อันนี้ไม่ใช่การ รีวิวแต่อย่างใด เป็นการเพ้อเจ้อ+อวยซะมากกว่า
นี่ถือเป็นกระทู้แรกในบอร์ดพันทิปเลยนะ มึนนน มากกกก
อาจมีวิบัติบ้าง เป็นไปตามอารมณ์ค่ะ
แอบมีสปอยอีกต่างหาก อิอิ


The hobbit the desolation of smaug
เรื่องนี้ ได้ไปดูมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แล้วอ้ะนะ ว่าจะตั้งตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ไม่ตั้งสักที แหะๆ
จขกท เป็นแฟนหนังเซ็ตนี้ค่ะ รักมาก ไปดูมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ทั้ง 2 ภาคได้ไปดูในแบบ HFR 3D
ทั้ง 2 ภาค ซึ่งตอนที่ได้ไปดูภาคแรกนั้น หลงในภาพสวยๆมากกก ไม่เคยดูหนังภาพสวยขนาดนี้มาก่อน
(ไม่ได้เวอร์นะ) ดูๆแล้วเหมือนแบบ ทะลุเข้าไปอยู่ในนั้นเลยทีเดียวเชียว จนมาถึงภาคนี้จึงได้ไปดูระบบนี้อีก
ปรากฏว่า ภาพห่างจากภาคแรกพอตัวเลยนะ เนื่องจากว่า ภาคนี้ค่อนข้างหม่น ไม่เหมือนภาคแรก
ไปแต่ละที่มีแต่สถานที่สวยๆทั้งนั้น ภาคนี้ เน้นในเรื่องของฉากแอคชั่นมากกว่า ซึ่งสนุกกว่าภาคแรกจ้า
มันส์มาก มีฉากต่อสู้มาเรื่อยๆ ยิ่งช่วงท้ายๆตอนสู้กับมังกรแล้ว ลุ้นมาก  นอกจากนั้นตัวหนังยังมีความบันเทิงมาก
คือมีฉากฮาๆอยู่เยอะเลย มีหลายๆฉากที่คนในโรงนั่งขำ ไปดูกับเพื่อน เพื่อนขำค้างเลยจ้า (อะไรจะปานนั้น)
ตอนจบของเรื่องนี้เป็นอะไรที่แบบ คนในโรง คนข้างๆรวมถึง จขกท ร้อง อ้าวเป็นเสียงเดียวกัน
ก็แบบ เอิ่ม...



ในส่วนของตัวละคร ที่สนใจ
-เจ๊ธอเรียลเด่นมากให้ตายเหอะ ถามตาผู้กำกับยังเซอร์วิสรักหวานแหวว กับ คิลี ให้อีก
เหมือนกับรังแกคนดู ให้คนดูช้ำใจตาย เพราะหลายๆคนน่าจะรู้กันอยู่ว่าตอนจบเป็นเยี่ยงไร
เตรียมน้ำตาแตกจ้า ชอบเจ๊ตรงผมสวยมากอ้ะ 55+
-เหล่าคนแคระก็ยังน่ารักเหมือนเดิม โดยเฉพาะ คิลี กี๊สสส ภาคนี้เด่นเวอร์ ไม่นึกว่าบทจะเยอะขนาดนี้
ปิ๊งมาตั้งแต่ภาคแรกละ แบบ นี่หรือคือคนแคระ 55+
-เลโกลัส ฮามาก เรื่องนี้เกิดก่อน LOTR 60 ปี แต่เลโกลัสหน้าเหี่ยวกว่า LOTR 555+
ดูแล้วขำ
-เด็จพ่อ คนนี้แบบ นางจะสวยเริ่ดเชิ่ดไปใหน สุดยอดค่ะ เอาไปเต็ม 10
-มังกรสสม็อก อินี่น่าหมั่นไส้มาก ดูๆไปแล้วแบบ เพลียประมาณว่า หร่อนจะอวดสรรพคุณตัวเองอีกนานแม๊ะ
ขี้โม้เวอร์ บ้าทองสุดๆ ชอบตอนที่ มันมองรูปปั้นทองๆใหญ่ๆ ตาวาวเชียว ชุบทองน่ากินมาก 55
-บิลโบ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ทั้งๆที่เป็นพระเอก แต่ภาคแรกไม่ได้สนใจอะไรมาก
แต่ภาคนี้รักมากค่ะ คือ มาร์ตินเขาเล่นได้น่ารักมาก ตลกเวลาใช้ความคิด หรือ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร
ก็น่ารักทั้งนั้น ><  ภาคนี้เป็นภาคที่เขาได้โชว์ความน่ารัก ความฉลาดออกมาเต็มเลย ดูๆไปแล้วเหมือน
คนแคระโง่เลยอ้ะ 55+



คะแนน 10000000000000/10 (หลบตรีน)


Frozen
เรื่องนี้ตอนแรกๆก็ไม่ได้อยากดูไรมากหรอก แต่คนอวยเวอร์ 55+ แล้วเพื่อนก็อยากดูมาก
เลยไปดู
เรื่องนี้เหมือนกลับไปสู่ยุคเจ้าหญิงดิสนีย์เก่าๆ มีร้องเพลงเยอะมากกกกกก ถ้าเทียบกับ ดิสนีย์ใหม่ๆ
อย่าราพันเซลก็ร้องเพลงนิดเดียวเอง เป็นอะไรที่สนุก และ ภาพสวยมาก เสียดายไม่ได้ดู 3D
เพราะว่า เพิ่งไปดูมาเอง 3D มันหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ในเมือง ไม่ไหวนะ
ที่ได้ไปดูนี่เป็นภาษาไทยเนอะ ตอนแรกก็กะจะไปดูซาวแทรก แต่ก็ตามนั้นไปดูที่หลัง มันไม่มีแล้ว -..-
แต่ปรากฏว่าคิดถูกมากกก โชคดีมากที่ได้ไปดูภาษาไทย ชอบเพลง let it go ภาษาไทยที่สุดละ
ก่อนที่จะไปดูหนัง ได้ไปเปิด let it go แบบภาษาอังกฤษมาแล้ว เป็นแบบในการ์ตูน แล้ว ก็แบบที่เดมี่ร้อง
ปรากฏว่าชอบ ภาษาไทยสุด เพราะ ชอบน้ำเสียงหนักแน่นดุดันมากมันเข้ากับฉากๆนั้นมากค่ะ
โหย ตอนสร้างปราสาทน้ำแข็งแบบ ขนลุกเวอร์ +กับน้ำเสียงที่มีพลัง ยิ่งตอนกระทืบพื้นนะ แบบ
กรี๊ดดดดดดดดดดดด อะไรจะปานนั้น เรื่องนี้มีหลายฉากมากที่ทำให้ขนลุก ฉากร้องเพลงอีกฉากที่ชอบคือ
ตอนนางเอกทั้ง 2 ร้องด้วยกันน่ะแหละค่ะ

หนังมีจุดหักมุมเล็กๆในตอนท้าย ตอนส่วนตัวชอบฉากที่อันนา เดินลุยหิมะ จะไปหาพระเอกมากจ้า
แลดูแบบน่าสงสาร ขนลุก และดูมีพลัง แต่ในที่สุดแล้ว อันนาก็เลือกที่จะไปช่วยพี่ ยอมที่จะสละชีวิตตัวเอง
ฉากนั้น จขกท น้ำตาเล็ดเลยค่า ตอนที่วิ่งเข้าไปแล้วกลายเป็นน้ำแข็ง ฉากนั้นแบบ ยังติดตา มันสุดยอดจริงๆ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีหลายอารม ครบรสมาก  สนุก ฮา เศร้า เหงา ขนลุก

เรื่องนี้เหมือนกับว่า ดิสนีย์จิกกัด เจ้าหญิงดิสนีย์รุ่นเก่าๆ ประมาณว่า คบคนที่เพิ่งได้เจอเพียงแค่วันเดียว
นี่มันเจ้าหญิงรุ่นเก่าๆทั้งนั้น  เอาจริงๆมันก็เป็นไปตามยุคสมัยด้วยแหละค่ะ ปัจจุบัน ผู้หญิงมีสิทธิเลือก
มีสิทธิในอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น มีบทบาทในความรัก ครอบครัวมากขึ้น มันก็สมควรจะเป็นเช่นนี้แล



ตัวละคร
เจ้าหญิงเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องเก่าๆพอตัวเลยนะ
อันนา-เจ้าหญิงจอมแก่น แสบ ป่วนฮา จริงๆก็ไม่ได้แปลกอะไรเท่าไร เพราะมีมาแล้วกับ ราพันเซล
แต่ชอบมากเจ้าหญิงแบบนี้ ไม่ต้องสวยเริ่ดตลอดเวลา มีความเป็นธรรมชาติ
เอลซ่า-นี่แหละเจ้าหญิงที่แตกต่าง อย่างแท้จริง นางเป็นเจ้าหญิงที่ลุคนางแบบ ดีว่าจัดมาก
สวย เริ่ด เชิ่ด เดินเชิ่ดหน้าเชิ่ดตา กรี๊ดด มีความเป็นผู้ใหญ่สูง