รีวิว Shanghai-Wuxi-Hangzhou (เน้นรูป) อยากให้ดูว่าเดี๋ยวนี้ "พี่จีนไม่ใช่เจ๊กเจ๊กแล้วนะ..." : ตอนที่2/4
ตอนที่1 6-7/3/2560 [เซี่ยงไฮ้+โจวจวง]เดินทาง/ตลาดยู่หยวนกลางคืน/ตลาดน้ำโจวจวง@
https://ppantip.com/topic/36272470
ตอนที่2-8/3/2560 [อู๋ซี]วัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ/หมู่บ้านโบราณเหนียนฮัววาน@
https://ppantip.com/topic/36272781
ตอนที่3-9-10/3/2560 [หางโจว+เซี่ยงไฮ้]ทะเลสาบซีหู/วัดหยกขาว/ถนนคนเดินXintiandi@
https://ppantip.com/topic/36280946
ตอนที่4-11-12/3/2560 [เซี่ยงไฮ้]ตลาดยู่หยวนกลางวัน/ถนนคนเดินนานกิง+The Bund/เดินทางกลับ@
https://ppantip.com/topic/36324640
สวัสดีครับผม@guzzsitaนะครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม ผมสมัครpantipเพื่อที่จะมาเขียนเรื่องราวรีวิวการท่องเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้, อู๋ซี, และหางโจว ประเทศจีนในสไตล์ของผม ที่ครั้งนี้ตัดสินใจจะเขียนขึ้นมาเนื่องจากว่าเห็นความสวยงามของของเมืองเหล่านี้และไม่อยากเก็บไว้คนเดียว อยากให้เพื่อนๆได้เห็นและชมกัน ว่าประเทศจีนไม่ใช่เจ๊กอีกต่อไป(จริงๆก็ตั้งนานแล้วนะ) เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วอาม่าชวนไปเที่ยวจีนทั้งครอบครัวทีนี่ฝั่งเด็กๆร้อง "ยี้"ส่ายหัวกันเป็นแถวเพราะมีแต่ธรรมชาติ สกปรก ห้องน้ำ(ของขึ้นชื่อ) ภาษาใช้กันแค่จีนเท่านั้น และอื่นๆ พวกเรารู้สึกอยากไปพวกสิงคโปร์ ฮ่องกงมากกว่า แต่การมาเยือนเซี่ยงไฮ้รอบนี้ทำมุมมองของผมกับพี่จีนเปลี่ยนไป พร้อมแล้วไปรับชมและพิสูจน์กันว่า เมืองเซี่ยงไฮ้ที่จีนไม่ใช่เจ๊กๆแล้วนะ อย่างกับยุโรป(ที่จริงก็นานแล้วนะพึ่งรู้)
ฝากติดตามกดไลท์ เป็นกำลังใจ เข้ามาพูดคุยกันได้นะครับ
รวมถึงฝากเพจถ้ากระแสดีก็จะนำเรื่องราวเก่าๆเช่นและทริปที่จะเดินทางต่อไปมาเขียนเพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ
FB: https://www.facebook.com/waysitabyguzz/?fref=ts
: https://www.facebook.com/guzzsita
IG: guzzsita
- การเดินทางมีทั้งหมด7วันเริ่งตั้งแต่วันที่6–12มีนาคม เริ่มจากเมือง Shanghai - Wuxi – Hangzhou –และกลับมาอยู่ Shanghai
Day3(6 มีนาคม 2560)
ต่อต่อต่อ วันนี้วันที่สามของการเดินทาง วันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยววัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ เราจึงเดินทางมาพักที่เมืองอู๋ซีเมื่อคืนเมืองที่ถูกขนานนามว่าเซี่ยงไฮ้น้อยที่โรงแรมWuxi Taoyuan Seclusion Collection Resort Hotel(ชื่อยาวไปไหน)และวันนี้เราจะไปเที่ยวกันวัดพระใหญ่อยู่เมืองนี้ครับ
อาหารเช้าที่นี่เป็นเซตอีกเช่นเคยครับ คนจีนเค้ากินอะไรง่ายๆแบบนี้แหละ ข้าวต้มกับของนึ่ง แต่อันนี้เป็นโรงแรม เซตจึงจัดเต็มหน่อย
หมี่ร้อนๆตอนเช้านี่ดีจริงๆเลย
พร้อมแล้วไปวัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อกันเลย
ที่นี่สร้างใหญ่มาก ใครไม่มาจะไม่รู้เลยว่าที่จีน วัดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อลังการมาก ยิ่งใหญ่ไม่แพ้พวกแถบญี่ปุ่นเลยเพียงแต่เค้าไม่ได้โปรโมทมากเพราะว่าแค่จำนวนประชาการในประเทศเค้าเที่ยวกันเองก็มีจำนวนมากพออยุ๋แล้ว เทียบกับญี่ปุ่นในมุมมองผม ที่จีนใหญ่กว่า สถาปัตยกรรมอลังการกว่า มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า เนื้อเรื่องประวัติศาสตร์ แน่นอนครับใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้รถกอล์ฟ
มองจากมุมไกลๆ
มาที่ไฮไลท์กันเลยที่ผู้คนนิยมมาสักการะบูชา องค์แรกอันเล็กเป็นองค์ที่สร้างดั้งเดิม องค์หลังเป็นองค์ที่ขยายสร้างขึ้นทีหลัง
ด้านหลังนะครับ
รอบองค์พระเป็นที่จุดธูปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆ
ชอบอะไรแนวนี้มาก
ระหว่างนั่งรถอีกไปที่องค์พระอันใหญ่ข้างบนผ่านเสาหัวสิงโตนี้เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าอโศกมหาราชที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังที่ใด ก็จะมีเสาหัวสิงโตนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของท่าน ในประเทศจีนผู้ที่นำประไตรปิฎกนั่นก็คือ พระถังซำจั๋งนั่นเอง
และแล้วก็มาถึงกันแล้วกับพระใหญ่ ทางเดินขึ้นชันดี ได้เบริน์มั่งอากาศหนาว
หันหลังมองกลับมาจากจุดที่ขึ้นก็สูงเหมือนกันนะเนี่ย
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางห้ามญาติทองสำริที่เขาหลิงซานหรือตามภาษาจีนเรียกว่า หลิงซานต้าฝอ มีความสูง 88 เมตร หนัก 700 ตัน สง่างามมากใช่ไหมครับ?
เทียบขนาดกับเล็บท่านให้ดูครับว่าใหญ่ขนาดไหน
ตอนถ่ายแยงตามาก
ข้างใต้องค์พระเป็นHallครับ ใครถวายเงินสร้างก็จะได้พระองค์แบบนี้จารึกชื่อและเก็บไว้ใต้อาราม
มีส่วนMuseumด้วยครับ
งานเค้าปราณีตมาก
อันนี้เป็นรูปคัมถีร์จีนแบบโบราณ
จากนั้นเราก็นั่งรถกอลฟ์อีกครั้งมายังลานน้ำพุ จะมีโชว์น้ำพุเป็นรอบๆ ระหว่างรอโชว์เริ่มก็เก็บภาพไปก่อนครับ
คนจีนดื่มและนำกลับไปเป็นศิริมงคล เค้าเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักด์สิทธิจากบนเขา
ระหว่างรอกินไอติมซักหน่อยหนาวๆอย่างงี้ถึงจะอร่อย555
showน้ำพุแสดงกลางดอกบัว ตอนแรกเป็นดอกบัว พอการแสดงเริ่มไปเรื่อยๆก็จะปรากฎออกมาเป็นพระพุทธเจ้าครั้นยังเยาว์กลางดอกบัว ท่ามกลางดนตรีจีนโบราณขับกล่อมไปด้วย แปลกดีไปอีกแบบ
หลังจากดูshowจบแล้วได้เวลาเที่ยวเกือบบ่ายแล้วครับ ที่นี่สถานที่ใหญ่มากเดียวเราจะไปชมส่วนอื่นกันต่อ แต่ตอนนี้พักกินข้าวกลางวันก่อนครับ หาอะไรซื้อกินง่ายๆในวันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เสี่ยวหลงเปาอีกเช่นเคย แต่อร่อยส็พวกตามร้านอาหารไม่ได้ครับ
เปาเจี๊ยบก็มา มีแต่แป้งไส้น้อยมาแต่ละอย่างร้านนี้
ให้ดูไส้หมูสุดจิ๋ว แตต่คนจีนเค้าก็กินกันแบบบนี้แหละเน้นแป้ง อย่างที่กล่าวไว้ตอนแรกพวกไส้เยอะๆ ไส้หวานๆ รสจัด เป็นพวกฮ่องกงประยุกต์แล้วครับ
อันนี้ก็อร่อย เขียวๆนี้ฉ่ำหวานนุ่มดี
จากนั้นเราก็มาต่อกันที่วัดที่เค้าจำลองมาสไตล์อินเดียกับธิเบตครับ อย่างที่กล่าววัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อกันตั้งใจให้คนมาที่นี่ได้สักการะและเรียนรู้เห็นรูปแบบสไตล์ของวัดต่างๆแถบนี้ครับ
อันนี้ไสตล์อินเดียอลังไหมล่ะ สวยงามจริงๆพี่จีนเนี่ย
ActAct
เถิบออกมาเป็นวัดแนวธิเบต ชาวนิยมแขวนธงในรูปแบบต่างๆ หลายๆเฉดสี ข้างในธงจะมีการเขียนบทสวดมนต์เพราะเค้าเชื่อกันว่าบทสวดมนต์ต่างๆที่ถูกเขียนไว้จะถูกปลิวไปตามลม แทรกเข้าไปในอากาศ จะได้เข้าไปสู่ลมหายใจของผู้คน ที่ธิเบตนั้นภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาสูง ลมแรง ลมจึงมีผลกระทบต่อหลายๆด้านในชีวินของชาวธิเบตมาก เพื่อนที่เป็นกัปตันบอกว่า สนามบินแถวธิเบตนั้นบินยาก ลงจอดยากเพราะสภาวะแรงลม ผันผวน ส่วนใหญ่สายการบินแถบนั้นเน้นใช้นักบินในพื้นที่เพราะต้องการความชำนาญสูง
ส่วนตัวผมชอบแนวนี้มาก ชอบสไตล์ธิเบตถ้ามีโอกาสวันหลังจะไปเยือนธิเบตสักครั้งหน้าจะเป็นต้นปีหน้า ทั้งเฉดสี รูปแบบ ชอบมากๆครับ
ข้างในวัดธิเบตก็จะเป็นส่วนMuseumอีกเช่นกันครับ เค้าไม่ได้จำลองแค่ข้างนอก ข้างในนี่นำมามหดตั้งแต่พระพุทธรูป ลูกปะคำ จิตรกรรม โทนสีสวยมากๆเลยครับ
ในนี้ถ่ายยากเพราะมืด+กับรีบด้วยเวลาใกล้หมดต้องไปต่อที่อื่นอีก ซุ้มสวยๆ
พระพุทธรูปทางธิเบตที่จำลองมาบางครั้งมีการโดนตัด โดนทำลายเช่นกัน จากสงครามและการรุกรานจากศาสนาอื่น ฮือๆเห็นแล้วชาวพุทธอย่างเราก็รู้สึกสลดใจ เหมือนอยุธยาบ้านเราเลย
กำแพงข้างในเปนแบบนี้งานปราณีตอลังการมากครับ
มุมสวยๆอีกมุม
กลอนประตูยังสวยขนาดนี้
ลูกประคำที่ชาวธิเบตใช้นับเมื่อตอนสวดมนต์หรืออย่างอื่นเพื่อฝึกจิตสมาธิให้แน่แน่วครับ
ลูกประคำมักจะใช้เป็นของตกแต่งวัดเช่นกัน
อันนี้เป็นโมเดลวสไตล์วัดตอนใต้ของประเทศจีนแถวสิบสองปัณณาคูณหมิง รูปแบบเริ่มใกล้เคียงกับประเทศลาวและไทย ผมเคยไปเที่ยวแถบนี้มา รูปแบบก็เริ่มคล้ายบ้านเราบางวัด ปะปนกันไปกับแบบจีน
จบแล้วกับวัดวัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ อลังการไม่แพ้ที่ไหนเลยใช่ไหมละ ตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้วเดียวเราเดินทางไปที่หมู่บ้านเหนียวฮัววานเมืองอู๋ซีแถวนี้กันต่อครับ ก่อนออกเจอมุมเกาหลีพอดี555
[CR] ===รีวิว Shanghai-Wuxi-Hangzhou(เน้นรูป) อยากให้ดูว่าเดี๋ยวนี้ "พี่จีนไม่ใช่เจ๊กเจ๊กแล้วนะ..." : ตอนที่2/4===
ตอนที่1 6-7/3/2560 [เซี่ยงไฮ้+โจวจวง]เดินทาง/ตลาดยู่หยวนกลางคืน/ตลาดน้ำโจวจวง@https://ppantip.com/topic/36272470
ตอนที่2-8/3/2560 [อู๋ซี]วัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ/หมู่บ้านโบราณเหนียนฮัววาน@https://ppantip.com/topic/36272781
ตอนที่3-9-10/3/2560 [หางโจว+เซี่ยงไฮ้]ทะเลสาบซีหู/วัดหยกขาว/ถนนคนเดินXintiandi@https://ppantip.com/topic/36280946
ตอนที่4-11-12/3/2560 [เซี่ยงไฮ้]ตลาดยู่หยวนกลางวัน/ถนนคนเดินนานกิง+The Bund/เดินทางกลับ@https://ppantip.com/topic/36324640
สวัสดีครับผม@guzzsitaนะครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม ผมสมัครpantipเพื่อที่จะมาเขียนเรื่องราวรีวิวการท่องเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้, อู๋ซี, และหางโจว ประเทศจีนในสไตล์ของผม ที่ครั้งนี้ตัดสินใจจะเขียนขึ้นมาเนื่องจากว่าเห็นความสวยงามของของเมืองเหล่านี้และไม่อยากเก็บไว้คนเดียว อยากให้เพื่อนๆได้เห็นและชมกัน ว่าประเทศจีนไม่ใช่เจ๊กอีกต่อไป(จริงๆก็ตั้งนานแล้วนะ) เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วอาม่าชวนไปเที่ยวจีนทั้งครอบครัวทีนี่ฝั่งเด็กๆร้อง "ยี้"ส่ายหัวกันเป็นแถวเพราะมีแต่ธรรมชาติ สกปรก ห้องน้ำ(ของขึ้นชื่อ) ภาษาใช้กันแค่จีนเท่านั้น และอื่นๆ พวกเรารู้สึกอยากไปพวกสิงคโปร์ ฮ่องกงมากกว่า แต่การมาเยือนเซี่ยงไฮ้รอบนี้ทำมุมมองของผมกับพี่จีนเปลี่ยนไป พร้อมแล้วไปรับชมและพิสูจน์กันว่า เมืองเซี่ยงไฮ้ที่จีนไม่ใช่เจ๊กๆแล้วนะ อย่างกับยุโรป(ที่จริงก็นานแล้วนะพึ่งรู้)
ฝากติดตามกดไลท์ เป็นกำลังใจ เข้ามาพูดคุยกันได้นะครับ
รวมถึงฝากเพจถ้ากระแสดีก็จะนำเรื่องราวเก่าๆเช่นและทริปที่จะเดินทางต่อไปมาเขียนเพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ
FB: https://www.facebook.com/waysitabyguzz/?fref=ts
: https://www.facebook.com/guzzsita
IG: guzzsita
- การเดินทางมีทั้งหมด7วันเริ่งตั้งแต่วันที่6–12มีนาคม เริ่มจากเมือง Shanghai - Wuxi – Hangzhou –และกลับมาอยู่ Shanghai
Day3(6 มีนาคม 2560)
ต่อต่อต่อ วันนี้วันที่สามของการเดินทาง วันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยววัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ เราจึงเดินทางมาพักที่เมืองอู๋ซีเมื่อคืนเมืองที่ถูกขนานนามว่าเซี่ยงไฮ้น้อยที่โรงแรมWuxi Taoyuan Seclusion Collection Resort Hotel(ชื่อยาวไปไหน)และวันนี้เราจะไปเที่ยวกันวัดพระใหญ่อยู่เมืองนี้ครับ
อาหารเช้าที่นี่เป็นเซตอีกเช่นเคยครับ คนจีนเค้ากินอะไรง่ายๆแบบนี้แหละ ข้าวต้มกับของนึ่ง แต่อันนี้เป็นโรงแรม เซตจึงจัดเต็มหน่อย
หมี่ร้อนๆตอนเช้านี่ดีจริงๆเลย
พร้อมแล้วไปวัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อกันเลย
ที่นี่สร้างใหญ่มาก ใครไม่มาจะไม่รู้เลยว่าที่จีน วัดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อลังการมาก ยิ่งใหญ่ไม่แพ้พวกแถบญี่ปุ่นเลยเพียงแต่เค้าไม่ได้โปรโมทมากเพราะว่าแค่จำนวนประชาการในประเทศเค้าเที่ยวกันเองก็มีจำนวนมากพออยุ๋แล้ว เทียบกับญี่ปุ่นในมุมมองผม ที่จีนใหญ่กว่า สถาปัตยกรรมอลังการกว่า มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า เนื้อเรื่องประวัติศาสตร์ แน่นอนครับใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้รถกอล์ฟ
มองจากมุมไกลๆ
มาที่ไฮไลท์กันเลยที่ผู้คนนิยมมาสักการะบูชา องค์แรกอันเล็กเป็นองค์ที่สร้างดั้งเดิม องค์หลังเป็นองค์ที่ขยายสร้างขึ้นทีหลัง
ด้านหลังนะครับ
รอบองค์พระเป็นที่จุดธูปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆ
ชอบอะไรแนวนี้มาก
ระหว่างนั่งรถอีกไปที่องค์พระอันใหญ่ข้างบนผ่านเสาหัวสิงโตนี้เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าอโศกมหาราชที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังที่ใด ก็จะมีเสาหัวสิงโตนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของท่าน ในประเทศจีนผู้ที่นำประไตรปิฎกนั่นก็คือ พระถังซำจั๋งนั่นเอง
และแล้วก็มาถึงกันแล้วกับพระใหญ่ ทางเดินขึ้นชันดี ได้เบริน์มั่งอากาศหนาว
หันหลังมองกลับมาจากจุดที่ขึ้นก็สูงเหมือนกันนะเนี่ย
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางห้ามญาติทองสำริที่เขาหลิงซานหรือตามภาษาจีนเรียกว่า หลิงซานต้าฝอ มีความสูง 88 เมตร หนัก 700 ตัน สง่างามมากใช่ไหมครับ?
เทียบขนาดกับเล็บท่านให้ดูครับว่าใหญ่ขนาดไหน
ตอนถ่ายแยงตามาก
ข้างใต้องค์พระเป็นHallครับ ใครถวายเงินสร้างก็จะได้พระองค์แบบนี้จารึกชื่อและเก็บไว้ใต้อาราม
มีส่วนMuseumด้วยครับ
งานเค้าปราณีตมาก
อันนี้เป็นรูปคัมถีร์จีนแบบโบราณ
จากนั้นเราก็นั่งรถกอลฟ์อีกครั้งมายังลานน้ำพุ จะมีโชว์น้ำพุเป็นรอบๆ ระหว่างรอโชว์เริ่มก็เก็บภาพไปก่อนครับ
คนจีนดื่มและนำกลับไปเป็นศิริมงคล เค้าเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักด์สิทธิจากบนเขา
ระหว่างรอกินไอติมซักหน่อยหนาวๆอย่างงี้ถึงจะอร่อย555
showน้ำพุแสดงกลางดอกบัว ตอนแรกเป็นดอกบัว พอการแสดงเริ่มไปเรื่อยๆก็จะปรากฎออกมาเป็นพระพุทธเจ้าครั้นยังเยาว์กลางดอกบัว ท่ามกลางดนตรีจีนโบราณขับกล่อมไปด้วย แปลกดีไปอีกแบบ
หลังจากดูshowจบแล้วได้เวลาเที่ยวเกือบบ่ายแล้วครับ ที่นี่สถานที่ใหญ่มากเดียวเราจะไปชมส่วนอื่นกันต่อ แต่ตอนนี้พักกินข้าวกลางวันก่อนครับ หาอะไรซื้อกินง่ายๆในวันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เสี่ยวหลงเปาอีกเช่นเคย แต่อร่อยส็พวกตามร้านอาหารไม่ได้ครับ
เปาเจี๊ยบก็มา มีแต่แป้งไส้น้อยมาแต่ละอย่างร้านนี้
ให้ดูไส้หมูสุดจิ๋ว แตต่คนจีนเค้าก็กินกันแบบบนี้แหละเน้นแป้ง อย่างที่กล่าวไว้ตอนแรกพวกไส้เยอะๆ ไส้หวานๆ รสจัด เป็นพวกฮ่องกงประยุกต์แล้วครับ
อันนี้ก็อร่อย เขียวๆนี้ฉ่ำหวานนุ่มดี
จากนั้นเราก็มาต่อกันที่วัดที่เค้าจำลองมาสไตล์อินเดียกับธิเบตครับ อย่างที่กล่าววัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อกันตั้งใจให้คนมาที่นี่ได้สักการะและเรียนรู้เห็นรูปแบบสไตล์ของวัดต่างๆแถบนี้ครับ
อันนี้ไสตล์อินเดียอลังไหมล่ะ สวยงามจริงๆพี่จีนเนี่ย
ActAct
เถิบออกมาเป็นวัดแนวธิเบต ชาวนิยมแขวนธงในรูปแบบต่างๆ หลายๆเฉดสี ข้างในธงจะมีการเขียนบทสวดมนต์เพราะเค้าเชื่อกันว่าบทสวดมนต์ต่างๆที่ถูกเขียนไว้จะถูกปลิวไปตามลม แทรกเข้าไปในอากาศ จะได้เข้าไปสู่ลมหายใจของผู้คน ที่ธิเบตนั้นภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาสูง ลมแรง ลมจึงมีผลกระทบต่อหลายๆด้านในชีวินของชาวธิเบตมาก เพื่อนที่เป็นกัปตันบอกว่า สนามบินแถวธิเบตนั้นบินยาก ลงจอดยากเพราะสภาวะแรงลม ผันผวน ส่วนใหญ่สายการบินแถบนั้นเน้นใช้นักบินในพื้นที่เพราะต้องการความชำนาญสูง
ส่วนตัวผมชอบแนวนี้มาก ชอบสไตล์ธิเบตถ้ามีโอกาสวันหลังจะไปเยือนธิเบตสักครั้งหน้าจะเป็นต้นปีหน้า ทั้งเฉดสี รูปแบบ ชอบมากๆครับ
ข้างในวัดธิเบตก็จะเป็นส่วนMuseumอีกเช่นกันครับ เค้าไม่ได้จำลองแค่ข้างนอก ข้างในนี่นำมามหดตั้งแต่พระพุทธรูป ลูกปะคำ จิตรกรรม โทนสีสวยมากๆเลยครับ
ในนี้ถ่ายยากเพราะมืด+กับรีบด้วยเวลาใกล้หมดต้องไปต่อที่อื่นอีก ซุ้มสวยๆ
พระพุทธรูปทางธิเบตที่จำลองมาบางครั้งมีการโดนตัด โดนทำลายเช่นกัน จากสงครามและการรุกรานจากศาสนาอื่น ฮือๆเห็นแล้วชาวพุทธอย่างเราก็รู้สึกสลดใจ เหมือนอยุธยาบ้านเราเลย
กำแพงข้างในเปนแบบนี้งานปราณีตอลังการมากครับ
มุมสวยๆอีกมุม
กลอนประตูยังสวยขนาดนี้
ลูกประคำที่ชาวธิเบตใช้นับเมื่อตอนสวดมนต์หรืออย่างอื่นเพื่อฝึกจิตสมาธิให้แน่แน่วครับ
ลูกประคำมักจะใช้เป็นของตกแต่งวัดเช่นกัน
อันนี้เป็นโมเดลวสไตล์วัดตอนใต้ของประเทศจีนแถวสิบสองปัณณาคูณหมิง รูปแบบเริ่มใกล้เคียงกับประเทศลาวและไทย ผมเคยไปเที่ยวแถบนี้มา รูปแบบก็เริ่มคล้ายบ้านเราบางวัด ปะปนกันไปกับแบบจีน
จบแล้วกับวัดวัดพระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ อลังการไม่แพ้ที่ไหนเลยใช่ไหมละ ตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้วเดียวเราเดินทางไปที่หมู่บ้านเหนียวฮัววานเมืองอู๋ซีแถวนี้กันต่อครับ ก่อนออกเจอมุมเกาหลีพอดี555
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น