...ท่านยังไม่ได้สอบถาม ก.ล.ต.เลย.! การกล่าวหาว่าวัดมีการฟอกเงินเป็นเรื่องใหญ่ การกล่าวหาว่าเอาเงินให้นอมินีไปปั่นหุ้นในตลาดหุ้นยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องอย่างนี้กล่าวหากันผ่านสื่อไม่ได้.."
มีความพยายามที่จะ
เปิดประเด็นใหม่ว่า..
วัดพระธรรมกายมีการถือหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เป็นเรื่องที่มีการลือกันมากในตลาดหุ้นว่าหุ้นตกเพราะวัดพระธรรมกายนั้นไม่มีมูล ไม่มีหลักฐานอะไรรองรับ
ในช่วงวันที่ 3 ถึงวันที่ 9 มีนาคม ตลาดหุ้นตกมีตัวเลขดรรชนีตลาดหุ้นลดลงค่อนข้างเยอะ
เกิดกระแสในตลาดหุ้นว่า หุ้นลงเพราะว่ากลุ่มวัดพระธรรมกายเทขายหุ้น เล่นกันถึงขนาดนี้ลากไปว่าวัดพระธรรมกายมีหุ้นอยู่ในตลอดหลักทรัพย์ วัดจะถูกยึดก็เลยมีการเทขายหุ้น.!
ตกลงที่หุ้นมันตก
เพราะอะไรกันแน่.?
หุ้นไทยตกมา 1 เดือนแล้ว ดูตัวเลขกราฟฟิกจะเห็นว่าตลาดหุ้นในรอบ 1 เดือนมันเป็นอย่างนี้ จาก 1580 มันดิ่งลงมาต่อเนื่องตกอย่างนี้มา 1 เดือนแล้ว
ต้องบอกว่าฝรั่งเทขายค่อนข้างเยอะมาก ไม่ใช่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย .!
ที่เล่าเรื่องนี้เพราะว่ากระแสในโซเชียลมีเดียทิศทางเป็นไปคล้ายกัน บอกว่าวัดพระธรรมกายมีหุ้นเทขายหุ้นจนตลาดปั่นป่วน
มีคำให้สัมภาษณ์ของ คุณวิษณุ โชลิตกุล เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจในตลาดหุ้นอันดับต้นๆ ของประเทศ คุณวิษณุพูดไว้แบบนี้ว่า..
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์หุ้นอันดับต้นของประเทศบอกแบบนี้ว่า การลือในตลาดหุ้นว่าหุ้นตกเพราะวัดพระธรรมกายไม่มีมูล ไม่มีหลักฐานอะไรรองรับ
แต่เรื่องหุ้นตกฝั่งราชการบอกว่า..
คุณขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ
อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีสอบสวนที่ 3 เป็นอัยการผู้ร่วมสอบสวนคดีพระธัมมชโย เรื่องฟอกเงินนี่เป็นหนึ่งในคนที่ท่านพูดเรื่องนี้ไว้ ในช่วงที่ผ่านมาว่า..
วัดพระธรรมกายน่าจะมีความไม่โปร่งใสเรื่องหุ้นอยู่ โดยบอกว่ามีตัวเลขประมาณ 1 พันล้านบาทให้นอมินีถือหุ้นแทนซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มทุนที่มีผลประโยชน์ร่วมกับวัดพระธรรมกาย เป็นเงินบริจาคที่โอนเข้าวัดหลังจากนั้นก็เข้าไปสู่นอมินีๆ ก็เอาไปลงทุนในตลาดหุ้น
ผู้สื่อข่าวถามคุณขจรศักดิ์ว่า แล้วนอมินีคือใคร.?
ใช่ "เสี่ยสอง" ลูกศิษย์อันดับต้นของวัดพระธรรมกายหรือเปล่า.?
คุณสอง วัชรศรีโรจน์
เป็นตัวละครคนสำคัญที่คนมักจะพูดบ่อยๆ เวลามีข่าวเรื่องธรรมกายยักยอกเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น มาลองไล่ดูในการลงทุนของ เสี่ยสอง ตอนนี้เป็นยังไง
ไปเปิดดูแล้วปรากฏว่า คุณสอง วัชรศรีโรจน์ ลงทุนในบริษัทใหญ่ๆ อยู่ 3 บริษัท คือ
1. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน MFC
2. บริษัทไทยเศรษฐกิจประกันภัย
3. โรงพยาบาลวิภาวดี
ยังไม่มีรายงานถึงการลงทุนที่ผิดปกติของเสี่ยสองในตลาดหลักทรัพย์ เรื่องนี้สำคัญอย่างไร สำคัญเพราะโดยปกติการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีข้อมูลตรวจสอบได้ พิสูจน์ได้.!
คำถามคือ.?
การตั้งประเด็นว่า ..วัดพระธรรมกายมีการโอนเงินที่ผิดปกติไปยังนอมินี มีการพูดถึง คุณสอง วัชรศรีโรจน์ ว่าเป็นคนเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นทำให้ภาพลักษณ์ของวัดเสียหาย
เรื่องนี้มีมูลแค่ไหน.?
มีการตรวจสอบแค่ไหน.?
ทั้งหมดต้องไปพิสูจน์กันที่ ก.ล.ต. คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เมื่อไปไล่ดูคำสัมภาษณ์ของท่านอัยการที่ดูแลคดีในเรื่องนี้ คุณขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 แบบนี้ว่า..
ตกลงบริษัทโบรกเกอร์กำลังสอบเรื่องนี้อยู่
เรื่องของเงินวัด เรื่องของความผิดสังเกตุต่างๆ สงสัยว่ามีการโอนเงินพันล้านไปปั่นหุ้นในตลาดตรงนี้ก็ต้องสอบ กลต. ด้วย 7 มี.ค. หลังจากที่ท่านพูดเอาไว้ว่ามีเงินพันล้านไปเกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้น
ท่านยังไม่ได้
สอบถาม ก.ล.ต.เลย.!
การกล่าวหาว่าวัดมีการฟอกเงินเป็นเรื่องใหญ่
การกล่าวหาว่าเอาเงินให้นอมินีไปปั่นหุ้นในตลาดหุ้นยิ่งเป็นเรื่องใหญ่
เป็นอัยการแต่..
กล่าวหาผ่านสื่อ.?
เรื่องอย่างนี้กล่าวหากันผ่านสื่อไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ต้องให้คณะกรรมการกำกับควบคุมตลาดหลักทรัพย์ เป็นคนชี้แจงเพราะเขาคือคนบริหารข้อมูลเรื่องนี้ ไม่ควรพูดเรื่องลักษณะแบบนี้
ที่มีผลต่อการชี้นำความรู้สึกของคนในสังคมว่า..
วัดพระธรรมกายมีส่วนในการฟอกเงิน ปั่นหุ้น มีส่วนในการทำให้หุ้นมีปัญหานี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกายในช่วงที่ผ่านมา มีการให้ข่าวในเชิงลบจากทางราชกาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเรื่องการชุมนุม ม็อบรับจ้างแกนนำ พบเงินบรรดาพระต่างๆ เช่นเดียวกับการพูดว่ามีเงินของวัดไปเกี่ยวกับตลาดหุ้น
แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีอะไรเป็นข้อเท็จจริง ที่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.!
สาระสำคัญของ
คดีวัดพระธรรมกาย
1. พระธัมชโยต้องมอบตัวพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม
2. รัฐต้องให้สิทธิในการประกันตัวกับพระ ไม่ใช่ลงพาดหัว นสพ.ว่าเตรียมที่ขังไว้แล้ว นั่นคือการสื่อสารว่าจะจับสึกคือประหารชีวิตจากความเป็นพระแน่ๆ
3. หน่วยงานรัฐต้องหยุดปฏิบัติการด้านข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบอกว่าพระที่มาสวดมนต์หน้าวัดคือนักชุมนุม นักจัดตั้ง แกนนำมวลชน รวมทั้ง
การพาดพิงไปยังเรื่องตลาดหุ้นในเวลาที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
ยังไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยว่า..มีเรื่องฟอกเงิน มีเรื่องปั่นหุ้นของวัดพระธรรมกาย
นี่คือการกระทำที่ส่อเจตนาเร่งรัดแอบแฝงอะไรกันแน่.?
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
รายการ Overview Voice TV21
อ่านรายละเอียดได้จาก
http://talk--secret.blogspot.jp/2017/03/blog-post_81.html
ช้าก่อน.! ดึงสติเรื่องหุ้นธรรมกายรีบจัดใหญ่ยังไม่ถาม ก.ล.ต..?
มีความพยายามที่จะ
เปิดประเด็นใหม่ว่า..
วัดพระธรรมกายมีการถือหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เป็นเรื่องที่มีการลือกันมากในตลาดหุ้นว่าหุ้นตกเพราะวัดพระธรรมกายนั้นไม่มีมูล ไม่มีหลักฐานอะไรรองรับ
ในช่วงวันที่ 3 ถึงวันที่ 9 มีนาคม ตลาดหุ้นตกมีตัวเลขดรรชนีตลาดหุ้นลดลงค่อนข้างเยอะ
เกิดกระแสในตลาดหุ้นว่า หุ้นลงเพราะว่ากลุ่มวัดพระธรรมกายเทขายหุ้น เล่นกันถึงขนาดนี้ลากไปว่าวัดพระธรรมกายมีหุ้นอยู่ในตลอดหลักทรัพย์ วัดจะถูกยึดก็เลยมีการเทขายหุ้น.!
ตกลงที่หุ้นมันตก
เพราะอะไรกันแน่.?
หุ้นไทยตกมา 1 เดือนแล้ว ดูตัวเลขกราฟฟิกจะเห็นว่าตลาดหุ้นในรอบ 1 เดือนมันเป็นอย่างนี้ จาก 1580 มันดิ่งลงมาต่อเนื่องตกอย่างนี้มา 1 เดือนแล้ว
ต้องบอกว่าฝรั่งเทขายค่อนข้างเยอะมาก ไม่ใช่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย .!
ที่เล่าเรื่องนี้เพราะว่ากระแสในโซเชียลมีเดียทิศทางเป็นไปคล้ายกัน บอกว่าวัดพระธรรมกายมีหุ้นเทขายหุ้นจนตลาดปั่นป่วน
มีคำให้สัมภาษณ์ของ คุณวิษณุ โชลิตกุล เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจในตลาดหุ้นอันดับต้นๆ ของประเทศ คุณวิษณุพูดไว้แบบนี้ว่า..
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์หุ้นอันดับต้นของประเทศบอกแบบนี้ว่า การลือในตลาดหุ้นว่าหุ้นตกเพราะวัดพระธรรมกายไม่มีมูล ไม่มีหลักฐานอะไรรองรับ
แต่เรื่องหุ้นตกฝั่งราชการบอกว่า..
คุณขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ
อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีสอบสวนที่ 3 เป็นอัยการผู้ร่วมสอบสวนคดีพระธัมมชโย เรื่องฟอกเงินนี่เป็นหนึ่งในคนที่ท่านพูดเรื่องนี้ไว้ ในช่วงที่ผ่านมาว่า..
วัดพระธรรมกายน่าจะมีความไม่โปร่งใสเรื่องหุ้นอยู่ โดยบอกว่ามีตัวเลขประมาณ 1 พันล้านบาทให้นอมินีถือหุ้นแทนซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มทุนที่มีผลประโยชน์ร่วมกับวัดพระธรรมกาย เป็นเงินบริจาคที่โอนเข้าวัดหลังจากนั้นก็เข้าไปสู่นอมินีๆ ก็เอาไปลงทุนในตลาดหุ้น
ผู้สื่อข่าวถามคุณขจรศักดิ์ว่า แล้วนอมินีคือใคร.?
ใช่ "เสี่ยสอง" ลูกศิษย์อันดับต้นของวัดพระธรรมกายหรือเปล่า.?
คุณสอง วัชรศรีโรจน์
เป็นตัวละครคนสำคัญที่คนมักจะพูดบ่อยๆ เวลามีข่าวเรื่องธรรมกายยักยอกเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น มาลองไล่ดูในการลงทุนของ เสี่ยสอง ตอนนี้เป็นยังไง
ไปเปิดดูแล้วปรากฏว่า คุณสอง วัชรศรีโรจน์ ลงทุนในบริษัทใหญ่ๆ อยู่ 3 บริษัท คือ
1. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน MFC
2. บริษัทไทยเศรษฐกิจประกันภัย
3. โรงพยาบาลวิภาวดี
ยังไม่มีรายงานถึงการลงทุนที่ผิดปกติของเสี่ยสองในตลาดหลักทรัพย์ เรื่องนี้สำคัญอย่างไร สำคัญเพราะโดยปกติการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีข้อมูลตรวจสอบได้ พิสูจน์ได้.!
คำถามคือ.?
การตั้งประเด็นว่า ..วัดพระธรรมกายมีการโอนเงินที่ผิดปกติไปยังนอมินี มีการพูดถึง คุณสอง วัชรศรีโรจน์ ว่าเป็นคนเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นทำให้ภาพลักษณ์ของวัดเสียหาย
เรื่องนี้มีมูลแค่ไหน.?
มีการตรวจสอบแค่ไหน.?
ทั้งหมดต้องไปพิสูจน์กันที่ ก.ล.ต. คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เมื่อไปไล่ดูคำสัมภาษณ์ของท่านอัยการที่ดูแลคดีในเรื่องนี้ คุณขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 แบบนี้ว่า..
ตกลงบริษัทโบรกเกอร์กำลังสอบเรื่องนี้อยู่
เรื่องของเงินวัด เรื่องของความผิดสังเกตุต่างๆ สงสัยว่ามีการโอนเงินพันล้านไปปั่นหุ้นในตลาดตรงนี้ก็ต้องสอบ กลต. ด้วย 7 มี.ค. หลังจากที่ท่านพูดเอาไว้ว่ามีเงินพันล้านไปเกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้น
ท่านยังไม่ได้
สอบถาม ก.ล.ต.เลย.!
การกล่าวหาว่าวัดมีการฟอกเงินเป็นเรื่องใหญ่
การกล่าวหาว่าเอาเงินให้นอมินีไปปั่นหุ้นในตลาดหุ้นยิ่งเป็นเรื่องใหญ่
เป็นอัยการแต่..
กล่าวหาผ่านสื่อ.?
เรื่องอย่างนี้กล่าวหากันผ่านสื่อไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ต้องให้คณะกรรมการกำกับควบคุมตลาดหลักทรัพย์ เป็นคนชี้แจงเพราะเขาคือคนบริหารข้อมูลเรื่องนี้ ไม่ควรพูดเรื่องลักษณะแบบนี้
ที่มีผลต่อการชี้นำความรู้สึกของคนในสังคมว่า..
วัดพระธรรมกายมีส่วนในการฟอกเงิน ปั่นหุ้น มีส่วนในการทำให้หุ้นมีปัญหานี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกายในช่วงที่ผ่านมา มีการให้ข่าวในเชิงลบจากทางราชกาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเรื่องการชุมนุม ม็อบรับจ้างแกนนำ พบเงินบรรดาพระต่างๆ เช่นเดียวกับการพูดว่ามีเงินของวัดไปเกี่ยวกับตลาดหุ้น
แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีอะไรเป็นข้อเท็จจริง ที่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.!
สาระสำคัญของ
คดีวัดพระธรรมกาย
1. พระธัมชโยต้องมอบตัวพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม
2. รัฐต้องให้สิทธิในการประกันตัวกับพระ ไม่ใช่ลงพาดหัว นสพ.ว่าเตรียมที่ขังไว้แล้ว นั่นคือการสื่อสารว่าจะจับสึกคือประหารชีวิตจากความเป็นพระแน่ๆ
3. หน่วยงานรัฐต้องหยุดปฏิบัติการด้านข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบอกว่าพระที่มาสวดมนต์หน้าวัดคือนักชุมนุม นักจัดตั้ง แกนนำมวลชน รวมทั้ง
การพาดพิงไปยังเรื่องตลาดหุ้นในเวลาที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
ยังไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยว่า..มีเรื่องฟอกเงิน มีเรื่องปั่นหุ้นของวัดพระธรรมกาย
นี่คือการกระทำที่ส่อเจตนาเร่งรัดแอบแฝงอะไรกันแน่.?
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
รายการ Overview Voice TV21
อ่านรายละเอียดได้จาก http://talk--secret.blogspot.jp/2017/03/blog-post_81.html