เกษตรแปลงใหญ่ การรวมตัวเกษตรกร เพิ่ม Productivity ลงทุนเทคโนโลยี คุณภาพสูง และ ลดต้นทุน

หลายคนไปเข้าใจผิดว่าเกษตรแปลงใหญ่คือ contract farming แล้วกลัวว่าเกษตรกรจะสูญเสียรายได้ อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันใหม่


หลักการคือ ถ้าต่างคนต่างทำจะวางแผนตลาด วางแผนการผลิตไม่ได้เลย เพราะเราทำกันแปลงเล็กแปลงน้อย และที่สำคัญเราจะไม่มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แต่ถ้าเรารวม หรือเรียกง่ายๆว่า ร่วมกันทำ ได้หล่ะก็ จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ดี เราสามารถแบ่งพื้นที่ 10% มาทำเกษตรทฤษฏีใหม่ เพื่อพออยู่พอกินก่อน ส่วนคนที่มีพื้นที่เหลือ เพื่อให้เข้าสู่ขั้นพอขาย เราก็ต้องมาดูเรื่องประสิทธิภาพ คุณภาพ ความต้องการตลาด และต้นทุนกัน

ความหมาย
: เป็นระบบการส่งเสริมการเกษตรแบบหนึ่งที่ยึดพื้นที่เป็นหลัก ไม่ใช่รวมแปลงเจ้าของคนเดียว แต่เกษตรกรทุกคนยังเป็นเจ้าของ

ความไม่เข้าใจ
: (Area – based) ในการดำเนินงานในลักษณะบูรณาการระหว่าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีผู้จัดการแปลงเป็นผู้บริหารจัดการ
พื้นที่ทุกกิจกรรมตลอดห่วงโช่อุปทาน (supply - chain)
การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่นี้ไม่ใช่ “โครงการ” แต่เป็นรูปแบบการดาเนินงานส่งเสริมการเกษตรตามปกติ ซึ่งสามารถนาไปประยุกต์ใช้กับ “โครงการ” บางโครงการ ได้ เช่น โครงการปรับโครงสร้างการผลิตข้าว


วันนี้เราต้องเน้น 3 สูง 1 ต่ำ ต้องประสิทธิภาพสูง เราต้องรวมกันเพื่อลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูง และ ผลผลิตเราต้องมีคุณภาพสูง และนอกจากนี้ ต้นทุนเราต้องต่ำ  หากทำได้แล้วหล่ะก็

- การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการให้บริการเกษตรกรของภาครัฐทาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
-ประหยัดงบประมาณ
-สามารถทางานในเชิงบูรณาการทาได้มีประสิทธิภาพ
-เกษตรกรมีอานาจต่อรองเพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านการจัดหาปัจจัยการ
ผลิตและการจาหน่ายผลผลิต
-เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้ในต้นทุนที่ต่าลง
-สามารถวัดผลการดาเนินงานได้อย่างชัดเจน
-ทาให้เกิดผลกระทบ (impact) ในมุมกว้างมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่