ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะก่อเหตุตามโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ชักชวนสาวกปองร้ายโลกตะวันตก แต่ไม่น่าจะได้รับคำสั่งจากไอเอสโดยตรง
นายคาเลด โอคาชา นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงชาวอียิปต์ กล่าวว่า นายคาลิด มาซูด วัย 52 ปี ชาวอังกฤษที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามเป็นตัวอย่างล่าสุดของคนร้ายที่เห็นด้วยและภักดีต่อกลุ่มไอเอสโดยที่ไม่ได้รู้จักกับแกนนำคนสำคัญของกลุ่ม
คนเหล่านี้ถูกล้างสมองจากการโฆษณาชวนเชื่อทางออนไลน์และมักทิ้งหลักฐานเกี่ยวกับไอเอสที่เปลี่ยนความคิดพวกเขา ทำให้กลุ่มไอเอสออกมาอ้างทันทีว่าเป็นฝีมือของสาวกทั้งที่อาจไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน
ด้านนางริตา คัตซ์ สตรีชาวอิรักที่ร่วมก่อตั้งบริษัทข่าวกรอง "ไซต์" (SITE) ที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย เห็นพ้องว่า ไม่มีหลักฐานว่านายมาซูดติดต่อกับกลุ่มไอเอสโดยตรง เธอตั้งข้อสังเกตว่า ทันทีที่เกิดเหตุก่อการร้ายลอนดอนเมื่อวันพุธที่แล้ว (22 มี.ค.) กลุ่มสนับสนุนไอเอสพากันแสดงความดีใจ แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวจากสื่อของไอเอส ต่างจากเหตุก่อเหตุร้ายกรุงปารีสของฝรั่งเศสในปี 2558 และเหตุก่อการร้ายกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมในปี 2559
สำนักข่าวรอยเตอร์วิเคราะห์ว่า การที่สื่อและกลุ่มสนับสนุนไอเอสเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ลดลงส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสูญเสียพื้นที่ยึดครองในอิรักและซีเรีย นอกจากนี้ยังอ้างการประเมินของกองกำลังพันธมิตรปราบไอเอสว่า ไอเอสทวีตลดลงเกือบครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 2557 บัญชีทวิตเตอร์ของทางกลุ่มถูกระงับไปแล้ว 360,000 บัญชีจนถึงขณะนี้ ส่วนบัญชีใหม่ ๆ ก็ถูกปิดหลังเกิดได้เพียงวันสองวัน
เมื่อปลายปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มไอเอสกำลังแข็งแกร่งที่สุด โฆษกไอเอสเคยเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนทั่วโลกก่อเหตุตามลำพังโดยใช้มีดเล่มเดียวหรือรถยนต์คันเดียว ไม่จำเป็นต้องฝึกฝน หรือมีประสบการณ์การสู้รบมาก่อน
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/747398
ผู้เชี่ยวชาญชี้ ผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอน น่าจะก่อเหตุตามโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มรัฐอิสลาม ที่ชักชวนสาวกปองร้ายโลกตะวันตก
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะก่อเหตุตามโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ชักชวนสาวกปองร้ายโลกตะวันตก แต่ไม่น่าจะได้รับคำสั่งจากไอเอสโดยตรง
นายคาเลด โอคาชา นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงชาวอียิปต์ กล่าวว่า นายคาลิด มาซูด วัย 52 ปี ชาวอังกฤษที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามเป็นตัวอย่างล่าสุดของคนร้ายที่เห็นด้วยและภักดีต่อกลุ่มไอเอสโดยที่ไม่ได้รู้จักกับแกนนำคนสำคัญของกลุ่ม
คนเหล่านี้ถูกล้างสมองจากการโฆษณาชวนเชื่อทางออนไลน์และมักทิ้งหลักฐานเกี่ยวกับไอเอสที่เปลี่ยนความคิดพวกเขา ทำให้กลุ่มไอเอสออกมาอ้างทันทีว่าเป็นฝีมือของสาวกทั้งที่อาจไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน
ด้านนางริตา คัตซ์ สตรีชาวอิรักที่ร่วมก่อตั้งบริษัทข่าวกรอง "ไซต์" (SITE) ที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย เห็นพ้องว่า ไม่มีหลักฐานว่านายมาซูดติดต่อกับกลุ่มไอเอสโดยตรง เธอตั้งข้อสังเกตว่า ทันทีที่เกิดเหตุก่อการร้ายลอนดอนเมื่อวันพุธที่แล้ว (22 มี.ค.) กลุ่มสนับสนุนไอเอสพากันแสดงความดีใจ แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวจากสื่อของไอเอส ต่างจากเหตุก่อเหตุร้ายกรุงปารีสของฝรั่งเศสในปี 2558 และเหตุก่อการร้ายกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมในปี 2559
สำนักข่าวรอยเตอร์วิเคราะห์ว่า การที่สื่อและกลุ่มสนับสนุนไอเอสเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ลดลงส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสูญเสียพื้นที่ยึดครองในอิรักและซีเรีย นอกจากนี้ยังอ้างการประเมินของกองกำลังพันธมิตรปราบไอเอสว่า ไอเอสทวีตลดลงเกือบครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 2557 บัญชีทวิตเตอร์ของทางกลุ่มถูกระงับไปแล้ว 360,000 บัญชีจนถึงขณะนี้ ส่วนบัญชีใหม่ ๆ ก็ถูกปิดหลังเกิดได้เพียงวันสองวัน
เมื่อปลายปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มไอเอสกำลังแข็งแกร่งที่สุด โฆษกไอเอสเคยเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนทั่วโลกก่อเหตุตามลำพังโดยใช้มีดเล่มเดียวหรือรถยนต์คันเดียว ไม่จำเป็นต้องฝึกฝน หรือมีประสบการณ์การสู้รบมาก่อน
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/747398