[CR] Backpack เมืองงอย หนองเขียว เคาท์ดาวน์ หลวงพระบาง 2015

กระทู้รีวิว

ลิงค์นี้เป็นการเดินทาง ครั้งที่  2 ค่ะ
https://ppantip.com/topic/36221089


แบกเป้เที่ยวเมืองงอย หนองเขียว หลวงพระบาง 26 ธ.ค.58-3 ม.ค. 59
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนคนหนึ่ง ที่เจอกันที่วังเวียงเมื่อต้นปี แล้วเค้าไปเที่ยวเมืองงอยต่อคนเดียว แต่ป้าเงาะต้องกลับก่อน ก็เลยตั้งใจว่าจะต้องไปให้ได้ ไปคนเดียวนี่แหละเพราะไม่มีใครไปกับเราหรอก ตั้ง 7-8 วัน ก็เริ่มวางแผนอ่านพันทิป ตั้งแต่เดือนตุลา 58 แต่ข้อมูลเก่ามากเลย ต้องอ่าน Secret backpacker ประกอบด้วย คิดไปคิดมาไปคนเดียว มันเหงาแน่นอน ก็เลยลอง post ลงใน โบกรถ/หารเฉลี่ย ของ คุณฮานิ ปรากฏว่ามีคนสนใจ แต่ยังไม่ตัดสินใจ เริ่มมีคำถามมากขึ้น ก็ต้องหาคำตอบมากขึ้น เลยทำให้อ่านเยอะมาก จนตอบคำถามได้ทำให้มีคนเชื่อมั่น นำมาซึ่ง
ผู้ร่วมทาง : Susu Jib Kate Bo Duy 4 หญิง 1 ชาย

แผนที่ การเดินทาง ครั้งนี้     ถ้าสงสัย  สอบถามใน  fb  susu wattananakorn  ได้นะค่ะ https://www.facebook.com/susu.wattananakorn.9




(อันนี้เป็นแผนที่เส้นทางจะไปพงสาลี ปี 2016 )   ตามลิ้งค์ นี้ค่ะ   https://ppantip.com/topic/36221089


หลังจากนั้นก็เริ่มคำนวณ ค่าใช้จ่าย เส้นทาง และกิจกรรม ที่จะทำในแต่ละจุด รวมทั้งที่พัก ร้านอาหาร ที่เหมาะสม เพื่อให้คุ้มค่า สนุกสนาน และมีความสุข การเดินทางจะต้องไม่เครียด และมีสติ
ไม่ค่อยจะมีสาระ กันสักเท่าไหร่ บันเทิง ตลอดทริปค่ะ
สำคัญมาก : เนื่องจากการเดินทางในลาวไม่สามารถกำหนดเวลาได้แม่นยำมากนัก เราจึงไม่มีการจองอะไรทั้งสิ้น เพราะถ้าจอง แล้วไปไม่ทัน คุณพลาด นั่นคือต้องไปลุ้นเอา ข้างหน้า ความท้าทาย ลุ้นระทึก และหวาดเสียว ตลอดเวลา จึงทำแผนสำรองไว้เช่นกัน
งบประมาณ แบ่งเป็น 4 หมวด รวม 10,000 บาท แต่ใช้จริง แค่ 7,000 – 8,000 บาท แล้วแต่ แต่ละคน
1 ค่ารถ 4,000 บาท ตลอดทริป
2 ค่าที่พัก 1,200 บาท ตลอดทริป
3 ค่าอาหาร 1,800 บาท ตลอดทริป
4 ฉุกเฉิน 3,000 บาท
จองตั๋วล่วงหน้า 2 เดือน แนะ

เส้นทาง
ไป สมบัติทัวร์(วิภาวดี) - เชียงของ – ข้ามด่าน – บ่อแก้ว(ลาว) – อุดมไช (1 คืน) – หนองเขียว (1คืน) – เมืองงอย ( 2 คืน) – กลับ หนองเขียว – หลวงพระบาง 31 ธ.ค. Dance ถึงตี 2 (2 คืน) – เลย (1 คืน ) – หมอชิต
จากสมบัติทัวร์ รถออก 6.15 ถึง ด่าน 3 แยกพรมแดน เชียงของ จ.เลย 6 โมงเช้า ใช้เวลา 12 ช.ม. ต้องบอกคนขับรถให้จอดที่สามแยกพรมแดนบอกจะไปด่านข้ามไปลาว ตรงที่มีรถตุ๊ก ๆ จอดติดกัน (ไม่ต้องเข้าไปในขนส่ง เชียงของ) พอลงรถก็เดินขึ้นรถตุ๊ก ๆ เลย คิดหัวละ 50 บาท ไป 3 คน ( Susu, Jib , Kate) 150 บาท ราคามาตรฐาน ไม่ต้องต่อรอง ส่วน Duy & Bo ไปนอนรอเราที่เชียงของก่อน 1 คืน แล้วไปเจอกันที่ด่าน จากที่เชียงของ ไปด่าน คิดหัวละ 70 บาท *2 (140)


บรรยากาศที่ด่านเงียบสงบ ห้องน้ำสะอาดมาก ล้างหน้าแปรงฟัน กันตรงนั้น มีแต่พวกเรา พอสักพักก็มีรถตู้ รถทัวร์ รถบัส มา 3-4 คัน เลยต้องรีบไปต่อคิว ปั้มพาสปอร์ต ซื้อตั๋วรถข้ามฝั่ง 25 บาท ถ่ายรูปกันที่ด่าน หนุกหนาน กำลังสดชื่นอยู่ ก็นึกในใจอยู่ว่า เดี๋ยวตอนกลับคอยดูเถอะ พวกนี้ จะต้องเหมือนซอมบี้ แน่ ๆ ต้องคานขึ้นเตียงกันเป็นแถว เพราะขากลับ เราจะล้า และเหนื่อย อยากจะกลับถึงบ้านเร็ว ๆ อิ อิ ไม่อยากจะพูด เก็บไว้ก่อน
รถข้ามสะพาน สวยมาก มีหมอกล่องลอย อยู่เหนือลำน้ำโขง เป็นน้ำจิ้ม ก่อนเจอ อลังการกว่านี้เยอะ ค่ะ
ทำเรื่องผ่านด่าน เสียค่าด่านที่ลาว 40 บาท 10 k (หมายถึง หมื่นกีบ) พ้นด่านมามีรถตุ๊ก มารอรับเลย 80 บาท 20 k ต่อ หัว ลดไม่ได้เลย คิดเป็นรายหัว นั่งไป 6 คน เท่ากับ 480 บาท ถือว่าแพง นะ แต่คิดว่าเค้าคงไปเข้ากองกลาง แล้วหารกัน อีกที เห็นมีหัวหน้าคุมคิวอยู่ รถไปจอดที่สถานี บ่อแก้ว รีบซื้อตั๋วแล้วจับจองที่นั่งทันที เพราะเดี๋ยวไม่จอง จะมีไก่เป็นเล้าๆ มาแทนที่ กระสอบผลผลิตพืช เยอะแยะ ค่ารถบ่อแก้วไปอุดมไซ หัวละ 85 k วันนี้มีแต่รถบัสเล็กอย่างเดียว ไม่มีรถใหญ่ อัดกันไป ทั้งอ๊วก ขี้เป็ด ขี้ไก่ คนนอนหลับ เด็ก เล็ก มันเป็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นแถบนั้น ถ้าไปกับทัวร์ มันจะไม่ได้รสชาติ แบบนี้

วิวสองข้างทางก็พอใช้ได้แต่ไม่สวยเท่าไหร่ รถจอดที่สถานีหลวงน้ำทา พักกินข้าว เข้าห้องน้ำ 30 นาที เป็นอาหารมื้อแรกของเรา นั่งต่อไปถึงอุดมไช 4-5 โมงเย็น กะว่าจะเหมารถต่อไปหนองเขียวเลย เพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่เรียกแพงเหลือเกิน ตั้ง 1 ล้านกีบ แพง อ่านมามันไม่ใช่ก็เลยเดินออกจากสถานีมาซ้ายมือผ่านวงเวียน หาที่พักได้ดอกบัวแดง Gh คืน 50 k ตรงบันไดขึ้นภูพระธาตุ ดูพระอาทิตย์ ตกที่นั่นสวยอยู่เหมือนกัน ผ่อนคลายและพักผ่อนกัน มีความสุขค่ะ ตรงข้ามภูพระธาตุข้ามถนนไปเป็นพิพิธภัณฑ์ ขึ้นไปสำรวจ หมด ไหน ๆ มาแล้ว อ่านรีวิวกับเห็นจริง คนละเรื่อง เหมือน อ่านแล้ว บางอย่าง ต้อง หาร 10 บางอย่าง ต้อง คูณ 100


ออกไปหาแลกเงินกีบ ได้ พัน ละ 225-226 k เดินไปทางแม่น้ำมีสะพานข้าม ด้านขวามือมีร้านขายมือถือ ซื้อซิม เติมเงินที่นั่น เดินกลับข้ามสะพานมา มีร้าน กัลยา กินข้าว อาหารใช้ได้เลย อร่อย แสดงว่าร้านนี้ใคร ๆ ก็มากินเพราะร้านอื่นเค้าปิดกันหมดแล้ว อยู่ในซอยไปหน่อยหนึ่ง โต๊ะเป็นแบบหมุนจีน เหมือนในรีวิวที่อ่านมาเลย มื้อนี้อร่อยมาก หมดไป 134k /5 คน กลับมาที่พัก ต่างคนต่างเล่นเน็ต เราติดต่อรถ ตุ๊ก ๆ ให้มารับที่ Ghไป สถานีรถใหม่ คิดคนละ 20 k เวลา 8.00 น. สะดวกดี มาตรงเวลาด้วย ราคามาตรฐานเลย คิดเป็นหัว ไม่มีลด เยอะก็ไม่ลด ค่ะ เพราะเค้าก็มีรายได้อย่างเดียว ไม่มีรายได้อื่นเสริม

ตารางเวลารถออก ที่สถานีอุดมไช ใหม่ นะค่ะ
วันที่....28 ธันวาคม 2558
ตอน....Nongkhiaw bridge Laos
Time...14.00 น.
นั่งรถจากอุดมไชย ถึงหนองเขียว เรามาถึง หนองเขียว บ่าย 4 โมง รู้สึกตื่นเต้น กับถนนที่ขนานไปกับ แม่น้ำน้อย ๆ อีกสายหนึ่งที่ไหลลงสู่ ลำน้ำอู น้ำใสมากเหลือเกิน ถัดไปเป็นภูเขา ขนานกับลำน้ำ ซ้ายมือเป็นพื้นนา โล่ง เหมือนกับว่ารถของเรากำลังวิ่งเข้าสู่ดินแดนแห่งสวรรค์ ที่สูญหาย หรือฝรั่งเรียกว่า Lost Paradise จริง ๆ รูปที่ถ่ายมานั้นไม่ได้สวยงามเท่ากับของจริงเลย มันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ากับการนั่งรถ ถึง เกือบ สามพันกิโลเมตร พวกเราตื่นตาตื่นใจกับภูเขาลูกใหญ่ ๆขนาบสองข้างถนน เมื่อรถวิ่งเข้าสถานีหนองเขียว คนขับรถที่เราคุยมาตลอดทางรู้สึกภูมิใจกับบ้านของเขาที่พวกเราชื่นชม เราขนสัมภาระแต่ละคนลงจากรถ จะมีรถตุ๊ก ๆ มาจอดรอรับไปที่พัก


แต่จากที่เราศึกษามาแล้ว พวกเราเลยขอเดินชมหมู่บ้านดีกว่าเพราะไม่ไกลเลยจากที่ๆ เราจะพัก ต้องขอบคุณ Hobo Map มาก ทำให้เรารู้ต่ำแหน่ง เรามุ่งหน้าเดินไปที่สะพานอินโดจีน ซึ่งเป็นจุด Highlight สวนกับนักเดินทางชาวยุโรป สองสามคน ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่าสะพานไปทางไหน ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย รู้สึกสดชื่นมาก ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำจะมีทางลงไปที่กระท่อมขายตั๋วเรือ ซึ่งคนที่นั้นบอกว่าเรือออกไปแล้ว ไม่ทันแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าเราจะมาซื้อตั๋วเรือ ไปเมืองงอยสำหรับวันรุ่งขึ้นต่างหาก มี 2 รอบ เราซื้อรอบ บ่าย สอง เพื่อที่จะทำกิจกรรมในหนองเขียวให้คุ้มค่า กับแผนที่เราได้ศึกษามาอย่างละเอียด และพลาดไม่ได้


พอซื้อตั๋วเรือเสร็จ เราก็เดินขึ้นไปบนสะพาน ถ่ายรูปกันทุกมุมก็ว่าได้ แสงกำลังดีมาก เราได้มุมที่ตั้งใจไว้ สวยงาม คลาสสิคมาก พอเดินพ้นสะพานเราก็ตรงเข้าไปหา Nongkhiew Adventure ที่มีน้องเฝือ ทำทัวร์อยู่ เข้าไปทักทาย ถามราคา package พอสมควร แล้วเดินเข้าซอย ไปพักที่ Bamboo Paradise GH ตามที่อ่านมา เจ้าของเปิดราคามาที่ 60 พันกีบ เราถามว่ามีถูกกว่านี้มั๊ย เค้าเลยให้ราคา มาที่ 50 พันกีบ เป็นอันตกลงทันทีค่ะ

วันที่...28 ธันวาคม 2558
ตอน...Panorama viewpoint in the dark : Laos
Time.15.00 น.
เช็คอินเข้าที่พัก เก็บสัมภาระที่ไม่จำเป็น เตรียมตัวเล็กน้อยเพราะเราต้องรีบขึ้นไปจุดชมวิว Nongkhiaw view point ก่อนพระอาทตย์อัสดง ซึ่งดังไปทั่วโลกชาวยุโรป รู้จักกันดี เพราะจุดนี้เราจะมองเห็นเมืองงอย ที่เราจะนั่งเรือไปวันรุ่งขึ้น และเห็นลำน้ำอู ทั้งสาย จากสะพานเราสามารถมองเห็นกระท่อมบนยอดเขาที่เราจะขึ้นไป ทางขึ้นอยู่ใกล้ที่พัก แค่ 100 เมตร เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ตก ทุกคนทำตามอย่างพร้อมเพรียงมาก ก็ภูมิใจนะเพราะว่าเราอยากให้ทุกคนเห็นในสิ่งที่สวยที่สุด ประทับใจที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะลำบากอยู่บ้าง ไฟฉายต้องเตรีมพร้อม น้ำพร้อม ของกินนิดหน่อย เพราะเรายังไม่ได้ทานข้าวเย็น พอบอกรีบ ทุกคนก็รีบ ไปลุยกัน


เสียค่าขึ้น 20 พันกีบต่อคน มีน้ำเปล่าขวดเล็กให้ 1 ขวด มีไม้ยัน ให้ เดินขึ้นไม่ทันไร ก็เหนื่อยแล้ว เพราะยังปรับตัวกับสภาพความสูงไม่ได้ ต้องรู้จังหวะหายใจ เดินไปพักไป ห้าคนเดินขึ้น ทางขึ้นชัดเจนไม่ต้องมีคนนำ ไม่ต้องมีไกด์ เราเลยทิ้งระยะ กันเดินได้ เป็นอิสระต่อกัน ไม่ต้องกดดันซึ่งกันและกัน แล้วไปเจอกันข้างบน ตามนั้น แต่ฝรั่งมันเดินแซงเราไป คนแล้วคนเล่า เจ็บใจ นัก เดินป่าเมืองลาว ก็ชอบตรงที่มีฝรั่งนี่แหละ ยังมีผู้คนอีกมากมายหลายเผ่าพันธ์ ที่เราต้องพบเจอเรียนรู้ พอถึงข้างบน โอ้แม่เจ้า พาโนราม่า 360 องศา งดงามเหมือน มาจูปิกจู จนฝรั่งหันมามอง ว่า มาจูปิกจู เลยเหรอ ใช่ในความคิดของเรามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ มันเหมือนการเดินป่าที่เมืองไทย 4 ทริป เอามารวมกัน เป็นทริปนี้ทริปเดียว สวยมาก คุ้มค่ามาก

ทุกคนบนเขาซึมซับบรรยากาศ อย่างสงบ ใจจดจ่ออยู่กับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า อากาศอันบริสุทธิ์ อ่อนโยน ล่องลอยเข้าสู่ลมหายใจของตัวเอง ความรู้สึกนี้เงินเป็นล้านก็หาซื้อไม่ได้ พระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้ว ทุกคนก่อนหน้านั้นลงจากเขาไปหมดแล้ว ส่วนหนึ่งไม่ได้เตรียมไฟฉายขึ้นมา แต่เรามี ป้าเงาะกับดุ๋ย ลงเป็นสองคนสุดท้าย ภูมิใจฝรั่งก็สู้เราไม่ได้ มืดมาก มืดแล้ว แสงไฟฟ้าจากหมู่บ้านมีให้เห็นลาง ๆ อยากจะเอาอาหารเย็นมานั่งกินบนนี้เสียเหลือเกิน เริ่มหิวแล้ว ความหิวเป็นตัวช่วยอย่างดี ที่ทำให้เราเดินลงอย่างเร็ว โดยใช้เวลา 50 นาที ทั้ง ๆ ที่เดินขึ้น เกือบ 2 ชั่วโมงได้

บรรยากาศตอนลงเขากลางคืนนี่ก็น่าสะพรึง อยู่ไม่น้อยเลย จ้ำลงพรวด ๆ อย่างเดียว ลงมาถึงด้านล่าง เจอพวกเรารออยู่แล้ว หิวละสิ ป้าเงาะเดินนำหน้าไปร้านอาหาร Sunset Restaurant ที่อยู่ริมน้ำทันที สั่งอาหารมือใหญ่ ซัดกันเต็มที่ เป็นอาหารรสเลิศ แล้วคุยกันเรื่อง กิจกรรมพรุ่งนี้ต่อ ว่าเราจะทำอะไรกันดี ติดตามต่อ นะค่ะ
29 ธันวาคม 2558
ตอน Viewpoint In the morningและแรงบันดาลใจ สู่ ‪#‎Phongsaly‬ : Laos
Time : 04.30 Am ตื่นตีสี่ครึ่งเดินขึ้นยอดหนองเขียว
Dinner เมื่อเย็นริมน้ำอู เราคุยถึงแผนสำหรับเช้าวันรุ่งขึ้น พี่เงาะกับดุ๋ย 2 คนจะขึ้นยอดหนองเขียว ตอนเช้าอีกรอบเพราะอยากเห็นทะเลหมอก เค้าว่าสวยกว่าพระอาทิตย์ตกมากนัก ส่วนอีก 3 สาวขอบายจะตื่นสายขอไปสำรวจถ้ำผาตอก Phatok cave ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักเดินไปทางเดียวกับจุดชมวิวนั่นแหละ ประมาณ 1 กิโลเมตร เสียค่าเข้า 15 พันกีบถ้าจำไม่ผิดนะ ระหว่างทานข้าวเราก็ได้พบกับพี่สาวคนหนึ่ง เธอเท่ห์มาก เป็นคนไทยพานายฝรั่งเที่ยว นั่งทานข้าวโต๊ะใกล้ ๆ กัน เพิ่งกลับมาจากพงสาลี เธอเล่าให้ฟังว่าที่นั่นสวยมาก สวยกว่าเมืองไทยภูเขาลูกใหญ่ ๆ อลังการมาก

ชื่อสินค้า:   เที่ยวลาวเหนือ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่