ก ของวัดธรรมกาย
วันที่ 12 มีนาคม 2560 มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Thai News Online ได้แชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กรายหนึ่ง
ซึ่งน่าจะเป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย โดยเป็นเรื่องราวการดาวน์บุญ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของวัดพระธรรมกาย
ที่ได้เชิญชวนให้ญาติโยมร่วมบุญชิตังเมเช่า ที่อ้างว่าเป็น "พระบูชา รุ่นประทานธรรม" องค์ละ 109,500 บาท
ถ้าเงินไม่พอก็สามารถดาวน์บุญได้ด้วยในราคา 15,000 บาท
และผ่อนจ่ายเดือนละ 4,000 บาท นั่นเอง
https://hilight.kapook.com/view/150326
------------------------------------------------------
ข้อความเตือน
ข้อความข้างบนเกี่ยวกับวัดธรรมกายนี้มีสาวกธรรมกายบอกว่ามาจากเพจปลอม คือ ไม่ใช่เพจของทางวัดจริง ผู้โพสต์
กระทู้จึงหมายเหตุไว้ จึงขอให้ใช้วิจารณาญานในการอ่านว่าจริงหรือไม่ โปรดดู คห 1
แต่ผู้โพสต์เชื่อว่าสาระของเพจคือการทำบุญโดยวิธีกู้เงินมาผ่อนส่งเกิดขึ้นภายในวัดแห่งนี้จริง
ข. ของวัดบ้านๆแห่งหนึ่ง
วัดผม ตอนผมบวช อาจารน์ ท่านสอนว่า เราเป็นผู้ออกจากเรือนแล้ว(ฉนั้นอะไรที่ฆาราวาสทำได้ แต่ภิกษุทำไม่ได้
จงอย่าทำ) พระที่วัด ก็อยู่กินกันง่ายๆ กลางวันนอน บ่ายๆลุกมาอาบ้ำ จากนั้นถึง กลางคืนเดินจงกรมทำกรรมฐาน
ไปทั้งคืน เช้าออกบิณฯ สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ในวัดมีแค่ โบสถ์ กับ ศาลาเมรุ มีศาลาไม้เก่าๆหลังใหญ่ไว้เวลาทำ
บุญแค่นี้เอง
และไม่ใช่วัดไม่มีเงิน แต่หลวงพ่อท่านไม่สร้างเอง เพราะไม่จำเป็น กุฎิก็เหมือนเล้าไก่ พื้นไม้กระดาน
กว้าง 1.5 ม ยาว 3 ม. ผนังเป็นมุ้งไนล่อนสีฟ้า หลังคาสังกะสี นอนได้องค์เดียว บวชแรกๆนอนในป่าช้ากลัวผีชมัด
พระสวนใหญ่อยู่ในป่าช้า และท่านอาศัยพักผ่อนและเดินจงกรมทำกรรมฐานกันบนศาลาเมรุ ปูเสื่อนอนกันง่ายๆใน
เมรุนั้นแหละ เพราะหลังใหญ่หน่อย บางที่พระท่านก็ปลูกโรงอยู่กัน พื้นเป็นดิน เป็นโรงโล่งๆ หลังคาสังกะสี หรือมุง
จาก ผนังเป็นมุ้งไนล่อนทุกด้าน แต่ละองค์ มีแคร่ทำด้วยไม้ กว้างยาวพอนอนได้พอดี เรียงเป็นตับ 2 แถวนอนหันเท้า
หากัน ทรัพย์สมบัติอย่างอื่นไม่มี บิณฑบาตร มา ก็ทานร่วมกัน เช้า กับเพล ที่เหลือขุนหมา พรุงนี้ว่ากันใหม่ ก็เห็นท่าน
อยู่ดีมีสุขกัน ผมเห็นแรกน้ำตาจะไหล เพราะท่านมีอะไรเลยเงินทองสัก 20 บาทยังไม่มีมีแต่ผ้า 3 ผิน หมอนแปรงสีฟัน
มีดโกนอะไรพวกนี้แค่นั้นเอง
เจ้าอาวาศ ล้างห้องน้ำเองไม่ต้องมีใครมาพะเน้าพะนอ หลวงพ่อไม่เคยจัดงาน
ท่านบอกไม่ต้องการเบียดเบียนญาติโยม
เขาอยากทำบุญเดียวเขาก็มาเอง รถวัดก็มีแต่รถมือสองเก่าๆที่โยมใช้แล้วนำมาถวาย แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อ นี้ระดับเจ้าคุณก็มี
แต่ท่านเป็นแค่พระครู ที่วัดพรรษานึงๆก็มีพระจำพรรษา ร้อยกว่ารูปทุกปี เป็นพระบวชที่อื่นเป็นส่วนใหญ่ ท่านมาเรียนกรรมฐาน
กับหลวงพ่อ ท่านไม่ทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามเลย ขนาดโยมทำข้าวหมากมาถวายผมถามท่านว่า หลวงพ่อฉันไหม ท่านว่า เฮ้ยไอ้หนู
ไปกินทำไมกับของมึนเมา และทั้งที่มีหนังสือต่างๆมากมาย มาขอลงเรื่องของท่าน ท่านก็ไม่เอาไม่ยอม ทั้งที่จากที่ผมเคยประสบ
ท่านมีฤิทธิเดช ที่ไม่น่าเชื่อมากมาย กุฎิท่านก็เล็กนิดเดียว
เงินวัดก็อยู่อย่างนั้นในบัญชี กฐิน ได้ปีละ 4-5 แสน เก็บเข้าบัญชีวัดหมด
ไม่นำมาใช้ ยกเว้นจำเป็นอย่างเช่นซื้อที่วัดเพิ่มก็ยืมเงินมาใช้ก่อน แล้วพอมีญาติโยมมาถวายหรือมาขอร่วมซื้อที่ถวายวัด พอได้เงิน
ครบก็คืนเข้าบัญชีวัด
แล้วไม่รับเงินญาติโยมที่มาขอร่วมซื้อที่อีกแล้ว
https://ppantip.com/topic/36180701
การเงินของสองวัด
วันที่ 12 มีนาคม 2560 มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Thai News Online ได้แชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กรายหนึ่ง
ซึ่งน่าจะเป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย โดยเป็นเรื่องราวการดาวน์บุญ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของวัดพระธรรมกาย
ที่ได้เชิญชวนให้ญาติโยมร่วมบุญชิตังเมเช่า ที่อ้างว่าเป็น "พระบูชา รุ่นประทานธรรม" องค์ละ 109,500 บาท
ถ้าเงินไม่พอก็สามารถดาวน์บุญได้ด้วยในราคา 15,000 บาท และผ่อนจ่ายเดือนละ 4,000 บาท นั่นเอง
https://hilight.kapook.com/view/150326
------------------------------------------------------
ข้อความเตือน
ข้อความข้างบนเกี่ยวกับวัดธรรมกายนี้มีสาวกธรรมกายบอกว่ามาจากเพจปลอม คือ ไม่ใช่เพจของทางวัดจริง ผู้โพสต์
กระทู้จึงหมายเหตุไว้ จึงขอให้ใช้วิจารณาญานในการอ่านว่าจริงหรือไม่ โปรดดู คห 1
แต่ผู้โพสต์เชื่อว่าสาระของเพจคือการทำบุญโดยวิธีกู้เงินมาผ่อนส่งเกิดขึ้นภายในวัดแห่งนี้จริง
ข. ของวัดบ้านๆแห่งหนึ่ง
วัดผม ตอนผมบวช อาจารน์ ท่านสอนว่า เราเป็นผู้ออกจากเรือนแล้ว(ฉนั้นอะไรที่ฆาราวาสทำได้ แต่ภิกษุทำไม่ได้
จงอย่าทำ) พระที่วัด ก็อยู่กินกันง่ายๆ กลางวันนอน บ่ายๆลุกมาอาบ้ำ จากนั้นถึง กลางคืนเดินจงกรมทำกรรมฐาน
ไปทั้งคืน เช้าออกบิณฯ สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ในวัดมีแค่ โบสถ์ กับ ศาลาเมรุ มีศาลาไม้เก่าๆหลังใหญ่ไว้เวลาทำ
บุญแค่นี้เอง และไม่ใช่วัดไม่มีเงิน แต่หลวงพ่อท่านไม่สร้างเอง เพราะไม่จำเป็น กุฎิก็เหมือนเล้าไก่ พื้นไม้กระดาน
กว้าง 1.5 ม ยาว 3 ม. ผนังเป็นมุ้งไนล่อนสีฟ้า หลังคาสังกะสี นอนได้องค์เดียว บวชแรกๆนอนในป่าช้ากลัวผีชมัด
พระสวนใหญ่อยู่ในป่าช้า และท่านอาศัยพักผ่อนและเดินจงกรมทำกรรมฐานกันบนศาลาเมรุ ปูเสื่อนอนกันง่ายๆใน
เมรุนั้นแหละ เพราะหลังใหญ่หน่อย บางที่พระท่านก็ปลูกโรงอยู่กัน พื้นเป็นดิน เป็นโรงโล่งๆ หลังคาสังกะสี หรือมุง
จาก ผนังเป็นมุ้งไนล่อนทุกด้าน แต่ละองค์ มีแคร่ทำด้วยไม้ กว้างยาวพอนอนได้พอดี เรียงเป็นตับ 2 แถวนอนหันเท้า
หากัน ทรัพย์สมบัติอย่างอื่นไม่มี บิณฑบาตร มา ก็ทานร่วมกัน เช้า กับเพล ที่เหลือขุนหมา พรุงนี้ว่ากันใหม่ ก็เห็นท่าน
อยู่ดีมีสุขกัน ผมเห็นแรกน้ำตาจะไหล เพราะท่านมีอะไรเลยเงินทองสัก 20 บาทยังไม่มีมีแต่ผ้า 3 ผิน หมอนแปรงสีฟัน
มีดโกนอะไรพวกนี้แค่นั้นเอง
เจ้าอาวาศ ล้างห้องน้ำเองไม่ต้องมีใครมาพะเน้าพะนอ หลวงพ่อไม่เคยจัดงาน ท่านบอกไม่ต้องการเบียดเบียนญาติโยม
เขาอยากทำบุญเดียวเขาก็มาเอง รถวัดก็มีแต่รถมือสองเก่าๆที่โยมใช้แล้วนำมาถวาย แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อ นี้ระดับเจ้าคุณก็มี
แต่ท่านเป็นแค่พระครู ที่วัดพรรษานึงๆก็มีพระจำพรรษา ร้อยกว่ารูปทุกปี เป็นพระบวชที่อื่นเป็นส่วนใหญ่ ท่านมาเรียนกรรมฐาน
กับหลวงพ่อ ท่านไม่ทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามเลย ขนาดโยมทำข้าวหมากมาถวายผมถามท่านว่า หลวงพ่อฉันไหม ท่านว่า เฮ้ยไอ้หนู
ไปกินทำไมกับของมึนเมา และทั้งที่มีหนังสือต่างๆมากมาย มาขอลงเรื่องของท่าน ท่านก็ไม่เอาไม่ยอม ทั้งที่จากที่ผมเคยประสบ
ท่านมีฤิทธิเดช ที่ไม่น่าเชื่อมากมาย กุฎิท่านก็เล็กนิดเดียว เงินวัดก็อยู่อย่างนั้นในบัญชี กฐิน ได้ปีละ 4-5 แสน เก็บเข้าบัญชีวัดหมด
ไม่นำมาใช้ ยกเว้นจำเป็นอย่างเช่นซื้อที่วัดเพิ่มก็ยืมเงินมาใช้ก่อน แล้วพอมีญาติโยมมาถวายหรือมาขอร่วมซื้อที่ถวายวัด พอได้เงิน
ครบก็คืนเข้าบัญชีวัด แล้วไม่รับเงินญาติโยมที่มาขอร่วมซื้อที่อีกแล้ว
https://ppantip.com/topic/36180701