เราควรจัดการยังไงกับอาการทางจิตแบบนี้...

อันดับแรก เราต้องเกริ่นก่อนว่าเราเคยอ้วน และตอนนี้เราสามารถลดความอ้วนได้แบบงงๆ (เวลาเกือบ2ปีได้แล้ว) แต่เราไม่เคยใช้ยานะ ลดการกินขนมลงเรื่อยๆ และออกกำลังมากขึ้นเรื่อยๆเอา ที่เราเกริ่นเพราะมันจะอยู่ในอาการของเราต่อไปด้านล่างนี้

ตรงนี้เป็นอาการทั้งหมดที่เราพอเรียบเรียงให้ตัวเองได้ประมาณนี้
1.เราไม่แน่ใจว่าแบบนี้คือโฮมซิคมั้ย อาการนี้มันเริ่มมาประมาณตอนเราขึ้นปี2 เราจะคิดถึงบ้านทุกครั้งเวลากลับจากบ้านมาหอ ทุกๆวันเราจะไม่อยากทำอะไรเลย นอกจากรอวันสุดสัปดาห์เพื่อกลับบ้าน ไม่อยากออกไปไหนด้วย มีแต่หน้าพ่อแม คนในครอบครัวลอยอยู่ในหัวตลอดเวลา จะร้องไห้ทุกครั้ง เรามีเพื่อนนะ แต่เราจะชอบอยู่หอ พอมีอาการนี้เราเลยไม่ค่อยอยากออกไปไหน เพราะอยากกลับแต่บ้าน

2.พอจากอาการข้างต้น เวลาเราว่าง เราก็จะหาอะไรทำ หลังๆจะเป็นการออกกำลังกาย โดยมีแพลนเวลาไว้เป็นช่วงในแต่ละวัน และด้วยความที่เราคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่มากๆ เราจะกินอาหารแถวๆมอไม่ค่อยลงด้วยบางที (บางครั้งก็ไม่อยากกินคนเดียว เลยไม่กินดีกว่า) จนทำให้น้ำหนักเราลดมาเรื่อยๆแบบงงๆ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะลดแต่แรก

3.และพอเราน้ำหนักลดได้แบบงงๆ เราก็คิดว่าดีนะ เราเลยตั้งใจเลือกกินมากขึ้น ออกกำลังหลากหลายขึ้น เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ (แต่ก็ทำเพราะว่างและไม่รู้จะทำอะไรด้วย) จนเราสังเกตุว่าตั้งแต่ช่วงสิงหาปีที่แล้วมา เราซีเรียสกับการกินมาก ต้องอ่านฉลาก นับแคล ไม่กล้ากินขนมบ้าง (เคยหนักสุดคือไม่กล้าดื่มน้ำเพราะกลัวน้ำหนักขึ้น) และติดการออกกำลังกาย เรากลัวอ้วนตลอดเวลา กินอาหารไปเราก็จะรีบชั่งน้ำหนัก พอกินอะไรไปก็รู้สึกต้องรีบไปออกกำลังกายเพื่อเบิร์นออก เรากลัวทุกครั้งที่เลขบนตาขั่งเปลี่ยนไป เรากลัวกลับไปอ้วนมากๆ แต่เราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ตื่นมาแล้วพุงแบน มีรอยกล้ามทองอ่อนๆ จนในที่สุดน้ำหนักเราลงไปแตะเลขหลัก3 ประจำเดือนไม่มา

4.จากข้อ3 ทำให้ตอนนี้เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้วแบบนั้นมันจิตตกเกินไป พอประจำเดือนไม่มา มันยิ่งชัดเจนว่าเราต้องเพิ่มน้ำหนัก เราแน่ใจขึ้นเรื่อยๆว่าเราเป็นโรคคลั่งผอมอะไรนั่นแน่ๆ (ตอนนี้ขึ้นมาเป็น40กว่าๆแล้ว) ถึงแม้เราจะบอกตัวเองว่าเราต้องเพิ่มน้ำหนักนะ ให้กินแบบคนปกติได้แล้ว ไม่งั้นสารอาหารจะไม่พอ ไม่ต้องกังวลเรื่องหุ่น มีพุงก็ไม่เป็นไร แต่เราก็ยังไม่เลิกนิสัยคิดเล็กคิดน้อยกับการกิน วันไหนที่เรากินเยอะมาแม้จะบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรไปฉลองกับเพิ่อน อีกวันเราจะรู้สึกผิด โหมตัวเองออกกำลังกาย ไม่ออกไปไหน อยากกลับบ้านตลอดเวลา

5.เราเครียดมากทั้งเรื่องประจำเดือน เรื่องหุ่น+น้ำหนัก กลัวกลับไปอ้วน กลัวการกิน โหมออกกำลังกาย (บางวันวิ่งเช้าเย็นเลย มีไปยิมด้วย) เรื่องคิดถึงบ้าน เราไม่อยากออกจากหอไปไหน แต่เราก็จะฟุ้งซ่านเวลาอยู่คนเดียว เรานอนไม่หลับเลยสักครั้งเวลากลับจากบ้านมานอนหอ จะตื่นกลางดึกเรื่อยๆ (เคยอ่านเจอว่าเป็นอาการเริ่มต้นของโรคซึมเศร้า)

6.และที่เราสังเกตุตัวเองได้อีกอย่างคือ เวลาเราอยู่บ้านเรานอนหลับสนิท ไม่มีอาการแบบตอนอยู่หอเลย เรากินได้ปกติ (กินเยอะด้วย) กำลังกายก็ออกบ้างไม่ออกบ้าง เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปเลย และเราไม่คิดกลัวอ้วน กลัวน้ำหนักขึ้นเลย เราคิดแค่ว่ายอมอ้วน ยอมน้ำหนักชึ้น ขอให้ได้กินกับข้าวที่บ้าน คุยกับพ่อแม่ตอนกินข้าวก็พอ เราก็จะกินๆๆ แต่พอเรากลับมาหอ เราจะนอยตัวเองมากว่าทำอะไรลงไป มีเสียงบอกอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าเดี๋ยวกลับไปอ้วนนะๆๆ เวลาเราออกไปกินอะไรกับเพื่อนเราใความสุขมากเลยนะ ได้คุย ได้กินอะไรกัน ไม่เครียดเลย เพราะคิดว่าก็ปกติของวัยรุ่น แต่พอกลับมาห้องคนเดียวก็เป็นแบบเดิม นอยตัวเอง เครียดตัวเอง นั่งร้องไห้คนเดียวเวลาก้มมองไปเห็นพุง ยิ่งพอแม่โทรมาหาเรายิ่งอยากกลับบ้านมากๆเลย

นี่คือคร่าวๆที่เราคิดได้เป็นข้อๆและจดไว้ เราไม่แน่ใจว่ามันเริ่มเพราะอาการhomesick เลยส่งผลให้เกิดอาการอื่นๆด้วยหรือเปล่า แต่เราขอยืนยันเลยว่าตั้งแต่เราลดความอ้วนได้ เราไม่เคยทานยาลดความอ้วน ดีท็อกซ์ก็ไม่เคย เวลาเรานอยที่ตัวเองกินเยอะ เราคิดออกแค่อย่างเดียวคือโหมออกกำลังกายหนักขึ้นๆ

เราว่ามันแย่มาก แต่เราเลิกคิดอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย สุขภาพจิตเราแย่ลงทุกวันๆเวลาอยู่คนเดียว (ถ้าออกไปเจอคนจะปกติ ไม่กลัวอ้วน กินปกติเลย) แต่จะคิดถึงบ้านตลอด แม้กระทั่งเวลานั่งเรียน เราก็จะอยากโทรหาแต่พ่อกับแม่ เราคิดว่าทำไมเราต้องมานั่งพะวงอะไรแบบนี้ ทำไมไม่เครียดเรื่องเรียน มัวมานั่งเครียดเรืองอะไรก็ไม่รู้ (ซิกแพ็ค น้ำหนัก การกิน บลาๆ)

เราควรทำยังไงกับความคิดพวกนี้ดี เราไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ต่อไปได้ อนาคตเราทำงานเราต้องบ้าตายแน่ๆ แต่พอเราบอกตัวเองว่าไม่ต้องกังวลอะไรก็เหมือนทำไม่เคยได้เลย เราปวดหัวไปหมดแล้วทุกวันนี้ไม่รู้จะทำยังไง บางทีก็นั่งร้องไห้คนเดียว

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบและให้คำแนะนำทุกคน เราแค่อยากระบายเฉยๆ มันคงดีกว่าถ้าเราจะเก็บไว้คนเดียว 😊
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่