เตือน!! หลังจาก Verify by Visa เสร็จแล้วบัตรเดบิตในมืออาจจะไม่ใช่ของคุณ

เจ้าของกระทู้เป็นคนนึงที่ชอบจ่ายบิลผ่านบัตรเดบิต ในแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟฟ้า และซื้อของออนไลน์
ที่ใช้บัตรเดบิตก็เพราะว่าเราจะคุมการใช้จ่ายได้ง่าย ไม่นิสัยเสียเหมือนเวลาใช้บัตรเครดิต ไม่มีเงิน ก็ไม่ต้องช็อปปิ้งอะไรทำนองนั้น
แต่ดันไปลืมบัตรเดบิตคู่ใจไว้ที่ตู้ ATM ก็เลยโทรไปที่ Call Center อายัติบัตรไป ก็ไปทำบัตรใหม่ ถามที่เคาน์เตอร์ธนาคารด้วยความไม่รู้

เรา : "ทำบัตรใหม่ ต้อง Verify by Visa ใหม่หรือเปล่าคะ" [คือไม่เคยทำบัตรหายมาก่อน เลยไม่รู้ - -" ]
เคาน์เตอร์ : "ต้อง Verify ใหม่ครับ ลูกค้าสามารถทำได้ที่ตู้ ATM เลยครับ หรือจะ Verify ผ่านเว็บไซต์ก็ได้"

เราก็โอเคเข้าใจ แต่ตู้ ATM คนมันเยอะไง ไม่อยากต่อคิว อีกอย่างยังไม่ได้มีธุระจะต้องใช้ ก็เลยยังไม่ได้ Verify
เวลาก็ผ่านล่วงเลย จนมาวันนี้ที่จะต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ ก็เข้าแอพของมือถือค่ายนึง พอถึงหน้าชำระเงิน ก็แจ้งให้ไป Verify by Visa
ก็จัดการกรอกเลขบัตร วันหมดอายุ บัตรประชาชน วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ผ่านเว็บไซต์ในคอมพิวเตอร์จนเสร็จเรียบร้อย

แล้วก็ได้ SMS ที่ 1 "ท่านสมัครบริการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตสำหรับบัตร X-XXXX เสร็จสมบูรณ์"
SMS ที่ 2 "ท่านจะได้รับ SMS แจ้งทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร X-XXXX ที่ 092XXXXXXX"
อีก 5 นาทีต่อมาได้รับ SMS ที่ 3 "ท่านจะได้รับ SMS แจ้งทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร X-XXXX ที่ 092XXXXXXX"
เอะใจ..แต่คิดแค่ว่าระบบคงส่งซ้ำมั้ง...

เข้าแอพค่ายมือถือ จัดการจ่ายเงินซะให้เรียบร้อย ก็มีหน้า Request OTP ก็กด Request ไปตามปกติ
แต่ก็ดันไม่ได้ดูว่า OTP นั้นไปที่เบอร์อะไร รอจนเวลาผ่านไปจนธุรกรรมหน้านั้นหมดอายุ ก็ยังไม่ได้ SMS
ก็เลยยกเลิก แล้วกลับมากรอกใหม่ พอถึงหน้า Request OTP อ้าว...เฮ้ยยยยย!!! 096 XXX XXXX นี่มันไม่ใช่เบอร์เรานี่หว่า!!!
รีบกดยกเลิก แล้วโทรไป Call Center เลยจ้า...

เรา : "พอดีจะจ่ายเงินค่าโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่น แต่หมายเลข OTP ไปเข้าเบอร์อื่นอะค่ะ ไม่เข้าเบอร์ที่ลงทะเบียนไว้"
CC : "ขอทราบเลขบัญชีที่ผูกกับบัตรค่ะ" [เราก็แจ้งรายละเอียดทั้งหมดไป]
เรา : "คือ เบอร์ที่ส่งรหัส OTP ที่เห็นในแอพเป็นเบอร์ 096 XXX XXXX อะค่ะ"
CC : "อ้าวลูกค้ารู้ได้ยังไงคะ ว่ารหัสส่งไปที่เบอร์นั้น"
เรา : "ก็ในแอพมันโชว์ 3 ตัวแรก และ 2 ตัวหลังอะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าตรงกลางคืออะไร แล้วไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใครด้วยค่ะ"
CC : "ตรวจสอบแล้วรหัสไม่ได้ถูกส่งไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ลูกค้าสมัคร K-mAlert ไว้นะคะ
เรา : "จะเป็นอย่างงั้นได้ยังไงคะ ในเมื่อบัตรก็เพิ่งทำใหม่เมื่อต้นเดือน แล้วก็เพิ่งจะ Verify by Visa ก่อนจะโทรหา CC ไม่กี่นาที"
CC : "ลูกค้ากรอกเบอร์โทรศัพท์ผิดหรือเปล่าคะ"
เรา : "คุณลองดูที่คีย์บอร์ดนะคะ เลข 2 กับ เลข 6 อยู่ใกล้กันหรือเปล่าคะ แล้วเลขลงท้ายก็ไม่ใช้ จะบอกว่ากรอกผิดมันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ"
[เราเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องตัวเลขมาก เวลาจะกรอกเบอร์โทร หรือหมายเลขบัตรจะทวนซ้ำหลายรอบ กว่าจะกดตกลง]
CC : "ถ้าอย่างนั้นลูกค้าเข้าไปที่เว็บไซต์เหมือนเดิมนะคะ แล้วไปตรง "แจ้งแก้ไขข้อมูลเนื่องจากโทรศัพท์หาย" แต่ระบบจะให้ลูกค้ากรอกเบอร์เดิมที่ลงทะเบียนค่ะ
เรา : "ก็ไม่ทราบว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์อะไร แล้วจะให้กรอกยังไงคะ"
CC : "ขออนุญาตพักสายสักครู่นะคะ"

= ผ่านไปประมาณ 1 นาที =
CC : "ต้องขออภัยที่แจ้งข้อมูลผิดนะคะ ระบบจะไม่ขอเบอร์เดิมค่ะ ลูกค้าสามารถแก้ไขข้อมูลได้เลย หรือว่าจะทำรายกายพร้อม CC เลยก็ได้นะคะ"
เรา : "โอเคค่ะ ทำพร้อมกันเลยค่ะ แต่ระบบแจ้งให้ใส่เบอร์เดิมนะคะ คุณจะให้ใส่เบอร์อะไรคะ"
CC : "ลูกค้ารอสักครู่นะคะ ขอไปปรึกษาหัวหน้าก่อน"

= ผ่านไปประมาณ 5 นาที =
CC : "ทาง CC ไม่สามารถให้เบอร์กับทางลูกค้าได้ค่ะ ลูกค้ามีเบอร์โทรศัพท์กี่เบอร์คะ"
เรา : "มีเบอร์เดียวค่ะ"
CC : "ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตตรวจสอบก่อนนะคะว่าเป็นเบอร์ของใคร"

= ผ่านไปอีกเกือบ 5 นาที =
CC : "บัตรนี้ถูกผูกกับ เบอร์โทรของคุณ S [นามสมมติ] แล้วก็ใช้งาน Mobile Banking ลูกค้ารู้จักมั้ยคะ"
เรา : "ไม่รู้จักค่ะ"
CC : "มีทางเดียวคือลูกค้าต้องไปทำการยกเลิก และสมัครใหม่ที่ตู้ ATM ค่ะ ซึ่ง Call Center ไม่สามารถทำให้ได้"
เรา : "ไม่สะดวกไปที่ตู้ ATM อะค่ะ มันไกลมาก จะมีวิธีไหนที่สามารถทำออนไลน์ได้บ้างคะ"
CC : "ลูกค้ารอสักครู่นะคะ ขอไปปรึกษาหัวหน้าก่อน"

= ผ่านไปประมาณ 5 นาที = [ตลอดการสนทนาขอพักสายจนหงุดหงิด]
CC : "ทางเราไม่สามารถให้เบอร์โทรกับลูกค้าได้จริง ๆ ค่ะ มีทางเดียวคือลูกค้าต้องไปยกเลิกที่ตู้ ATM แล้วสมัครใหม่"
เรา : "จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นความผิดของทางเรานะคะ ขอสอบถามค่ะ บัตรนี้เพิ่งเปิดใช้ยังไม่ถึงเดือน แล้ว Verify by Visa ไปไม่ถึงชั่วโมง
แต่บัตรถูกนำไปผูกกับเบอร์โทรใครก็ไม่รู้ หรือว่าทางธนาคารนำเลขบัตรเดบิตที่ยกเลิกไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ อย่างงี้ลูกค้าก็ไม่ปลอดภัยเลยสิคะ"
CC : "ตรวจสอบแล้วทางเจ้าของเบอร์จะได้แค่รหัส OTP จะไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้ค่ะ"
เรา : "แล้วถ้าเกิดว่าเป็นมิจฉาชีพ แล้วมีเลขหน้าบัตร เค้าก็สามารถนำไปใช้หรอคะ ?"
CC : /// มีความเงียบ เหมือนสิ่งที่เราพูดไปเป็นอากาศ...
เรา : "ถ้าต้องไปทำที่ตู้ ATM จะต้องไปที่เมนูไหนคะ"
CC : /// ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
ขอขอบคุณ Call Center ที่พยายามช่วยเหลือ และหาวิธีแก้ไข ถึงแม้จะไม่ใช่วิธีที่ต้องการ แต่คุณก็พยายามจนถึงที่สุด ขอขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

= จบเคสไปโดยต้องขับรถไปหาตู้ ATM ที่อยู่ไกลมาก และทำการยกเลิกบริการ =

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเคสบัตรเครดิตของกสิกรเช่นกันเป็นของแฟน
เหตุเกิดที่ร้านอาหาร โดยแฟนได้จ่ายค่าอาหารด้วยบัตรเครดิต แล้วพนักงานร้านอาหารทำบัตรหาย...
ก็เลยโทรไปที่ CC แจ้งอายัติบัตร
CC : "ลูกค้าจะอายัติบัตรทั้ง 3 ใบ เลยหรือเปล่าคะ"
แฟน : "ผมเปิดใช้งานบัตรแค่ใบเดียวนะครับ"
CC : "ในระบบแจ้งว่ามี 3 ใบค่ะ"
แฟน : "ธนาคารส่งบัตรมาให้ผมทั้งหมด 3 ใบจริง แต่ผมไม่เคยเปิดใช้ แล้วบัตรเปิดวันที่เท่าไหร่ แล้วใครเป็นคนเปิด เปิดได้ยังไง ในเมื่อผมใช้อยู่คนเดียว เบอร์โทรศัพท์ก็เป็นเบอร์ผม ข้อมูลก็เป็นของผม ในเมื่อผมไม่ได้เปิด แล้วใครเป็นคนเปิด"
CC : // เงียบ.........ไม่มีคำตอบ
แฟน : "อายัติทั้ง 3 ใบ"
=== พร้อมทั้งยกเลิกการใช้งานบัตรเครดิตทั้งหมด ===

คำถาม 1 : บัตรเครดิตไม่ได้เปิดใช้งาน ไม่ได้แกะออกจากซองด้วยซ้ำ ทำไมในระบบถึงแจ้งว่าเปิด แล้วใครเป็นคนเปิด ในเมื่อเจ้าของบัตรไม่ได้เปิด ?
คำถาม 2 : ถ้าบัตรไปอยู่ในมือมิจฉาชีพ อะไรจะเกิดขึ้น?

ปล. 1 กระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาจะดิสเครดิตธนาคารแต่อย่างใด แต่อยากให้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับคนที่ชอบทำธุรกรรมออนไลน์ สิ่งที่เราระมัดระวังแล้วอาจจะมีช่องโหว่ที่ไม่ปลอดภัยก็เป็นได้
ปล. 2 เป็นอีก 1 เคสที่ธนาคารควรนำไปปรับปรุง และพัฒนาระบบให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ปล. 3 ธนาคารควรยอมรับในปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช้โทษว่าลูกค้าผิดฝ่ายเดียว
ปล. 4 ขอขอบคุณ Call Center ที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่