เราจะมาตั้งกระทู้การทำหน้าของเราเอง รักษาหน้ามาตั้งเเต่หน้าแพ้เเรก จนถึงปัจจุบัน ตัดสินใจหยุดการรักษาแล้ว เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ดีไปกว่านี้แน่นอน มิหนำซ้ำยิ่งแก้ยิ่งแย่ งานนี้เราโทษตัวเองล้วนๆ จ้า ไม่โทษใครเลย... เราจะท้าวความไปตั้งเเต่เราแพ้ครีมแรกๆ เลยนะจะได้เข้าใจง่ายๆ อันไหนดีเราจะเอ่ยชื่อคลีนิกค่ะ อันไหนแย่ขอไม่เอ่ยละกันเนาะ เราจะเรียงลำดับเป็นตอนที่เรารักษา จะพยายามทำให้เต็มที่ค่ะ เพราะเรื่องราวก็ 5-6 ปีมาแล้ว ด้วยความที่เราอยากเป็นแอร์ เรื่องผิวหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ สร้างบุคลิก และความมั่นใจในอาชีพที่เราต้องการ ตอนนี้มันดับลงไปแล้วค่ะ เราพยายามมากที่สุดแล้ว หมดเงินหลายแสนแล้วค่ะ ร้องห้ายยยยยยยย!!!
1.อันดับเเรกเลย เมื่อเราเข้า ปี 1 หน้าใส ไม่มีสิว ไร้ริ้วรอย มีรอยกระบางๆ เล็กๆ แต่งหน้าก็ปกปิดแล้ว (แต่เราไม่มีรูปตอนนี้ค่ะ มันนานมากๆจริงๆหาไม่เจอแล้ว) แต่ด้วยความที่ไม่พอใจ จนวันหนึ่งเป็นเพื่อนในเฟชบุ้คกับเพื่อนอีกคนเขาหน้าใสมาก ไม่มีอะไรเลย เขาใช้ครีมของเกาหลี หน้าใสมากกกกกกกกกกกก เลยสั่งกับเขามาใช้ สรุปเป็นสิวผด หน้าพังยับเยิน แหกกลับมา เห็นกระจกไม่ได้เครียดมาก เลยตัดสินใจไป รพ.ไปทำเลเซอร์
2. รพ.ที่เราเลเซอร์ เราก็ไปเลยขณะที่สิวผดยังมี ขอหมอทำเลเซอร์ชื่อ วีบีม (ด้วยความที่เราใจร้อนมากก ไปวันเว้นวันเลยทีเดียว) ไปหาหมอวันเว้นวันหมอก็ยิงให้วันเว้นวันตามต้อง การสรุปหน้าใหม้กลับมา เชรี้ยยยยยยยยย กว่าเดิมอีก ต้องหยุดพักหน้า ปวดหน้าแสบหน้าไปหมด ต้องไปคลีนิก เพื่อให้หมอเจาะเอาหนองอออก !!! อ่านไม่ผิดค่ะ มันคือหนอง ทุกคนลองนึกภาพตุ่มหนองที่มาบนหน้าเราเท่านิ้วมือ เจาะออกมีแต่เลือดกับหนอง อารมประมาณว่าเอาถ่านไฟร้อนๆ มาจี้บนหน้าแล้วเป็นหนองอักเสบอยู่ข้างในอ่ะ เจาะเเล้วบีบออกมาโอ้ยยยยยย เจ็บใจเว่อร์ พอค่ะ พักยาวๆ จากนั้นก็ไม่ใช้อะไรเลย เสียไปน่าจะครึ่งแสน ณ จุดนี้
----------- ทิ้งระยะห่างไปทั้งหมด 5 ปีแบบไม่ไปคลีนิกไหนเลย------------ มาปีที่แล้วช่วงเดือน พฤษภา 60 ค่ะ อันนี้จุดพีค จุดพังของชีวิต (ใครคิดจะทำหยุดทำก่อนชีวิตจะพัง)
3.เราเริ่มหาข้อมูล เพราะการเจาะหนองออก ทำให้หน้าเราเป็นหลุมลึก แต่งหน้าก็ไม่สวย ไม่เนียน รอยชัดเจนมาก ตามรูปเลย
เห็นมั๊ย ว่าเป็นหลุมชัดๆๆ มากๆๆๆ..... เราเลยหาข้อมูล จนไปเจอข้อมูลนึง ชื่อว่า การทำพังซ์พีท มันเป็นการวัดขนาดของหลุมหรือจุดบกพร่องที่เราต้องการแก้ไข แล้วเอาเนื้อหลังหูมาตัดแต่งให้เข้ากับขนาดหลุมของเราที่ต้องการแก้ไขค่ะ เราเลยเลือกทำวิธีนี้
รูปหลังทำ ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ
ทำเสร็จก็ปิดแผลมานอนพักใจที่ห้อง
สำเสร็จใช้เวลาไม่นานค่ะ น่าจะ ไม่เกิน ชม.ครึ่ง ก็จะมีรอยช้ำๆ จากการทำ หมอจะนัดมาดูแผลทุกวันค่ะเพื่อติดตามผลการรักษาค่ะ รอยดำๆ มันก็จะตกสะเก็ดค่ะ มันไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอดไป หลังตกสะเก็ดก็จะเป็นแบบนี้
แปะยาชาเพื่อเลเซอร์ค่ะ
สิ่งทีสำคัญคือการไปเลเซอร์ทุกเดือน เพื่อให้มันเสมอกันกับผิวปกติค่ะ แต่เลเซอร์เท่าไหร่มันก็ลงยากซะเหลือเกิน แต่ละทีครั้งละ 3,500 อิช้านจะเป็นลมตายโหงค่ะ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก นี่ทำไปก็ไม่รุ้จะหมดไปกี่แสน เคสนี้ก็ฟาดไปหลายบาทแล้วค่ะ ไม่ไหวค่ะ ทำไปสามครั้งหรือสี่ครั้งเองมั้งคะ ทำต่อไม่ไหวค่ะ
ข้อเสียอันนี้เยอะมากกค่ะ หมอแนะนำให้ไปทำรอบสองอีก เพื่อเก็บรายละเอียดที่เหลือจากรอบแรก เราไม่ทำค่ะ เพราะว่า
1.ทุกคนลองสังเกตดัๆ นะคะ รอยที่เราเติมเนื้อลงไปมันไม่เนียน ข้างๆ วงกลมมันจะมีกลมๆ รอบๆ ที่เนื้อมันไม่ติดเข้าหากัน ทำให้รอบข้างยังเป็นหลุมรอบๆ อยู่เหมือนเดิม แต่งหน้าก็ยังเห็นชัด เนื้อนูนๆ ขึ้นมานั่นก็อีกด้วย ตายค่ะ เครียด 100000 เท่าเลย ไหนจะรอยที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ อีก ไม่ไหวค่ะ เลยยอมแพ้ หาวิธีใหม่
2.เราไปหาหมอที่อื่นดู ล่าสุด (13/02/61) หมอที่อื่นก็หมดปัญญา เขาก็ซักประวัติ ทำอันนี้มาใช่ไหม หมอนี้ใช่ไหม ทีนี่ใช่ไหม เราก็แบบ เห้ย หมอรู้ได้ไงอ่ะคะ หมอแกบอกว่าก่อนทำเคยอ่านไหมว่าวิธีเนี้ย หลายคนมาหาหมอแล้ว ปกติหมอดีๆ เขาไม่ทำกัน โอ้ยยยยยยยย.... !!! เรียนจบก็สูง ทำไมไม่ศึกษาดีๆ ผลเสียเยอะมากๆ เหมือนโดนลากไปกระทืบแยกอโศกเลยค่ะตอนนั้น บอกว่า มันไม่มีทางหายแน่นอน ต้องทำใจเเละยอมรับมันซะ ทำไมหมอคนที่ทำไม่มีจรรยาบรรณเลย สุดท้ายผลมาตกที่คนไข้ ให้ความหวังต่างๆ นานา จริงๆค่ะ แกพูดให้ความหวังจริงๆ ต่างจาหมอคนล่าสุดที่เราไปหานี้แกบอกว่ารักษาไม่ได้ก็คือไม่ทำอ่ะ.... งื้อออออออออ หมดแล้วความหวัง
3.อันนี้คือภาพล่าสุด ถ่ายวันนี้ค่ะ แต่งหน้าให้ดูเลย รอยนูนจากเนื้อชัดเจน
**ไม่ขายครีมนะคะ ขนาดเลเซอร์ก็ยังเอาไม่อยู่
** ใครก็ได้พาไป let me in หน่อยค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา 555555555555
อย่าหลงผิดไปทำนะคะ แต่ถ้าใครจะเชื่ออะไรที่โฆษณาเกินความจริงก็ช่างจ้า เราเตือนแล้วเน้อ.... ใครอยากทำก็แล้วเเต่เวรแต่กรรมค่ะ เราหมดหวัง อนาคตดับล่ะค่ะกับการเป็นแอร์ ....
[CR] ตัดสินใจแก้หน้าพัง พังกว่าเดิม ความฝันก็พังด้วย
1.อันดับเเรกเลย เมื่อเราเข้า ปี 1 หน้าใส ไม่มีสิว ไร้ริ้วรอย มีรอยกระบางๆ เล็กๆ แต่งหน้าก็ปกปิดแล้ว (แต่เราไม่มีรูปตอนนี้ค่ะ มันนานมากๆจริงๆหาไม่เจอแล้ว) แต่ด้วยความที่ไม่พอใจ จนวันหนึ่งเป็นเพื่อนในเฟชบุ้คกับเพื่อนอีกคนเขาหน้าใสมาก ไม่มีอะไรเลย เขาใช้ครีมของเกาหลี หน้าใสมากกกกกกกกกกกก เลยสั่งกับเขามาใช้ สรุปเป็นสิวผด หน้าพังยับเยิน แหกกลับมา เห็นกระจกไม่ได้เครียดมาก เลยตัดสินใจไป รพ.ไปทำเลเซอร์
2. รพ.ที่เราเลเซอร์ เราก็ไปเลยขณะที่สิวผดยังมี ขอหมอทำเลเซอร์ชื่อ วีบีม (ด้วยความที่เราใจร้อนมากก ไปวันเว้นวันเลยทีเดียว) ไปหาหมอวันเว้นวันหมอก็ยิงให้วันเว้นวันตามต้อง การสรุปหน้าใหม้กลับมา เชรี้ยยยยยยยยย กว่าเดิมอีก ต้องหยุดพักหน้า ปวดหน้าแสบหน้าไปหมด ต้องไปคลีนิก เพื่อให้หมอเจาะเอาหนองอออก !!! อ่านไม่ผิดค่ะ มันคือหนอง ทุกคนลองนึกภาพตุ่มหนองที่มาบนหน้าเราเท่านิ้วมือ เจาะออกมีแต่เลือดกับหนอง อารมประมาณว่าเอาถ่านไฟร้อนๆ มาจี้บนหน้าแล้วเป็นหนองอักเสบอยู่ข้างในอ่ะ เจาะเเล้วบีบออกมาโอ้ยยยยยย เจ็บใจเว่อร์ พอค่ะ พักยาวๆ จากนั้นก็ไม่ใช้อะไรเลย เสียไปน่าจะครึ่งแสน ณ จุดนี้
----------- ทิ้งระยะห่างไปทั้งหมด 5 ปีแบบไม่ไปคลีนิกไหนเลย------------ มาปีที่แล้วช่วงเดือน พฤษภา 60 ค่ะ อันนี้จุดพีค จุดพังของชีวิต (ใครคิดจะทำหยุดทำก่อนชีวิตจะพัง)
3.เราเริ่มหาข้อมูล เพราะการเจาะหนองออก ทำให้หน้าเราเป็นหลุมลึก แต่งหน้าก็ไม่สวย ไม่เนียน รอยชัดเจนมาก ตามรูปเลย
เห็นมั๊ย ว่าเป็นหลุมชัดๆๆ มากๆๆๆ..... เราเลยหาข้อมูล จนไปเจอข้อมูลนึง ชื่อว่า การทำพังซ์พีท มันเป็นการวัดขนาดของหลุมหรือจุดบกพร่องที่เราต้องการแก้ไข แล้วเอาเนื้อหลังหูมาตัดแต่งให้เข้ากับขนาดหลุมของเราที่ต้องการแก้ไขค่ะ เราเลยเลือกทำวิธีนี้
รูปหลังทำ ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ
ทำเสร็จก็ปิดแผลมานอนพักใจที่ห้อง
สำเสร็จใช้เวลาไม่นานค่ะ น่าจะ ไม่เกิน ชม.ครึ่ง ก็จะมีรอยช้ำๆ จากการทำ หมอจะนัดมาดูแผลทุกวันค่ะเพื่อติดตามผลการรักษาค่ะ รอยดำๆ มันก็จะตกสะเก็ดค่ะ มันไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอดไป หลังตกสะเก็ดก็จะเป็นแบบนี้
แปะยาชาเพื่อเลเซอร์ค่ะ
สิ่งทีสำคัญคือการไปเลเซอร์ทุกเดือน เพื่อให้มันเสมอกันกับผิวปกติค่ะ แต่เลเซอร์เท่าไหร่มันก็ลงยากซะเหลือเกิน แต่ละทีครั้งละ 3,500 อิช้านจะเป็นลมตายโหงค่ะ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก นี่ทำไปก็ไม่รุ้จะหมดไปกี่แสน เคสนี้ก็ฟาดไปหลายบาทแล้วค่ะ ไม่ไหวค่ะ ทำไปสามครั้งหรือสี่ครั้งเองมั้งคะ ทำต่อไม่ไหวค่ะ
ข้อเสียอันนี้เยอะมากกค่ะ หมอแนะนำให้ไปทำรอบสองอีก เพื่อเก็บรายละเอียดที่เหลือจากรอบแรก เราไม่ทำค่ะ เพราะว่า
1.ทุกคนลองสังเกตดัๆ นะคะ รอยที่เราเติมเนื้อลงไปมันไม่เนียน ข้างๆ วงกลมมันจะมีกลมๆ รอบๆ ที่เนื้อมันไม่ติดเข้าหากัน ทำให้รอบข้างยังเป็นหลุมรอบๆ อยู่เหมือนเดิม แต่งหน้าก็ยังเห็นชัด เนื้อนูนๆ ขึ้นมานั่นก็อีกด้วย ตายค่ะ เครียด 100000 เท่าเลย ไหนจะรอยที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ อีก ไม่ไหวค่ะ เลยยอมแพ้ หาวิธีใหม่
2.เราไปหาหมอที่อื่นดู ล่าสุด (13/02/61) หมอที่อื่นก็หมดปัญญา เขาก็ซักประวัติ ทำอันนี้มาใช่ไหม หมอนี้ใช่ไหม ทีนี่ใช่ไหม เราก็แบบ เห้ย หมอรู้ได้ไงอ่ะคะ หมอแกบอกว่าก่อนทำเคยอ่านไหมว่าวิธีเนี้ย หลายคนมาหาหมอแล้ว ปกติหมอดีๆ เขาไม่ทำกัน โอ้ยยยยยยยย.... !!! เรียนจบก็สูง ทำไมไม่ศึกษาดีๆ ผลเสียเยอะมากๆ เหมือนโดนลากไปกระทืบแยกอโศกเลยค่ะตอนนั้น บอกว่า มันไม่มีทางหายแน่นอน ต้องทำใจเเละยอมรับมันซะ ทำไมหมอคนที่ทำไม่มีจรรยาบรรณเลย สุดท้ายผลมาตกที่คนไข้ ให้ความหวังต่างๆ นานา จริงๆค่ะ แกพูดให้ความหวังจริงๆ ต่างจาหมอคนล่าสุดที่เราไปหานี้แกบอกว่ารักษาไม่ได้ก็คือไม่ทำอ่ะ.... งื้อออออออออ หมดแล้วความหวัง
3.อันนี้คือภาพล่าสุด ถ่ายวันนี้ค่ะ แต่งหน้าให้ดูเลย รอยนูนจากเนื้อชัดเจน
**ไม่ขายครีมนะคะ ขนาดเลเซอร์ก็ยังเอาไม่อยู่
** ใครก็ได้พาไป let me in หน่อยค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา 555555555555
อย่าหลงผิดไปทำนะคะ แต่ถ้าใครจะเชื่ออะไรที่โฆษณาเกินความจริงก็ช่างจ้า เราเตือนแล้วเน้อ.... ใครอยากทำก็แล้วเเต่เวรแต่กรรมค่ะ เราหมดหวัง อนาคตดับล่ะค่ะกับการเป็นแอร์ ....