++สวัสดีค่า กระทู้นี้เรางดดราม่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามแต่ คู่ชิปหรือการเรียกชื่อแทนตัวศิลปินต่างๆ ตั้งใจว่าจะพิมพ์ไว้เผื่ออากาเซ(อากาเซ่:ตามแต่จะเรียก)รุ่นน้องๆ ที่อาจเพิ่งเริ่มถูกดึงดูดเข้ามาในวงโคจรติ่งด้วยกัน(ยินดีต้อนรับสู่รังนกน้อยนะคะ) แล้วก็พิมพ์เพื่อระบายอารมณ์ตัวเองด้วยค่ะ 555 ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ++
ก็อตเซเว่น (GOT7 : 갓세븐) เดบิวต์อย่างเป็นทางการวันที่ 16 มกราคม 2557(2014) ในฐานะไอดอลวงดนตรีสไตล์ฮิปฮอป(ซึ่งถ้ามองจากสายตาเราแล้ว เหมือนโดนหลอกด้วยคำว่าฮิปฮอปอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ เช่นเดียวกับคำพูดก่อนคัมแบ็คที่มักจะบอกเสมอว่า พวกเราจะกลับมาในภาพลักษณ์ที่ cool ขึ้น ก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นกัน 555) จากค่าย JYP Entertainment มีสมาชิก 7 คนตามชื่อวง ซึ่งจะขอแนะนำเป็นรายบุคคลถัดจากนี้นะคะ
วันที่ 15 มกราคม 2557(2014) อัลบั้มแรกที่ปล่อยออกมาเป็น mini album Got it? เพลงโปรโมทคือ Girls Girls Girls ก็คล้ายๆ แบบว่าเป็นเพลงเปิดตัววง พูดถึงความมั่นใจของพวกเขาที่มีเสน่ห์ล้นเหลือจนทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนหลงรักพวกเขาแน่นอน (แต่ภายหลังอัลบั้มนี้กลายเป็นยุคมืดสำหรับเมมเบอร์หลายๆ คน เพราะเรื่องทรงผมและเสื้อผ้า…)
มินิอัลบั้มต่อมา คือ Got Love ใช้เพลง A เป็นเพลงโปรโมท มาในลุคสดใส หรือจะเรียกว่าลุคแฟนหนุ่มก็ได้ ทีเซอร์ก่อนปล่อยเพลงของแต่ละคนก็น่ารักมากกกก จำได้ว่าตอนนั้นดูไปนั่งยิ้มไป แล้วก็เชื่อว่าอากาเซทั่วโลกต้องมีอาการเดียวกันแน่นอน 555 จุดเด่นของอัลบั้มนี้อยู่ที่การที่อากาเซบางคน(ชื่อแฟนคลับของวง Got7)ยังเรียกแจบอมที่เป็นลีดเดอร์ของวงว่าปู่บีอยู่ และผมทรงมาม่ารามยอนของมาร์คที่เป็นฝันร้ายของเจ้าตัว(แต่เราว่ามันก็น่ารักดีนะ โอเคกว่าทรงของจินยองตอนอัลบั้มที่แล้วตั้งเยอะ/อุ้ย..) เนื้อหาก็ประมาณว่าผู้ชายแซวผู้หญิงว่าฉันรู้ทันน่าว่าเธอชอบฉัน ไม่ต้องเขินหรอกนะ เพราะฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน อะไรประมาณนี้
อัลบั้มที่สาม Identify ใช้เพลง Stop Stop it เป็นเพลงโปรโมท สิ่งพิเศษของอัลบั้มนี้คือเป็นอัลบั้มเต็มอันแรกของ Got7! แล้วก็ยังมีตัวเอ็มวีที่ค่อนข้างมีเรื่องราว ดูน่าสนใจกว่าสองอัลบั้มแรก พี่แจบอมรับบทเป็นพระเอกเอ็มวีในครั้งนี้ และที่สำคัญที่จะลืมไม่ได้คือทรงผมของพี่แจ็ค!! โอ้มายก็อด เหมือนทหารที่เพิ่งหลุดจากการเข้ากรมมา ฮือ แต่ตอนนั้นเราก็กรี๊ดนะ แบบว่าทำทรงไรมาก็ไม่รู้สึกว่ามีใครแปลกเลยนะ เหมือนกับว่าเราก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้มองเห็นภาพลักษณ์เขาในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่แจ็คสัน แต่พูดรวมๆ ถึงสมาชิกทุกคน//เราว่าทรงนี้มันก็โอเคนะแจ็คสัน…
มินิอัลบั้มต่อมาคือ Just Right เพลงโปรโมทก็ Just Right กลับมาคราวนี้พกความน่ารักสดใสมาด้วย ลืมภาพหัวเกรียนนั่นไปแล้วมาสดใสกับหนุ่มๆ ไซต์มินิที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูกันเถอะ! เพลงนี้เรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก นอกจากจะเป็นเพลงที่สามารถฟังได้ทุกเพศทุกวัยแล้ว ตามโรงพยาบาลหลายแห่งในต่างประเทศก็เปิดเพลงนี้เพื่อเป็นการบำบัดผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องของสภาพจิตใจให้มีอาการดีขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และตอนนี้เอ็มวีนี้มียอดวิวครบ 100 ล้านเรียบร้อยแล้วนะจ๊าา เป็นวงบอยแบนด์ชายที่มียอดวิวร้อยล้านเป็นอันดับที่ 5 ต่อจากวง BIGBANG,Super Junior,Exo และ BTS นั่นเองจ้า //ปรบมือรัวๆ
มินิอัลบั้มที่ 4 MAD ใช้เพลง If You Do ในการโปรโมท
//ไม่สะดวกใจสามารถข้ามการบรรยายอัลบั้มนี้ไปได้เลยค่ะ ไม่มีสาระใดๆ 555// ครั้งนี้เรียกได้ว่าสร้างความกระหายให้กับดิชั้นเหลือเกิน ดูทีเซอร์ก็ลอบกลืนน้ำลายแล้ว ทำไมผู้ชายของเราหล่อได้ขนาดนี้ มาไกลมาก หล่อๆๆ ในหัวมีแต่คำนี้เต็มไปหมด แล้วแบบพี่แจ็คหล่อมากกก พี่แจบอมก็หล่อ คือหล่อทุกคน งานดีทุกคน อัลบั้มนี้ไม่มีอะไรพูดมาก เพราะจำได้แค่ว่าคลั่งไคล้มาก หลงมาก แบบหัวปักหัวปำ โอ้ยยย
Ps.สิ่งที่เราเห็นได้ชัดจากอัลบั้มนี้คือพัฒนาการการเต้นของทุกคน โดยเฉพาะยองแจที่เป็นเมนโวคอล(เมนร้อง)นั้น เราชื่นชมมากว่าน้องทำได้ น้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าน้องพร้อมแล้วก็มีความพยายามมากจริงๆ สเต็ปการขยับเท้าแบบนั้นน่ะ ไม่ใช่ใครก็ทำกันได้ง่ายๆ นะ…
ที่จริงแล้ว If You Do เป็นเพลงที่น่าภาคภูมิใจมากๆ เลยค่ะ เป็นเพลงแรกที่ทำให้ Got7 ได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งแรกที่รายการ The Show วันที่ 6 ตุลาคม 2015 เหมือนฝันเลยค่ะ อากาเซรอคอยวันนั้นมากแค่ไหน แน่นอนว่าGot7รอคอยวันนั้นไม่ได้น้อยไปกว่าเรา ในวันนั้นคิดว่าดีใจมากแล้ว แต่วันที่โปรโมทเพลง Fly แล้วได้รางวัลกลับมา มันยิ่งกว่าความสุขอีกค่ะ
อีกอัลบั้มนึงที่ตามมาติดๆ คือ MAD Winter Edition เพลงโปรโมทคือ Confession Song เอ็มวีนี้พิเศษตรงที่ Got7 มีความตั้งใจที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้คู่รักได้มาสารภาพรักต่อกันในสถานที่สุดแสนวิเศษ(โรงยิมที่กัซตั้งใจจัดของตกแต่งต้องวิเศษอยู่แล้ว…) เป็นการถ่ายทำที่เน้นความเรียล ความสมจริงของเหตุการณ์ คือให้เด็กนักเรียนที่ตั้งใจสารภาพรักกับใครสักคนนั้นได้รับโอกาสในการพูดความในใจออกไปจริงๆ แต่มีความช้ำใจนิดนึงตอนเดินสายโปรโมท…แบบว่า ทำไมพวกนายต้องพูดเรื่องเดทอะไรบ่อยขนาดนั้นด้วยล่ะ นูน่าหวงนะ TT
ถัดจากนั้นมาอีกประมาณ 4 เดือน JYP ก็ทิ้งบอมบ์ให้กับเหล่าอากาเซด้วยการปล่อยทีเซอร์อัลบั้ม Flight Log : Departure โดยมีเพลง Fly เป็นเพลงโปรโมท แล้วก็มีเพลงเสริมคือ Home Run(เพลงนี้น่ารัก ฮื้อ เราชอบ) อัลบั้มนี้ได้รับความสนใจจากอากาเซทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าอย่างล้นหลามด้วยตัวทีเซอร์เองที่ดูลึกลับบวกกับการแสดงของคุณนักแสดงพัคจินยองนั้นก็พาลให้หัวใจของบรรดานูน่าสั่นไหวกันเป็นแถบๆ แต่เมื่อตัวเอ็มวีถูกปล่อยออกมาก็ค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อย เพราะถ่ายลูกฉันไกลมากกก อิบ้าา เข้าใจอารมณ์ปะ ทีเซอร์พีคมากแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สร้างปมนู่นนี่นั่นมากมาย แต่เอ็มวีออกมาคือ…เต้นๆ ตรงลานจอดเครื่องบิน ด้วยชุดสีฟ้าและสีส้มสดใส พาสเทลมากๆ… แต่ส่วนตัวชอบตัวอัลบั้มนะ สีมันสวยไง 555 ดีไซน์ดีนะ รูปด้านในก็ดี กินเนื้อที่กระดาษตามแบบฉบับ JYP Style เน้นกระดาษขาวมากกว่ารูปผู้ชายคือคอนเซ็ปต์ของค่ายเรา ฮริ้ง
Fly ได้รับรางวัลครั้งแรกในรายการ The Show จากนั้นก็ตามมาด้วย M Countdown, Music Bank, Inkigayo และกลับมาชนะที่ The Show อีกในวันที่ 3 เมษายน 2016 เวทีแรกเราได้เห็นน้ำตาคลอเบ้าจากลีดเดอร์อิมแจบอมที่ชิคที่สุด เวทีต่อมาเป็นน้ำตาจากสมาชิกต่างชาติสองคนคือมาร์คและแจ็คสัน แน่นอนว่าเป็นวันที่อากาเซทั่วโลกต่างเสียน้ำตาให้กับชัยชนะในครั้งนี้ มันคือความพยายามที่สำเร็จหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายมาด้วยกันตลอด 2 ปี เวทีที่สามที่สมาชิกต่างตกใจและอึ้งไปตามๆ กันโดยไม่รู้ตัว ชัยชนะครั้งนี้มาได้อย่างไร อากาเซก็ยังคงยิ้ม ครั้งนี้ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ และเวทีที่ Inkigayo ครั้งนั้นได้แจ็คสันมาเป็นพิธีกร เขาได้มอบถ้วยรางวัลนั้นให้กับลีดเดอร์ด้วยมือของเขาเองด้วยรอยยิ้ม หลังเวทีก็มีสมาชิกแอบไปร้องไห้ ฮือ ใจเรามันบางนะ เป็นวีคที่ได้ร้องไห้ไปพร้อมกัซตลอด เป็นความทรงจำที่ดีค่ะ ดีใจที่ได้มาเจอเด็กๆ ที่น่ารัก มีความถ่อมตัวและอ่อนน้อมที่หาได้ยากแบบนี้ ดีใจมากจริงๆ ที่เราผ่านจุดนั้นมาด้วยกัน
ต่อมาค่ะ ต่อจากอัลบั้มที่แล้ว Flight Log : Turbulence นำเสนอเรื่องราวความวุ่นวายของปัญหา หรือจะเรียกว่ามันเป็นจุดพีคของอัลบั้มเซ็ทนี้เลยก็ได้ มาอัลบั้มนี้ก็เหมือนเริ่มเดาทางกันได้กลายๆ แล้วว่าต้องเกี่ยวกับอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง ไม่จินยองตายก็เมมเบอร์อีก 6 คนตายตามที่ดูจากในทีเซอร์คัมแบ็คนี้ อืม…ค่อนข้างหลอนนิดนึงนะตัวทีเซอร์ ฉากที่แอร์ฯเคลื่อนตัวมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วนั้น บอกเลยว่านึกถึงบอดี้ศพ 19 โอ้โห นี่มันอะไรกันเนี่ย และหลังจากปล่อยเอ็มวีมาก็ตามคาดค่ะคุณ เต้นหน้าเครื่องบินที่กลายเป็นซากอย่างบ้าคลั่ง เต้นๆๆ ฉันเกิดมาเพื่อเป็น King of dance แล้วก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างในการคาดเดาเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ แต่อัลบั้มนี้สุดยอดเลย เพลงมันส์สุดๆ เราชอบฉากเปิดตอนที่เต้นส่ายตูดดุ๊กๆ กันอ่ะค่ะ น่ารัก TT
และอัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งมาสดๆ ร้อนๆ คือ Flight Log : Arrival เพลงโปรโมทคือ Never Ever ถือว่า JYP ทำฉากจบอัลบั้มเซ็ทนี้ได้อย่างสวยงาม ไขข้อข้องใจสำหรับเนื้อเรื่องให้แบบกระจ่างสุดๆ (หรืออาจมีบางคนยังไม่กระจ่าง?) เป็นการแลนดิ้งที่นุ่มนวลสมศักดิ์ศรี แต่เราต้องมารอลุ้นกันว่าคัมแบ็คคราวนี้เราจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องรอดูแล้วก็ช่วยกันสตรีม ช่วยกันปั่นยอดวิว ซื้ออัลบั้มกันต่อไปนะคะ อย่ายอมแพ้ ชัยชนะอาจจะอยู่แค่เอื้อมถ้าคุณหยุดนะ สู้ๆ เพื่อเด็กๆของเราค่ะ!
ในส่วนของเนื้อหาเอ็มวีนั้น...ถ้าจะพูดแบบสรุปๆ จากที่ไปฟังคนอื่นเขาเล่าๆ มา ก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แจบอมเป็นคนขับรถ แล้วบังเอิญเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนหรือสะพานอะไรนั่น แจ็คสันเสียชีวิตคนแรกจากภาพที่พุ่งทะลุกำแพงแล้วไม่มีฉากอีกเลย ต่อมาเป็นแจบอมที่เสียชีวิตหลังจากรถจมลงไปในน้ำแล้ว ยองแจเป็นคนที่สามเสียชีวิตตอนที่กำลังพยายามทุบกระจกรถ มาร์คเสียชีวิตคนที่สี่ตอนที่กำลังพยายามช่วยชีวิตจินยองออกจากรถ แบมแบมเสียชีวิตคนที่ห้าในรถพยาบาลถ้าดูฉากตามเอ็มวีตั้งแต่ Fly แบมแบมจะถือหน้ากากออกซิเจนไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหายไป และคนสุดท้ายคือยูคยอม มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพราะมีฉากแค่ที่โรงพยาบาลที่แวบมาดูจินยองก่อนไป สรุปจินยองรอดคนเดียวจากอุบัติเหตุรถยนต์ในครั้งนี้ค่ะ แล้วการที่เขาพยายามตัดฉากรถยนต์กับเครื่องบินสลับไปมาเนี่ย ก็เพื่อต้องการสื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น การใช้เครื่องบินในแต่ละพาร์ทเนี่ย มันแสดงถึงการออกเดินทาง การประสบปัญหา แล้วก็การแลนดิ้งเครื่องได้ดีกว่า ถ้าใช้รถยนต์อย่างเดียว ก็จะเป็นเอ็มวีที่ไม่ต้องคาดเดาตั้งแต่พาร์ทแรก เพราะทุกคนต้องเข้าใจแน่นอน
..................................
ค้างไว้แค่นี้ก่อนนะ...แบบว่า ถ้าแนะนำเมมเบอร์อีก 7 คนตัวอักษรคงเกินแน่ๆ อ่ะ ฮือ...เดี๋ยวดูอีกทีนะ ว่าจะเปิดกระทู้ใหม่หรือจะเพิ่มต่อในเม้นดี
วันนี้ก็ลาไปก่อน ยังมีเรื่องราวมากมายที่ไม่ได้เล่าให้ฟัง สามารถเม้นความคิด แชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้นะ มาทำให้มันเป็นห้องแห่งความทรงจำระหว่างGot7และIGot7 กันเถอะ
เส้นทางความสัมพันธ์ของ GOT7 และ IGOT7 [กระทู้เล่าเรื่องในแบบฉบับของอากาเซ]
วันที่ 15 มกราคม 2557(2014) อัลบั้มแรกที่ปล่อยออกมาเป็น mini album Got it? เพลงโปรโมทคือ Girls Girls Girls ก็คล้ายๆ แบบว่าเป็นเพลงเปิดตัววง พูดถึงความมั่นใจของพวกเขาที่มีเสน่ห์ล้นเหลือจนทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนหลงรักพวกเขาแน่นอน (แต่ภายหลังอัลบั้มนี้กลายเป็นยุคมืดสำหรับเมมเบอร์หลายๆ คน เพราะเรื่องทรงผมและเสื้อผ้า…)
มินิอัลบั้มต่อมา คือ Got Love ใช้เพลง A เป็นเพลงโปรโมท มาในลุคสดใส หรือจะเรียกว่าลุคแฟนหนุ่มก็ได้ ทีเซอร์ก่อนปล่อยเพลงของแต่ละคนก็น่ารักมากกกก จำได้ว่าตอนนั้นดูไปนั่งยิ้มไป แล้วก็เชื่อว่าอากาเซทั่วโลกต้องมีอาการเดียวกันแน่นอน 555 จุดเด่นของอัลบั้มนี้อยู่ที่การที่อากาเซบางคน(ชื่อแฟนคลับของวง Got7)ยังเรียกแจบอมที่เป็นลีดเดอร์ของวงว่าปู่บีอยู่ และผมทรงมาม่ารามยอนของมาร์คที่เป็นฝันร้ายของเจ้าตัว(แต่เราว่ามันก็น่ารักดีนะ โอเคกว่าทรงของจินยองตอนอัลบั้มที่แล้วตั้งเยอะ/อุ้ย..) เนื้อหาก็ประมาณว่าผู้ชายแซวผู้หญิงว่าฉันรู้ทันน่าว่าเธอชอบฉัน ไม่ต้องเขินหรอกนะ เพราะฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน อะไรประมาณนี้
อัลบั้มที่สาม Identify ใช้เพลง Stop Stop it เป็นเพลงโปรโมท สิ่งพิเศษของอัลบั้มนี้คือเป็นอัลบั้มเต็มอันแรกของ Got7! แล้วก็ยังมีตัวเอ็มวีที่ค่อนข้างมีเรื่องราว ดูน่าสนใจกว่าสองอัลบั้มแรก พี่แจบอมรับบทเป็นพระเอกเอ็มวีในครั้งนี้ และที่สำคัญที่จะลืมไม่ได้คือทรงผมของพี่แจ็ค!! โอ้มายก็อด เหมือนทหารที่เพิ่งหลุดจากการเข้ากรมมา ฮือ แต่ตอนนั้นเราก็กรี๊ดนะ แบบว่าทำทรงไรมาก็ไม่รู้สึกว่ามีใครแปลกเลยนะ เหมือนกับว่าเราก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้มองเห็นภาพลักษณ์เขาในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่แจ็คสัน แต่พูดรวมๆ ถึงสมาชิกทุกคน//เราว่าทรงนี้มันก็โอเคนะแจ็คสัน…
มินิอัลบั้มต่อมาคือ Just Right เพลงโปรโมทก็ Just Right กลับมาคราวนี้พกความน่ารักสดใสมาด้วย ลืมภาพหัวเกรียนนั่นไปแล้วมาสดใสกับหนุ่มๆ ไซต์มินิที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูกันเถอะ! เพลงนี้เรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก นอกจากจะเป็นเพลงที่สามารถฟังได้ทุกเพศทุกวัยแล้ว ตามโรงพยาบาลหลายแห่งในต่างประเทศก็เปิดเพลงนี้เพื่อเป็นการบำบัดผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องของสภาพจิตใจให้มีอาการดีขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และตอนนี้เอ็มวีนี้มียอดวิวครบ 100 ล้านเรียบร้อยแล้วนะจ๊าา เป็นวงบอยแบนด์ชายที่มียอดวิวร้อยล้านเป็นอันดับที่ 5 ต่อจากวง BIGBANG,Super Junior,Exo และ BTS นั่นเองจ้า //ปรบมือรัวๆ
มินิอัลบั้มที่ 4 MAD ใช้เพลง If You Do ในการโปรโมท //ไม่สะดวกใจสามารถข้ามการบรรยายอัลบั้มนี้ไปได้เลยค่ะ ไม่มีสาระใดๆ 555// ครั้งนี้เรียกได้ว่าสร้างความกระหายให้กับดิชั้นเหลือเกิน ดูทีเซอร์ก็ลอบกลืนน้ำลายแล้ว ทำไมผู้ชายของเราหล่อได้ขนาดนี้ มาไกลมาก หล่อๆๆ ในหัวมีแต่คำนี้เต็มไปหมด แล้วแบบพี่แจ็คหล่อมากกก พี่แจบอมก็หล่อ คือหล่อทุกคน งานดีทุกคน อัลบั้มนี้ไม่มีอะไรพูดมาก เพราะจำได้แค่ว่าคลั่งไคล้มาก หลงมาก แบบหัวปักหัวปำ โอ้ยยย
Ps.สิ่งที่เราเห็นได้ชัดจากอัลบั้มนี้คือพัฒนาการการเต้นของทุกคน โดยเฉพาะยองแจที่เป็นเมนโวคอล(เมนร้อง)นั้น เราชื่นชมมากว่าน้องทำได้ น้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าน้องพร้อมแล้วก็มีความพยายามมากจริงๆ สเต็ปการขยับเท้าแบบนั้นน่ะ ไม่ใช่ใครก็ทำกันได้ง่ายๆ นะ…
ที่จริงแล้ว If You Do เป็นเพลงที่น่าภาคภูมิใจมากๆ เลยค่ะ เป็นเพลงแรกที่ทำให้ Got7 ได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งแรกที่รายการ The Show วันที่ 6 ตุลาคม 2015 เหมือนฝันเลยค่ะ อากาเซรอคอยวันนั้นมากแค่ไหน แน่นอนว่าGot7รอคอยวันนั้นไม่ได้น้อยไปกว่าเรา ในวันนั้นคิดว่าดีใจมากแล้ว แต่วันที่โปรโมทเพลง Fly แล้วได้รางวัลกลับมา มันยิ่งกว่าความสุขอีกค่ะ
อีกอัลบั้มนึงที่ตามมาติดๆ คือ MAD Winter Edition เพลงโปรโมทคือ Confession Song เอ็มวีนี้พิเศษตรงที่ Got7 มีความตั้งใจที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้คู่รักได้มาสารภาพรักต่อกันในสถานที่สุดแสนวิเศษ(โรงยิมที่กัซตั้งใจจัดของตกแต่งต้องวิเศษอยู่แล้ว…) เป็นการถ่ายทำที่เน้นความเรียล ความสมจริงของเหตุการณ์ คือให้เด็กนักเรียนที่ตั้งใจสารภาพรักกับใครสักคนนั้นได้รับโอกาสในการพูดความในใจออกไปจริงๆ แต่มีความช้ำใจนิดนึงตอนเดินสายโปรโมท…แบบว่า ทำไมพวกนายต้องพูดเรื่องเดทอะไรบ่อยขนาดนั้นด้วยล่ะ นูน่าหวงนะ TT
ถัดจากนั้นมาอีกประมาณ 4 เดือน JYP ก็ทิ้งบอมบ์ให้กับเหล่าอากาเซด้วยการปล่อยทีเซอร์อัลบั้ม Flight Log : Departure โดยมีเพลง Fly เป็นเพลงโปรโมท แล้วก็มีเพลงเสริมคือ Home Run(เพลงนี้น่ารัก ฮื้อ เราชอบ) อัลบั้มนี้ได้รับความสนใจจากอากาเซทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าอย่างล้นหลามด้วยตัวทีเซอร์เองที่ดูลึกลับบวกกับการแสดงของคุณนักแสดงพัคจินยองนั้นก็พาลให้หัวใจของบรรดานูน่าสั่นไหวกันเป็นแถบๆ แต่เมื่อตัวเอ็มวีถูกปล่อยออกมาก็ค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อย เพราะถ่ายลูกฉันไกลมากกก อิบ้าา เข้าใจอารมณ์ปะ ทีเซอร์พีคมากแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สร้างปมนู่นนี่นั่นมากมาย แต่เอ็มวีออกมาคือ…เต้นๆ ตรงลานจอดเครื่องบิน ด้วยชุดสีฟ้าและสีส้มสดใส พาสเทลมากๆ… แต่ส่วนตัวชอบตัวอัลบั้มนะ สีมันสวยไง 555 ดีไซน์ดีนะ รูปด้านในก็ดี กินเนื้อที่กระดาษตามแบบฉบับ JYP Style เน้นกระดาษขาวมากกว่ารูปผู้ชายคือคอนเซ็ปต์ของค่ายเรา ฮริ้ง
Fly ได้รับรางวัลครั้งแรกในรายการ The Show จากนั้นก็ตามมาด้วย M Countdown, Music Bank, Inkigayo และกลับมาชนะที่ The Show อีกในวันที่ 3 เมษายน 2016 เวทีแรกเราได้เห็นน้ำตาคลอเบ้าจากลีดเดอร์อิมแจบอมที่ชิคที่สุด เวทีต่อมาเป็นน้ำตาจากสมาชิกต่างชาติสองคนคือมาร์คและแจ็คสัน แน่นอนว่าเป็นวันที่อากาเซทั่วโลกต่างเสียน้ำตาให้กับชัยชนะในครั้งนี้ มันคือความพยายามที่สำเร็จหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายมาด้วยกันตลอด 2 ปี เวทีที่สามที่สมาชิกต่างตกใจและอึ้งไปตามๆ กันโดยไม่รู้ตัว ชัยชนะครั้งนี้มาได้อย่างไร อากาเซก็ยังคงยิ้ม ครั้งนี้ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ และเวทีที่ Inkigayo ครั้งนั้นได้แจ็คสันมาเป็นพิธีกร เขาได้มอบถ้วยรางวัลนั้นให้กับลีดเดอร์ด้วยมือของเขาเองด้วยรอยยิ้ม หลังเวทีก็มีสมาชิกแอบไปร้องไห้ ฮือ ใจเรามันบางนะ เป็นวีคที่ได้ร้องไห้ไปพร้อมกัซตลอด เป็นความทรงจำที่ดีค่ะ ดีใจที่ได้มาเจอเด็กๆ ที่น่ารัก มีความถ่อมตัวและอ่อนน้อมที่หาได้ยากแบบนี้ ดีใจมากจริงๆ ที่เราผ่านจุดนั้นมาด้วยกัน
ต่อมาค่ะ ต่อจากอัลบั้มที่แล้ว Flight Log : Turbulence นำเสนอเรื่องราวความวุ่นวายของปัญหา หรือจะเรียกว่ามันเป็นจุดพีคของอัลบั้มเซ็ทนี้เลยก็ได้ มาอัลบั้มนี้ก็เหมือนเริ่มเดาทางกันได้กลายๆ แล้วว่าต้องเกี่ยวกับอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง ไม่จินยองตายก็เมมเบอร์อีก 6 คนตายตามที่ดูจากในทีเซอร์คัมแบ็คนี้ อืม…ค่อนข้างหลอนนิดนึงนะตัวทีเซอร์ ฉากที่แอร์ฯเคลื่อนตัวมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วนั้น บอกเลยว่านึกถึงบอดี้ศพ 19 โอ้โห นี่มันอะไรกันเนี่ย และหลังจากปล่อยเอ็มวีมาก็ตามคาดค่ะคุณ เต้นหน้าเครื่องบินที่กลายเป็นซากอย่างบ้าคลั่ง เต้นๆๆ ฉันเกิดมาเพื่อเป็น King of dance แล้วก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างในการคาดเดาเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ แต่อัลบั้มนี้สุดยอดเลย เพลงมันส์สุดๆ เราชอบฉากเปิดตอนที่เต้นส่ายตูดดุ๊กๆ กันอ่ะค่ะ น่ารัก TT
และอัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งมาสดๆ ร้อนๆ คือ Flight Log : Arrival เพลงโปรโมทคือ Never Ever ถือว่า JYP ทำฉากจบอัลบั้มเซ็ทนี้ได้อย่างสวยงาม ไขข้อข้องใจสำหรับเนื้อเรื่องให้แบบกระจ่างสุดๆ (หรืออาจมีบางคนยังไม่กระจ่าง?) เป็นการแลนดิ้งที่นุ่มนวลสมศักดิ์ศรี แต่เราต้องมารอลุ้นกันว่าคัมแบ็คคราวนี้เราจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องรอดูแล้วก็ช่วยกันสตรีม ช่วยกันปั่นยอดวิว ซื้ออัลบั้มกันต่อไปนะคะ อย่ายอมแพ้ ชัยชนะอาจจะอยู่แค่เอื้อมถ้าคุณหยุดนะ สู้ๆ เพื่อเด็กๆของเราค่ะ!
ในส่วนของเนื้อหาเอ็มวีนั้น...ถ้าจะพูดแบบสรุปๆ จากที่ไปฟังคนอื่นเขาเล่าๆ มา ก็คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วการที่เขาพยายามตัดฉากรถยนต์กับเครื่องบินสลับไปมาเนี่ย ก็เพื่อต้องการสื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น การใช้เครื่องบินในแต่ละพาร์ทเนี่ย มันแสดงถึงการออกเดินทาง การประสบปัญหา แล้วก็การแลนดิ้งเครื่องได้ดีกว่า ถ้าใช้รถยนต์อย่างเดียว ก็จะเป็นเอ็มวีที่ไม่ต้องคาดเดาตั้งแต่พาร์ทแรก เพราะทุกคนต้องเข้าใจแน่นอน
..................................
ค้างไว้แค่นี้ก่อนนะ...แบบว่า ถ้าแนะนำเมมเบอร์อีก 7 คนตัวอักษรคงเกินแน่ๆ อ่ะ ฮือ...เดี๋ยวดูอีกทีนะ ว่าจะเปิดกระทู้ใหม่หรือจะเพิ่มต่อในเม้นดี
วันนี้ก็ลาไปก่อน ยังมีเรื่องราวมากมายที่ไม่ได้เล่าให้ฟัง สามารถเม้นความคิด แชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้นะ มาทำให้มันเป็นห้องแห่งความทรงจำระหว่างGot7และIGot7 กันเถอะ