พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ช้างต้น ตั้งอยู่บริเวณข้างรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต
ภายในรั้วเดียวกันกับพระที่นั่งวิมานเมฆ เดิมเป็นโรงช้าง สำหรับช้างต้นหรือช้างเผือก
ที่ขึ้นระวางเป็นช้างหลวงของพระมหากษัตริย์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 และอีกหลังหนึ่ง
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุเกี่ยวกับช้างต้น อาทิ งาของช้างต้น
ในรัชกาลต่าง ๆ หนังช้างเผือกดอง เครื่องราง มีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความเชื่อ
พระราชพิธีสมโภชช้างต้น รายนามของช้างต้นในรัชกาลปัจจุบัน และช้างต้นจำลองขนาดเท่าช้างจริง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9.00 – 16.00 น. ค่าเข้าชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ คนละ 5 บาท
โทร. 0 2282 3336 หรือดูเว็บไซต์ www.thailandmuseum.com
ช้างต้น หมายถึง ช้างที่ได้รับการขึ้นระวางเป็นช้างหลวงส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์
ในสมัยโบราณได้แบ่งช้างต้นออกเป็น ๓ ประเภท ดังนี้
๑.ช้างศึกที่ทรงออกรบ
๒.ช้างสำคัญซึ่งมีลักษณะเป็นช้างมงคลตามตำราคชลักษณ์ แต่ไม่สมบูรณ์หมดทุกส่วน
๓.ช้างเผือกซึ่งมีลักษณะถูกต้องตามตำราคชลักษณ์อย่างสมบูรณ์
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การศึกที่ต้องใช้กองทัพช้างในการสงครามหมดความสำคัญลง
ช้างศึกที่ควรขึ้นระวางเป็นช้างต้นก็ไม่มีความจำเป็นจึงคงเหลือเพียงช้างต้น
ที่หมายถึงช้างสำคัญและช้างเผือก ซึ่งหากพบก็จะมีการประกอบพระราชพิธีรับสมโภชและขึ้นระวาง
เป็นพระยาช้างต้น ด้วยถือตามพระราชประเพณีที่ว่า ช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในรัตนะ ๗ สิ่ง
ซึ่งคู่บารมีขององค์พระมหากษัตริย์ โดยรัตนะทั้ง ๗ นี้มีชื่อเรียกว่า สัปตรัตนะ
อันได้แก่ จักรรัตนะ(จักรแก้ว) หัตถีรัตนะ(ช้างแก้ว) อัศวรัตนะ(ม้าแก้ว) มณีรัตนะ(มณีแก้ว)
อัตถีรัตนะ(นางแก้ว) คหปติรัตนะ(ขุนคลังแก้ว) ปริณายกรัตนะ(ขุนพลแก้ว)
ตามคติความเชื่อทั้งในศาสนาพราหมณ์ และพุทธศาสนาถือว่าช้างเผือกเป็นสัตว์ที่สูงด้วยมงคลทั้งปวง
เป็นสัญลักษณ์ทั้งธัญญาหาร ภักษาหาร ผลาหาร และพระบารมีเกริกไกรอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน
และจะเกิดขึ้นด้วยบุญญาบารมีแห่งองค์พระจักรพรรดิ แห่งแคว้นประเทศนั้น ด้วยเหตุดังกล่าว
เมื่อได้พบช้างเผือกเวลาใด ประชาราษฎร์ก็จะแซ่ซ้องสาธุการน้อมเกล้าฯ ถวายด้วยเป็นรัตนะแห่งพระองค์
[CR] รีวิวสยามพาชม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ช้างต้น
ภายในรั้วเดียวกันกับพระที่นั่งวิมานเมฆ เดิมเป็นโรงช้าง สำหรับช้างต้นหรือช้างเผือก
ที่ขึ้นระวางเป็นช้างหลวงของพระมหากษัตริย์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 และอีกหลังหนึ่ง
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุเกี่ยวกับช้างต้น อาทิ งาของช้างต้น
ในรัชกาลต่าง ๆ หนังช้างเผือกดอง เครื่องราง มีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความเชื่อ
พระราชพิธีสมโภชช้างต้น รายนามของช้างต้นในรัชกาลปัจจุบัน และช้างต้นจำลองขนาดเท่าช้างจริง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9.00 – 16.00 น. ค่าเข้าชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ คนละ 5 บาท
โทร. 0 2282 3336 หรือดูเว็บไซต์ www.thailandmuseum.com
ในสมัยโบราณได้แบ่งช้างต้นออกเป็น ๓ ประเภท ดังนี้
๑.ช้างศึกที่ทรงออกรบ
๒.ช้างสำคัญซึ่งมีลักษณะเป็นช้างมงคลตามตำราคชลักษณ์ แต่ไม่สมบูรณ์หมดทุกส่วน
๓.ช้างเผือกซึ่งมีลักษณะถูกต้องตามตำราคชลักษณ์อย่างสมบูรณ์
ช้างศึกที่ควรขึ้นระวางเป็นช้างต้นก็ไม่มีความจำเป็นจึงคงเหลือเพียงช้างต้น
ที่หมายถึงช้างสำคัญและช้างเผือก ซึ่งหากพบก็จะมีการประกอบพระราชพิธีรับสมโภชและขึ้นระวาง
เป็นพระยาช้างต้น ด้วยถือตามพระราชประเพณีที่ว่า ช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในรัตนะ ๗ สิ่ง
ซึ่งคู่บารมีขององค์พระมหากษัตริย์ โดยรัตนะทั้ง ๗ นี้มีชื่อเรียกว่า สัปตรัตนะ
อันได้แก่ จักรรัตนะ(จักรแก้ว) หัตถีรัตนะ(ช้างแก้ว) อัศวรัตนะ(ม้าแก้ว) มณีรัตนะ(มณีแก้ว)
อัตถีรัตนะ(นางแก้ว) คหปติรัตนะ(ขุนคลังแก้ว) ปริณายกรัตนะ(ขุนพลแก้ว)
เป็นสัญลักษณ์ทั้งธัญญาหาร ภักษาหาร ผลาหาร และพระบารมีเกริกไกรอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน
และจะเกิดขึ้นด้วยบุญญาบารมีแห่งองค์พระจักรพรรดิ แห่งแคว้นประเทศนั้น ด้วยเหตุดังกล่าว
เมื่อได้พบช้างเผือกเวลาใด ประชาราษฎร์ก็จะแซ่ซ้องสาธุการน้อมเกล้าฯ ถวายด้วยเป็นรัตนะแห่งพระองค์
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น