ถึงสาวๆทุกคน!! เมื่อโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมาเยือน!

สวัสดีค่ะ
วันนี้เราจะขอมาแชร์ประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ร่วมกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ถึงจะเป็นเวลาไม่กี่วันแต่ก็ทรมานน่าดูเลยทีเดียว...

แน่นอน!! บางคนบอกว่า โรคนี้คนเป็นกันเยอะ พบปัญหากันบ่อย ไม่เห็นจะแปลก โอเคนั่นอาจจะใช่ที่ใคร ๆ ก็เป็น แต่การใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไปจากเดิมจริง ๆ ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่า
        
           กระเพาะปัสสาวะอักเสบ พบบ่อยในสตรี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20-50 ปี ทั้งนี้เพราะท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าผู้ชายและอยู่ใกล้กับทวารหนัก เชื้อแบคทีเรียบริเวณทวารหนัก (ซึ่งปกติมีอยู่จำนวนมาก) จึงมีโอกาสสูงที่เคลื่อนเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการฟักตัวและอักเสบได้ในสตรีเจริญพันธุ์
อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)
การอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดอาการดังนี้
   1.ปัสสาวะบ่อย แต่ละครั้งจำนวนน้อย และกลั้นไม่ได้ ต้องรีบเข้าห้องน้ำ
   2.แสบในท่อปัสสาวะ ปวดเสียดตอยถ่ายสุด
   3.ตึง ปวดถ่วง บริเวณท้องน้อย
   4.ปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติ
   5.ปัสสาวะมีเลือดปน


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นี่แหละค่ะอาการเหล่านี้ เราเป็นทั้งหมดจริง ๆ ส่งผลให้การใช้ชีวิตยากลำบากขึ้น เมื่อต้องขึ้นรถประจำทาง การพบลูกค้า กระประชุม หรือแม้แต่การนอน! จะต้องปวดฉี่อยู่ตลอด กลั้นแทบไม่ไหว ปวดทุกๆ 15-30 นาที เข้าห้องน้ำทีก็น๊านนนนนนนนนนนนนานนนนนนนนนนนนน จนเพื่อร่วมงานเห็นแล้วถึงกับต้องรีบกระดกน้ำตามเพราะกลัวจะเป็นบ้าง
หลังจากที่สังเกต ศึกษาอาการ และเดาว่าตัวเองเป็นโรคนี้อยู่ 4 วัน ก็รีบไปหาหมอ เพราะเริ่มมีอาการวิตกกังวลและรับกับสภาพร่างกายที่เป็นอยู่ไม่ได้ ด้วยรูปแบบการทำงานที่ไม่ได้อำนวยต่อการเข้าห้องน้ำได้ตลอดเวลา และหมอสรุปได้ว่า เราเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบจริงๆ

แต่ทว่าา การรักษากลับง่ายดายและรวดเร็ว ไม่เห็นจะทรมานเหมือนตอนเป็นเล้ยยยยอมยิ้ม20
การรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)
  1.รับประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการมาก ต้องรับประทานยาในระยะเวลาที่นานขึ้น คือประมาณ 7-10 วัน
  2.ผู้ที่มีอาการอักเสบได้ง่าย เช่น หลังมีเพศสัมพันธ์ อาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการอักเสบ

และหมอย้ำว่า ดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ นะคะ ห้ามกลั้นปัสสาวะเด็ดขาดอีกด้วย

ซึ่งวิธีการป้องกันก็ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยอีกเช่นกัน
การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)
  1.หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอด ท่อปัสสาวะและทวารหนัก
  2.บางครั้งแบคทีเรียเมื่อหลุดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะแล้ว ต้องใช้เวลาในการฟักตัวของเชื้อ ซึ่งการดื่มน้ำมากขึ้นจะสามารถขับแบคทีเรียออกมาได้
  3.ไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้เป็ยระยะเวลานานๆ เพราะการกลั้นปัสสาวะนานเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้เชื้อแบคทีเรียมีระยะฟักตัวในกระเพาะปัสสาวะนานขึ้นยิ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย
  4.ผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบบ่อยๆ เรื้อรัง ควรพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุแอบแฝงอื่นๆ เช่น นิ่ว กระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติจากระบบประสาทควบคุม หรือมีอาการอุดตันในกระเพาะปัสสาวะ

เราต้องยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเลยว่า เป็นคนที่ดื่มน้ำน้อยถึงน้อยมาก ประมาณว่าน้ำขวดเล็ก 5 บาท ให้ดื่มสามวันก็อยู่ได้ ส่วนกลั้นฉี่ก็มีบ้างตามโอกาส จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปในทิศทางที่ถูกต้องและดีขึ้น และอยากจะเตือนทุกคนโดยเฉพาะสาว ๆ ไม่ว่าจะสาวออฟฟิศ นักเรียน นิสิตนักศึกษา ใครก็ตามแต่ พยายามดูแลตัวเองนิสสสนึง อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ ให้มันเกิดเป็นเรื่องใหญ่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แต่มันก็สามารถเรื้อรังไปเป็นโรคอื่นที่ร้ายแรงกว่าได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบจาก http://www.phyathai.com/medicalcenterdetail_article/14/253/PYT3/th
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ถ้ามีอะไรดี ๆ หรือเป็นประโยชน์ เดี๋ยวจะเอามาฝากอีกค่ะอมยิ้ม04
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่