[บทสัมภาษณ์] เมื่อคนเขียนบทขาประจำ ดำริเรื่อง Godzilla vs. Kong กับเบื้องหลังของจักรวาลมอนสเตอร์ (by Filmaneo)

-
เจอบทสัมภาษณ์นี้ สมัย GvK ปล่อยใหม่ ๆ (ค.ศ. 2021) แล้วเคยได้แปลเก็บไว้
จากที่ลองกลับมาอ่าน, ไม่น่าจำเป็นต้อง แก้ไขอะไร เพื่อให้เนื้อหาเป็นปัจจุบัน
แค่พึงระลึกว่า นี่ไม่ได้เกี่ยวกับภาคต่อ แบบ GxK: The New Empire ที่ใกล้ฉายแล้ว (ซะทีเดียว), แต่เกี่ยวกับ MonsterVerse ก็แล้วกัน
-
-
*** คำเตือน -- มีสปอยล์ Godzilla vs. Kong ***
-
-
หลังจากสตูดิโอโตโฮ เผยแพร่ Godzilla ภาคแรกตอนค.ศ. 1954 มากว่า 65 ปี ก็มีภาพยนตร์ถูกผลิตมากเกิน 30 เรื่อง
โดยผกก.อิชิโระ ฮอนดะ กับเอย์จิ ซึบุรายะ/ผู้ปฏิวัติวงการเทคนิคพิเศษ ถือเป็นผู้ให้กำเนิดร่วม และมีส่วนในแฟรนไชส์ราชันสัตว์ประหลาดเยอะที่สุด ณ ช่วงต้น
ก่อนนักทำหนังชาวญี่ปุ่นหลายต่อหลายคนจะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันมาสร้างสรรค์ผลงาน
-
แล้วค่ายลีเจนดารี่ก็ได้สิทธิ์ผลิต Godzilla เวอร์ชั่นอเมริกันในปี 2010, ผู้บริหารนามโทมัส ทัล (Thomas Tull) รีบทาบทาม 'กาเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์' ที่ตอนนั้นเนื้อหอมเพราะหนังสัตว์ประหลาดทุนต่ำเรื่อง Monster ของเขา ฮิตเซอร์ไพรส์
พร้อมกับที่ม้านอกสายตาอย่าง 'แม็กซ์ โบเรนสไตน์' (Max Borenstein) ซึ่งกำลังปลุกปั้นมินิซีรีส์เกี่ยวกับทีมบาสเก็ตบอล (Showtime Lakers) ถูกเรียกให้ไปช่วยเขียนบท
โดยไม่มีใครคาดคิดว่าในอนาคตโบเรนสไตน์ จะกลายเป็นผู้ออกแบบจักรวาลมอนสเตอร์ ที่จุดสตาร์ทคือ Godzilla (2014) และหมุดหมายปลายทางคือ Godzilla vs. Kong (2021)
-
-
Observer (สื่อต่างประเทศ): สถานะของหนัง Godzilla ภาคแรกเป็นยังไง ตอนที่คุณเข้ามา ?
-
แม็กซ์ โบเรนสไตน์: มี 2-3 บทร่าง ของนักแต่งมากพรสวรรค์บางคน ถูกเตรียมไว้แล้วแบบลับๆ ก่อนได้ตัวผกก. 
ผมเข้ามามีส่วนร่วม ช่วงเดียวกับกาเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้กำหนดทิศทางหนังไว้ล่วงหน้าอย่างแน่วแน่ 
กาเร็ธต้องการภาพยนตร์ภัยพิบัติของแท้ ที่ผู้ชมรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์ โดยก็อดซิลลาคือภัยธรรมชาติที่ว่านั่น
-
เราสองคนช่วยกันปรับเปลี่ยนก็อดซิลลา และปรับปรุงตำนานของมันให้สอดคล้องกับธีมและภาพลักษณ์ที่คาดหวัง 
แรงบันดาลใจหลักคือเฮอริเคนแคทรีนา หรือเหตุก่อการร้าย 11 กันยาฯ, ตัวตนระดับก็อดซิลลา ต้องก่ออิทธิพลแก่โลกได้คล้ายคลึงกัน
-
-
ต้นสังกัดอนุญาต และเปลี่ยนเอานักเขียนบทอีกหลายคนมาสานงานต่อ แต่ก็ไร้ผลสำเร็จชัดเจน 
ผมจึงสมัครใจกลับมาช่วยปิดจ็อบ เพราะยังหนุ่มแน่นไฟแรงและอยากมีส่วนในงานใหญ่ชิ้นแรกๆ เท่าที่สามารถ
ในสายอาชีพนี้คุณถูกแทนที่ได้ทุกเมื่อแหละ และพอกลับมาก็มีแต่เรื่องสนุก 
กับประสบการณ์งามๆ ด้านโปรดักชั่น ทั้งระหว่างและหลังการถ่ายทำ
-
-
หนังปี 2014 ค่อนข้างจบในตัวไม่ได้ยั่วเรื่องภาคต่อไว้ 
แต่การมีอยู่ของอสูรยักษ์หลายตน เช่น ก็อดซิลลากับมูโตทั้งสอง ย่อมหมายถึงความเป็นไปได้ของจักรวาล
คุณมองเห็นภาพแฟรนไชส์อันกว้างขวางตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
-
โทมัส ทัล/หัวหอกของลีเจนดารี บอกกับผมว่าคิดจะเอาคิงคองมาอยู่จักรวาลเดียวกัน และเดินเรื่องปูทางสู่หนังก็อดซิลลาปะทะคอง ตอนผมพัฒนาบทร่างฉบับแรกๆ ของ Kong: Skull Island
ผมวางปากกาไปพักนึง, กลับเข้าไปทำงาน, อยู่ด้วยขณะถ่ายทำ แล้วไปๆ มาๆ หนังคองก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์
ผมได้เขียนบทองก์แรกของ Godzilla: King of the Monsters ด้วยระหว่างนั้น ก่อนไมค์ โดเฮอร์ตี้ซึ่งชอบทั้งเขียนบทและกำกับ จะรับงานไปจัดการตามที่เจ้าตัวเห็นสมควร
ผมจึงมีส่วนร่วมในหนังเรื่องนั้นน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ถึงแม้ไอเดียบางจุดยังคงเป็นเช่นเดิมก็ตาม
-
-
หนังเรื่องดังกล่าว กลายเป็นการรวมเพชรยอดมงกุฎของโตโฮ อย่างกิโดรา, โรแดน, มอธร่า ในเวอร์ชั่นใหม่
-
มันตลกดีที่ในบทร่างของผม ใช้แค่เจ้าเมกะก็อดซิลลา แล้วดันคิดว่านั่นยอดพอละสำหรับภาคสอง...
แต่ก็แจ่มแมวจริงๆ ที่เมกะก็อดซิลลา หาทางหวนคืนสู่แฟรนไชส์จนได้ เพราะอเล็กซ์ กาเซีย/ผู้อำนวยการสร้าง Godzilla vs. Kong ยอมเรียกผมมาช่วยอีก ทั้งที่เวลานั้นผมทำอย่างอื่นอยู่
-
-
ปกติก็อดซิลลาของโตโฮมีความเป็นเอกเทศสูง เต็มที่คือให้เนื้อเรื่องต่อเนื่องกัน 2-3 ภาค 
ก่อนรื้อเซ็ตติ้งทิ้ง แล้วพัฒนาตัวละคร, เนื้อหา, สัตว์ประหลาดขึ้นใหม่
คุณสร้างจักรวาลที่เรื่องราวต่อเนื่อง เนื้อหาเชื่อมโยงกันได้อย่างไร ? ไอเดียเรื่องโลกใต้พิภพ (Hollow Earth) ที่เป็นเครือข่ายโพรงขนาดใหญ่ใต้ผืนดิน แถมมีอารยธรรมโบราณซ่อนอยู่ มันผุดมาจากไหน ?
-
ทฤษฎีฮอลโลว์เอิร์ธเกิดจากการระดมสมอง ระหว่างวางคอนเซ็ปต์และผลิตหนังคอง
เราจะอธิบายเกี่ยวกับเกาะนี้ยังไง ? ทำไมต้องเดินเรื่องบนเกาะนี่ ? เพราะแถวนี้ไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์หรือเปล่า ?
แต่ถ้าเราให้มันเป็นแหล่งพำนักของพวกสัตว์ประหลาด แล้วพวกมันโผล่มาจากไหน จากบนอากาศหรือใต้น้ำเหรอ ?
-
ควรมาจากโลกแห่งอื่นไหม ? ให้เป็นทางผ่านสู่โลกต่างมิตีดีมั้ย ? แบบนี้น่าจะเข้าท่า
ทว่าคงน่าสนใจและดูเป็นไปได้มากกว่า หากมันก็แค่ทางผ่านลงไปยังห้วงลึกแสนลึกข้างใน ใจกลางดวงดาว
แล้วยิ่งถ้ามหาโพรงกลางพิภพ คือนิวาสสถานของพวกอสูรยักษ์ละ ? เกาะกะโหลกจึงเกิดสัมพันธ์กับฮอลโลว์เอิร์ธด้วยประการฉะนี้ 
-
-
บางทีอาจมีอสูรยักษ์ดาษดื่นกว่าปัจจุบันเมื่อบรรพกาล ก่อนมนุษยชาติขยายพันธุ์และยึดพื้นที่บนผิวดาวหมดสิ้น ด้วยพฤติกรรมที่เหมือนไวรัส
พื้นหลังของเรื่องราวก็ประมาณนี้ ก่อนที่สมดุลจะโดนทำลายและพวกมันเริ่มกลับขึ้นมา
เผ่าพันธ์ุมนุษย์ เหมือนหลุดจากการจองจำและได้เปิดโลกใบใหม่เพราะพวกอสูร
-
ฮอลโลว์เอิร์ธคือพรมแดนกว้างใหญ่ที่รอการสำรวจ พวกเราตื่นเต้นมากที่สามารถโชว์ให้ผู้ชมเห็นได้สักที
วิธีพาเราไปเยือนคืออะไรที่ผมชอบที่สุด, มันเปี่ยมด้วยแรงขับเคลื่อนของเรื่องราว, มันคือจุดหมายที่พวกเราต้องการไปเยือน
เส้นเรื่องของคอง ผู้เป็นตัวสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ กับการออกตามหาบ้าน, ครอบครัว และความเชื่อมโยงกับบรรพบุรุษ คือที่สุดแห่งความสะเทือนอารมณ์
-
-
ภาพลักษณ์สัตว์ประหลาดยักษ์ 2 ตัวของคุณ คือไม่เชี่ยวด้านสื่อสารหรือแสดงอารมณ์เท่าไหร่ (ถึงแม้คองใช้ภาษามือได้แล้ว)
ซึ่งจะว่าไป GvK ก็ไม่ค่อยลงลึกในประวัติของฝั่งตัวละครมนุษย์
ทำไมคุณให้สัตว์ประหลาดเป็นตัวเอก เพื่อประสานเรื่องราวของหนัง 4 เรื่อง แทนเหล่ามนุษย์ ทั้งที่พวกมันสื่อสารไม่เก่ง ?
-
ผมเรียนรู้ระหว่างพัฒนาโครงการเหล่านี้ว่า... ก็อดซิลลากับคองต่างหาก คือดารานำของภาพยนตร์
การแนะนำตัวละครมนุษย์หน้าใหม่ตลอดน่ะแจ๋ว แต่ควรทำแบบผิวเผินนี่แหละ เพราะพวกเขาเป็นแค่ฝ่ายสนับสนุน
-
ตัวละครของจอห์น ซี. ไรลีย์ (ทหารรุ่นสงครามโลกใน Kong: Skull Island) กับเจียของ GvK คือตัวอย่างที่ดี พวกเขาเร้าอารมณ์เรา, เพิ่มมิติเรื่องราว, มีเป้าหมายของตัวเอง แต่ไม่เคยคิดแย่งตำแหน่งดารานำ...
ตัวละครจอห์นแค่อยากออกจากเกาะ, เจียต้องการครอบครัวและสายสัมพันธ์ เธอรักคองและต้องการให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
ดราม่าดี เรียบง่าย และเข้าถึงได้, ส่วนตัวละครฝ่ายมนุษย์คนอื่นๆ ค่อนข้างท้าทายกว่า
 
แฮงค์ มาร์โลว์/ตัวละครของจอห์น ซี. ไรลีย์
-
-
งั้นที่จริงคุณคิดว่าดาวเด่นแบบก็อดซิลลากับคอง ควรแสดงออกด้านความรู้สึกได้ถึงขั้นไหน ? 
ก็อดซิลลาญี่ปุ่นเคยมาหมดแล้ว ทั้งเป็นตัวแทนพลังธรรมชาติ, รับบทคุณพ่อ และก็จับมือกับ *เจ็ต จากัวร์
-
ก็อดซิลลาควรเป็นพลังธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์ยากจะคาดเดาพฤติกรรม และมิอาจทำความเข้าใจให้กระจ่างต่อไป
เนื่องจากเขาห่างไกลความเป็นมนุษย์ ทั้งในด้านรูปร่างและสายพันธุ์ เขาเหมือนคนแปลกหน้าผู้ลึกลับ
เหมือนสิงห์ปืนไวในหนังคาวบอย ที่คุณมักอ่านความคิดไม่ออก, อยู่ฝ่ายดีบ่อย แต่ใช่ว่ามีเมตตา
เขาไม่ได้มีจิตมุ่งร้าย แต่ทำให้ผู้คนรับเคราะห์เพราะลูกหลงประจำ และอย่าหวังนะว่าเขาจะตามซับน้ำตาผู้ดวงตก
-
ด้านคองคล้ายมนุษย์กว่าจม และเป็นแบบนั้นเสมอมา
คองมีปฏิสัมพันธ์กับคน ตั้งแต่หนังเรื่องแรกของตัวเองเมื่อครั้งกระโน้น
คองเคยโดนเอารัดเอาเปรียบ, ทำคุณบูชาโทษ และรู้จักตกหลุมรัก มันอยู่ในดีเอ็นเอของตัวละคร
-
ถ้าเราเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี่ของทั้งสองตัวละคร จะทราบว่าผู้สร้างควรระวังการเผลอข้ามเส้นแบ่ง แสดงอารมณ์ก็อดซิลลาแก่คนดูมากไป
ในขณะที่กับคอง คุณสามารถลองทำอะไรต่างๆ ได้มากกว่า
ใช่ว่าคือกฎตายตัว, เรื่องทำนองนี้เป็นข้อควรปฏิบัติหรือหลีกเลี่ยง บางทีอาจหาทางเบี่ยงกฎได้นิดหน่อย
อย่างเช่นตอนก็อดซิลลามองคองด้วยสายตา ที่แอบแฝงความนัยว่าเคารพอีกฝ่าย มันมีความหมายยิ่งและคือสิ่งที่นำเสนอยาก
-
-
ท่าทางคุณไม่ได้รับสิทธิ์ขาด ในการควบคุมก็อดซิลลา--โตโฮเข้ามาพัวพัน และปกป้องตัวละครด้วยอยู่
การทำงานร่วมกับพวกเขามันเป็นยังไงกันแน่ ?
-
ผมมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาในระดับหนึ่ง แต่ปกติเรื่องพวกนี้ผู้อำนวยการผลิต, สตูดิโอ หรือทีมเจรจา เค้าดูแลให้
บริษัทโตโฮมีประวัติ, ตำนาน และหนทางปฏิบัติของตน  พวกเขามีเอกสารชี้แจงว่า คุณควรทำอะไรกับก็อดซิลลาบ้าง
ช่างน่าเศร้าที่พวกเขาเคยละเมิดกฎ ที่บอกเราว่าควรทำอะไรกับก็อดซิลลา มาหมดแล้วทุกข้อ
แต่นั่นก็หมายความว่า พวกเขาเคยลองทุกอย่าง จนทราบกระจ่างว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร
 
* เจ็ต จากัวร์ คือหุ่นยนต์ฝ่ายธรรมะ ที่กำเนิดจากการส่งประกวดภาพวาดของผู้ชมทางบ้าน
-
-
พวกเขาปกป้องตัวละครเต็มพิกัด เพราะตระหนักว่ามันคือขุมทรัพย์หลักของบริษัท ตลอดเวลาหลายทศวรรษ
ไม่ใช่หนังแบบเจ็ดเซียนซามูไร (Seven Samurai) หรือราโชมอน (Rashomon) ที่คอยป้อนเงินแก่สตูดิโอ
การที่พวกนั้นตามสอดส่องดูแล จึงเป็นสิ่งที่ไม่ยากแก่การเข้าใจ และถือเป็นเกียรติที่ได้ทำงานด้วยกัน 
อีกทั้งโตโฮเปล่าห้ามทุกอย่าง เพราะก็อดซิลลายังคงเปิดกว้างสำหรับการตีความใหม่ ๆ
-
-
บนเอกสารระบุอะไร ? กำหนดกฎใดไว้บ้าง ?
-
เอาเป็นว่าทุกอย่างมีเหตุผล กฎบางข้อคือการคุ้มครองก็อดซิลลา
คุณฆ่าก็อดซิลลาตายไม่ได้ และทำมันบาดเจ็บไม่ได้ด้วยบางวิธีการ
ที่เหลือก็ระบุแนวทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้นว่าลักษณะกายภาพ ที่ต้องมีนิ้วเท้าหรือครีบหลังเยอะหน่อย อะไรทำนองนั้น
-
-
ที่มาObserver
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่