สวัสดีครับเพื่อนๆนักเดินทางชาวพันทริปทุกๆคน ห่างหายไปนานเเสนนานกับการรีวิวเเหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย  วันนี้ผมจะมานำเสนอ.. . การเดินทางเเบกเป้เที่ยวคนเดียวสดๆร้อนๆของวันนี้เลย นั่งรถไฟจากอำเภอหาดใหญ่ไปเที่ยวจังหวัดปัตตานีกัน เเบบ 2 วัน 1 คืนครับผม.. พร้อมกันรึยังครับ ถ้าพร้อมเเล้วไปกันเลยคร๊าบบ บ.. Let's go เริ่มกันที่สถานีรถไฟอำเภอหาดใหญ่ครับ..
  ผมเลือกเวลาการเดินทางขบวนรถไฟที่ 451 (รถท้องถิ่น *ฟรี) รอบ 10.18 น. จะไปถึงสถานีวัดช้างไห้ (จ. ปัตตานี) เวลา 11.59 น. จริงๆ ตอนขาออกรถไฟก็เรตไปหลายนาทีนะครับ เเต่ก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรเท่าไหร่ ก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเขี่ยๆหน้าจอไปมา ถ่ายรูปบ้างอะไรบ้างตามประสาคนเดินทางคนเดียวอย่างผม 555 ผมเลือกขึ้นไปนั่งโบกี้อันสุดท้ายหลังสุด..
  
คืออะไร ? เงียบ ที่นั่งว่างเปล่า คนผู้โดยสารไปไหนกันหมดด ด!!!  จนรถไฟเริ่มเดินขบวนออกจากสถานีอำเภอหาดใหญ่ เพียงไม่นานนักผมก็มาถึงที่สถานีวัดช้างไห้ (จังหวัดปัตตานี) มีผู้โดยสารที่นั่งโบกี้หลังสุดกับผมเพียงเเค่ 2 คน กับ ทหาร 4 นาย จะเงียบเกินไปเปล่านะ  วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมาชมความสวยงามเเละสักการะบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้  เหยียบน้ำทะเลจืดกันก่อนครับ
          
หลังจากสักการะหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ เหยียบน้ำทะเลจืด เดินชมความสวยงาม ถ่ายรูปของวัดช้างไห้กันเสร็จเรียบร้อย ก็ออกมาหาซื้อข้าวน้ำขนมหรือของฝากก็มีนะครับ เสร็จศัพท์เรียบร้อยก็สอบถามชาวบ้านเเถวนั้นว่า ที่นี่พอจะมีรถสองเเถวหรือวินมอร์ไซค์ไปลงที่นาประดู่มั้ยครับ เพื่อที่จะต่อรถสองเเถวเข้าไปในตัวเมืองของจังหวัดปัตตานี ก็ได้คำเเนะนำจากพี่ๆเเม่ค้าเเถวนั้นว่า.. . จะต้องรอขึ้นรถไฟขบวนเที่ยวสุดท้าย ประมาณ 15.00 น. ไปลงที่สถานีปัตตานี (โคกโพธิ์) ผมดูกะคำนวนเวลาเเล้วอาจจะต้องรอขบวนรถไฟรอบ 15.00 น. นานหลายนาทีเเน่ๆ ตอนนั้นผมก็ดูเวลานาฬิกา ก็ประมาณ 14.05 นาที เอาไงดีล่ะ ในใจก็อยากจะไปถึงตัวเมืองปัตตานีเเบบไม่เย็นจนเกินไป เพราะผมเองก็ยังไม่ได้หาที่พักเลยครับ 555 จนพี่เเม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่หน้าวัดช้างไห้เเนะนำบอกผมว่าให้ไปลองสอบถามร้านเเม่ค้าที่ขายกล้วยเเขกมีอยู่ร้านเดียว เขามีรถมอร์ไซค์รับส่งอยู่นะ  ว่าเเล้วก็ไม่รอช้า จัดไป สอบถามร้านค้าขายกล้วยเเขกตามที่เเม่ค้าลอตเตอรี่เเนะนำมาให้ ก็มีน้าผู้ชายขับรถมอร์ไซค์ไปส่งตรงที่จุดจะขึ้นรถสองเเถวนาประดู่ ระยะทางก็ประมาณ 3 กิโลเมตร น้าเขาคิดผม 30 บาท  ผมก็ยืนรอรถสองเเถวที่นาประดู่ รถคันสีเขียวๆ (*เขียนว่าไป ปัตตานี) ยืนรออยู่ 10 กว่านาที รถสองเเถวก็มา ก็บอกคนขับว่าลงที่ หน้ามัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ครับ ค่าโดยสาร 40 บาท นั่งมาไกลใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย เกือบๆ 1 ช.ม. เเละเเล้วผมก็มาถึงเเล้วครับ..
  
มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ผมเคยเห็นเเต่ในภาพ ในรูปถ่าย ได้มาเห็นกับตาตัวเองของจริงสวยงดงามมากๆเลยครับ..
  ผมถ่ายรูปเดินดูมัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี อยู่พักก็ลืมไป นึกได้ว่ายังไม่ได้หาที่พักเลย ไม่ได้ๆ นี่ก็เย็นเเล้ว ก็เลยเดินสอบถามชาวบ้านร้านค้าเเถวนั้นว่าเเถวนี้พอจะมีที่พักบ้างมั้ยครับ ก็เเนะนำกันมา ชื่อโรงเเรม '' ศานติสุข '' อยู่ไม่ไกลนักจากมัสยิดกลางประจำจังหวัดฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร กว่าๆ ผมก็เดินหาสิครับ ก็เจอโรงเเรมที่ว่า ก็โอเคครับ ราคาที่พัก มีตั้งเเต่ราคา 170 บาท (พัดลม) ไปจนถึง 400 บาท (เเอร์) ครับสะดวก สะอาด มีความปลอดภัยนะผมว่า อยู่ใกล้ๆกับตลาดโต้รุ่งเลยครับ เช็กอินที่พัก อาบน้ำเสร็จศัพท์ก็ออกมาเดินเล่นชมวิว ถ่ายรูป เดินมั่วๆ ซอยนี้ทะลุซอยโน้น..
  
หอนาฬิกาประจำอำเภอเมืองปัตตานีครับ ก็จะอยู่ใกล้ๆกับศาลหลักเมืองประจำจังหวัดปัตตานีเลยครับ..
  ถัดมานี่ก็จะเป็นปืนใหญ่จำลองประจำจังหวัดปัตตานี ปืนใหญ่ลังกาสุกะ ปัตตานี เอฟซี..
เดินต่อไปเรื่อยๆไปศาลเจ้าเเม่ลิ้มกอเหนี่ยวกัน ถามๆทางดูป้ายเอาตามถนน ก็ไม่ไกลครับ..
    จากนั้นผมก็เดินวกกลับมายังที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานีอีกครั้ง เผื่อมาดูเก็บภาพบรรยากาศตอนมืดค่ำจะสวยเเบบไหนกันนะ..
    สวยงามมากๆ กลางวันก็สวยไปอีกเเบบนึง กลางคืนก็สวยงามไปอีกเเบบนึง ผมเดินเล่นอยู่คนเดียวตอนกลางคืนที่ในตัวเมืองปัตตานี ผมว่า ในตัวเมืองปัตตานี คึกคักมากๆเลยนะครับ รถลาวิ่งสัญจร ผู้คน ตลาดนัด ตลาดสด ตลาดเทศบาล เปิดร้านขายของกันคึกคักมากๆเลยทีเดียว เเต่ก็จะมีตำรวจ ทหาร ค่อยตรวจดู ยืนสังเกตุการณ์รักษาความปลอดภัยเวรยามตลอดทั้งคืนกันเลยทีเดียว ได้เวลา หลับพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าตื่นมาเเต่หัวรุ่งจะพาเพื่อนๆไปชมตลาดปลาสดๆ ที่สะพานปลา จังหวัดปัตตานีกันครับ..
  ตื่นๆ กันครับเพื่อนๆ อาบน้ำเตรียมตัวไปดูตลาดปลาที่สะพานปลากันครับ ผมตื่นเเต่ตี 05.30 น. เสร็จศัพท์ หาวินมอร์ไซค์เเถวหน้าที่พักไปสะพานปลากันครับ จากจุดนี้อยู่ไกลออกไปประมาณ 5 - 6 กิโลเมตรได้ครับ ว่าเเล้วก็มีพี่วินฯ ถาม น้องชายจะไปไหน ให้พี่ไปส่งมั้ย ? ไปสะพานปลาครับพี่ จัดไป! เเว้นๆ
    ดูขยันขันเเข็งคึกคักกันเลยทีเดียว ก็ วันนี้ 31 มีนาคม สิ้นเดือน เงินเดือนออก อิอิ  ปลาที่ชาวประมงออกเรือหามาได้นี่เเบบว่าอย่างเยอะมากกก ก ก หลากหลายชนิด..
      
เเล้วก็เจอเรือกอเเละจอดอยู่ด้วยครับ ลวดลายสวยงามจริงๆ..
  ค่าวินมอร์ไซค์ ไป - กลับ สะพานปลา 100 บาท + ให้พี่วินฯพาไปส่งที่ร้านข้าวในมื้อเช้าร้านที่พี่วินฯเเนะนำมา หลังจากนั้นผมก็เช็กเอาท์ที่พัก เตรียมนั่งรถสองเเถวไปที่มัสยิดกรือเซะกันต่อครับ.. ก็สอบถามผู้คนเเถวๆนั้นเอาว่าถ้าผมจะไปมัสยิดกรือเซะ ไปยังไงได้บ้างครับ  ก็ได้คำเเนะนำว่า ให้เดินไปขึ้นรถสองเเถว ปัตตานี - สายบุรี  ก็อยู่ไม่ไกลครับ เดินไปมั่วๆ จากที่พัก (โรงเเรมศานติสุข) เเป๊บเดียวก็ถึงคิวรถสองเเถว ปัตตานี - สายบุรี  (คันสีเขียว ผ่าน มัสยิดกรือเซะ) 10 บาท นั่งมาไม่ไกลนักก็ถึงเเล้วครับ..
      ที่มัสยิดกรือเซะ บรรยากาศเงียบเหงามากๆ เเถมฝนก็ยังมาตกในวันนี้ตอนเช้าๆอีก เจอน้องเเมวนั่งเฝ้าประตูที่หน้ามัสยิดด้วยนะ..
    หลังจากฝนหยุดตกเเล้ว เก็บภาพของมัสยิดกรือเซะไว้เป็นที่ระลึกกันเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ผมก็ยืนรถรอรถสองเเถว ปัตตานี - สายบุรี ที่หน้ามัสยิดเหมือนเดิม ยืนรอควักเรียกรถสองเเถวผ่านมา ยืนรออยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง รถก็มาถึง โบกๆ สิครับ โบกๆ  จอดๆพี่ เอี๊ยดด ด!!!  จะไปไหนครับ ? เสียงผ่านลอดช่องกระจกของคนขับรถสองเเถว  ผมจะไปที่หอนาฬิกาสายบุรี ครับพี่  ขึ้นรถเลย.. Go Go Go..
  
ถึงเเล้ววว ว ว.. อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี  อันนี้คือหอนาฬิกาประจำเทศบาลตะลุบัน ครับ ตั้งสง่าเป็นเอกลักณ์เลย.. เเละอันนี้ก็จะเป็นวังพิพิธภักดีก็จะอยู่ตรงข้ามกับหอนาฬิกาเลยครับ..
เเวะหาอะไรกินรองท้องกันหน่อย..
  มาเที่ยวจังหวัดปัตตานีไม่มากินโรตีถือว่าพลาดมากๆๆนะครับ เอิ๊กๆ
  ไข่กะทะ + โกโกบานาน่า..
  กินอิ่มหนำสำราญเช็กอินในเฟสบุ๊คยั่วน้ำลายเพื่อนๆเสร็จ ก็ลุยกันต่อ  เออออ อ อ.. ใช่ มาเที่ยวปัตตานีทั้งที ยังไม่ได้เห็นทะเลปัตตานีเลย จะสวยงามขนาดไหน ต้องมาๆ สอบถามผู้คนเเถวนั้นก็ได้ความมาว่า เเถวนี้มีทะเลชายหาดอยู๋ไม่ไกลนัก ประมาณ 3 - 4 กิโลเมตร ว่าเเล้วผมก็ไม่รอช้า มีรถโชเล่ (รถมอร์ไซค์พ่วงข้าง) นำพาไป - กลับ 60 บาท อยากกลับตอนไหนก็ ขอเบอร์โทรฯพี่วินฯไว้ ให้เขามารับได้ครับผม เอาลุยยย ย ย ทะเล ทะเล ทะเล..

  
เชรดด ด ด!!! คือเเบบว่า ชายหาดโอเคเลยนะผมว่า นึกว่ามาเที่ยวประเทศเวียดนามใต้ (ทะเลทรายมุยเน่) ยังไงยังนั้นเลย เเดดร้อนใช้ได้เลยครับบรรยากาศเงียบสงบดี มีนักเลงเจ้าถิ่นเยอะอยู่พอสมควร (น้องเเพะ น้องเเกะ) ส่งเสียงร้องทักทาย ตอนเเรกๆ ผมลงจากรถโชเล่เดินๆอยู่ก็นึกว่าใครเรียกใครทักเรา หันไปก็ไม่มีใคร จะมีก็เเต่น้องเเพะ น้องเเกะ นี่เเหละที่ส่งเสียงร้องทักทายกันเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันดูเงียบสงบจนเกินไป 555 เเบะๆๆๆ
      
นี่ถ้าน้องเเกะตัวใหญ่กว่านี้ สัก 3 - 4 เท่า ผมจะนึกว่าอูฐ หรือไม่ก็ลามะ หรืออาจจะคล้ายๆ อัลปาก้า ก็เป็นไปได้.. คิคิ
        
เดินๆนั่งๆถ่ายรูปเก็บวิวซึมซับบรรยากาศ นั่งพูดคุยกับน้องเเพะ น้องเเกะ กันเเบบรู้เรื่องกันอยู่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มีอันต้องโทรเรียกลุงที่ขับรถโชเล่มารับที่จุดเดิมไปยังที่คิวรถสองเเถว ที่เเถวหอนาฬิกา เพื่อที่จะนั่งรถสองเเถวไปส่งที่ สถานีขนส่งปัตตานี กลับรถตู้หาดใหญ่  จบทริป เเบกเป้นั่งรถไฟเที่ยวคนเดียว 2 วัน 1 คืน ไว้เเต่เพียงเท่านี้ สำหรับวันนี้สวัสดีเเละขอบคุณครับที่ติดตามรับชมขาดเหลือรายละเอียดข้อมูลสถานที่ที่สำคัญไม่ค่อยมีรายละเอียดไม่ครบถ้วนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ..