ช่วงนี้บอกเลยว่างานผมเองก็เยอะมากๆ ก็นั่งทำงานไป คิดไปเรื่อยเปื่อยตามประสาเด็กออทิสติก ก็ไปนึกถึงเรื่องนึ่ง มีคุณพ่อแม่เค้าสงสัยกันมาว่า เวลาที่เด็กออทิสติกบางคนที่มีภาษาต่างดาว เราจะทำอย่างไร เราจะเข้าใจเค้าได้อย่างไร และเราจะพัฒนาเค้าได้อย่างไร ผมเองตอนเด็กๆก็มีภาษาต่างดาวเช่นกัน ก็เลยจะมาอธิบายหลักการเข้าใจภาษาต่างดาว ในมุมมองของเด็กออทิสติกกันนะครับ
บทความนี้เป็นบทความที่ไม่อิงหลักวิชาการ อิงจากความรู้สึกของตัวผู้เขียนที่เป็นออทิสติกเอง
ภาษาพูด เป็นสิ่งที่คนเราใช้สื่อสารออกมาให้คนอื่นได้ยิน โดยใช้อวัยวะหลายๆส่วนเพื่อเปล่งเสียงให้เกิดลักษณะเสียง(คำ) และอารมณ์ของเสียง โดยลักษณะของเสียง(คำ)ที่เปล่งออกมานั้น จะมีความหมายอะไร ขึ้นอยู่คนทั้งหลายคนเข้าใจคำๆนั้นว่าอย่างไร อย่างเช่นคำว่า เก้าอี้ เมื่อทุกคนเปล่งลักษณะเสียงนี้ออกมา ก็จะนึกถึง สิ่งที่ใช้นั่งนั้นเอง ภาษาพูดจึงเป็นหลักที่ทุกคนจะต้องเข้าใจตรงกัน และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วไปในสังคม
ปัญหาคือ ถ้าเด็กออทิสติกไม่ได้เข้าใจใจในแบบที่เราเข้าใจละ โดยปกติพัฒนาการด้านการสื่อความหมายต่างๆ ของเด็กมีพัฒนาการเรียกชื่อสิ่งต่างๆที่มองเห็นและสัมผัสได้ เช่น พ่อ แม่ เป็นต้น แต่ในเด็กออทิสติกที่มีพัฒนาการที่ผิดแปลกไป เด็กออทิสติกจะเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ตนเองเชื่อเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอและคิดวนเอาเอง ตัวอย่างเช่น น้ำ ในเด็กปกติทั่วไป พอรู้สึกหิวน้ำ ก็จะสื่อความหมายว่า น้ำ เพราะเห็นพ่อแม่พูดคำว่าน้ำ บ่อยๆและโยงเพื่อให้ได้รับ แต่เด็กออทิสติกจะไม่ขอ และเวลาที่เด็กออทิสติกสื่อสารจะเป็นคำประมาณ เช่น อับบาบา แม่นา เป็นต้น เป็นภาษาที่เราไม่เข้าใจเลย เค้าพูดอะไรเนี้ย สิ่งที่เด็กออทิสตกคิดก็คือ น้ำ เค้าสื่อสารเพื่อให้ได้ น้ำ แต่พ่อแม่ไม่เข้าใจก็เลย จูงมือไปหยิบน้ำซะเลย พ่อแม่ก็แบบงงๆ ลูกเราทำอะไรเนี้ย และภาษาต่างดาวของเด็กออทิสติกจะค่อนข้างซ้ำ หมายความว่าลักษณะการเปล่งเสียงจะมีน้อยแต่ความคิดมีอยู่เยอะ เหมือนคำๆเดียวมีหลายความหมายนั้นแหละ
วิธีทำความเข้าใจภาษาต่างดาวเด็กออทิสติก
1.จำลักษณะเสียงที่เด็กเปล่งออทิสติกเปล่งออกมา
2.ดูลักษณะการสื่อความหมายของเสียงนั้นๆ อาจจะใช้วิธีจดบันทึกก็ได้
3.รวบรวมข้อมูลภาษาต่างๆดาวที่เด็กใช้พูด
พอเราเข้าใจเค้าและตอบสนองเค้าได้จากสิ่งที่เค้าสื่อสารออกมาได้ เด็กจะรู้สึกว่าเราเข้าใจตัวเค้า แต่ยังไม่จบเพราะเราจะต้องแก้ไขความเข้าใจทางภาษาในตัวเด็ก วิธีแก้แบบฉบับของผมมีดังนี้
1.สร้างคำพูดสองแบบที่มีความหมายเหมือนกัน เราพูด ภาษาต่างดาวเด็ก และ ภาษาเรา ให้เด็กเข้าใจว่ามีคำที่มีความหมายเหมือนกัน (ลักษณะการพูดก็ พูดภาษาเด็ก เว้น ภาษาเรา)
2.สังเกตว่าเด็กมีการเปลี่ยนแปลงพูดตามเราไหม ถ้าพูดตามเราได้ด้วย เราต้องลดภาษาของเค้าลง ให้น้อยลงจนไม่มี และค่อยๆฝึกการพูดภาษาเรามากขึ้น โดยการยกเลิกการดำเนินการภาษาต่างดาว และเน้นการดำเนินการภาษาเรามากขึ้น
3.ฝึกแยกเสียงการพูดต่างๆ เพื่อจำแนกสิ่งต่างๆจากคำพูด เช่น มี กล้วย กับ ส้ม ให้เด็กฝึกพูดอย่างเดียว กล้วย และ ฝึก ส้ม พอได้แล้วก็ฝึกแยกคำ ถ้าเด็กพูดกล้วย เรายื่นกล้วย ถ้าเด็กพูดส้ม เรายื่นส้ม ถ้าเด็กพูดกล้วยส้ม เรายื่นกล้วยก่อนและส้มตามหลังเพื่อให้เด็กเข้าใจ ถ้าเด็กไม่พูดอะไรเลย ให้เราจับมือเค้าและยื่นกล้วยให้ และออกเสียงให้เค้าได้ยิน
4.เมื่อเด็กได้คำเรียกสิ่งของ ต่อไปก็คำกริยา ใช้วิธีลำดับขั้น เช่น คลาน เดิน วิ่ง พาเด็กแสดงท่าทางนั้นและฝึก เด็กจะเข้าใจไป
จะเห็นว่าภาษาต่างดาวจะเป็นพัฒนาการที่ดีกว่า เด็กที่ส่งเสียงอื่อๆๆ ได้อย่างเดียว เราจำเป็นที่จะต้องฝึกเด็กให้สามารถสื่อสารได้ เพื่อติดต่อในสังคม วิธีการอาจจะแตกต่างกับการปฏิบัติของหลักการบ้าง แต่ผมเชื่อว่าหากเราเข้าใจกระบวนการคิดและวิธีการเรียนรู้ของเด็กออทิสติก ก็จะสามารถพาเค้าหลุดพ้นจากสิ่งต่างๆที่ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจ และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อๆไป
เข้าใจยากเหมือนกันแฮะ
มาทำความเข้าใจภาษาต่างดาวของเด็กออทิสติกกันเถอะ !!!
บทความนี้เป็นบทความที่ไม่อิงหลักวิชาการ อิงจากความรู้สึกของตัวผู้เขียนที่เป็นออทิสติกเอง
ภาษาพูด เป็นสิ่งที่คนเราใช้สื่อสารออกมาให้คนอื่นได้ยิน โดยใช้อวัยวะหลายๆส่วนเพื่อเปล่งเสียงให้เกิดลักษณะเสียง(คำ) และอารมณ์ของเสียง โดยลักษณะของเสียง(คำ)ที่เปล่งออกมานั้น จะมีความหมายอะไร ขึ้นอยู่คนทั้งหลายคนเข้าใจคำๆนั้นว่าอย่างไร อย่างเช่นคำว่า เก้าอี้ เมื่อทุกคนเปล่งลักษณะเสียงนี้ออกมา ก็จะนึกถึง สิ่งที่ใช้นั่งนั้นเอง ภาษาพูดจึงเป็นหลักที่ทุกคนจะต้องเข้าใจตรงกัน และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วไปในสังคม
ปัญหาคือ ถ้าเด็กออทิสติกไม่ได้เข้าใจใจในแบบที่เราเข้าใจละ โดยปกติพัฒนาการด้านการสื่อความหมายต่างๆ ของเด็กมีพัฒนาการเรียกชื่อสิ่งต่างๆที่มองเห็นและสัมผัสได้ เช่น พ่อ แม่ เป็นต้น แต่ในเด็กออทิสติกที่มีพัฒนาการที่ผิดแปลกไป เด็กออทิสติกจะเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ตนเองเชื่อเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอและคิดวนเอาเอง ตัวอย่างเช่น น้ำ ในเด็กปกติทั่วไป พอรู้สึกหิวน้ำ ก็จะสื่อความหมายว่า น้ำ เพราะเห็นพ่อแม่พูดคำว่าน้ำ บ่อยๆและโยงเพื่อให้ได้รับ แต่เด็กออทิสติกจะไม่ขอ และเวลาที่เด็กออทิสติกสื่อสารจะเป็นคำประมาณ เช่น อับบาบา แม่นา เป็นต้น เป็นภาษาที่เราไม่เข้าใจเลย เค้าพูดอะไรเนี้ย สิ่งที่เด็กออทิสตกคิดก็คือ น้ำ เค้าสื่อสารเพื่อให้ได้ น้ำ แต่พ่อแม่ไม่เข้าใจก็เลย จูงมือไปหยิบน้ำซะเลย พ่อแม่ก็แบบงงๆ ลูกเราทำอะไรเนี้ย และภาษาต่างดาวของเด็กออทิสติกจะค่อนข้างซ้ำ หมายความว่าลักษณะการเปล่งเสียงจะมีน้อยแต่ความคิดมีอยู่เยอะ เหมือนคำๆเดียวมีหลายความหมายนั้นแหละ
วิธีทำความเข้าใจภาษาต่างดาวเด็กออทิสติก
1.จำลักษณะเสียงที่เด็กเปล่งออทิสติกเปล่งออกมา
2.ดูลักษณะการสื่อความหมายของเสียงนั้นๆ อาจจะใช้วิธีจดบันทึกก็ได้
3.รวบรวมข้อมูลภาษาต่างๆดาวที่เด็กใช้พูด
พอเราเข้าใจเค้าและตอบสนองเค้าได้จากสิ่งที่เค้าสื่อสารออกมาได้ เด็กจะรู้สึกว่าเราเข้าใจตัวเค้า แต่ยังไม่จบเพราะเราจะต้องแก้ไขความเข้าใจทางภาษาในตัวเด็ก วิธีแก้แบบฉบับของผมมีดังนี้
1.สร้างคำพูดสองแบบที่มีความหมายเหมือนกัน เราพูด ภาษาต่างดาวเด็ก และ ภาษาเรา ให้เด็กเข้าใจว่ามีคำที่มีความหมายเหมือนกัน (ลักษณะการพูดก็ พูดภาษาเด็ก เว้น ภาษาเรา)
2.สังเกตว่าเด็กมีการเปลี่ยนแปลงพูดตามเราไหม ถ้าพูดตามเราได้ด้วย เราต้องลดภาษาของเค้าลง ให้น้อยลงจนไม่มี และค่อยๆฝึกการพูดภาษาเรามากขึ้น โดยการยกเลิกการดำเนินการภาษาต่างดาว และเน้นการดำเนินการภาษาเรามากขึ้น
3.ฝึกแยกเสียงการพูดต่างๆ เพื่อจำแนกสิ่งต่างๆจากคำพูด เช่น มี กล้วย กับ ส้ม ให้เด็กฝึกพูดอย่างเดียว กล้วย และ ฝึก ส้ม พอได้แล้วก็ฝึกแยกคำ ถ้าเด็กพูดกล้วย เรายื่นกล้วย ถ้าเด็กพูดส้ม เรายื่นส้ม ถ้าเด็กพูดกล้วยส้ม เรายื่นกล้วยก่อนและส้มตามหลังเพื่อให้เด็กเข้าใจ ถ้าเด็กไม่พูดอะไรเลย ให้เราจับมือเค้าและยื่นกล้วยให้ และออกเสียงให้เค้าได้ยิน
4.เมื่อเด็กได้คำเรียกสิ่งของ ต่อไปก็คำกริยา ใช้วิธีลำดับขั้น เช่น คลาน เดิน วิ่ง พาเด็กแสดงท่าทางนั้นและฝึก เด็กจะเข้าใจไป
จะเห็นว่าภาษาต่างดาวจะเป็นพัฒนาการที่ดีกว่า เด็กที่ส่งเสียงอื่อๆๆ ได้อย่างเดียว เราจำเป็นที่จะต้องฝึกเด็กให้สามารถสื่อสารได้ เพื่อติดต่อในสังคม วิธีการอาจจะแตกต่างกับการปฏิบัติของหลักการบ้าง แต่ผมเชื่อว่าหากเราเข้าใจกระบวนการคิดและวิธีการเรียนรู้ของเด็กออทิสติก ก็จะสามารถพาเค้าหลุดพ้นจากสิ่งต่างๆที่ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจ และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อๆไป
เข้าใจยากเหมือนกันแฮะ