เวลาแค่ 3 คืน 4 วัน อะไรทำให้เราเผลอใจไปหลงรักเมืองหลวงพระบางได้ง่ายดายขนาดนี้ เมืองที่ผู้คนจิตใจดี เมืองที่อาหารอร่อย เมืองที่ยังปรุงแต่งด้วยธรรมชาติ เมืองที่สี่แยกเยอะมากมายแต่ไม่มีไฟแดง เมืองที่จะไปเที่ยว ไปนอน ไปวิ่ง ไปปั่นจักรยาน ไปเดินป่า ไปวัดไปวา กิจกรรมมีให้ทำเยอะมาก....
เป็น trip ที่ไม่คาดหวังได้โปรตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียมา คิดแค่ว่าไปดูเมืองมรดกโลก เป็นทัวร์วัฒนธรรมท่องเที่ยวไปตามวัดวาอาราม เอาเข้าจริง ๆ หลวงพระบางมีดีกว่านั้นมาก..... ทั้งที่เที่ยวธรรมชาติ ทั้งวัด ทั้งของกิน ทั้งตลาด ทั้งฝรั่งหล่องานดีงานปราณีตมีครบทุกเพศทุกวัย (ถ้าใครจะไปแนะนำไปช่วงเดือน 1,2) จริงเจองานดี ๆ ตั้งแต่บนเครื่องบินแล้ว ไม่คิดว่าไปถึงโน้นแล้วจะเยอะคือลืมวัดลืมแผนท่องเที่ยวไปหมดเลย มัวแต่เดินดูฝรั่งเพลินมาก night market คือเดินทุกคืนไม่เบื่อ พอ ๆ กับส้มตำหลวงพระบางกินได้ทุกวันอร่อยล้ำมากอร่อยเหมือนกันทุกร้าน!!(เค่าบอกว่าที่นั่นกินผงชูรส รสจัด)
สรุปแล้วเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในตัวเองมาก ๆ ทุกอย่างรวมกันแล้วลงตัวน่าอยู่ ใครยังไม่เคยไปลองไปเที่ยวดูค่ะนั่งเครื่องบินแป๊บเดียวแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาที ใครยังไม่เคยมาเที่ยวที่นี่อยากให้ลองมาดูคะ
ไปถึงสนามบินนานาชาติหลวงพระบางบ่าย 4 โมงเย็น เวลาที่ไทยกับที่ลาวใช้เวลาเดียวกันไม่ต้องปรับเวลา แลกเงินกีบที่สนามบินได้เลยค่ะเราไปกันสี่คนแลกเงินรวมกันคนล่ะ 2000 บาท ได้มาหลักล้านกีบค่ะไม่ได้นับ นับไม่ไหวเยอะเหลือเกิน ชีวิตได้สัมผัสเงินล้านก็วันนี้แหละคะ
หน้าตาเงินกีบคะ จ่ายค่าข้าวแต่ละมื้อนี่หลักแสนตลอด แเลกเงินเสร็จ เหมาแท๊กซี่จากสนามบินเข้าเมืองเราจำราคาเงินกีบไม่ได้ แต่เงินไทยประมาณคนล่ะ 100 บาทค่ะ (คนขับรถสุภาพ ไม่ตื้อ ไม่แย่งลูกค้ากัน)
พักโรงแรมสายน้ำคานสาขา 2 จะอยู่ในซอย แต่ห้องก็สะอาดดีค่ะ ค่าห้องไม่รวมอาหารเช้าคืนล่ะ 1,200 บาท ใกล้ที่เที่ยวจริง ๆ เมืองหลวงพระบางไม่ได้กว้างมาก สามารถเดินเที่ยวได้ทั่ว พนักงานน่ารักมากวาดแผนที่เที่ยวจุดที่สำคัญ ๆ ในเมืองหลวงพระบางให้อย่างละเอียด เนื่องจากทริปนี้ไม่ได้ซื้อซิมมือถือ กะไปใช้ชีวิตแบบไม่ติดต่อกับใครทั้งนั้นจะเที่ยวอย่างเดียว
หลังจาก Check in ที่พักเรียบร้อย แพลนคร่าว ๆ คือหาอะไรกินก่อนเนื่องเริ่มหิว แล้วค่อยเดินขึ้นพระธาตุพูสี ต่อด้วยถนนคนเดิน ปิดท้ายด้วยอาหารเย็นส้มตำไก่ยาง ปลาเผา ทริปนี้กินตัวแตกมาก ......
เดินมาจนเจอแม่น้ำคาน ริมแม่น้ำมีร้านขายลูกชิ้น(คนที่นี่กินลูกชิ้นกับผงพริกในนั้นมีผงชูรสอยู่ค่อนข้างมาก)
แวะไปอุดหนุนได้นะคะอยู่ริมแม่น้ำคาน มีอยู่ร้านเดียว
ลองพริก กับ มะเขือม่วงย่าง อร่อยดีคะส่วนลูกชิ้นก็รสชาติ ok คะ หรือว่าหิวกันก็ไม่รู้
วิวจากร้านที่นั่งกินลูกชิ้น จริง ๆ มีสะพานข้าวไปอีกฝั่งด้วยค่ะ แต่พวกเราไม่ได้ข้าวไปกินลูกชิ้นเสร็จก็ขึ้นไปเที่ยวบนพระธาตุพูสีกันเลย กลัวจะไม่ทันไปดูพระอาทิตย์ตกดินคะ
ค่าเข้าชมพระธาตุพูสีคนละ 20,000 กีบนะคะ วิวด้านบนสวยคะ ตอนแรกคิดว่าไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินแน่ ๆ คิดว่าเดินออกกำลังกายเล่นเหนื่อยอยู่เหมือนกัน ไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกก็เจอกับภาพนี้ค่ะ ภาพที่วาดส่งครูวิชาศิลปะตอนเรียนปฐม นากมาก ๆ แล้วที่ไม่ได้ไปยืนดูพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ คุ้มค่าคุ้มราคามาก
ทางลงจากพระธาตุจะลงอีกด้านหนึ่งซึ่งมาเจอกับถนนคนเดิน เจอกับวิวหอพระบาง และก็ด้านล่างเป็นถนนคนเดินของขายเยอะเลยทีเดียว เราได้พวกเสื้อยืด พวกสาโทจากตลาดนี้ บางอย่างก็แอบแพง กาแฟลาวในตลาดนี้แพงถ้าใครจะซื้อให้ไปหาซื้อตามร้านขายของชำแทน
แลกเงินไหมคับ
เบเกอร์รี่อร่อยค่ะ
ปิดท้ายด้วยส้มตำ ส้มตำที่นี่รสชาติอร่อยมาก.......
สรุป
Day 1 : learn Luangprabang for 4 days
1. นั่งเครื่องมาแป๊บเดียวเองเตรียมหมอนรองคอมาเพื่อหลับบนเครื่องเต็มที่สักพักกัปตันบอกอีก 30 นาทีลดระดับเครื่องบิน ฝรั่งเยอะมากเกือบ 80% ของผู้โดยสารบนเครื่องบินส่วนใหญ่คือฝรั่ง
2. ชีวิตได้สัมผัสเงินล้านจริง ๆ จัง ๆ ก็วันนี้แหละ
3. เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองถึงเค้าจะไม่มีคิวแท๊กซี่ แต่ก็ไม่ได้มารุมโก่งราคาค่ารถนักท่องเที่ยว
4.รถพวงมาลัยอยู่ด้านซ้าย
5.นักท่องเที่ยว 90% คือฝรั่ง เป็นฝรั่งเกรดดีด้วยนะ ต้องมาดูด้วยตาตัวเอง
6.เค้ากินลูกชิ้นกับพริกเกลือ เบเกอร์รี่ตลาดนัดที่นี่อร่อย
7.ส้มตำหลวงพระบางคือสิ่งที่เราอยากมาลงเรียนเพื่อไปเปิดร้าน ปลาร้าไม่เหม็น ร้านไม่มีโชว์แมลงวันและแมลงสาบหรือหนูท่อให้ดู
8.วิงปีกไก่ย่างเนื้อไก่เหนียวนุ่ม มันคงเป็นไก่ปลอดสารพิษออแกร์นิคแบบที่บ้านเรานิยามกันเสริฟมาในจานรองด้วยใบตองฟิน!!
9.เด็ก ๆ หลวงพระบางเก่งภาษาอังกฤษ สาว ๆ ผิวดีหน้าตาสวย คนหลวงพระบางใช้ชีวิตช้า ๆ นิ่ง ๆ ไม่ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
10.นานมากแล้วที่ไม่ได้ยืนดูพระอาทิตย์ตกดินจนมาถึงวันนี้ ชีวิตหลงทางแต่คุ้มค่ากับเส้นทางใหม่
[CR] เผลอใจไปหลงรักเมืองหลวงพระบาง....
เป็น trip ที่ไม่คาดหวังได้โปรตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียมา คิดแค่ว่าไปดูเมืองมรดกโลก เป็นทัวร์วัฒนธรรมท่องเที่ยวไปตามวัดวาอาราม เอาเข้าจริง ๆ หลวงพระบางมีดีกว่านั้นมาก..... ทั้งที่เที่ยวธรรมชาติ ทั้งวัด ทั้งของกิน ทั้งตลาด ทั้งฝรั่งหล่องานดีงานปราณีตมีครบทุกเพศทุกวัย (ถ้าใครจะไปแนะนำไปช่วงเดือน 1,2) จริงเจองานดี ๆ ตั้งแต่บนเครื่องบินแล้ว ไม่คิดว่าไปถึงโน้นแล้วจะเยอะคือลืมวัดลืมแผนท่องเที่ยวไปหมดเลย มัวแต่เดินดูฝรั่งเพลินมาก night market คือเดินทุกคืนไม่เบื่อ พอ ๆ กับส้มตำหลวงพระบางกินได้ทุกวันอร่อยล้ำมากอร่อยเหมือนกันทุกร้าน!!(เค่าบอกว่าที่นั่นกินผงชูรส รสจัด)
สรุปแล้วเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในตัวเองมาก ๆ ทุกอย่างรวมกันแล้วลงตัวน่าอยู่ ใครยังไม่เคยไปลองไปเที่ยวดูค่ะนั่งเครื่องบินแป๊บเดียวแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาที ใครยังไม่เคยมาเที่ยวที่นี่อยากให้ลองมาดูคะ
ไปถึงสนามบินนานาชาติหลวงพระบางบ่าย 4 โมงเย็น เวลาที่ไทยกับที่ลาวใช้เวลาเดียวกันไม่ต้องปรับเวลา แลกเงินกีบที่สนามบินได้เลยค่ะเราไปกันสี่คนแลกเงินรวมกันคนล่ะ 2000 บาท ได้มาหลักล้านกีบค่ะไม่ได้นับ นับไม่ไหวเยอะเหลือเกิน ชีวิตได้สัมผัสเงินล้านก็วันนี้แหละคะ
หน้าตาเงินกีบคะ จ่ายค่าข้าวแต่ละมื้อนี่หลักแสนตลอด แเลกเงินเสร็จ เหมาแท๊กซี่จากสนามบินเข้าเมืองเราจำราคาเงินกีบไม่ได้ แต่เงินไทยประมาณคนล่ะ 100 บาทค่ะ (คนขับรถสุภาพ ไม่ตื้อ ไม่แย่งลูกค้ากัน)
พักโรงแรมสายน้ำคานสาขา 2 จะอยู่ในซอย แต่ห้องก็สะอาดดีค่ะ ค่าห้องไม่รวมอาหารเช้าคืนล่ะ 1,200 บาท ใกล้ที่เที่ยวจริง ๆ เมืองหลวงพระบางไม่ได้กว้างมาก สามารถเดินเที่ยวได้ทั่ว พนักงานน่ารักมากวาดแผนที่เที่ยวจุดที่สำคัญ ๆ ในเมืองหลวงพระบางให้อย่างละเอียด เนื่องจากทริปนี้ไม่ได้ซื้อซิมมือถือ กะไปใช้ชีวิตแบบไม่ติดต่อกับใครทั้งนั้นจะเที่ยวอย่างเดียว
หลังจาก Check in ที่พักเรียบร้อย แพลนคร่าว ๆ คือหาอะไรกินก่อนเนื่องเริ่มหิว แล้วค่อยเดินขึ้นพระธาตุพูสี ต่อด้วยถนนคนเดิน ปิดท้ายด้วยอาหารเย็นส้มตำไก่ยาง ปลาเผา ทริปนี้กินตัวแตกมาก ......
เดินมาจนเจอแม่น้ำคาน ริมแม่น้ำมีร้านขายลูกชิ้น(คนที่นี่กินลูกชิ้นกับผงพริกในนั้นมีผงชูรสอยู่ค่อนข้างมาก)
แวะไปอุดหนุนได้นะคะอยู่ริมแม่น้ำคาน มีอยู่ร้านเดียว
ลองพริก กับ มะเขือม่วงย่าง อร่อยดีคะส่วนลูกชิ้นก็รสชาติ ok คะ หรือว่าหิวกันก็ไม่รู้
วิวจากร้านที่นั่งกินลูกชิ้น จริง ๆ มีสะพานข้าวไปอีกฝั่งด้วยค่ะ แต่พวกเราไม่ได้ข้าวไปกินลูกชิ้นเสร็จก็ขึ้นไปเที่ยวบนพระธาตุพูสีกันเลย กลัวจะไม่ทันไปดูพระอาทิตย์ตกดินคะ
ค่าเข้าชมพระธาตุพูสีคนละ 20,000 กีบนะคะ วิวด้านบนสวยคะ ตอนแรกคิดว่าไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินแน่ ๆ คิดว่าเดินออกกำลังกายเล่นเหนื่อยอยู่เหมือนกัน ไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกก็เจอกับภาพนี้ค่ะ ภาพที่วาดส่งครูวิชาศิลปะตอนเรียนปฐม นากมาก ๆ แล้วที่ไม่ได้ไปยืนดูพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ คุ้มค่าคุ้มราคามาก
ทางลงจากพระธาตุจะลงอีกด้านหนึ่งซึ่งมาเจอกับถนนคนเดิน เจอกับวิวหอพระบาง และก็ด้านล่างเป็นถนนคนเดินของขายเยอะเลยทีเดียว เราได้พวกเสื้อยืด พวกสาโทจากตลาดนี้ บางอย่างก็แอบแพง กาแฟลาวในตลาดนี้แพงถ้าใครจะซื้อให้ไปหาซื้อตามร้านขายของชำแทน
แลกเงินไหมคับ
เบเกอร์รี่อร่อยค่ะ
ปิดท้ายด้วยส้มตำ ส้มตำที่นี่รสชาติอร่อยมาก.......
สรุป
Day 1 : learn Luangprabang for 4 days
1. นั่งเครื่องมาแป๊บเดียวเองเตรียมหมอนรองคอมาเพื่อหลับบนเครื่องเต็มที่สักพักกัปตันบอกอีก 30 นาทีลดระดับเครื่องบิน ฝรั่งเยอะมากเกือบ 80% ของผู้โดยสารบนเครื่องบินส่วนใหญ่คือฝรั่ง
2. ชีวิตได้สัมผัสเงินล้านจริง ๆ จัง ๆ ก็วันนี้แหละ
3. เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองถึงเค้าจะไม่มีคิวแท๊กซี่ แต่ก็ไม่ได้มารุมโก่งราคาค่ารถนักท่องเที่ยว
4.รถพวงมาลัยอยู่ด้านซ้าย
5.นักท่องเที่ยว 90% คือฝรั่ง เป็นฝรั่งเกรดดีด้วยนะ ต้องมาดูด้วยตาตัวเอง
6.เค้ากินลูกชิ้นกับพริกเกลือ เบเกอร์รี่ตลาดนัดที่นี่อร่อย
7.ส้มตำหลวงพระบางคือสิ่งที่เราอยากมาลงเรียนเพื่อไปเปิดร้าน ปลาร้าไม่เหม็น ร้านไม่มีโชว์แมลงวันและแมลงสาบหรือหนูท่อให้ดู
8.วิงปีกไก่ย่างเนื้อไก่เหนียวนุ่ม มันคงเป็นไก่ปลอดสารพิษออแกร์นิคแบบที่บ้านเรานิยามกันเสริฟมาในจานรองด้วยใบตองฟิน!!
9.เด็ก ๆ หลวงพระบางเก่งภาษาอังกฤษ สาว ๆ ผิวดีหน้าตาสวย คนหลวงพระบางใช้ชีวิตช้า ๆ นิ่ง ๆ ไม่ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
10.นานมากแล้วที่ไม่ได้ยืนดูพระอาทิตย์ตกดินจนมาถึงวันนี้ ชีวิตหลงทางแต่คุ้มค่ากับเส้นทางใหม่