หายไปพักใหญ่เพราะเดินทางเยอะเพราะต้องออกไปทำงาน (อาชีพซินแสจำเป็นต้องไปดูสถานที่เองทุกที่แหละครับ) แถมงานส่วนตัว / ครอบครัว .. ล่าสุดผมก็เพิ่งกลับมาจาก อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขัน โดยแวะไปหาลูกค้าที่โคราชที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์..(อาชีพนี้จำเป็นต้องเดินทางเยอะเป็นปกติวิสัยแหละครับ)..เรื่องที่จะมาแบ่งปันในที่นี้ก็ยังเลยคั่งค้างอยู่มากพอสมควร..เรื่องที่ยกมาบอกเล่าในที่นี้ล้วนแล้วแต่ผ่านมาจากประสบการณ์ของตัวผมเอง..ผ่านการพิสูจน์ด้วยตัวเองและการทำงานที่มีการติดตามผลมานับร้อยๆกรณีย์..
ที่ผ่านมาผมก็ได้ยกกรณีย์ขึ้นมาแล้ว 2 เรื่อง..คือ.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36067782 บทความแรก..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36072645 บทความที่ 2 ..
ผมไม่ขอท้าวความเรื่องที่ร่ายมาแล้วนะครับใครที่อยากรู้ก็ตามไปหาอ่านเอาเองครับ..
บทความนี้คือตอนที่ 3 ของเรื่องเกี่ยวกับความเข้าใจผิดในเรื่อง "ฮวงจุ้ย" ครั้งนี้จะกล่าวถึงเรื่อง..
"วิบากทาง 3 แพร่ง"
วิบากทาง 3 แพร่ง ในศัพท์ทางวิชา "ฮวงจุ้ย" เรียกว่า "โหล่วสัวะ" .. หมายถึง วิบากจากถนนซึ่งเกิดจากถนนที่พุ่งเข้าชนอาคารที่ตั้งอยู่ปลายทาง..แต่แบบไทยๆเราเรียกทางสามแพร่ง..
"โหล่วสัวะ" ต้องดูว่ากระแสที่พุ่งเข้ามานั้นแรงแค่ไหน..ถ้าเป็นถนนยาวๆพุ่งเข้ามาหาอาคารที่อยู่ปลายทาง..และมีกระแสเคลื่อนเข้ามาอย่างรุนแรง..ยกตัวอย่างก็ถนนพระราม 4 ที่พุ่งมาทางหัวลำโพงที่ปลายทางนั้นมีอาคารตั้งอยู่ปลายถนนถูกโหล่วสัวะกระทบแบบเต็มๆและใครอยู่ก็อยู่ไม่ได้..
ตึกที่อยู่ปลายลูกศรถูกถนนพระราม 4 พุ่งเข้าชน ตึกนี้เจอ "โหล่วสัวะ" เข้าเต็มๆ
อีกเส้นที่เข้าองค์ประกอบก็เป็นเส้นนราธิวาสฯที่พุ่งมาทางเส้นสีลมไปหาตึกที่ตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์..(น่าจะเป็นอาคารสำนักงาน AIG นะ..) แต่จุดนี้มีการแก้ไขด้วยการสร้างปฏิมากรรมรูปทรงคล้ายๆปิรามิด(อันนี้เป็นรูปทรงของธาตุไฟรับกับถนนที่พุ่งมาจากทิศตะวันออกที่มีพลังของธาตุไม้..เพื่อต้องการถ่ายเทพลังของธาตุไม้ตามหลักของการเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร..)
ตึกที่อยู่ตรงปลายลูกศรสีแดงคือตึกที่ถูก "โหล่วสัวะ" ตึกที่โดนคือตึกสนง.AIG
แต่ถ้าทาง 3 แพร่งที่กระแสพุ่งมาไม่แรงมากก็ไม่ค่อยจะน่ากังวลเพราะพลังที่มานั้นไม่รุนแรง..และถ้าทิศทางของกระแสที่พุ่งเข้ามาสอดคล้องกับจุดที่ดาวโชคลาภอยู่ก็จะส่งผลให้เงินทองเข้ามาคล่องมือมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ..(ดาวการเงินจะดูที่ยุคสร้าง / ทิศอาคาร ตามหลักของสำนักเหี่ยงคง (ดาวเหิร) ซึ่งจะดูดาวตรงและดาวเอียง(อันนี้แล้วแต่ละสำนักจะเรียนรู้กันได้มากหรือน้อยเพราะมีการสอนกันมากมายหลายสำนัก)..เยอะครับอธิบายคงจะยาวพอจะเขียนหนังสือได้เป็นเล่มๆละครับ)
ทาง 3 แพร่งหรือ "โหล่วสัวะ" นั้นต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบหรือเปล่า..ถ้ากระแสไม่แรงแบบซอยเชื่อมระยะทางสั้นๆก็ถือว่าไม่ได้หนักหนาอย่างที่เข้าใจกัน..
การแก้ไขที่พบว่าได้ผลก็คือการเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร..
*** ดูจากทิศทางที่กระแสพุ่งมาว่าเป็นทิศอะไร..???
----- ถนนมาจากทิศเหนือไปใต้ ก็เป็นวิบากธาตุน้ำ ต้องแก้ด้วยธาตุไม้..ใช้สีเขียวทาอาคารและการตั้งเตียงนอนก็วางห่างผนังที่ถนนพุ่งเข้ามา..
----- ถนนมาจากทิศใต้ไปเหนือ ก็เป็นวิบากธาตุไฟ ต้องแก้ด้วยธาตุดิน..ใช้สีเหลือง / สีครีม ทาผนังอาคาร..
----- ถนนมาจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เป็นวิบากธาตุไม้ ต้องแก้ด้วยธาตุไฟ..ใช้สีแดง ทาผนังอาคาร..
---- ถนนมาจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก เป็นวิบากธาตุทอง ต้องแก้ด้วยธาตุน้ำ..ใช้สีฟ้า / สีน้ำเงิน / เทา / ดำ ทาผนังอาคาร..
ส่วนทิศเฉียงทั้ง 4 ทิศ ก็มี ..
----- ถนนมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นวิบากธาตุดิน แก้ด้วยธาตุทอง คือสีขาว..
----- ถนนมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นวิบากธาตุดิน แก้ด้วยธาตุทอง คือสีขาว..
----- ถนนมาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นวิบากธาตุทอง แก้ด้วยธาตุน้ำง คือสีน้ำเงิน
----- ถนนมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นวิบากธาตุไม้ แก้ด้วยธาตุไฟ คือสีแดง..
ว่ากันแล้วมีปัจจัยในการพิจารณามากมายหลายต่อหลายอย่าง..ดังนั้นการจับเอาเพียงบางประเด็นมาแก้ไขแล้วไม่เห็นว่าดีขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ..เพราะการแก้ไขโดยที่รู้ไม่ครบถ้วนพอก็เหมือนกับคนป่วยด้วยอาการหลายอย่างแล้วกินยาไม่ครบ..อาการป่วยก็ไม่หายสักทีเพราะแก้ไม่ถูกจุดหรือกินยาไม่ครบถ้วน..
วันนี้ผมขอร่ายแบบเบาๆไปก่อนครับ..เพราะช่วงนี้นอนน้อยหลับไม่เต็มอิ่มมาหลายวันแล้ว..แล้วจะเข้ามาร่ายในความเชื่อที่เข้าใจผิดกันในเรื่องเกี่ยวกับหลักวิชา"ฮวงจุ้ย" ให้อ่านกันอีกครับ
"ซินแสเกินร้อย"
หลักของ ฮวงจุ้ย ที่มักจะเข้าใจผิด.. #3 ?? .. By "ซินแสเกินร้อย"
ที่ผ่านมาผมก็ได้ยกกรณีย์ขึ้นมาแล้ว 2 เรื่อง..คือ.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บทความแรก..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บทความที่ 2 ..
ผมไม่ขอท้าวความเรื่องที่ร่ายมาแล้วนะครับใครที่อยากรู้ก็ตามไปหาอ่านเอาเองครับ..
บทความนี้คือตอนที่ 3 ของเรื่องเกี่ยวกับความเข้าใจผิดในเรื่อง "ฮวงจุ้ย" ครั้งนี้จะกล่าวถึงเรื่อง..
"วิบากทาง 3 แพร่ง"
วิบากทาง 3 แพร่ง ในศัพท์ทางวิชา "ฮวงจุ้ย" เรียกว่า "โหล่วสัวะ" .. หมายถึง วิบากจากถนนซึ่งเกิดจากถนนที่พุ่งเข้าชนอาคารที่ตั้งอยู่ปลายทาง..แต่แบบไทยๆเราเรียกทางสามแพร่ง..
"โหล่วสัวะ" ต้องดูว่ากระแสที่พุ่งเข้ามานั้นแรงแค่ไหน..ถ้าเป็นถนนยาวๆพุ่งเข้ามาหาอาคารที่อยู่ปลายทาง..และมีกระแสเคลื่อนเข้ามาอย่างรุนแรง..ยกตัวอย่างก็ถนนพระราม 4 ที่พุ่งมาทางหัวลำโพงที่ปลายทางนั้นมีอาคารตั้งอยู่ปลายถนนถูกโหล่วสัวะกระทบแบบเต็มๆและใครอยู่ก็อยู่ไม่ได้..
ตึกที่อยู่ปลายลูกศรถูกถนนพระราม 4 พุ่งเข้าชน ตึกนี้เจอ "โหล่วสัวะ" เข้าเต็มๆ
อีกเส้นที่เข้าองค์ประกอบก็เป็นเส้นนราธิวาสฯที่พุ่งมาทางเส้นสีลมไปหาตึกที่ตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์..(น่าจะเป็นอาคารสำนักงาน AIG นะ..) แต่จุดนี้มีการแก้ไขด้วยการสร้างปฏิมากรรมรูปทรงคล้ายๆปิรามิด(อันนี้เป็นรูปทรงของธาตุไฟรับกับถนนที่พุ่งมาจากทิศตะวันออกที่มีพลังของธาตุไม้..เพื่อต้องการถ่ายเทพลังของธาตุไม้ตามหลักของการเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร..)
ตึกที่อยู่ตรงปลายลูกศรสีแดงคือตึกที่ถูก "โหล่วสัวะ" ตึกที่โดนคือตึกสนง.AIG
แต่ถ้าทาง 3 แพร่งที่กระแสพุ่งมาไม่แรงมากก็ไม่ค่อยจะน่ากังวลเพราะพลังที่มานั้นไม่รุนแรง..และถ้าทิศทางของกระแสที่พุ่งเข้ามาสอดคล้องกับจุดที่ดาวโชคลาภอยู่ก็จะส่งผลให้เงินทองเข้ามาคล่องมือมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ..(ดาวการเงินจะดูที่ยุคสร้าง / ทิศอาคาร ตามหลักของสำนักเหี่ยงคง (ดาวเหิร) ซึ่งจะดูดาวตรงและดาวเอียง(อันนี้แล้วแต่ละสำนักจะเรียนรู้กันได้มากหรือน้อยเพราะมีการสอนกันมากมายหลายสำนัก)..เยอะครับอธิบายคงจะยาวพอจะเขียนหนังสือได้เป็นเล่มๆละครับ)
ทาง 3 แพร่งหรือ "โหล่วสัวะ" นั้นต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบหรือเปล่า..ถ้ากระแสไม่แรงแบบซอยเชื่อมระยะทางสั้นๆก็ถือว่าไม่ได้หนักหนาอย่างที่เข้าใจกัน..
การแก้ไขที่พบว่าได้ผลก็คือการเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร..
*** ดูจากทิศทางที่กระแสพุ่งมาว่าเป็นทิศอะไร..???
----- ถนนมาจากทิศเหนือไปใต้ ก็เป็นวิบากธาตุน้ำ ต้องแก้ด้วยธาตุไม้..ใช้สีเขียวทาอาคารและการตั้งเตียงนอนก็วางห่างผนังที่ถนนพุ่งเข้ามา..
----- ถนนมาจากทิศใต้ไปเหนือ ก็เป็นวิบากธาตุไฟ ต้องแก้ด้วยธาตุดิน..ใช้สีเหลือง / สีครีม ทาผนังอาคาร..
----- ถนนมาจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เป็นวิบากธาตุไม้ ต้องแก้ด้วยธาตุไฟ..ใช้สีแดง ทาผนังอาคาร..
---- ถนนมาจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก เป็นวิบากธาตุทอง ต้องแก้ด้วยธาตุน้ำ..ใช้สีฟ้า / สีน้ำเงิน / เทา / ดำ ทาผนังอาคาร..
ส่วนทิศเฉียงทั้ง 4 ทิศ ก็มี ..
----- ถนนมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นวิบากธาตุดิน แก้ด้วยธาตุทอง คือสีขาว..
----- ถนนมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นวิบากธาตุดิน แก้ด้วยธาตุทอง คือสีขาว..
----- ถนนมาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นวิบากธาตุทอง แก้ด้วยธาตุน้ำง คือสีน้ำเงิน
----- ถนนมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นวิบากธาตุไม้ แก้ด้วยธาตุไฟ คือสีแดง..
ว่ากันแล้วมีปัจจัยในการพิจารณามากมายหลายต่อหลายอย่าง..ดังนั้นการจับเอาเพียงบางประเด็นมาแก้ไขแล้วไม่เห็นว่าดีขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ..เพราะการแก้ไขโดยที่รู้ไม่ครบถ้วนพอก็เหมือนกับคนป่วยด้วยอาการหลายอย่างแล้วกินยาไม่ครบ..อาการป่วยก็ไม่หายสักทีเพราะแก้ไม่ถูกจุดหรือกินยาไม่ครบถ้วน..
วันนี้ผมขอร่ายแบบเบาๆไปก่อนครับ..เพราะช่วงนี้นอนน้อยหลับไม่เต็มอิ่มมาหลายวันแล้ว..แล้วจะเข้ามาร่ายในความเชื่อที่เข้าใจผิดกันในเรื่องเกี่ยวกับหลักวิชา"ฮวงจุ้ย" ให้อ่านกันอีกครับ