Review - Kong : Skull Island (คู่คอง)
ผู้กำกับ : Jordan Vogt-Roberts (The Kings of Summer)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับ
https://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
บ่มี ”อีหยัง” มาพังทลาย
ความฮักเฮาสองลงได้
แม้ดินสลายยังมั่นคงคือจั่งตอนเริ่ม
ในยุคนี้ค่ายต่างๆต่างพากันพยายามสร้างจักรวาลภาพยนตร์ของตนกันมากขึ้น แน่นอนว่าคงต้องการเจริญรอยตามความสำเร็จของจักรวาลมาร์เวล ที่สามารถส่งต่อความสำเร็จจากตัวละครต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกันไปเรื่อยๆ สำหรับค่าย Warner Bros ก็เช่นกัน พยายามสร้างจักรวาล Monster ของตนขึ้น โดยมีหนังบุกเบิกคือ Godzilla (2014) ที่ประสพความสำเร็จในระดับหนึ่ง และนี่คืออีกหนึ่งหนังในจักรวาล Monsterverse ที่ได้ดำเนินรอยตามในการพยายามปูพื้นไปสู่สัตว์ประหลาดตัวต่อๆไปครับกับ Kong : Skull Island
เรื่องราวใน Kong : Skull Island เกิดขึ้นหลังจากจบสงครามเวียตนามที่อเมริกาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้พอดี เล่าถึงทีมสำรวจเกาะ Skull Island เกาะที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้าไป เพราะเพิ่งถูกค้นพบโดยดาวเทียม ทีมสำรวจนี้นำโดย Bill Randa (John Goodman) จากบริษัท Monarch ผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการสำรวจนี้ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเสาะหาทรัพยากร พร้อมด้วย James Conrad (Tom Hiddleston) ผู้เชี่ยวชาญในการแกะรอย, Mason Weaver (Brie Larson) ช่างภาพสาว และ ผู้พัน Packard (Samuel L. Jackson) นายทหารที่เพิ่งผ่านความพ่ายแพ้จากสงครามเวียตนาม ผู้รับหน้าที่นำกองทหารคุ้มกันในภารกิจครั้งนี้ แต่เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาบินเข้าสู่เขตเกาะ พวกเขาก็ถูกโจมตีจาก “Kong” ลิงยักษ์ขนาดมหึมาทันที พวกเขาจะเอาตัวรอดออกจากเกาะนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามใน Kong : Skull Island ครับ
Kong : Skull Island ถือเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้อย่างดีทีเดียว สัตว์ประหลาดต่างๆที่ปรากฏตัวขึ้นมาใน Skull Island ล้วนแต่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี น่าตื่นตาตื่นใจมาก อีกทั้งฉากแอคชั่นต่อสู้ต่างๆก็ทำออกมาได้ดีมาก ดูสนุก ตื่นเต้น และมีการใช้มุมกล้องแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ แต่ถึงแม้หนังจะสร้างสัตว์ประหลาดมาได้อย่างดี ในส่วนของตัวละครมนุษย์นั้นกลับสอบตกครับ หนังมีตัวละครเยอะมาก และการเกลี่ยบทและปูพื้นตัวละครนี่เข้าขั้นแย่เลยครับ ขนาดพระเอกนางเอกผมว่ายังไม่รอดเลย ดูไม่ค่อยมีความสำคัญ ตัวละครที่ดูโอเคสุดก็มีแค่ผู้พัน Packard ที่เล่นโดย Samuel L. Jackson นี่ละครับ ที่ดูจะมีมิติอะไรขึ้นมาหน่อย ในเรื่องของบทและเรื่องราวของหนังโดยรวมนั้นก็ค่อนข้างเรียบง่าย เหมือนเป็นการสร้าง Scenario ขึ้นมาเพื่อให้ได้โชว์ฉากสัตว์ประหลาดมากกว่า สำหรับผมนี่จึงเป็นแค่หนังสัตว์ประหลาดสู้กันดูเพลินๆ จบแล้วก้จบกันครับ
งานภาพนั้นดีเลยนะครับ อย่างที่บอกว่ามุมกล้องค่อนข้างแปลกใหม่ และมีการใช้โลเคชั่นสวยๆได้อย่างคุ้มค่าครับ (ถ้าดูไม่ผิดมีเขื่อนเชี่ยวหลานด้วยหรือเปล่านะ) เอฟเฟค CG ต่างๆก็ทำได้ดีเลยหาไม่เนียนได้น้อยครับ เพลงประกอบนั้นจะเน้นเพลงเก่ายุค 70-80 ซึ่งก็โออยู่แหละครับ แต่เดี๋ยวนี้การใช้เพลงเก่ามันก้เริ่มเฝือแล้วละนะ ใช้กันเยอะแยะไปหมด สุดท้ายการแสดงครับ จริงๆเหล่านักแสดงทำได้ไม่แย่นะ โดยเฉพาะ Samuel L. Jackson ที่ค่อนข้างโดดเด่นเลย แต่บทมันไม่ส่งนี่ซิ ทำให้หนังเรื่องนี้มีการแคสท์นักแสดงที่เสียของมากๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว อย่าง Brie Larson นี่ใช้เธอไม่คุ้มเลยให้ตายเหอะ ไปดูเธอใน Room ซิว่าเธอมีของขนาดไหน นี่เอามาเล่นบทอะไรไม่รู้แทบไม่มีความสำคัญเลย (คือผมสามารถเล่าเรื่องย่อหนังเรื่องนี้ โดยไม่บอกว่าพระเอกนางเอกเป็นใครได้เลยนะ...) ส่วนน้อง Tian Jing อดีตท่านนายพลจาก The Great Wall นี่ยิ่งหนักเลยครับ มาเป็นตุ๊กตาหน้าสวยชัดๆ
(ส่วน End Credit ที่หลายคนบอกว่าว้าวมากนี่ ผมดันไปสปอยล์ตัวเองด้วยการอ่านเครดิต ซึ่งมันแอบบอกด้วยว่าจะมีอะไรออกมา เลยไม่ได้รู้สึกว้าวขนาดนั้นครับ)
สรุป : ดูสัตว์ประหลาดสู้กันสนุกเพลินๆก้พอได้ แต่บทและตัวละครผมว่ามันตื้นไปหน่อยนะ
คะแนน : ให้ 7.6/10 (B+), ไม่ชอบครับ
[CR] Review - Kong : Skull Island (คู่คอง)
ผู้กำกับ : Jordan Vogt-Roberts (The Kings of Summer)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับhttps://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
บ่มี ”อีหยัง” มาพังทลาย
ความฮักเฮาสองลงได้
แม้ดินสลายยังมั่นคงคือจั่งตอนเริ่ม
ในยุคนี้ค่ายต่างๆต่างพากันพยายามสร้างจักรวาลภาพยนตร์ของตนกันมากขึ้น แน่นอนว่าคงต้องการเจริญรอยตามความสำเร็จของจักรวาลมาร์เวล ที่สามารถส่งต่อความสำเร็จจากตัวละครต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกันไปเรื่อยๆ สำหรับค่าย Warner Bros ก็เช่นกัน พยายามสร้างจักรวาล Monster ของตนขึ้น โดยมีหนังบุกเบิกคือ Godzilla (2014) ที่ประสพความสำเร็จในระดับหนึ่ง และนี่คืออีกหนึ่งหนังในจักรวาล Monsterverse ที่ได้ดำเนินรอยตามในการพยายามปูพื้นไปสู่สัตว์ประหลาดตัวต่อๆไปครับกับ Kong : Skull Island
เรื่องราวใน Kong : Skull Island เกิดขึ้นหลังจากจบสงครามเวียตนามที่อเมริกาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้พอดี เล่าถึงทีมสำรวจเกาะ Skull Island เกาะที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้าไป เพราะเพิ่งถูกค้นพบโดยดาวเทียม ทีมสำรวจนี้นำโดย Bill Randa (John Goodman) จากบริษัท Monarch ผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการสำรวจนี้ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเสาะหาทรัพยากร พร้อมด้วย James Conrad (Tom Hiddleston) ผู้เชี่ยวชาญในการแกะรอย, Mason Weaver (Brie Larson) ช่างภาพสาว และ ผู้พัน Packard (Samuel L. Jackson) นายทหารที่เพิ่งผ่านความพ่ายแพ้จากสงครามเวียตนาม ผู้รับหน้าที่นำกองทหารคุ้มกันในภารกิจครั้งนี้ แต่เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาบินเข้าสู่เขตเกาะ พวกเขาก็ถูกโจมตีจาก “Kong” ลิงยักษ์ขนาดมหึมาทันที พวกเขาจะเอาตัวรอดออกจากเกาะนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามใน Kong : Skull Island ครับ
Kong : Skull Island ถือเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้อย่างดีทีเดียว สัตว์ประหลาดต่างๆที่ปรากฏตัวขึ้นมาใน Skull Island ล้วนแต่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี น่าตื่นตาตื่นใจมาก อีกทั้งฉากแอคชั่นต่อสู้ต่างๆก็ทำออกมาได้ดีมาก ดูสนุก ตื่นเต้น และมีการใช้มุมกล้องแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ แต่ถึงแม้หนังจะสร้างสัตว์ประหลาดมาได้อย่างดี ในส่วนของตัวละครมนุษย์นั้นกลับสอบตกครับ หนังมีตัวละครเยอะมาก และการเกลี่ยบทและปูพื้นตัวละครนี่เข้าขั้นแย่เลยครับ ขนาดพระเอกนางเอกผมว่ายังไม่รอดเลย ดูไม่ค่อยมีความสำคัญ ตัวละครที่ดูโอเคสุดก็มีแค่ผู้พัน Packard ที่เล่นโดย Samuel L. Jackson นี่ละครับ ที่ดูจะมีมิติอะไรขึ้นมาหน่อย ในเรื่องของบทและเรื่องราวของหนังโดยรวมนั้นก็ค่อนข้างเรียบง่าย เหมือนเป็นการสร้าง Scenario ขึ้นมาเพื่อให้ได้โชว์ฉากสัตว์ประหลาดมากกว่า สำหรับผมนี่จึงเป็นแค่หนังสัตว์ประหลาดสู้กันดูเพลินๆ จบแล้วก้จบกันครับ
งานภาพนั้นดีเลยนะครับ อย่างที่บอกว่ามุมกล้องค่อนข้างแปลกใหม่ และมีการใช้โลเคชั่นสวยๆได้อย่างคุ้มค่าครับ (ถ้าดูไม่ผิดมีเขื่อนเชี่ยวหลานด้วยหรือเปล่านะ) เอฟเฟค CG ต่างๆก็ทำได้ดีเลยหาไม่เนียนได้น้อยครับ เพลงประกอบนั้นจะเน้นเพลงเก่ายุค 70-80 ซึ่งก็โออยู่แหละครับ แต่เดี๋ยวนี้การใช้เพลงเก่ามันก้เริ่มเฝือแล้วละนะ ใช้กันเยอะแยะไปหมด สุดท้ายการแสดงครับ จริงๆเหล่านักแสดงทำได้ไม่แย่นะ โดยเฉพาะ Samuel L. Jackson ที่ค่อนข้างโดดเด่นเลย แต่บทมันไม่ส่งนี่ซิ ทำให้หนังเรื่องนี้มีการแคสท์นักแสดงที่เสียของมากๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว อย่าง Brie Larson นี่ใช้เธอไม่คุ้มเลยให้ตายเหอะ ไปดูเธอใน Room ซิว่าเธอมีของขนาดไหน นี่เอามาเล่นบทอะไรไม่รู้แทบไม่มีความสำคัญเลย (คือผมสามารถเล่าเรื่องย่อหนังเรื่องนี้ โดยไม่บอกว่าพระเอกนางเอกเป็นใครได้เลยนะ...) ส่วนน้อง Tian Jing อดีตท่านนายพลจาก The Great Wall นี่ยิ่งหนักเลยครับ มาเป็นตุ๊กตาหน้าสวยชัดๆ
(ส่วน End Credit ที่หลายคนบอกว่าว้าวมากนี่ ผมดันไปสปอยล์ตัวเองด้วยการอ่านเครดิต ซึ่งมันแอบบอกด้วยว่าจะมีอะไรออกมา เลยไม่ได้รู้สึกว้าวขนาดนั้นครับ)
สรุป : ดูสัตว์ประหลาดสู้กันสนุกเพลินๆก้พอได้ แต่บทและตัวละครผมว่ามันตื้นไปหน่อยนะ
คะแนน : ให้ 7.6/10 (B+), ไม่ชอบครับ