วันที่ 25 มี.ค. 2560 หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่สะพานเวสต์มินสเตอร์และหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้ายไอซิสก็ออกมากล่าวชื่นชมการก่อเหตุของชายที่ชื่อคาลิด มาซูด อายุ 52 ปี หลังจากที่เขาก่อเหตุรุนแรงด้วยการขับรถไล่ชนผู้คนบนทางเท้าผ่านสะพานเวสต์มินสเตอร์ แล้วบุกใช้มีดไล่แทงเจ้าหน้าที่ตำรวจในลานอาคารรัฐสภาก่อนที่เขาจะถูกตำรวจยิงเสียชีวิต จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย
กลุ่มก่อการร้ายไอซิสออกมาอ้างเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมาว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายในลอนดอนโดยอ้างว่าพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจ นิตยสารไทมส์ระบุว่าสาเหตุที่กลุ่มไอซิสอ้างเช่นนี้เพราะว่าจริงๆ แล้วไอซิสในดินแดนของพวกเขาเองกำลังล่มสลายไม่ว่าจะจากปฏิบัติการของกองทัพอิรัก ปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ หรือในซีเรียเองไอซิสก็ไม่ได้เป็นกองกำลังที่มีอำนาจเหนือดินแดนแบบที่เคยมี
ไอซิสอ้างว่ามาซูดเป็นหนึ่งใน "ทหาร" ขอพวกเขา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจทางการอังกฤษเปิดเผยว่ามาซูดเป็นคนที่เกิดในอังกฤษ เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อนรวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ หน่วยงานข่าวกรองของทางการอังกฤษเคยสืบสวนว่ามาซูดน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงแต่ก็ถูกระบุว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำในการก่อเหตุ โดยที่ชื่อเดิมของมาซูดคือ เอเดรียน รัสเซลล์ เอล์มส์ นอกจากนี้ยังมีนามแฝงอื่นๆ แต่ก็ถูกมองว่า "อยู่นอกวง" ในสายตาของทางการอังกฤษ
มาซูดเคยถูกตัดสินให้มีความผิดในหลายคดี เขาถูกตัดสินให้มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์มาตั้งแต่อายุ 18 ปี และเคยถูกตัดสินให้มีความผิดฐานมีอาวุธมีดในครอบครองเมื่อปี 2546 อีกทั้งยังมีคดีเกี่ยวกับการก่อเหตุสร้างความไม่สงบและคดีทำร้ายร่างกายด้วย มาซูดใช้ชีวิตยู่ในอังกฤษจนถึงช่วงวัยรุ่นและเพิ่งมาเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลามทีหลัง เขาเคยเดินทางไปเป็นคนสอนภาษาอังกฤษที่ซาอุดิอาระเบียในปี 2548 กลับมาอยู่ในซัสเซ็ก ประเทศอังกฤษในปีถัดจากนั้นและกลับไปอยู่ในซาอุฯ อีกในปี 2551-2552 แล้วจึงกลับมาอยู่อังกฤษ มาซูดมีภาพลักษณ์ภายนอก "ดูเหมือนคนรักครอบครัวธรรมดาทั่วไป" และแสดงออกทางศาสนา
เหตุโจมตีดังกล่าวนอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายแล้วยังมีผู้คนได้รับบาดเจ็บ 50 ราย มี 31 ราย ต้องเข้าโรงพยาบาล นอกจากมาซูดแล้วยังมีคนอื่นๆ ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องถูกจับกุมอีก 8 ราย
ไทมส์ตั้งข้อสังเกตอีกว่าเหตุการณ์รุนแรงในลอนดอนครั้งนี้ยังมีลักษณะแตกต่างจากการโจมตีของไอซิสในอดีตที่มีความซับซ้อนกว่า ชาร์ลี วินเทอร์ นักวิเคราะห์จากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการทำให้เป็นพวกหัวรุนแรงและความรุนแรงทางการเมืองในลอนดอนกล่าวว่า พวกไอซิสไม่สามารถขายชื่อของพวกเขาได้อีกเท่ากับตอนปี 2557-2558 การก่อเหตุในอิรักและซีเรียก็ลดลงโดยพวกเขามัวแต่เน้นการสู้รบมากกว่า วินเทอร์บอกว่าพวกไอซิสต้องพยายามทำตัวเหมือนมีแรงขับเคลื่อนและแสดงให้เห็นราวกับว่ายังมีความเกี่ยวข้องกับโลกและสร้างความเสียหายให้โลกได้
เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวต่อประชาชนหลังเกิดเหตุการณ์นี้ว่า มันคือการโจมตีประชาชนในโลกเสรีทุกคน แต่ชาวอังกฤษก็ควรแสดงการต่อต้านขัดขืนด้วยการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองต่อไป ขณะที่ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอนกล่าวว่า ผู้ก่อการร้ายจะไม่ประสบความสำเร็จในการทำให้ชุมชนหันมาสู้รบกันเอง และบอกว่าประชาชนชาวลอนดอนยังเคารพในความแตกต่างและอยู่ร่วมกันต่อไปโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ก่อการร้ายมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเรา
https://www.prachatai.com/journal/2017/03/70753
'ไอซิส’ อ้างเป็นแรงบันดาลใจเหตุโจมตีลอนดอน นักวิเคราะห์เชื่อ จริงๆ กำลัง 'ขาลง'
กลุ่มก่อการร้ายไอซิสออกมาอ้างเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมาว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายในลอนดอนโดยอ้างว่าพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจ นิตยสารไทมส์ระบุว่าสาเหตุที่กลุ่มไอซิสอ้างเช่นนี้เพราะว่าจริงๆ แล้วไอซิสในดินแดนของพวกเขาเองกำลังล่มสลายไม่ว่าจะจากปฏิบัติการของกองทัพอิรัก ปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ หรือในซีเรียเองไอซิสก็ไม่ได้เป็นกองกำลังที่มีอำนาจเหนือดินแดนแบบที่เคยมี
ไอซิสอ้างว่ามาซูดเป็นหนึ่งใน "ทหาร" ขอพวกเขา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจทางการอังกฤษเปิดเผยว่ามาซูดเป็นคนที่เกิดในอังกฤษ เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อนรวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ หน่วยงานข่าวกรองของทางการอังกฤษเคยสืบสวนว่ามาซูดน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงแต่ก็ถูกระบุว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำในการก่อเหตุ โดยที่ชื่อเดิมของมาซูดคือ เอเดรียน รัสเซลล์ เอล์มส์ นอกจากนี้ยังมีนามแฝงอื่นๆ แต่ก็ถูกมองว่า "อยู่นอกวง" ในสายตาของทางการอังกฤษ
มาซูดเคยถูกตัดสินให้มีความผิดในหลายคดี เขาถูกตัดสินให้มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์มาตั้งแต่อายุ 18 ปี และเคยถูกตัดสินให้มีความผิดฐานมีอาวุธมีดในครอบครองเมื่อปี 2546 อีกทั้งยังมีคดีเกี่ยวกับการก่อเหตุสร้างความไม่สงบและคดีทำร้ายร่างกายด้วย มาซูดใช้ชีวิตยู่ในอังกฤษจนถึงช่วงวัยรุ่นและเพิ่งมาเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลามทีหลัง เขาเคยเดินทางไปเป็นคนสอนภาษาอังกฤษที่ซาอุดิอาระเบียในปี 2548 กลับมาอยู่ในซัสเซ็ก ประเทศอังกฤษในปีถัดจากนั้นและกลับไปอยู่ในซาอุฯ อีกในปี 2551-2552 แล้วจึงกลับมาอยู่อังกฤษ มาซูดมีภาพลักษณ์ภายนอก "ดูเหมือนคนรักครอบครัวธรรมดาทั่วไป" และแสดงออกทางศาสนา
เหตุโจมตีดังกล่าวนอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายแล้วยังมีผู้คนได้รับบาดเจ็บ 50 ราย มี 31 ราย ต้องเข้าโรงพยาบาล นอกจากมาซูดแล้วยังมีคนอื่นๆ ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องถูกจับกุมอีก 8 ราย
ไทมส์ตั้งข้อสังเกตอีกว่าเหตุการณ์รุนแรงในลอนดอนครั้งนี้ยังมีลักษณะแตกต่างจากการโจมตีของไอซิสในอดีตที่มีความซับซ้อนกว่า ชาร์ลี วินเทอร์ นักวิเคราะห์จากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการทำให้เป็นพวกหัวรุนแรงและความรุนแรงทางการเมืองในลอนดอนกล่าวว่า พวกไอซิสไม่สามารถขายชื่อของพวกเขาได้อีกเท่ากับตอนปี 2557-2558 การก่อเหตุในอิรักและซีเรียก็ลดลงโดยพวกเขามัวแต่เน้นการสู้รบมากกว่า วินเทอร์บอกว่าพวกไอซิสต้องพยายามทำตัวเหมือนมีแรงขับเคลื่อนและแสดงให้เห็นราวกับว่ายังมีความเกี่ยวข้องกับโลกและสร้างความเสียหายให้โลกได้
เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวต่อประชาชนหลังเกิดเหตุการณ์นี้ว่า มันคือการโจมตีประชาชนในโลกเสรีทุกคน แต่ชาวอังกฤษก็ควรแสดงการต่อต้านขัดขืนด้วยการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองต่อไป ขณะที่ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอนกล่าวว่า ผู้ก่อการร้ายจะไม่ประสบความสำเร็จในการทำให้ชุมชนหันมาสู้รบกันเอง และบอกว่าประชาชนชาวลอนดอนยังเคารพในความแตกต่างและอยู่ร่วมกันต่อไปโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ก่อการร้ายมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเรา
https://www.prachatai.com/journal/2017/03/70753