สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ทุกท่านครับ กลับมาอีกครั้งหนึ่งกับการรีวิวรถมอเตอร์ไซค์ของผม .. โดยในคราวนี้ เป็นคิวของรถครุยเซอร์ที่กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นอย่างมาก ... ผมหวังว่าเพื่อนๆที่สนใจจะสนุกในการอ่านรีวิว และได้รับความรู้เกี่ยวกับรถในมุมมองใหม่ๆ นะครับ
หากจะกล่าวถึงรถที่มีลักษณะบึกบึน อารมณ์นักเลง กล้ามเป็นมัด ๆ ในค่ายดูคาติแล้ว ทุกคนคงนึกถึง ดูคาติ รุ่น ไดเวล แน่นอนครับ
หลังจากที่ทางดูคาติ ได้พัฒนารถคาแรคเตอร์นี้ออกมา ในนิยามที่ว่า Don't call me Cruiser ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนถึงคาแรคเตอร์รถที่กระชาก รุนแรง มากกว่าแค่รถสไตล์ครุยเซอร์ขี่สบาย ๆ เนิบ ๆ ธรรมดา นะครับ
สิ่งที่ผมเอง คาดหวังจากรถรุ่นนี้ คือการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นจากไดเวลรุ่นก่อน ซึ่งรุ่นก่อนเค้าก็ทำไว้ดีมากอยู่แล้วครับ การที่จะต่อยอดให้มันเจ๋งขึ้นไปอีกนั้น ผมยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรได้อีกบ้าง แต่นั่นละครับ พอรู้ว่ามีตัวใหม่ออกมา คนเรามันก็คิดครับ และคาดหวัง ว่ามันจะเจ๋ง มันจะขี่ดีแบบนั้นแบบนี้ ....
และนี่ คือบทสรุป จากการได้ทดลองสัมผัส ขับขี่ บี้ ตะบัน เหนื่อยหอบกับการมุด ขี่ชิลว์หล่อๆ รับลมหนาว ต่าง ๆ นานา จนตกผลึกมาเป็นรีวิวฉบับนี้ .. เชิญรับชมครับ
การรีวิวครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Ducati Thailand ที่ได้ส่งมอบรถ Ducati X Diavel S ให้เราได้มาทดสอบกันครับ
และหลังจากที่ดูคาติ ปล่อยรถรุ่น Ducati Diavel ออกมาหลายปี ในปลายปี 2015 เราก็ได้เห็น การพัฒนาต่อยอดรถรุ่นนี้ จาก Ducati Diavel เป็น Ducati X Diavel ซึ่ง เครื่องหมายกากบาทนั้น สื่อถึงการใช้งานรถ ที่ข้ามสายพันธ์ไปมา ระหว่าง ทัวริ่ง ครุยเซอร์ และ สปอร์ท ได้อย่างลงตัวนะครับ
Are you ready to change position?
นี่คือหนึ่งในสิ่งที่แตกต่างกับรถดูคาติรุ่นก่อน ๆ และเป็นสิ่งที่ดูคาติต้องการจะนำเสนอนะครับ ถึงการเปลี่ยน Position ท่านั่ง การถ่ายเทน้ำหนักที่ต่างไปจากรถรุ่นก่อน ๆ โดยสิ้นเชิง
5000,60,40.
สามตัวเลขสำคัญ ซึ่งจะอธิบายคอนเซ็ปรถคันนี้ได้เป็นอย่างดีนะครับ โดยเฉพาะเลข 60 นั้นเอง มันคืออะไรรึครับ ตามมาครับ
5000 ?
เลขห้าพัน นั้นคือ ที่รอบเครื่อง 5000 รถคันนี้จะให้แรงบิดสูงสุดที่ 13.1 kgm (128.9 Nm) ครับ ซึ่งนั่นทำให้รถคันนี้ ขี่สนุกในรอบต่ำ โดยเฉพาะที่รอบประมาณ 4000 ถึง 7000 นั้น ติดมือ ตึงมือ ดึงๆแล้วสนุกจริงๆครับ ตอบสนองได้ดีมาก
60 ?
เลขหกสิบนั้น ทางดูคาติ หมายถึงท่านั่งของผู้ขับขี่รถคันนี้ (Ergonomic Riding Position) นั้น สามารถปรับได้ไม่ซ้ำกันถึง 60 แบบครับ
เนื่องจากสรีระร่างกาย ของผู้ขับขี่แต่ละคน และความถนัดในท่านั่งแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกัน รถคันนี้จึงออกแบบการนั่งมาให้ยืดหยุ่น สามารถจัดได้หลากหลายมากครับ
- 4 footpeg positions
- 5 seats
- 3 handlebars
ในส่วนของผมเอง ได้ปรับพักเท้าให้ชิดใกล้ผู้ขับขี่มากที่สุดครับ ก็จัดว่านั่งสบายยืดขากำลังดีครับ
40 ?
เลข 40 นั้น สำหรับรถคันนี้หมายถึง องศาการเอียงรถเพื่อเข้าโค้งครับ (40° lean angle) ซึ่งก็ถือว่าเทลงมากพอสมควร ผมเองน่าจะใช้ไม่ถึงแน่ครับ
เที่ยวรอบกทม.วันปีใหม่ โล่งสบายใจครับ
555 สวรรค์
ส่วนจะลงตัวแค่ไหน มันจะเจ๋งกว่าเดิมมากมั้ย ที่สำคัญ กับระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ ที่ดูคาติ กล้าคิดกล้าทำ กล้านำมาให้ใช้ นั่นก็คือ "สายพาน" มันจะออกหัวรึก้อย เดี๋ยวรู้กันครับ ในฐานะที่ผมก็เคยเป็นเจ้าของ Ducati Diavel รุ่นก่อนเปลี่ยนโฉมด้วย น่าจะพอจับความรู้สึกต่าง ๆ ได้พอควรแน่นอนครับ ติดตามชมนะครับ
ไฟหน้ายามค่ำคืน
โดยในครั้งนี้ ผมจะขอแบ่งหัวข้อการรีวิว เพื่อความชัดเจนดังนี้ครับ
: รูปลักษณ์โดยทั่วไป และมิติรถเมื่อเทียบกับคนขี่
: เทคโนโลยีตัวรถใหม่ๆ
: การขับขี่จริงช่วงรถติด/ช่วงถนนโล่ง
: อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
: เจาะไฮไลท์ของรถหลังทดสอบ
: ค่าบำรุงรักษา และระยะการเข้าเซอร์วิส
: ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคา
: สรุปความรู้สึกสุดท้าย ก่อนลาจาก
[SR] กล้าที่จะเปลี่ยน กับ Review Ducati X-DIAVEL
หากจะกล่าวถึงรถที่มีลักษณะบึกบึน อารมณ์นักเลง กล้ามเป็นมัด ๆ ในค่ายดูคาติแล้ว ทุกคนคงนึกถึง ดูคาติ รุ่น ไดเวล แน่นอนครับ
หลังจากที่ทางดูคาติ ได้พัฒนารถคาแรคเตอร์นี้ออกมา ในนิยามที่ว่า Don't call me Cruiser ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนถึงคาแรคเตอร์รถที่กระชาก รุนแรง มากกว่าแค่รถสไตล์ครุยเซอร์ขี่สบาย ๆ เนิบ ๆ ธรรมดา นะครับ
และนี่ คือบทสรุป จากการได้ทดลองสัมผัส ขับขี่ บี้ ตะบัน เหนื่อยหอบกับการมุด ขี่ชิลว์หล่อๆ รับลมหนาว ต่าง ๆ นานา จนตกผลึกมาเป็นรีวิวฉบับนี้ .. เชิญรับชมครับ
การรีวิวครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Ducati Thailand ที่ได้ส่งมอบรถ Ducati X Diavel S ให้เราได้มาทดสอบกันครับ
และหลังจากที่ดูคาติ ปล่อยรถรุ่น Ducati Diavel ออกมาหลายปี ในปลายปี 2015 เราก็ได้เห็น การพัฒนาต่อยอดรถรุ่นนี้ จาก Ducati Diavel เป็น Ducati X Diavel ซึ่ง เครื่องหมายกากบาทนั้น สื่อถึงการใช้งานรถ ที่ข้ามสายพันธ์ไปมา ระหว่าง ทัวริ่ง ครุยเซอร์ และ สปอร์ท ได้อย่างลงตัวนะครับ
Are you ready to change position?
นี่คือหนึ่งในสิ่งที่แตกต่างกับรถดูคาติรุ่นก่อน ๆ และเป็นสิ่งที่ดูคาติต้องการจะนำเสนอนะครับ ถึงการเปลี่ยน Position ท่านั่ง การถ่ายเทน้ำหนักที่ต่างไปจากรถรุ่นก่อน ๆ โดยสิ้นเชิง
5000,60,40.
สามตัวเลขสำคัญ ซึ่งจะอธิบายคอนเซ็ปรถคันนี้ได้เป็นอย่างดีนะครับ โดยเฉพาะเลข 60 นั้นเอง มันคืออะไรรึครับ ตามมาครับ
5000 ?
เลขห้าพัน นั้นคือ ที่รอบเครื่อง 5000 รถคันนี้จะให้แรงบิดสูงสุดที่ 13.1 kgm (128.9 Nm) ครับ ซึ่งนั่นทำให้รถคันนี้ ขี่สนุกในรอบต่ำ โดยเฉพาะที่รอบประมาณ 4000 ถึง 7000 นั้น ติดมือ ตึงมือ ดึงๆแล้วสนุกจริงๆครับ ตอบสนองได้ดีมาก
60 ?
เลขหกสิบนั้น ทางดูคาติ หมายถึงท่านั่งของผู้ขับขี่รถคันนี้ (Ergonomic Riding Position) นั้น สามารถปรับได้ไม่ซ้ำกันถึง 60 แบบครับ
เนื่องจากสรีระร่างกาย ของผู้ขับขี่แต่ละคน และความถนัดในท่านั่งแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกัน รถคันนี้จึงออกแบบการนั่งมาให้ยืดหยุ่น สามารถจัดได้หลากหลายมากครับ
- 4 footpeg positions
- 5 seats
- 3 handlebars
ในส่วนของผมเอง ได้ปรับพักเท้าให้ชิดใกล้ผู้ขับขี่มากที่สุดครับ ก็จัดว่านั่งสบายยืดขากำลังดีครับ
40 ?
เลข 40 นั้น สำหรับรถคันนี้หมายถึง องศาการเอียงรถเพื่อเข้าโค้งครับ (40° lean angle) ซึ่งก็ถือว่าเทลงมากพอสมควร ผมเองน่าจะใช้ไม่ถึงแน่ครับ
เที่ยวรอบกทม.วันปีใหม่ โล่งสบายใจครับ 555 สวรรค์
ส่วนจะลงตัวแค่ไหน มันจะเจ๋งกว่าเดิมมากมั้ย ที่สำคัญ กับระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ ที่ดูคาติ กล้าคิดกล้าทำ กล้านำมาให้ใช้ นั่นก็คือ "สายพาน" มันจะออกหัวรึก้อย เดี๋ยวรู้กันครับ ในฐานะที่ผมก็เคยเป็นเจ้าของ Ducati Diavel รุ่นก่อนเปลี่ยนโฉมด้วย น่าจะพอจับความรู้สึกต่าง ๆ ได้พอควรแน่นอนครับ ติดตามชมนะครับ
ไฟหน้ายามค่ำคืน
โดยในครั้งนี้ ผมจะขอแบ่งหัวข้อการรีวิว เพื่อความชัดเจนดังนี้ครับ
: รูปลักษณ์โดยทั่วไป และมิติรถเมื่อเทียบกับคนขี่
: เทคโนโลยีตัวรถใหม่ๆ
: การขับขี่จริงช่วงรถติด/ช่วงถนนโล่ง
: อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
: เจาะไฮไลท์ของรถหลังทดสอบ
: ค่าบำรุงรักษา และระยะการเข้าเซอร์วิส
: ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคา
: สรุปความรู้สึกสุดท้าย ก่อนลาจาก