สะบายดี.. หลวงพระบาง
เบื่อชีวิตวุ่นวายในเมืองหลวง...อยากหนีไปใช้ชีวิตแบบ slow slow ที่ไหนซักที
ผมขอแนะนำ .. “ หลวงพระบาง ”
เมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง
ทั้งด้วยศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม
ที่นี่บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนใจดี ใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย
แถมยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีในแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน
จึงทำให้หลวงพระบางมีคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1995
ที่สำคัญ หลวงพระบางอยู่ไม่ได้ไกลจากประเทศไทยเลยใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆเอง...
นี่แหละ เหตุผลที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัส
ไม่ต้องคิดนาน อ่านรีวิวผมจบ
ก็จองตั๋วตามไปเที่ยวกันเลยดีกว่า... ฮิฮิ..
ภาพและเรื่องโดย #megamaxxjourney
Tips **
- เงินหลวงพระบาง มีหน่วยเป็นกีบ 1000 กีบ เท่ากับประมาณ 4.20 บาท
- สามารถแลกได้ที่สนามบิน หรือใช้เงินไทยได้แต่ส่วนมากเค้าจะทอนมาเป็นเงินกีบนะ
- Internet ซื้อเป็น internet sim สะดวกดี ไม่แพงด้วย หาซื้อได้ที่สนามบินเลย
ทริปนี้พักโรงแรมชื่อว่า วิลล่า สันติ ครับ หลังจากเช็คอินเรียบร้อย..ก็ออกเดินสำรวจ
และ Landmark แรก คือไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่ยอดเขาบนวัดพระธาตุพูสี
จากโรงแรม สามารถเดินไปได้เลยไม่ไกล แต่ทางเดินขึ้นวัด เล่นทำเอาหอบเหมือนกันนะ
เพราะต้องเดินขึ้นบันได ราวๆ 328 ขั้น
มาถึงด้านบนได้เวลาพอดีเลย
พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วครับ
ที่นี่ชาวต่างชาติเพียบเลยนะ
เสน่ห์อย่างนึง ที่ผมประทับใจสำหรับประเทศที่เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวแนวแบคแพคเกอร์
นั่นคือ “ มิตรภาพ ” แค่เพียงคุณส่งยิ้ม และกล่าวคำทักทาย
ทุกคนก็พร้อมจะเปิดใจทำความรู้จักกับเราแล้วล่ะครับ
ด้านบนนี้ยังสามารถมองลงไปเห็นวิวของ เมือง หลวงพระบางได้ด้วย
พระธาตุพูสีครับ
และนี่คือ หน้าตาของชุดธูปเทียนดอกไม้ที่นี่
แปลกตาดีเหมือนกันแฮะ
มีนกให้ปล่อยด้วยนะ
เข้ามาขอพรกันซักหน่อย
“ ขอให้พระคุ้มครอง ”
ลงมาจากด้านบนวัดก็หอบแฮ่กๆ เหมือนเดิม
แวะซื้อน้ำผลไม้ปั่นด้านล่างเพื่อความสดชื่น
เมนูครับ มีให้เลือกเพียบ
อยากให้พี่แกปั่นอะไร ... พี่แก มิกซ์ ให้ได้หมดอะ
ราคาแก้วละ10000-15000 กีบหรือประมาณ 40 บาท ครับ
สดชื่น ... ผมนี่แวะมาซื้อทุ้กกวัน
ไม่รู้ไอ้รถหน้าตาแบบนี้ เค้าเรียกว่าอะไรนะ
ถ้าให้เดาก็ตุ้กๆ นี่แหละมั้ง
ถ่ายเป็นระทึกไว้ซักหน่อย “ ตุ้กๆหลวงพระบาง ”
ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วย ดินเนอร์ ที่ร้าน L’elephant restaurant
เป็นร้านอาหารลาว และอาหารสไตล์ฝรั่งเศส
พี่แกบอกว่า recommend ลาบหลวงพระบาง
เลยสั่งมาลอง
ก็อร่อยดีแฮะ..
เช้าวันที่สองของทริป..นาฬิกาปลุกตั้งแต่ตีห้า
เดินออกมาจากโรงแรม ฟ้ายังมืดอยู่เลย
ชาวบ้านที่นี่ เริ่มออกมาตั้งร้านรวงกันแล้ว
และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่
คือ “ ตักบาตรข้าวเหนียวนั่นเอง
มาเตรียมตัวใส่บาตรกันดีกว่า...
เริ่ม!
จกข้าวเหนียว...ปั้นเป็นก้อนกลมๆ
เอาใส่ปาก เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ
นั่งรอพระมาสิ.. แหม่ !
พระมาแว้วว
บิณฑบาตรไวมากกก
ใส่เกือบไม่ทัน..
เท่าที่ผมสังเกต พระท่านจะเดินมาเป็นวัดๆครับ
กลุ่มละวัด ต่อแถวกันมาเรื่อยๆ
คุณลุงท่านนี้เป็นคนไทยครับ
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณลุงเล็กน้อย
คุณลุงบอกว่า ชอบมาพักผ่อนที่นี่
ที่นี่สงบ ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบดี ...
ไม่แน่ ผมอายุเท่าลุง
อาจจะมาหลบใช้ชีวิต slow slow แถวนี้เหมือนลุงก็ได้นะ ฮิฮิ
สำหรับการใส่บาตรที่นี่ เค้ามีกฏด้วยนะ
ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ต้องแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อย
พาดผ้าสไบ หรือ ผ้าเบี่ยงไว้ที่ไหล่ซ้ายครับ
ไหนๆก็ตื่นเช้าแล้ว มาหาอาหารเช้าทานดีกว่า
และอีกร้านที่เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงของที่นี่นั่นคือ
“ ร้านกาแฟประชานิยม ” ครับ
ร้านเล็กๆ แต่อบอวนไปด้วยกลิ่นหอมๆ ของกาแฟ
น่าเสียดายผมไม่ดื่มกาแฟ เลยอดชิมรสชาติกาแฟแบบออริจิ ของที่นี่
แต่ไม่เป็นไร สั่ง ไข่ลวก ปาท่องโก๋ ไมโล ชาเย็น มาทดแทน
[CR] สะบายดี.. หลวงพระบาง : 4วัน 3คืน ในเมืองมรดกโลก โดย #megamaxxjourney
เบื่อชีวิตวุ่นวายในเมืองหลวง...อยากหนีไปใช้ชีวิตแบบ slow slow ที่ไหนซักที
ผมขอแนะนำ .. “ หลวงพระบาง ”
เมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง
ทั้งด้วยศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม
ที่นี่บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนใจดี ใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย
แถมยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีในแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน
จึงทำให้หลวงพระบางมีคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1995
ที่สำคัญ หลวงพระบางอยู่ไม่ได้ไกลจากประเทศไทยเลยใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆเอง...
นี่แหละ เหตุผลที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัส
ไม่ต้องคิดนาน อ่านรีวิวผมจบ
ก็จองตั๋วตามไปเที่ยวกันเลยดีกว่า... ฮิฮิ..
ภาพและเรื่องโดย #megamaxxjourney
- เงินหลวงพระบาง มีหน่วยเป็นกีบ 1000 กีบ เท่ากับประมาณ 4.20 บาท
- สามารถแลกได้ที่สนามบิน หรือใช้เงินไทยได้แต่ส่วนมากเค้าจะทอนมาเป็นเงินกีบนะ
- Internet ซื้อเป็น internet sim สะดวกดี ไม่แพงด้วย หาซื้อได้ที่สนามบินเลย
และ Landmark แรก คือไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่ยอดเขาบนวัดพระธาตุพูสี
จากโรงแรม สามารถเดินไปได้เลยไม่ไกล แต่ทางเดินขึ้นวัด เล่นทำเอาหอบเหมือนกันนะ
เพราะต้องเดินขึ้นบันได ราวๆ 328 ขั้น
พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วครับ
เสน่ห์อย่างนึง ที่ผมประทับใจสำหรับประเทศที่เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวแนวแบคแพคเกอร์
นั่นคือ “ มิตรภาพ ” แค่เพียงคุณส่งยิ้ม และกล่าวคำทักทาย
ทุกคนก็พร้อมจะเปิดใจทำความรู้จักกับเราแล้วล่ะครับ
แปลกตาดีเหมือนกันแฮะ
“ ขอให้พระคุ้มครอง ”
แวะซื้อน้ำผลไม้ปั่นด้านล่างเพื่อความสดชื่น
อยากให้พี่แกปั่นอะไร ... พี่แก มิกซ์ ให้ได้หมดอะ
ราคาแก้วละ10000-15000 กีบหรือประมาณ 40 บาท ครับ
ถ้าให้เดาก็ตุ้กๆ นี่แหละมั้ง
ถ่ายเป็นระทึกไว้ซักหน่อย “ ตุ้กๆหลวงพระบาง ”
เป็นร้านอาหารลาว และอาหารสไตล์ฝรั่งเศส
พี่แกบอกว่า recommend ลาบหลวงพระบาง
เลยสั่งมาลอง
ก็อร่อยดีแฮะ..
เดินออกมาจากโรงแรม ฟ้ายังมืดอยู่เลย
ชาวบ้านที่นี่ เริ่มออกมาตั้งร้านรวงกันแล้ว
คือ “ ตักบาตรข้าวเหนียวนั่นเอง
มาเตรียมตัวใส่บาตรกันดีกว่า...
จกข้าวเหนียว...ปั้นเป็นก้อนกลมๆ
เอาใส่ปาก เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ
นั่งรอพระมาสิ.. แหม่ !
บิณฑบาตรไวมากกก
ใส่เกือบไม่ทัน..
กลุ่มละวัด ต่อแถวกันมาเรื่อยๆ
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณลุงเล็กน้อย
คุณลุงบอกว่า ชอบมาพักผ่อนที่นี่
ที่นี่สงบ ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบดี ...
ไม่แน่ ผมอายุเท่าลุง
อาจจะมาหลบใช้ชีวิต slow slow แถวนี้เหมือนลุงก็ได้นะ ฮิฮิ
ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ต้องแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อย
พาดผ้าสไบ หรือ ผ้าเบี่ยงไว้ที่ไหล่ซ้ายครับ
และอีกร้านที่เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงของที่นี่นั่นคือ
“ ร้านกาแฟประชานิยม ” ครับ
แต่ไม่เป็นไร สั่ง ไข่ลวก ปาท่องโก๋ ไมโล ชาเย็น มาทดแทน