จากปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนในพื้นที่ห่างไกล และธุรกันดาร ทำให้เด็กๆ ในชุมชนไม่สะดวกที่จะเดินทางไปโรงเรียน และศักยภาพโรงเรียนเดิมที่อยู่ในชุมชนห่างไกล ไม่มีความพร้อมมากนักในการจัดการเรียนการสอน ที่ภาครัฐเข้าไปดูแลไม่ทั่วถึง
จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้กับทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เล็งเห็นจากปัญหาด้านการศึกษากับเยาวชนในพื้นที่ที่ห่างไกล เพื่อให้ได้รับการศึกษาแก่เยาวชนอย่างเท่าเทียม จึงสร้างโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ ก่อตั้งโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ที่ตั้งใจพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีการศึกษาที่ดี เพื่อจะได้เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลของประเทศต่อไปในอนาคต
ปัจจุบันโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ มีทั้งหมด 8 แห่งทั่วประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2520 ได้แก่ โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ1 อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา , โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 3 กิ่งอำเภอผาขาว จ.เลย, โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ4 อ.วังสะพุง จ.เลย , โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 5 อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร , โรงเรียนมิตรมวลชน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ7 อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
ตลอดระยะเวลากว่า 35 ปีที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ได้ให้ความช่วยเหลือ ติดตาม เพื่อพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมของแต่ละโรงเรียน โดยอาศัยศักยภาพของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือฯ ให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ อาทิ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน จากมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท เครือเจริญโภคภัณฑ์, โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดยบริษัท เจียไต๋ จำกัด, โครงการทรูปลูกปัญญา โดยบริษัท ทรูวิชั่นส์จำกัด และโครงการทุนการศึกษาเจียรวนนท์อุทิศ โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับการดำเนินกิจการตามนโยบายตอบแทนแผ่นดิน เพื่อร่วมกันยกระดับความเป็นอยู่ของครู นักเรียน ตลอดจนสมาชิกในชุมชนโดยรอบ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ปัจจุบันโครงการพัฒนาเจียรวนนท์อุทิศ ได้รับความร่วมมือจากชุมชน คือ การได้เข้ามาบริหารจัดการโรงเรียนตามแบบของกรรมการสถานศึกษา เช่นวางแผน ดำเนินการ ติดตาม และประเมินผลการทำงานของโรงเรียน ทำให้โรงเรียนถูกพัฒนาไปในแนวทางที่ดีและตรงกับความต้องการสร้างผลผลิต คือ นักเรียนที่เรียนจบไปนั้นเป็นบุคลากรที่ดีของชุมชน สังคม และประเทศชาติ อันก่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างถาวร
เด็กในวันนี้...คือพลังของชาติในวันหน้า
จากปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนในพื้นที่ห่างไกล และธุรกันดาร ทำให้เด็กๆ ในชุมชนไม่สะดวกที่จะเดินทางไปโรงเรียน และศักยภาพโรงเรียนเดิมที่อยู่ในชุมชนห่างไกล ไม่มีความพร้อมมากนักในการจัดการเรียนการสอน ที่ภาครัฐเข้าไปดูแลไม่ทั่วถึง
จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้กับทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เล็งเห็นจากปัญหาด้านการศึกษากับเยาวชนในพื้นที่ที่ห่างไกล เพื่อให้ได้รับการศึกษาแก่เยาวชนอย่างเท่าเทียม จึงสร้างโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ ก่อตั้งโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ที่ตั้งใจพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีการศึกษาที่ดี เพื่อจะได้เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลของประเทศต่อไปในอนาคต
ปัจจุบันโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ มีทั้งหมด 8 แห่งทั่วประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2520 ได้แก่ โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ1 อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา , โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 3 กิ่งอำเภอผาขาว จ.เลย, โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ4 อ.วังสะพุง จ.เลย , โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ 5 อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร , โรงเรียนมิตรมวลชน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ โรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ7 อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
ตลอดระยะเวลากว่า 35 ปีที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ได้ให้ความช่วยเหลือ ติดตาม เพื่อพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมของแต่ละโรงเรียน โดยอาศัยศักยภาพของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือฯ ให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ อาทิ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน จากมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท เครือเจริญโภคภัณฑ์, โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดยบริษัท เจียไต๋ จำกัด, โครงการทรูปลูกปัญญา โดยบริษัท ทรูวิชั่นส์จำกัด และโครงการทุนการศึกษาเจียรวนนท์อุทิศ โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับการดำเนินกิจการตามนโยบายตอบแทนแผ่นดิน เพื่อร่วมกันยกระดับความเป็นอยู่ของครู นักเรียน ตลอดจนสมาชิกในชุมชนโดยรอบ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ปัจจุบันโครงการพัฒนาเจียรวนนท์อุทิศ ได้รับความร่วมมือจากชุมชน คือ การได้เข้ามาบริหารจัดการโรงเรียนตามแบบของกรรมการสถานศึกษา เช่นวางแผน ดำเนินการ ติดตาม และประเมินผลการทำงานของโรงเรียน ทำให้โรงเรียนถูกพัฒนาไปในแนวทางที่ดีและตรงกับความต้องการสร้างผลผลิต คือ นักเรียนที่เรียนจบไปนั้นเป็นบุคลากรที่ดีของชุมชน สังคม และประเทศชาติ อันก่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างถาวร