ต้องแทกศาสนาอิสลามด้วยเพราะเกี่ยวข้องอย่างขัดเจน

รูปแบบการก่อการร้ายคือ

1.มีการก่อการร้ายโดยมุสลิมสุดโต่ง สังหารชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก
2. ผู้คนออกมาไว้อาลัย ฉายไฟ วางดอกไม้ จุดเทียนชุมนุม รวมตัวกัน
3. จะมีคนมาบอกว่า ไม่ใช่มุสลิมทุกคนที่เป็นผู้ก่อการร้าย และก็มีการดีเบตกัน
4.มีฟิลเตอร์รูปธงชาติที่โดนก่อการร้าย ในรูปโปรไฟล์เฟซบุค คนมาใส่ฟิลเตอกันมากมาย
5.สุดท้ายก็จะมีคนบอกว่า จริงๆแล้วศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติ เราจะได้ยินประโยคนี้แทบทุกครั้งหลังการก่อการร้าย
6.ยังเปิดรับผู้อพยพอยู่ต่อไป
7.เหตุการณ์จะวนอย่างนี้ไป เรื่อยๆ และกลับไปสู่ข้อ 1 และวนซ้ำเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ


ทางแก้คืออะไร

คัดกรองผู้อพยพอย่างจริงจัง เข้มงวด นี่คือทางแก้ปัญหาที่ตรงจุด


------------------------------------------------------------------------------------

‘สวีเดน’ ชุมนุมจุดเทียนต้านก่อการร้าย ตร.เผยคนขับรถชนดะหน้าห้างดังตาย 4 เจ็บ 15 เป็นผู้อพยพที่ถูกสั่งเนรเทศ ฝักใฝ่ไอเอส

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ผู้คนในสวีเดนนับหมื่นนัดหมายไปรวมตัวกันที่บริเวณใจกลางกรุงสตอกโฮล์มวันอาทิตย์ (9 เม.ย.) เพื่อจุดเทียนแสดงออกซึ่งความรัก เป็นการต่อต้านคัดค้านลัทธิก่อการร้าย ขณะที่ตำรวจเดินหน้าการสอบสวนเหตุโจมตีด้วยการขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ฝูงชนด้านนอกห้างสรรพสินค้าเมื่อวันศุกร์ (7) ที่ผ่านมา เผยผู้ต้องสงสัยถูกสั่งเนรเทศ เพราะฝักใฝ่กลุ่มไอเอส
       
       ในขณะที่ต่างตระหนกตกใจกับเหตุการณ์โจมตีในวันศุกร์ (7) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 4 คน เป็นชาวสวีเดน 2 ชาวอังกฤษ 1 ชาวเบลเยียมอีก 1 และบาดเจ็บอีก 15 คน โดยที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาวชาวอุซเบก วัย 39 ปี เอาไว้คนหนึ่ง ชาวเมืองสตอกโฮล์มก็ได้เรียกระดมพลผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อจัดการชุมนุมจุดเทียนรำลึกแสดงออกซึ่งความรัก ในเวลา 14.00 น. (ตรงกับ 21.00 น. เวลาเมืองไทย) ของวันอาทิตย์ (9) ณ จัตุรัสเซอร์เกลส์ ทอร์ก ใกล้ๆ กับจุดที่รถบรรทุกก่อเหตุไล่ชนผู้คนนักช็อป
       
       สวีเดนกำลังพยายามที่จะตั้งสติหวนกลับลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงได้ใหม่ในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากเหตุการณ์สยองขวัญซึ่งพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ระบุว่า เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ทว่ายังคงไม่มีการเปิดเผยมูลเหตุจูงใจของคนร้ายอย่างชัดเจน
       
       อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ใช้นั้นอยู่ในลักษณะเดียวกันกับการโจมตีโดยใช้ยานพาหนะซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ตามเมืองใหญ่ๆ ของยุโรป ทั้งที่เมืองนีซ ในฝรั่งเศส, เบอร์ลิน ของเยอรมนี, และลอนดอน ของอังกฤษ โดยเหตุร้ายเหล่านี้กลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ล้วนออกมาแถลงอ้างความรับผิดชอบ
       
       สำหรับการโจมตีที่สตอกโฮล์ม ยังไม่มีกลุ่มใดแสดงตนเป็นตัวการ ทั้งนี้ เหตุร้ายที่เมืองหลวงของสวีเดนคราวนี้ ถือเป็นการก่อเหตุทำร้ายประชาชนในเมืองใหญ่ครั้งที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นในทวีปยุโรปในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเกิดตามหลังการโจมตีด้วยการขับรถยนต์พุ่งชนและใช้มีดไล่แทงที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน และการวางระเบิดขบวนรถไฟใต้ดินที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
       
       ตำรวจสวีเดนยังคงไม่ได้ระบุชื่อผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนขับรถบรรทุกไล่ชนคนรายนี้ ซึ่งพวกเขาจับกุมตัวได้ตั้งแต่คืนวันศุกร์ (7) โดยกล่าวเพียงว่าเขามีอายุ 39 ปี เดินทางมาจากอุซเบกิสถาน และได้ยื่นขอใบอนุญาตพำนักถาวรในสวีเดนเมื่อปี 2014 ทว่าทางการทราบว่าเขาแสดงความสนใจในพวกองค์กรก่อการร้ายอย่างเช่นไอเอส และในเดือนมิถุนายน 2016 สำนักงานผู้อพยพได้ปฏิเสธคำขออนุญาตของเขา พร้อมกับตัดสินว่าเขาจะต้องถูกเนรเทศ

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000036277