สวัสดีพี่น้องที่มีความรักในภาษาจีนทุกคนนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียน วันนี้จะพาทุกคนออกนอกประเทศ ไปกันที่ประเทศจีนนะคะ เป็นการแชร์ประสบการณ์การไปเรียนต่อ ป โท ที่ประเทศจีน มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง นะคะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไม่ได้เป็นติ่งซีรีย์จีนใดๆทั้งสิ้น ดาราจีนก็ไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ แต่ด้วยความที่ว่าครอบครัวเป็นลูกเสี้ยวจีน พ่อแม่อยากให้เราเรียนภาษาจีน ก็เลยต้องเรียนตามน้ำไป เริ่มเรียนตั้งแต่ ม ปลาย ตอนนั้นยังไม่ชอบภาษาจีน และก็รู้สึกว่ายากจัง ขีดไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด พอเรียนมาเรื่อยๆ ก็ได้ไปเข้าที่มหาวิทยาลัย ที่มีชื่อเสียงด้านภาษาจีน ม นึง จุดเปลี่ยนความคิดของ จขกท อยู่ตรงนี้เลยค่า พอเราเริ่มโตขึ้น อ่านข่าวมากขึ้น เลยได้ซึมซับความสำคัญของภาษาจีนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่า ภาษาจีน เนี่ย มันจะเป็นประโยชน์กับเรามากๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ฉะนั้น พอเรียนจบ ปี 4 เราก็ตัดสินใจ ว่าจะไปเรียนต่อโทที่จีนทันที
ในการเลือกมหาวิทยาลัย เนื่องจากตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั้น ตอนอยู่ ปี 3 ได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เป็นเวลา 10 เดือน ความประทับใจที่มีต่อ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงและเมืองหังโจวนั้นมีมากมาย จนทำให้กลับไปเรียนต่อโท ที่เดิม
แต่การไปในครั้งนี้นั้นไม่เหมือนกับไปตอนแลกเปลี่ยน เพราะตอนนั้นเราเรียนรวมกันกับกรุ๊ปคนไทย เลยใช้ชีวิตการเรียนแบบชิวไปวันๆ ครั้งนี้มันยิ่งใหญ่กว่านั้นเพราะเป็นการบินเดี่ยวครั้งแรก ความกังวลต่างๆมีมากมาย เราจะเรียนรู้เรื่องไหม ถึงสนามบินแล้วเอาไงต่อดี และที่รู้มาคือเราต้องเรียนร่วมคลาสกับคนจีน แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องลุยต่อไป
มหาวิทยาลัยที่จีนนั้นจะเริ่มเปิดพร้อมกันทั่วประเทศ คือในเดือนกันยายน เรานั่งเครื่องบินของสายการบิน Air China บินตรงจากสุวรรณภูมิ ไปถึงสนามบิน Hangzhou International Airport ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ
พอถึงสนามบินแล้ว เราก็นั่งรถรับส่งของสนามบิน Airport Bus ไปลง 黄龙洞ซึ่งจะใกล้กับมหาวิทยาลัย วิทยาเขต 玉泉 ที่เราเรียนอยู่ ค่ารถอยู่ที่ 20 หยวน จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเลย
เราเรียนที่คณะ 经济学院 สาขา 国际商务 (International Business) (ค่าเรียนตกอยู่ที่ 28,800 หยวน / ปี) ต้องบอกก่อนว่า ตอนเรียน ป ตรี นั้นเราไม่ได้เรียนสายธุรกิจมา เราเรียนเป็นสายภาษาจีน แต่ที่เลือกต่อโท สายธุรกิจนั้นเป็นเพราะเรามองว่า ควรจะหาอะไรที่เป็นวิชาเฉพาะมั๊ย จะได้มีประโยชน์ต่อไปในอนาคต
ขอนอกเรื่องนิดนึงงง อยากแนะนำมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงสักหน่อย มหาวิทยาลัยเจ้อเจีงถือเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของจีน ซึ่งในแต่ละปี จะติดอันดับ Top 5 ตลอด และยังอยู่ในเมือง หังโจว ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์สวยงาม จนมีคำเปรียบเปรยไว้ว่า 上有天堂,下有苏杭 (บนฟ้ามีสวรรค์ บนดินมีซูโจว หังโจว)
พอถึงมหาลัยแล้ว เราก็ตรงไปยังหอพักที่ได้มีการติดต่อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเราพักที่หอ 31 เป็นหอพักสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่ก็มีคนจีนปนๆมาอยู่ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นบนๆ ไม่ค่อยมายุ่งอะไรกับเรามากมาย
นี่เป็นสภาพห้องพักภายในตึก 31 จะเป็นห้องคู่ มีรูมเมท ซึ่งแต่ละห้องก็จะเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน คือ มี โทรทัศน์ให้ มีชั้นวางหนังสือแนวยาว มีเตียง หมอน ฟูก ครบ ถือว่าสะอาดน่าอยู่ ไม่เหม็นอับ
เรามาถึงมหาวิทยาลัยก่อนเปิดเทอมล่วงหน้า 2 วัน ซึ่งใน 2 วันนี้ เราก็มีการไปซื้อซิมมือถือ พร้อมเน็ต ของ 联通 Liantong ซึ่งแพ็กเกจเน็ต และค่าโทรนั้น สู้บ้านเราไม่ได้เลยค่ะ ให้น้อยมากก แถมยังจำกัดอีกว่าใช้ได้แค่ในเมืองที่เราอยู่ แค่ออกนอกเมืองไป ก็เหมือนออกต่างประเทศ ชาร์จค่าส่วนต่างโหดมาก ซึ่งหาซื้อได้ในร้านภายในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ติดกับ Super Market ในมหาวิทยาลัย (แอบเห็น CP ไปเปิดขายอาหารภายในมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ พี่ๆน้องๆคนไหน เบื่ออาหารจีน ก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลยค่ะ )
- วันนี้ขอจบอยู่ที่เท่านี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้เราจะมาเล่าถึงชีวิตการเรียนร่วมกับคนจีน ว่ามันจะทรหด หรือสนุกสนานแค่ไหน -
[SR] เปิดประสบการณ์เรียนต่อโท ที่จีน มหาวิทยาลัย เจ้อเจียง (Part 1)
ในการเลือกมหาวิทยาลัย เนื่องจากตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั้น ตอนอยู่ ปี 3 ได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เป็นเวลา 10 เดือน ความประทับใจที่มีต่อ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงและเมืองหังโจวนั้นมีมากมาย จนทำให้กลับไปเรียนต่อโท ที่เดิม
แต่การไปในครั้งนี้นั้นไม่เหมือนกับไปตอนแลกเปลี่ยน เพราะตอนนั้นเราเรียนรวมกันกับกรุ๊ปคนไทย เลยใช้ชีวิตการเรียนแบบชิวไปวันๆ ครั้งนี้มันยิ่งใหญ่กว่านั้นเพราะเป็นการบินเดี่ยวครั้งแรก ความกังวลต่างๆมีมากมาย เราจะเรียนรู้เรื่องไหม ถึงสนามบินแล้วเอาไงต่อดี และที่รู้มาคือเราต้องเรียนร่วมคลาสกับคนจีน แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องลุยต่อไป
มหาวิทยาลัยที่จีนนั้นจะเริ่มเปิดพร้อมกันทั่วประเทศ คือในเดือนกันยายน เรานั่งเครื่องบินของสายการบิน Air China บินตรงจากสุวรรณภูมิ ไปถึงสนามบิน Hangzhou International Airport ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ
พอถึงสนามบินแล้ว เราก็นั่งรถรับส่งของสนามบิน Airport Bus ไปลง 黄龙洞ซึ่งจะใกล้กับมหาวิทยาลัย วิทยาเขต 玉泉 ที่เราเรียนอยู่ ค่ารถอยู่ที่ 20 หยวน จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเลย
เราเรียนที่คณะ 经济学院 สาขา 国际商务 (International Business) (ค่าเรียนตกอยู่ที่ 28,800 หยวน / ปี) ต้องบอกก่อนว่า ตอนเรียน ป ตรี นั้นเราไม่ได้เรียนสายธุรกิจมา เราเรียนเป็นสายภาษาจีน แต่ที่เลือกต่อโท สายธุรกิจนั้นเป็นเพราะเรามองว่า ควรจะหาอะไรที่เป็นวิชาเฉพาะมั๊ย จะได้มีประโยชน์ต่อไปในอนาคต
ขอนอกเรื่องนิดนึงงง อยากแนะนำมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงสักหน่อย มหาวิทยาลัยเจ้อเจีงถือเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของจีน ซึ่งในแต่ละปี จะติดอันดับ Top 5 ตลอด และยังอยู่ในเมือง หังโจว ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์สวยงาม จนมีคำเปรียบเปรยไว้ว่า 上有天堂,下有苏杭 (บนฟ้ามีสวรรค์ บนดินมีซูโจว หังโจว)
พอถึงมหาลัยแล้ว เราก็ตรงไปยังหอพักที่ได้มีการติดต่อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเราพักที่หอ 31 เป็นหอพักสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่ก็มีคนจีนปนๆมาอยู่ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นบนๆ ไม่ค่อยมายุ่งอะไรกับเรามากมาย
นี่เป็นสภาพห้องพักภายในตึก 31 จะเป็นห้องคู่ มีรูมเมท ซึ่งแต่ละห้องก็จะเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน คือ มี โทรทัศน์ให้ มีชั้นวางหนังสือแนวยาว มีเตียง หมอน ฟูก ครบ ถือว่าสะอาดน่าอยู่ ไม่เหม็นอับ
เรามาถึงมหาวิทยาลัยก่อนเปิดเทอมล่วงหน้า 2 วัน ซึ่งใน 2 วันนี้ เราก็มีการไปซื้อซิมมือถือ พร้อมเน็ต ของ 联通 Liantong ซึ่งแพ็กเกจเน็ต และค่าโทรนั้น สู้บ้านเราไม่ได้เลยค่ะ ให้น้อยมากก แถมยังจำกัดอีกว่าใช้ได้แค่ในเมืองที่เราอยู่ แค่ออกนอกเมืองไป ก็เหมือนออกต่างประเทศ ชาร์จค่าส่วนต่างโหดมาก ซึ่งหาซื้อได้ในร้านภายในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ติดกับ Super Market ในมหาวิทยาลัย (แอบเห็น CP ไปเปิดขายอาหารภายในมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ พี่ๆน้องๆคนไหน เบื่ออาหารจีน ก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลยค่ะ )
- วันนี้ขอจบอยู่ที่เท่านี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้เราจะมาเล่าถึงชีวิตการเรียนร่วมกับคนจีน ว่ามันจะทรหด หรือสนุกสนานแค่ไหน -