[CR] Backpack Phongsali : Laos Top End , Down Num Ou River การเดินทางสู่ลาวเหนือ ครั้งที่ 2

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



เป็นการเดินทางที่มีความต่อเนื่องจากปี 2558   https://ppantip.com/topic/34997715
วันที่  24 ธ.ค. 2559  ถึงวันที่ 2 ม.ค. 2560   เป็นเวลา 9 วัน

ติดตามวิดิโอ ในช่อง ได้นะค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=uPNW0sgiPIs

ที่สุดของการเดินทาง....ที่ต่อเนื่องจากรีวิวครั้งที่แล้ว   แต่สำหรับครั้งนี้เราจะตีขึ้นไปเหนือสุดลาว  คือพงสาลี   แล้วล่องเรือลงมาตามลำน้ำอู  เพราะเนื่องจากเราไม่รู้ว่าเมือไหร่ ลำน้ำแห่งนี้จะถูกปิดกั้น ด้วยเขื่อน และอาจจะไม่สามารถเดินทางด้วยเรืออีกต่อไป   จะพยายามเล่าให้ได้มากที่สุด ว่าไปพบเห็นสิ่งใดมาบ้าง  วางแผนอย่างไร  รูปอาจจะไม่สวย  แต่ก็จะเก็บไว้เป็นบันทึกส่วนตัวที่ครั้งหนึ่งได้ไป มันเป็นความสุขที่ได้ออกเดินทาง  ตื่นเต้น  ผจญภัย เหมือนได้ซื้อตั๋วหนังมันส์ ๆ สักเรื่อง เข้าไปดู ไปในที่ ๆ เราอยากรู้ ไม่เคยคิดว่ามันลำบากเลย
ตารางการเดินทาง  

24 ธ.ค. 59   เวลา 18.00 น.  ขึ้นรถสมบัติทัวร์ วิภาวดี  เดินทาง 12 ช.ม. มุ่งหน้าสู่เชียงของ   
25 ธ.ค. 59   เวลา 06.00 น.  รถถึงสามแยกพรมแดน แจ้งคนขับรถให้จอดท้ายรถตุ๊ก ๆ ที่มารอรับคนไปด่าน เชียงของ คนละ 50 บาท
                    เวลา 07.00 น.  เข้าห้องน้ำที่ด่านล้างหน้าแปรงฟัน ทำเรื่องผ่านด่านไทย ค่าธรรมเนียมผ่านด่านไทยไม่มี
                    เวลา 08.30 น.  ขึ้นรถบัสราคา 20 บาท แต่วันเสาร์ เค้าเก็บ 25 บาท เพื่อข้ามสะพาน ไปด่านฝั่งลาว
                                        ทำเรื่องผ่านด่านลาว ปกติ พอออกจากด่านจะมีรถตุ๊ก ๆ มารอรับ  เก็บคนละ 100 บาท ไปสถานีรถ บ่อแก้ว
                                        เพื่อขึ้นรถไป อุดมไช
                 เวลา  09.30 น.  ขึ้นรถไปอุดมไช  ถึงอุดมไช  16.30 น.
                 เวลา  17.00 น.  เข้าที่พัก ดอกบัวแดง  gh   ราคาห้อง ละ 60  พันกีบ
26 ธ.ค. 59  เวลา  08.30 น.  ขึ้นรถจากอุดมไช ไปพงสาลี   12 ช.ม เต็ม แถมมีรถเสีย กลางทางให้น่าตื่นเต้นเล็กน้อย
                 เวลา  17.00 น.  ถึงตัวเมืองพงสาลี  เข้าพักที่  ปิ่นคำดวงมณี gh
27 ธ.ค.59   เวลา  08.00 น.  เหมารถขึ้นจุดชมวิว พระธาตุภูฟ้า และสวนชา 400 ปี
                 เวลา  14.00 น.  ขึ้นรถเดินทางไปท่าเรือ หาดสา  ค้างแรมที่หาดสา  แม่กำแพง gh
28 ธ.ค.59  เวลา   9.00 น.  ลงเรือเดินทางไปเมืองสัมพัน ข้ามเขื่อนใช้เวลา 4 ช.ม.
                 เวลา  13.00 น.  ถึงเขื่อน นั่งรถตุ๊ก ๆ เข้าเมือง แล้วเปลี่ยนรถ ไปเมืองขาว
                 เวลา  17.00 น.  ถึงเมืองขวา พักน้ำอู  gh  ไปเดินเล่นสะพานแขวน
29 ธ.ค.59  เวลา    8.00 น.  นั่งเรือที่ท่าเรือเมืองขวา ไปเมืองงอย  ใช้เวลา 4 ช.ม.
                 เวลา  13.00 น.  ถึงเมืองงอย   หนิง ๆ  gh  เดินขึ้นจุดชมวิว
                 เวลา  18.00 น.  นั่งเล่นริมน้ำอู ดูพระอาทิตย์ตกดิน  dinner
30 ธ.ค.59  เวลา    9.00 น.  นั่งเรือไป หนองเขียว  ใช้เวลา 1 ช.ม. ถ่ายรูปบนสะพาน ไปเที่ยวถ้ำ พักผ่อน
31 ธ.ค.59  เวลา    5.00 น.  เดินขึ้น Nongkhiew viewpoint  ชมทะเลหมอก
                 เวลา  12.00 น.  นั่งรถเข้าหลวงพระบาง
                 เวลา  15.00 น.  ถึงหลวงพระบาง หาห้องพัก  กินหมูกระทะ ริมโขง อย่างอร่อย
                 เวลา  20.00 น.  เดินไป  utopia  บาร์ และร้านอาหารชื่อดัง ที่สุดในเอเชีย
                                         เดินตลาดมืด  นั่งดิ้ง  จนเกือบ เคาน์ดาวน์ปีใหม่  นอน
1 ม.ค. 60    สวัวดีปีใหม่ เดินสำรวจเมืองหลวงพระบาง จนทั่ว  ตักบารต ตอนเช้าตรู  
2 ม.ค. 60    เดินทางกลับ   รถโดยสารระหว่างประเทศ  เข้าทางด่าน จ.เลย
3 ม.ค. 60    ถึงกรุงเทพ   

ติตตาม รูปภาพ จาก สิงค์ข้างล่างนะค่ะ   

https://www.facebook.com/susu.wattananakorn.9/media_set?set=a.2182495045309048.1073741865.100006457207709&type=3

การหาเพื่อนแบ็คแพ็ค ไป จะว่าหาง่าย ก็ง่าย ยาก ก็ยาก อยู่นะค่ะ เริ่มจาก  การเขียนแผนอย่างละเอียด แล้วโพสต์ลงตามกลุ่มท่องเที่ยวใน Face book  ตอนแรกก็มีคนตามไปด้วย เยอะอยู่แต่เนื่องจาก ช่วงเวลามันนานแล้วมันก็มีตัวเลือกในการเที่ยวเยอะ  ถ้าไปลาวมันคงเทียบไม่ได้กับการไปจีน ญี่ปุ่น  หรือเวียดนาม มันจะ ดูอินเตอร์หน่อย  และบางคนลางานไม่ได้เมื่อถึงวันจริง  ฉันไม่ได้มีการโอนเหรือเก็บเงิน ใด ๆ ทั้งสิ้น ฉันเพียงแต่ถ้าจะไปด้วยกัน ก็ซื้อตั๋วตามนี้  เจอกันบนรถ หรือไม่ก็เจอกันที่ด่านเลย   ถามว่ารู้จักกันมั๊ย ไม่รู้จักค่ะ  บางคนเพียงแค่เวลามันได้ ก็เลยไปด้วยกัน  ส่วนฉันเอง ถ้าไม่มีใครไปด้วย ก็กะว่าจะไปคนเดียว นั่นแหละ มีเพื่อนเดินทางที่ด่านเยอะจะตาย ช่วงสิ้นปีเป็นช่วงที่คึกคัก รับรอง..ถ้าไปคนเดียว..ก็คงไม่เหงา  แต่แล้วก็มีน้องผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 ตน ตามไปด้วย เป็น 3 คน กำลังดี ไม่เยอะไม่น้อย เลขคี่อีกต่างหาก มีผู้ชาย ไปด้วย ค่อยอุ่นใจ  จะได้ลุยได้เต็มที่ หน่อย ลงตัวที่สุดแล้ว  ภาษาลาว  เค้าเรียกว่า ผู้สาว  ซาวคน  ผู้บ่าว 1 คน

เราสามคนได้ตั๋ว ขึ้นรถคันเดียวกัน  โครตโชคดี เลย   มันเป็นวันเสาร์ที่ 24 ธ.ค. 59  เวลารถออก  18.10  ของสมบัติทัวร์ วิภาวดี  มันเป็นมาตราฐาน  ที่สุดแล้ว ราคา 691 บาท  ขึ้นรถแล้ว ก็ต้องหลับให้ได้  เพราะ มันยาวมาก ตั้ง 12 ช.ม. เลยนะ



ต้องบอกคนขับรถให้จอด ที่สามแยกด่านพรมแดน จะมีรถตุ๊ก มารอรับเราไปที่ด่านเชียงของ สะพานมิตรภาพ ไทย ลาว เสียคนละ 50 บาท
เราไปถึงด่านเช้ามาก มีเวลา ล้างหน้าแปรงฟันเข้าห้องน้ำและถ่ายรุป ไม่เห็นเจ้าหน้าที่เลยที่ด่าน แต่เค้าไม่ออกมาหรอก  เค้าดูจากกล้องวงจรปิด  เค้าก็รู้ว่าเรามา  เค้าจะออกมาตอน เจ็ดโมงหรือคนเยอะ แล้ว เราก็เขียนใบผ่านแดนเข้าไป แล้วซื้อตั๋วรถ 25 บาทข้ามสะพานไปด่านฝั่งลาว

ทำเอกสารผ่านด่านปกติ  พอออกจากด่าน ก็จะมีรถตุ๊ก ๆ มารอรับ บอกไป สถานีรถบ่อแก้ว ปีที่แล้วเสีย คนละ 80 บาท ปีนี้เสีย คนละ 100 บาท  แพงมาก  เรานั่งกันไป 6 คน    มีอีก 3 สาวไทย ไปลงที่ท่าเรือบั๊ค นั่งเรือไปหลวงพระบาง แต่พวกเราจะไป  อุดมไช ตีขึ้นเหนือก่อน
พอตุ๊ก วิ่งไปได้สักพัก ก็จะถามเราว่าไปรถตู้มั๊ย  เร็วกว่า  ไปอุดมไซ  แต่เท่าที่รู้มาว่า มันแคบ แล้วเราก้ไม่ได้รีบขนาดนั้นจึงบอกให้เค้าไปส่งที่สถานีรถบ่อแก้วดีกว่า บอกจะไปขึ้นรถใหญ่   มีการตัดหน้าผู้โดยสารกันด้วย ค่ะ   ปีที่แล้วฉันเห็นรถตู้เสียอยู่กลางทาง  เลยเลือกที่จะไปรถใหญ่ดีกว่า  เราเผื่อเวลามาแล้ว ไม่ได้รีบ ให้มันเป็นไปตามขั้นตอนดีกว่า


รถก็วิ่งมาเรื่อย ๆ  จอดแวะทานข้าวที่สถานีรถหลวงน้ำทา  เข้าห้องน้ำ ทานกลางวัน  รอบนี้รถใหม่มาก วิ่งเร็ว นั่งกันจนเมื่อยก้น หลับแล้วหลับอีก อากาศ กำลังพอดี ๆ  วิวสองข้างทางเป็นภูเขา กับหมู่บ้าน มีคนขึ้นรถระหว่างทาง  รถมีเที่ยวเดียวคันเดียว นะค่ะ ให้รีบซื้อตั๋วแล้วก็จองที่นั่งเลย  รถไปถึงอุดมไซ  เร็วกว่าปีที่แล้วมาก ถึงประมาณ 4 โมงเย็น ทำเวลาได้ดี  เราหาที่พัก พักที่ดอกบัวแดง gh เหมือนเดิมกับปีที่แล้วเพราะว่าราคาถูก และสะอาด  ไม่ได้อยู่ริมถนน อยู่ทางขึ้นภูพระธาตุ  ถ้าริมถนนเลยไม่ดีเพราะว่า เสียงรถ และฝุ่น จะเข้ามา สกปรกด้วยเราไปดูห้องแล้ว  ริมถนนไม่ดีเลย แต่มันอยู่ใกล้ท่ารถ  เรายอมเดินมาหน่อยดีกว่า  ที่ที่ไม่ค่อยดัง แต่สะอาด เราไปถ่ายรูปที่ภูพระธาตู ก่อนแสงจะหมด แล้ว


ตรงข้าม ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ ขึ้นไปดู คลาสิคมาก เหมือนเมืองจีน  ขึ้นไปสูงสุดก็จะเห็นตัวเมืองอุดมไซ มุมสูง


รูปนี้เป็นมุมด้านหลังพิพิธภัณฑ์  ขึ้นไปสูงเหมือนกัน  พิพิธภัณฑ์ปิดแล้วเลยเดินดูรอบ ๆ  ก็สวยดี  ถ้าเปิดเข้าดูข้างในก็เสียค่าเข้าชม

เราพัก  ตรงใกล้ ๆ หมายเลข 18 ทางขึ้นไปภูพระธาตุจะมีบันได   ส่วนหมายเลข 17 ดูห้องแล้ว ไม่เวิกค์ เท่าไร่

หลังจากดูพิพิธภัณฑ์ เสร็จแล้วเราก็เดินขึ้นไปตรงสะพานข้ามแม่น้ำ จะมีร้านขายมือถือและบัตรเติมเงินหลายร้าน ส่วนมากคนขายเป็นคนจีนพูดภาษาลาวไม่ได้  หาร้านที่พูดภาษาลาว-ไทยได้ แล้วกันนะค่ะ ซื้อซิม 10,000 กีบ และ เติมเงิน อีก 7 วัน ของ Laos Telecom หรือตามชอบ ให้เค้าเซ็ตเครื่องให้ แป๊ปเดียว ใช้ได้แล้ว  คราวนี้ก็หาอาหารเย็นกิน  เรากินข้าวที่ร้านกัลยา  เป็นร้านชื่อดัง Lonely planet ได้แน่ะนำไว้  อาหารอร่อย ถูกปากมาก แต่จานใหญ่ กินไม่หมด พยายามสั่ง แค่ สองอย่างพอนะค่ะ  



ถ้าใครยังไม่แลกเงิน ก็แลกเงินกีบที่นี่ได้ ตามร้านค้าใหญ่  แต่พวกเราแลกที่ด่านมาแล้ว  ถ้าขึ้นพงสาลีจะหาแลกเงินกีบยากมาก   หลังจากนั้นก็เข้าที่พัก อาบน้ำนอนเล่น อากาศเริ่มหนาวตอนเย็นไม่ต้องเปิดแอร์ เอาพัดลมพอ  เรานัดกันตื่น หกโมงเช้า เจอกันหน้าที่พัก 7 โมงเช้า  รถไปพงสาลี ออก 8.30 น.  จากที่พักเดินไปที่สถานีรถ หมายเลข 32 ในแผนที่ ไม่ไกล เดินได้สบาย ๆ หาอะไรกินรองท้องตอนเช้าที่ท่ารถนั่นแหละ  ได้ข่าวมาว่า รถไปพงสาลี คันนี้เสียอยู่บ่อยครั้ง อ่านรีวิว ไหน ก็เสีย  เกือบทุกรีวิว เลย  ก็ต้องทำใจ ได้แต่หวังว่าจะไม่เสีย แล้วมาดูกันว่า จะเสียหรือเปล่า แล้วจะแก้ปัญหายังไง กัน

คันนี้แหละที่จะไปพงสาลี  12 ช.ม.  ต้องก้นเหล็กจริง ๆ ถึงจะทำได้

ตารางเวลารถออก  สายเหนือของลาว  ที่จะไปพงสาลี คือ old bus station

ตารางเวลารถออก  สายใต้ของลาว   เพิ่งสร้างเสร็จได้ 3 ปีเอง สำหรับคนที่จะไปหนองเขียว หลวงพระบาง ห่างจากสถานีเก่าประมาณ 5 กิโลเมตร  ขึ้นตุ๊ก ๆ ไปเพราะไกลอยู่เหมือนกัน

จริง ๆ แล้ว เอาจริง ๆ นะ เหนือสุดลาว  คือเมืองยอดอู  ซึ่งมีด่านที่จะไปจีนได้ แต่เป้าหมายของเราอยู่ที่การล่องลำน้ำอูมากกว่า เพราะว่า เท่าที่อ่านมา  เมืองยอดอูเป็น ต้นกำเหนิดลำน้ำอู  ระดับน้ำจะไม่ลึก จะมีแก่งหิน มากมาย กระแสน้ำไหลแรง ถ้าจะใช้สัญจร ทางน้ำจริง ๆ ต้องขึ้นที่ท่าเรือหาดสา ที่อยู่ที่พงสาลี  เราไปพงสาลีเพื่อที่จะล่องลำน้ำอู  ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในลาว  เป็นเส้นที่ไหลขนานกับ ลำน้ำโขง นั่นแหละ
( ซึ่งมันจะไหลมาบรรจบกับลำน้ำโขงที่หลวงพระบาง ตรงถ้ำปากอู )    แต่มันจะพิเศษกว่า ตรงที่มันเป็นธรรมชาติดิบ ๆ อยู่ มีชนเผ่า ตามขอบตลิ่ง  ไฟฟ้ายังไม่มี  เรือมีแค่เที่ยวเดียว เท่านั้น ถ้าพลาดก็ต้องนอนค้าง หรือไม่ก็เหมาเรือกันเป็น ล้านกีบกันเลย    เพราะฉะนั้น การวางแผนต้อง แม่นยำจริง ๆ  หรือไม่ก็ต้อง  มีแผนสำรอง ไว้ ตลอดการเดินทาง  

ดูแผนที่  เส้นทางการเดินทางของพวกเรา 3 คน  My way........................

ถึงเวลาขึ้นรถพงสาลี  กันแล้ว.....รถแล่นผ่านออกจากตัวเมืองอย่างมั่นคง  ออกจากตัวเมืองไม่เท่าไหร่ ก็เจอภูเขาลูกใหญ่ ๆ สวยงามมาก  ช่วงนี้แนะนำให้นั่งรถ ด้าน ขวามือ  เพราะรถจะวิ่ง ขนานแม่น้ำน้อย ถ้าจำไม่ผิด มันสวยมาก รถวิ่งเลียบเขาตลอด  หมอกจาง ๆ ยังคงมีอยู่ให้เห็นตลอด
ชื่อสินค้า:   Backpack , Laos
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่