เมื่อ นาน น๊าน นาน นานที ที่ลูกจะวางมือจากเกม Minecraft แล้วบอกผมว่าอยากไปดู Disney on ice ผมก็ตัดสินใจอยู่นานกับค่าบัตรเข้าชม ราคาแพงสุดถ้าต้องซื้อทั้งบ้าน (พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว) ราคานี้สามารถพาไปเที่ยวต่างจังหวัดได้เลยนะนั่น!

แต่! เมื่อรับปากลูกแล้วก็ต้องพาไปครับ โชคดีที่มีการแสดงช่วงสิ้นเดือนพอดี (เงินเดือนออก) ผมเลยตัดสินใจซื้อบัตรโซน E ราคา 600 บาท x4 เพื่อพาครอบครัวไปดูครับ ผมเลือกรอบวันที่ 30 มี.ค. 14.30 น. ซึ่งเป็นรอบแรกสุดของการแสดงเลย

เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

วันที่ 30 มี.ค. ผมและภรรยาได้เตรียมตัวลางานเพื่อที่จะพาลูกไปเที่ยว ผมเป็นคนประเภทชอบอ่านรีวิวหาข้อมูลเตรียมความพร้อมก่อนจะไปเที่ยวไหน ไม่อยากไปเจอเซอร์ไพรส์อะไร

เท่าที่อ่านๆและหาข้อมูลมาผมเตรียมสิ่งเหล่านี้ไป
- เสื้อกันหนาวเพราะข้างในอากาศค่อนข้างเย็น
- กล้องส่องทางไกลเพราะผมซื้อบัตรยอดดอยคิดว่าคงต้องพึ่งอุปกรณ์ส่อง
- ขนมและเครื่องดื่ม

การเดินทาง

เท่าที่ผมทราบคือวันที่ 30 มี.ค. มีงานมอเตอร์โชว์ที่อิมแพคด้วย ผมจึงตัดสินใจไม่ขับรถไป และเรียก Uber แทนเพราะคิดว่ารถติดแน่ๆ (ขี้เกียจขับ) ซึ่งจริงๆมันก็มีรถโดยสารหลากหลายวิธีมากครับแต่ผมไม่อยากให้เด็กๆไปรบกวนคนอื่นจึงตัดสินใจเดินทางด้วยรถโดยสารที่ส่วนตัวนิดนึง ผมออกเดินทาง ประมาณ 11 โมงครึ่งกว่าๆ ไปถึงอิมแพคฮอล 1 เวลาประมาณ บ่ายโมง นิดๆ

บรรยากาศภายในงาน

เมื่อมาถึงอิมแพค ก็จะมีพวกป้ายบอกทางว่างานไหนอยู่ฮอลไหนไปทางไหนไม่ต้องกลัวหลงครับ แต่เอาจริงๆนะ เมื่อมาถึงคุณจะเจอ เอลซ่าน้อยจำนวนหลายคน ใช่ครับเหล่าเด็กน้อยทั้งหลายต่างใส่คอสตูมแต่งตัวจัดเต็มกันมากครับ เอลซ่านี่จะเยอะเป็นพิเศษ รองมาก็ อันนา สโนว์ไวท์ ประมาณนี้ครับ ซึ่งลูกสาวผมก็น้อยหน้าซะที่ไหนใส่เบลมาเต็มยศเลย

นั่นแค่ตรงทางเข้าแต่เมื่อเดินเข้ามาตรงโซนจัดงาน แล้วอย่างกับของทัพโคลนในเรื่องสตาร์วอร์เลยครับ เอลซ่า เอลซ่า เต็มไปหมดเลย ฮ่าๆ

ข้างในงานจะมีพวกบูธสปอนเซอร์ที่มีกิจกรรมให้เด็กๆทำและถ่ายรูป รวมไปถึงบูธขายของเล่นของที่ระลึกและขนมมากมาย


แก้วน้ำลายตัวการ์ตูนดิสนี่ย์ + น้ำแข็งใส ราคาแก้วละ 350 บาทไทยถ้วน (เอิ่มซื้อสองแก้วนี่ซื้อบัตรได้ใบนึงแล้วนะครับ ฮ่าๆ แต่เพื่อความสุขของลูก ไม่เป็นไรพ่อจัดให้) และก็มีพวกป๊อปคอร์น ขายด้วยครับ แก้วน้ำและป๊อปคอร์นนี้จะมีขายตามบูธและมีน้องๆ มาเดินขายผ่านไปผ่านมายั่วให้เด็กๆซื้อตลอดเวลาครับ



ของเล่นของที่ระลึก และกล้องส่องทางไกล (ฮ่าๆ ผมคิดในใจไม่ได้กินเงินผมหรอกผมเตรียมมาแล้ว) แต่ภรรยาบอกว่าซื้อให้ลูกคนละอันสิ อันที่เอามามันของผู้ใหญ่ไม่พอดีกับหน้าลูก เมื่อมีราชโองการมาดังนั้น ก็ต้องเปย์สิครับ 270 บาท x2


บูธถ่ายรูปคู่กับเอลซ่าแล้วปริ้นออกมา ราคา 250 บาท เฮือก! ดีนะลูกผมไม่ได้บ้าหรือชอบถ่ายรูปสักเท่าไหร่จึงไม่ได้มีโมเม้นเสียตังกับเอลซ่า และมีจุดถ่ายรูปฟรีกับแบ๊คดรอปหรือฉากต่างๆฟรีหลายจุดเหมือนกันครับ


นี่ก็จุดฝากของ มีกล้องมีไอแพดแทปเล็ทจอใหญ่ๆเอาเข้าไม่ได้นะคร้าบต้องฝากเอาไว้ที่ตรงนี้


บูธสปอนเซอร์สิงห์ ซื้อน้ำ 80 บาทไทยถ้วน ได้รับ แผ่นหยอดสี 1 ชุด ผมสำหรับผมโดนไป 80 บาท x2



คุณลุงฝรั่งคนนี้ร้องเพลงขายของอยู่ตลอดเวลาเท่าที่สอบถามมามันคือสมุดโปรแกรมโชว์ครั้งนี้ราคาเล่มละ 250 บาทไทยถ้วนครับ



เรื่องของกินไม่ต้องเป็นห่วงครับมีร้านฟาสฟู้ดตลอดแนว ห้องน้ำก็มีเยอะอยู่ใกล้ๆกับประตูทางเข้าครับไม่ต้องห่วงว่าเด็กๆจะต้องอั้นเอาไว้


*คำแนะนำ อย่าลืมสอนเด็กๆของเราให้ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางด้วยนะครับมีถังขยะอยู่ตลอดตามทางเดินครับ


ถึงเวลาเข้างานครับ พวกบัตรดอยสูงๆ ขึ้นบันไดข้างนอกนะครับ


บรรยากาศการแสดง

เนื้อเรื่องหลักคือพวก มิกกี้ มินนี่ กูฟฟี่และโดนัล เจอหีบสมบัติ ที่เป็นสิ่งของเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องต่างๆของดิสนี่ย์แล้วก็นำการ์ตูนแต่ละเรื่องมาเล่าใหม่ในรูปแบบของการโชว์บนลานน้ำแข็งครับ


เรื่องแรก เดอะไลอ้อนคิง เรื่องนี้เป็นการ์ตูนสมัยผมยังเด็กๆอยู่เลย ทั้งเด็กและพ่อแม่รุ่นผมนี่ดูกันเพลินมากเลยครับ ทีโบนกับพุมบ้าตลกและน่ารักมากครับ (ฮาคูนามาทาทา เพลงที่เราร้องกันตั้งแต่เด็ก)

เรื่องที่สอง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (ไฮโฮ ไฮโฮ) เป็นการเล่าเรื่องสโนว์ไวท์ให้จบได้ภายใน 10 - 15 นาที ฮ่าๆ กระชับดีครับ

เรื่องที่สาม อลาดินกับยักษ์ในตะเกียง ตอนจินนี่ออกมาจากตะเกียงเอฟเฟคกำลังดีเหมาะกับโชว์เด็กๆ แต่ วิ้วว้าว ใช้ได้เลยครับ ฉากก็สวยจัดเต็ม ที่สำคัญ เจ้าหญิงจัสมินขี้อ่อยมาก ฮ่าๆ

เรื่องที่สี่ นางเงือกน้อย มีชั้นบนมีชั้นล่าง (ตึ่งโป๊ะ) ใช่ครับเจ้าหญิงแอเรียลกับเจ้าปูเซบาสเตียนนั่นแหล่ะครับ แสงสี ทำสวยมากเหมือนอยู่ในโลกใต้น้ำแบบแฟนตาซีเลยครับ

เรื่องที่ห้าครับ ราพันเซล เรื่องนี้ มีการลอยโคมเหมือนในการ์ตูนด้วยครับ เอฟเฟคสวยดีครับ

เรื่องที่หก ทอยสตอรี่ กับคำพูดติดปาก (ติดของเล่น) ของบัซไลท์เยียร์ “สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนน” โชว์เต้นสนุกดีครับเป็นการเต้นแบบสนุกๆบนลานน้ำแข็งแปลกตาดีครับไม่เคยเห็น

เรื่องที่เจ็ด ไฟดิ้งดอรี่ เป็นการเล่าการ์ตูนเรื่องนี้ใหม่แบบกระชับๆ ไม่คิดว่าคนใส่คอสตูมปลาตลกๆแบบนั้นจะน่ารักและดูมีชีวิตขนาดนี้ครับ

เรื่องที่แปด ไฮไลท์ของโชว์ เลยครับ Let it go! ใช่ครับ Frozen นั่นเอง ตั้งแต่อันนาออกมาเด็กๆก็กรี๊ดกันดังมากเลยครับเหมือนพวกวัยรุ่นไปดูคอนเกาหลีประมาณนั้นเลยครับ โชว์นี้เล่าเรื่องตั้งแต่ตอนเปิดปราสาทอันนามาร้องเพลง เจอ เจ้าชาย ฮาน ยันจบเรื่องเลยครับ ยิ่งฉากที่เอลซ่าหนีไปอยู่บนภูเขาน้ำแข็งแล้วร้อง Let it go นี่ได้ยินเสียงเด็กๆกรี๊ดและร้องเพลงตามได้กันทั้งฮอลเลยครับ และขาดไม่ได้เจ้า โอลาฟ มนุษย์หิมะที่เด็กๆชื่นชอบ



(ฉากเอลซ่าเปลี่ยนชุดที่เด็กๆกรี๊ดกร๊าดกันทั้งฮอล)

สุดท้ายตัวละครทั้งหมดก็ออกมาเต้นรวมกัน ดูรวมๆแล้วสวยงามดีครับ

สรุปรีวิว
- บัตร 600 บาท ไม่แย่เลยครับ เป็นจุดที่กำลังดีเสียอีก ผมนั่งกัน โซน E ซึ่งเป็นมุมเฉียงๆ ของ ลานน้ำแข็งทำให้พวกเราเห็นภาพรวมของการแสดงทั้งหมดสามารถดูได้ครบทั้งโชว์ เช่น ฉากกระทิงที่วิ่งไล่กระทืบ พ่อซิมบ้า มองจากมุมบนสวยมากครับ และเรื่องดอรี่ผมว่าคนมุมล่างคงจะเห็นคอสตูมตลกๆแน่นอนแต่มุมบนตรงนี้ผมเห็นปลาว่ายน้ำอยู่บนลานน้ำแข็งจริงๆครับมันสวยมากจริงๆ กล้องส่องทางไกลที่เอามาและซื้อมานี่ไม่ได้ใช้เลยครับมันไม่ได้ไกลขนาดที่จะมองไม่เห็นครับ
- สำหรับคนที่ได้นั่งบัตรราคาแพงก็จะพิเศษตรงที่เด็กๆสามารถเดินไปจับมือพวกตัวละครตามขอบๆลานน้ำแข็งได้ ซึ่งพวกเหล่าตัวละครก็ทักทายเด็กๆ แวะเวียนมาแตะมือบ้าง ก็ตามราคาอ่ะครับ
- แสงสี ดีมากสวยงามเอฟเฟคสวย
- เสียง แรกๆมีแตกบ้างแต่พอมีการปรับแล้วค่อนข้างโอเคเลยครับผมก็เข้าใจแหล่ะว่าเค้าทำระบบเสียงมารองรับคนข้างล่างมากกว่า แต่ก็อย่างที่บอกครับว่าโอเคเลยไม่ได้แย่ครับ

ปล. สำหรับผู้ปกครองที่จะถ่ายรูปนะครับกรุณาขอร้องนะครับอย่าเปิดแฟลชเลยครับมันทำให้รบกวนนักแสดงและผู้ชมด้วยกันเองนะครับ