพยายามทำซ้ำดูทั้ง
สองแบบ พบว่าใช้ตะเกียบดีกว่า เพราะเราต้องชงด้วยความถี่สูงมากๆ ครู่เดียวก็ได้ร้อยครั้ง ถ้าใช้ของแบนๆ เช่นช้อนมันจะหกกระจาย
การชงแบบถูกต้อง
โปรดสับเกตฟองหลังชงด้วยตะเกียบเสร็จ
6.ชักแบบชาชัก โดยไม่ต้องอลังการแบบชาชัก เริ่มด้วยการเทจากแก้วหนึ่งไปอีกแก้วหนึ่งที่ระยะประมาณหนึ่งนิ้ว
จากนั้นยืดออกเป็น 6-10 นิ้ว ก่อนหมดแก้วให้รีบเอามาชนกันดังคลิ๊ก แล้วปาดกัน(ไม่อย่างนั้นมันจะหยดเยอะมากกก)
ชักจนเสียงของมันซอฟต์ (ผมเรียกว่าสุกแล้ว) ก็พอ

การชักคล้ายชาชัก
จะได้กาแฟที่มีฟองเยอะมากๆ ทำให้รสมันซอฟต์ ขจัดกลิ่นกะทิ กลิ่นถั่วเหลือง ที่มากับคอฟฟี่เมต กลิ่นขี้เลื่อยของกาแฟราคาถูก
เข้าใจว่ากลิ่นจะระเหยไปตอนตีฟองกับชัก และฟองจะช่วยกันไม่ให้กาแฟเย็นลงเร็ว เพราะมันจะป้องกันไม่ให้โมเลกุล
ที่ร้อนจัด ซึ่งมีความเร็วสูงวิ่งทะลุออกไปในอากาศ (หลักการคล้าย Laser cooling ที่ทำให้สตีเวน ไวน์เบิร์ก ได้รางวัลโนเบล)

ถามว่าตีฟองอย่างเดียวโดยตะเกียบ หรือชักเฉยๆได้ไหม มันต่างกันการตีด้วยตะเกียบเหมาะกับตอนที่ผงกาแฟยังละลายได้ไม่ดี
การชักจะช่วยให้ละลายได้ดีขึ้นจนไม่มีความรู้สึกเหมือนกินผงชอล์ค

ส่วนการชงแบบง่ายๆ เช่นเวลาคอฟฟีเบรคที่ไม่มีเวลามาก คือชงด้วยช้อนเล็กๆ หรือด้ามช้อนให้ได้ 100 ครั้ง โดยชง
ด้วยความถี่สูงมากๆ และไม่ใช่ชงแบบวน ถ้าเป็นถ้วยกาแฟกระดาษคุณสามารถชักได้(ดีด้วย) แต่ถ้วยกาแฟแบบก้นเตี้ยทำไม่ได้ครับ
หกกระจาย
หวังว่าคงได้ประโยชน์บ้างนะครับ
ขอแทกหว้ากอด้วย เพราะนักวิทยาศาสตร์คงต้องประชุมบ่อย กินกาแฟเยอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่