หลังจากเที่ยวใน Auckland จนเบื่อแล้ว คราวนี้เราจะออกไปเที่ยวในโซนอื่นบ้างครับ เริ่มจาก coromandel สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและอยู่ใกล้กับ Auckland มาก เดินทางง่ายเที่ยวแค่วันเดียวก็ได้ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ แค่ Hot water Beach (ชายหาดที่มีกระแสน้ำร้อนไหลผ่าน) และ Cathedral Cove จึงสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ครับ แต่อาจจะเหนื่อยไปหน่อย ผมว่าไปซัก 2 วันหนึ่งคืนกำลังดี จะได้ไหม่เหนื่อยมาก ในทริปนี้ผมเที่ยว 3 วัน เนื่องจากตอนแรกจะจองรถคันนี้ไป Cape ringa แต่ตอนหลังเพื่อนชวนไปด้วยกัน ทริปนี้เลยเป็นทริปที่ชิวมากไปหน่อย เริ่มจาก Auckland ขับไปยังThame และขับลัดเลาะตามชายฝั่งไปเรื่อยๆ อ้อมไปจนถึง coromandel, whitianga, hahei แล้วค่อยวนกลับมา Auckland (จริงๆ ขับตรงจาก Auckland ไป hot water beach แค่สองชั่วโมงเองครับ) พร้อมแล้วก็ออกเดินทางเลยครับ
Link สำหรับ ผู้ที่ต้องการอ่านตอนก่อนหน้าครับ
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/35922839
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 2 ซิวๆ ในโซน Auckland CBD
http://ppantip.com/topic/35939587
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 3 กิน เที่ยว ชมวิว ณ Devonport
https://ppantip.com/topic/35962019
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 4 Mt. Eden, One Tree Hill & Auckland Zoo
https://ppantip.com/topic/35986499
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 5 ชิวๆ ย่านชานเมือง Parnell village & Mission Bay
https://ppantip.com/topic/36078441
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 6 เกาะแห่งไวน์ Waiheke & เกาะร้าง Rangitoto
https://ppantip.com/topic/36101181
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 7 พาทัวร์ชิมร้านอาหารสไตล์ท้องถิ่นของ Auckland
https://ppantip.com/topic/36124306
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 8 รวมร้านของหวานห้ามพลาดใน Auckland
https://ppantip.com/forum/new_topic
ปล. 1. รูปอาจจะน้อยหรือไม่ค่อยสวยหน่อยนะครับ ผมพยายามถ่ายแล้ว แต่ได้แค่นี้จริงๆ T-T
2. ข้อมูลต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
3. ผมซ่อนข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวไว่ใน Spoil นะครับ สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลโดยละเอียด
1st day เหมืองทองแห่งคาบสมุทร Coromandel (Thames city of gold mine)
ออกเดินทางในช่วงเช้าวันศุกร์ พยากรณ์อากาศบอกว่า อาทิตย์นี้อากาศสดใสไม่มีฝน เหมาะแก่การออกไปเที่ยวพอดี (แต่พอแบกเป้ออกมาดันลืมหยิบเสื้อกันหนาวมาด้วย คิดไปคิดมาขี้เกียจเดินกลับไปเอา มันคงไม่หนาวมั้ง) พอไปถึงบริษัท Jucy มีคนต่อคิวอยู่สองคิว ใช้เวลากว่า 10 นาทีก็รับรถออกมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขับรถที่นิวซีแลนด์ด้วย กดดันพอสมควรเลย 555 แต่พอขับไปซักพักก็ชิน จาก Auckland ก็หาทางขับออกมาเส้น Motorway (ผมหลงทางเสียเวลาไปเกือบชั่วโมงเลย) ขับอีกชั่วโมงกว่าก็จะถึงเมือง Thames ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองที่เจริญมากในอดีตในช่วงตื่นทอง แต่พอทองหมด เมืองก็ซบเซาแต่ก็ยังคงเป็นเมืองใหญ่ในพื้นที่แถบนี้
จุดแรกที่จะไปคือ Gold Mine Tours แต่พอขับรถไปถึงปรากฏว่าเค้าปิดปรับปรุงพอดี ผมเซ็งนิดหน่อยนะ ดันไม่ยอมเช็ดให้ละเอียด ตั้งใจมาที่นี่มากด้วย อุตสาห์มาเมืองแห่งเหมืองทองกลับไม่ได้ชมเหมืองทอง
จากนั้นก็เลยไปที่ Thames School of Mines ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนการทำเหมืองในอดีต พอเดินเข้าไปก็เจอลุง John อายุลุงแกน่าจะเกิน 60 แล้วนะครับ ใช้บัตรนักเรียนเลยจ่ายค่าเข้าชมเพียงแค่ 5 เหรียญ อีกทั้งลุงแกยังอาสาเป็นไกด์พาชมพิพิธภัณฑ์อีก (สงสัยนักท่องเที่ยวคงน้อยมาก เพราะลุงแกเดินไปปิดประตู แล้วก็พาชมแบบ Private tour เลย) ภายในก็เป็นโรงเรียนในสมัยก่อนหลายห้องสร้างจากไม้ อาทิ ห้องแล็บเคมี ห้องทดสอบ ห้องสกัดทอง ห้องสมุด ลุงแกพูดอธิบายมากมาย แต่ด้วยที่แกพูดค่อนข้างเร็ว และสำเนียงกีวีด้วย ผมเลยเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการทำทองเยอะเลยครับ เรื่องที่ผมประทับใจที่สุดที่ลุงแกเล่า คือ เมื่อประมาณสิบปีก่อน มีนักเรียนคนนึงของโรงเรียน ซึ่งเรียนจบไปเมื่อ 70 ปีก่อน ได้กลับมาที่โรงเรียนนี้และมานั่งที่โต๊ะที่เคยเรียนอีกครั้ง (นักเรียนท่านนี้ยังบอกว่าทางพิพิธภัณฑ์จัดโต๊ะเรียนผิด และได้จัดโต๊ะให้ใหม่อีกด้วย)
พอชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ ก็ร่ำลาลุง John ข้ามไปฝั่งตรงกันข้ามของพิพิธภัณฑ์ คือ Thames Small Gauge Railway (เปิดเฉพาะวันอาทิตย์) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสำหรับรถไฟขนาดเล็ก เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถนั่งบนรถไฟได้
จากนั้นก็ไป Check in ห้องพัก Sunkist Guest House ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นโรงแรมเก่าชื่อ Lady Bowen สร้างตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1860 เฟอร์นิเจอร์และบรรยากาศของห้องพักเหมือนสมัยก่อน โดยเฉพาะห้องนั่งเล่นที่มี เปียโนและโต๊ะสนุกเกอร์ให้แขกสามารถเล่นได้ ส่วนห้องน้ำและห้องครัวก็ได้มีการรีโนเวทให้ทันสมัยขึ้น ผมพักห้องรวมแชร์ 4 คน ราคา 35 เหรียญ พร้อมอาหารเช้า ถือว่าโอเคครับ จำนวนแขกที่พักก็ไม่มากนัก ทำให้รู้สึกเงียบสงบ
เมื่อ Check in เรียบร้อยก็รีบไปที่ War Memorial Monument and Lookout เพราะดูแล้วฝนน่าจะตก ที่นี่เป็นอนุสรณ์รำลึกทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 (New Zealand กับ Australia ให้ความสำคัญกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ค่อนข้างมากเลยครับ) ซึ่งอนุสรณ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาและเป็นจุดชมวิวของเมืองอีกด้วย
เห็นอนุสาวรีย์อยู่ไกลๆ บนเขาครับ
เมื่อชมวิวเสร็จก็ขับรถไปที่ Shortland Wharf เพื่อซื้ออาหารทะเลสำหรับมื้อเย็น แต่พอไปถึงก็ตกใจพอสมควร เนื่องจากท่าเรือนี้เล็กมากมีแค่ร้านคาเฟ่กับร้านขายอาหารทะเล 2 ร้านเอง ผมเลยสั่ง Fish&Chip มา 1 ที่ จากนั้นก็ขับรถไปที่ super market ในเมือง เพื่อซื้อหอยแมลงภู่ New Zealand (Coromandel เป็นฟาร์หอยแมลงภู่ที่มีชื่อเสียงของ New Zealand) และของกินของใช้อีกหน่อย
Shortland Wharf
พอกลับมาถึงที่พักก็ออกไปเดินสำรวจเมืองอีกหน่อย แต่ตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็นร้านค้าต่างๆ เริ่มปิดแล้ว เดินได้แป๊ปเดียว ฝนก็ดันตกลงมาอีก (ไหนพยากรณ์อากาศบอกว่าอากาศสดใส) เลยต้องเดินตากฝนกลับไปที่พักเลย พอกลับมาก็อบหอยแมลงภู่ แล้วอุ่น Fish&Chip
รสชาติ Fish&Chip ก็โอเคครับ แต่หอยแมลงภู่อร่อยมาก หอมหวานโดยไม่ต้องใส่เครื่องปรุงอะไรเลย อย่างไรก็ตามคืนนี้เกิดปัญหา 2 เรื่องครับ เรื่องแรกผมดันลืมเอาปลั๊กต่อมาเลยทำให้ชาร์ตมือถือไม่ได้ มีแค่ power bank อันเดียวซึ่งชาร์ตได้ประมาณ 3-4 ครั้ง แต่วันนี้โชดดีเจอ Jack เพื่อนรวมห้องเป็นชาวอเมริกัน เลยขอยืมที่ชาร์ตมาใช้ก่อน ส่วนปัญหาอีกเรื่อง คือ Hot water Beach จะต้องไปในช่วงเวลาก่อนหรือหลังน้ำลง 2 ชั่วโมง ซึ่งน้ำลงพรุ่งนี้ตอน 7 โมงเช้า ถ้าจะไปวันพรุ่งนี้ผมต้องออกจากที่พักประมาณ 6 โมงเช้า ผมขี้เกียจตื่นเช้าเลยเปลี่ยนแผน ไป Hot Water Beach ในวันมะรืนแทน (อีกวันน้ำขึ้นตอน 8 โมงเช้า และที่พักอยู่ใกล้กว่ามากครับ) พรุ่งนี้เลยไปทางเหนือมุ่งหน้าสู่ Coromandel town แทน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Thames
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทร Coromandel ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเหมืองทองคำขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองและมีคนอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามแร่ทองคำค่อยๆ ลดลง จนเหมืองทองคำได้ปิดตัวลง ประชาชนจึงย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ที่เมืองอื่น
Gold Mine Tours
ในศตวรรษที่ 19 เป็นเหมืองทองคำที่สำคัญของ New Zealand อย่างไรก็ตามปัจจุบันแร่ทองคำได้หมดลง เหมืองทองคำแห่งนี้จึงปิดตัวลงและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งทัวร์ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
Note:
• การเข้าชมเหมืองอาจมีโคลนหรือความชื้น จึงต้องสวมใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่เหมาะสม อีกทั้งควรเตรียมเสื้อกันฝนเผื่อไว้ด้วย
• ทัวร์นี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวความมืดและกลัวที่แคบ เพราะต้องลงไปในทางเดินใต้ดินแคบๆ แบบในรูป
Thames School of Mines
โรงเรียนเปิดสอนเกี่ยวกับการทำเหมืองที่ใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดของ New Zealand ซึ่งได้มีการทดลองและวิจัยเทคนิคการทำเหมืองแร่ที่โรงเรียนนี้มากมาย อย่างไรก็ตามโรงเรียนได้ปิดตัวในปี ค.ศ. 1954 และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชม
Tip: ในช่วงทศวรรษที่ 1880s ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการตื่นทองของ New Zealand ได้มีโรงเรียนเปิดสอนเกี่ยวกับเทคนิคการทำเหมืองถึง 30 โรงเรียนทั่วทั้ง New Zealand
Thames Small Gauge Railway
สถานีรถไฟในอดีตที่เปิดให้รถไฟขนาดเล็กประเภทต่างๆ วิ่ง โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งบนรถไฟ (ขนาดเล็ก) ซึ่งจะวิ่งบริเวณรอบสถานี ได้ในวันอาทิตย์
War Memorial Monument and Lookout
จุดชมวิวทิวทัศน์ที่สำคัญของเมือง Thames ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณทางเหนือของเมือง อีกทั้งในบริเวณนี้ยังมีอนุสรณ์ สำหรับเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามอีกด้วย
Historic Grahamstown
ชุมชนย่านเมืองเก่าของเมืองThames ซึ่งมีศูนย์รวมร้านอาหาร โรงแรมและร้านค้าของเมือง อีกทั้งยังมีสถาปัตย์กรรมและบ้านเรือนเก่าๆ มากมาย
[CR] New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 9 coromandel เมืองขุมทองและกระแสน้ำร้อนมหัศจรรย์
หลังจากเที่ยวใน Auckland จนเบื่อแล้ว คราวนี้เราจะออกไปเที่ยวในโซนอื่นบ้างครับ เริ่มจาก coromandel สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและอยู่ใกล้กับ Auckland มาก เดินทางง่ายเที่ยวแค่วันเดียวก็ได้ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ แค่ Hot water Beach (ชายหาดที่มีกระแสน้ำร้อนไหลผ่าน) และ Cathedral Cove จึงสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ครับ แต่อาจจะเหนื่อยไปหน่อย ผมว่าไปซัก 2 วันหนึ่งคืนกำลังดี จะได้ไหม่เหนื่อยมาก ในทริปนี้ผมเที่ยว 3 วัน เนื่องจากตอนแรกจะจองรถคันนี้ไป Cape ringa แต่ตอนหลังเพื่อนชวนไปด้วยกัน ทริปนี้เลยเป็นทริปที่ชิวมากไปหน่อย เริ่มจาก Auckland ขับไปยังThame และขับลัดเลาะตามชายฝั่งไปเรื่อยๆ อ้อมไปจนถึง coromandel, whitianga, hahei แล้วค่อยวนกลับมา Auckland (จริงๆ ขับตรงจาก Auckland ไป hot water beach แค่สองชั่วโมงเองครับ) พร้อมแล้วก็ออกเดินทางเลยครับ
Link สำหรับ ผู้ที่ต้องการอ่านตอนก่อนหน้าครับ
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/35922839
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 2 ซิวๆ ในโซน Auckland CBD http://ppantip.com/topic/35939587
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 3 กิน เที่ยว ชมวิว ณ Devonport https://ppantip.com/topic/35962019
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 4 Mt. Eden, One Tree Hill & Auckland Zoo https://ppantip.com/topic/35986499
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 5 ชิวๆ ย่านชานเมือง Parnell village & Mission Bay https://ppantip.com/topic/36078441
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 6 เกาะแห่งไวน์ Waiheke & เกาะร้าง Rangitoto https://ppantip.com/topic/36101181
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 7 พาทัวร์ชิมร้านอาหารสไตล์ท้องถิ่นของ Auckland https://ppantip.com/topic/36124306
New Zealand เที่ยวจนตายกันไปข้างนึง North Island & South Island ตอนที่ 8 รวมร้านของหวานห้ามพลาดใน Auckland https://ppantip.com/forum/new_topic
ปล. 1. รูปอาจจะน้อยหรือไม่ค่อยสวยหน่อยนะครับ ผมพยายามถ่ายแล้ว แต่ได้แค่นี้จริงๆ T-T
2. ข้อมูลต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
3. ผมซ่อนข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวไว่ใน Spoil นะครับ สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลโดยละเอียด
1st day เหมืองทองแห่งคาบสมุทร Coromandel (Thames city of gold mine)
ออกเดินทางในช่วงเช้าวันศุกร์ พยากรณ์อากาศบอกว่า อาทิตย์นี้อากาศสดใสไม่มีฝน เหมาะแก่การออกไปเที่ยวพอดี (แต่พอแบกเป้ออกมาดันลืมหยิบเสื้อกันหนาวมาด้วย คิดไปคิดมาขี้เกียจเดินกลับไปเอา มันคงไม่หนาวมั้ง) พอไปถึงบริษัท Jucy มีคนต่อคิวอยู่สองคิว ใช้เวลากว่า 10 นาทีก็รับรถออกมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขับรถที่นิวซีแลนด์ด้วย กดดันพอสมควรเลย 555 แต่พอขับไปซักพักก็ชิน จาก Auckland ก็หาทางขับออกมาเส้น Motorway (ผมหลงทางเสียเวลาไปเกือบชั่วโมงเลย) ขับอีกชั่วโมงกว่าก็จะถึงเมือง Thames ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองที่เจริญมากในอดีตในช่วงตื่นทอง แต่พอทองหมด เมืองก็ซบเซาแต่ก็ยังคงเป็นเมืองใหญ่ในพื้นที่แถบนี้
จุดแรกที่จะไปคือ Gold Mine Tours แต่พอขับรถไปถึงปรากฏว่าเค้าปิดปรับปรุงพอดี ผมเซ็งนิดหน่อยนะ ดันไม่ยอมเช็ดให้ละเอียด ตั้งใจมาที่นี่มากด้วย อุตสาห์มาเมืองแห่งเหมืองทองกลับไม่ได้ชมเหมืองทอง
จากนั้นก็เลยไปที่ Thames School of Mines ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนการทำเหมืองในอดีต พอเดินเข้าไปก็เจอลุง John อายุลุงแกน่าจะเกิน 60 แล้วนะครับ ใช้บัตรนักเรียนเลยจ่ายค่าเข้าชมเพียงแค่ 5 เหรียญ อีกทั้งลุงแกยังอาสาเป็นไกด์พาชมพิพิธภัณฑ์อีก (สงสัยนักท่องเที่ยวคงน้อยมาก เพราะลุงแกเดินไปปิดประตู แล้วก็พาชมแบบ Private tour เลย) ภายในก็เป็นโรงเรียนในสมัยก่อนหลายห้องสร้างจากไม้ อาทิ ห้องแล็บเคมี ห้องทดสอบ ห้องสกัดทอง ห้องสมุด ลุงแกพูดอธิบายมากมาย แต่ด้วยที่แกพูดค่อนข้างเร็ว และสำเนียงกีวีด้วย ผมเลยเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการทำทองเยอะเลยครับ เรื่องที่ผมประทับใจที่สุดที่ลุงแกเล่า คือ เมื่อประมาณสิบปีก่อน มีนักเรียนคนนึงของโรงเรียน ซึ่งเรียนจบไปเมื่อ 70 ปีก่อน ได้กลับมาที่โรงเรียนนี้และมานั่งที่โต๊ะที่เคยเรียนอีกครั้ง (นักเรียนท่านนี้ยังบอกว่าทางพิพิธภัณฑ์จัดโต๊ะเรียนผิด และได้จัดโต๊ะให้ใหม่อีกด้วย)
ห้องต่างๆ ภายในโรงเรียน
พอชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ ก็ร่ำลาลุง John ข้ามไปฝั่งตรงกันข้ามของพิพิธภัณฑ์ คือ Thames Small Gauge Railway (เปิดเฉพาะวันอาทิตย์) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสำหรับรถไฟขนาดเล็ก เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถนั่งบนรถไฟได้
จากนั้นก็ไป Check in ห้องพัก Sunkist Guest House ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นโรงแรมเก่าชื่อ Lady Bowen สร้างตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1860 เฟอร์นิเจอร์และบรรยากาศของห้องพักเหมือนสมัยก่อน โดยเฉพาะห้องนั่งเล่นที่มี เปียโนและโต๊ะสนุกเกอร์ให้แขกสามารถเล่นได้ ส่วนห้องน้ำและห้องครัวก็ได้มีการรีโนเวทให้ทันสมัยขึ้น ผมพักห้องรวมแชร์ 4 คน ราคา 35 เหรียญ พร้อมอาหารเช้า ถือว่าโอเคครับ จำนวนแขกที่พักก็ไม่มากนัก ทำให้รู้สึกเงียบสงบ
เมื่อ Check in เรียบร้อยก็รีบไปที่ War Memorial Monument and Lookout เพราะดูแล้วฝนน่าจะตก ที่นี่เป็นอนุสรณ์รำลึกทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 (New Zealand กับ Australia ให้ความสำคัญกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ค่อนข้างมากเลยครับ) ซึ่งอนุสรณ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาและเป็นจุดชมวิวของเมืองอีกด้วย
เมื่อชมวิวเสร็จก็ขับรถไปที่ Shortland Wharf เพื่อซื้ออาหารทะเลสำหรับมื้อเย็น แต่พอไปถึงก็ตกใจพอสมควร เนื่องจากท่าเรือนี้เล็กมากมีแค่ร้านคาเฟ่กับร้านขายอาหารทะเล 2 ร้านเอง ผมเลยสั่ง Fish&Chip มา 1 ที่ จากนั้นก็ขับรถไปที่ super market ในเมือง เพื่อซื้อหอยแมลงภู่ New Zealand (Coromandel เป็นฟาร์หอยแมลงภู่ที่มีชื่อเสียงของ New Zealand) และของกินของใช้อีกหน่อย
พอกลับมาถึงที่พักก็ออกไปเดินสำรวจเมืองอีกหน่อย แต่ตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็นร้านค้าต่างๆ เริ่มปิดแล้ว เดินได้แป๊ปเดียว ฝนก็ดันตกลงมาอีก (ไหนพยากรณ์อากาศบอกว่าอากาศสดใส) เลยต้องเดินตากฝนกลับไปที่พักเลย พอกลับมาก็อบหอยแมลงภู่ แล้วอุ่น Fish&Chip
รสชาติ Fish&Chip ก็โอเคครับ แต่หอยแมลงภู่อร่อยมาก หอมหวานโดยไม่ต้องใส่เครื่องปรุงอะไรเลย อย่างไรก็ตามคืนนี้เกิดปัญหา 2 เรื่องครับ เรื่องแรกผมดันลืมเอาปลั๊กต่อมาเลยทำให้ชาร์ตมือถือไม่ได้ มีแค่ power bank อันเดียวซึ่งชาร์ตได้ประมาณ 3-4 ครั้ง แต่วันนี้โชดดีเจอ Jack เพื่อนรวมห้องเป็นชาวอเมริกัน เลยขอยืมที่ชาร์ตมาใช้ก่อน ส่วนปัญหาอีกเรื่อง คือ Hot water Beach จะต้องไปในช่วงเวลาก่อนหรือหลังน้ำลง 2 ชั่วโมง ซึ่งน้ำลงพรุ่งนี้ตอน 7 โมงเช้า ถ้าจะไปวันพรุ่งนี้ผมต้องออกจากที่พักประมาณ 6 โมงเช้า ผมขี้เกียจตื่นเช้าเลยเปลี่ยนแผน ไป Hot Water Beach ในวันมะรืนแทน (อีกวันน้ำขึ้นตอน 8 โมงเช้า และที่พักอยู่ใกล้กว่ามากครับ) พรุ่งนี้เลยไปทางเหนือมุ่งหน้าสู่ Coromandel town แทน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น