http://m.manager.co.th/iBizChannel/detail/9600000021976
ราคาหุ้นบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือหุ้น”แมกซ์” อยู่ในภาวะที่อ่อนไหวมาก และหากพยุงตัวไม่ได้ จะมีผลกระทบต่อแผนการเพิ่มทุนครั้งใหญ่ ซึ่งเพิ่งผ่านมติการประชุมผู้ถือหุ้นมาสดๆร้อนๆ ที่24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
คณะกรรมการบริษัท แมกซ์ประชุมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 และมีมตีเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก29,602,897,628 บาท เป็น99,555,048,069 บาท โดยนำหุ้นใหม่จำนวน49,583,851,118 หุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน2หุนเดิมต่อ5 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 5 สตางค์
พร้อมแจกวอร์แร้นท์อายุ6 เดือนฟรี ในสัดส่วน4หุ้นใหม่ต่อ1 วอร์แร้นท์ กำหนดแปลงสภาพ1วอร์แร้นท์ต่อ1 หุ้นสามัญ ในราคา5 สตางค์
การเพิ่มทุนครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยบางส่วนไม่เห็นด้วย เพราะจะต้องควักกระเป๋าใส่เงินเพิ่มทุน จึงพยายามรวบรวมเสียง เพื่อคว่ำวาระการเพิ่มทุน แต่ไม่สำเร็จ เพราะเสียงโหวตค้านในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่เพียงพอ
ถ้าการเพิ่มทุนสำเร็จ แมกซ์จะระดมเงินเข้ามาได้ประมาณ 2,500 ล้านบาท และแผนการใช้เงินเพื่อขยายการลงทุนก็จัดเตรียมไว้แล้ว
แต่แผนการเพิ่มทุนกำลังยืนอยู่บนเส้นด้าย เพราะราคาหุ้นแมกซ์ที่ซื้อขายบนกระดาน เริ่มไม่จูงใจ โดยขยับขึ้นขยับลงแถว 5-6 สตางค์
ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงมาแถว 5 สตางค์ อาจเป็นผลจากการเทขายของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่โหวตค้านการเพิ่มทุนไม่สำเร็จ
และถ้าผู้ถือหุ้นรายย่อยฝ่ายที่ค้านมติการเพิ่มทุน ทยอยขายทิ้งหุ้นแมกซ์จริง ก็เป็นทางเลือกที่ถูก เพราะเมื่อไม่เห็นด้วยที่คณะกรรมการจะเพิ่มทุนระดมเงินจากผู้ถือหุ้นอีก ไม่พร้อมจะควักเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน ต้องขายหุ้นทิ้ง
ปล่อยให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อยที่เหลือควักกระเป๋าใส่เงินเพิ่มทุน แต่ราคาหุ้นบนกระดานต้องจูงใจกว่าที่เป็นอยู่
เพราะถ้าราคาหุ้นบนกระดานยืนอยู่ในระดับเดียวกับราคาหุ้นเพิ่มทุน หรือยืนอยู่แถว 5 สตางค์ ผู้ถือหุ้นรายย่อยอาจใจฝ่อ ไม่กล้าใส่เงิน
อย่างไรก็ตาม ยามนี้บริษัทจดทะเบียนใดก็ตามที่ประกาศเพิ่มทุน ไม่ว่าจะขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(พีพี)หรือขายผู้ถือหุ้นเดิม ต้องหืดขึ้นคอกันทั้งสิ้น
เพราะดูเหมือน “ตัวเงิน”จะถูกดูดจนเหือดแห้งจากตลาดหุ้น จนบริษัทจดทะเบียนบางแห่งไม่อาจระดมทุนได้ตามเป้า ซึ่งแม้แต่”แมกซ์”ยังต้องยกเลิกแผนการขายหุ้นพีพี และเปลี่ยนแผนมาระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม
เงินที่เหือดแห้งจากตลาดหุ้น เป็นผลจากการที่บริษัทจดทะเบียน แห่กันเพิ่มทุน แข่งกันสูบเงิน และสูบจนนักลงทุนเงินเกลี้ยงกระเป๋า
และนักลงทุนก็เริ่มทันเกมการเพิ่มทุน ไม่ยอมใส่เงินใหม่ลงในบริษัทจดทะเบียนง่ายๆเหมือนอดีต โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนที่ผลประกอบการไม่ดี หรือมีพฤติกรรมการบริหารงานที่ไม่น่าไว้วางใจ
การชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน “แม็กซ์” กำหนดระหว่างวันที่ 15-21 มีนาคมนี้ หรือไม่เกิน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ระยะเวลาการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นจึงกระชับเข้ามาทุกที ราคาหุ้นแมกซ์บนกระดานไม่จูงใจให้ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเสียด้วย และใครจะลากขึ้นไปเพื่อล่อให้ผู้ถือ หุ้นรายย่อยซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ไม่ได้ เพราะถ้าราคาพุ่งทะยาน จะเกิดถล่มขายทำกำไร ทำให้คนลากต้องเจ็บตัวเปล่า
ถึงตอนนี้คงต้องปล่อยให้แผนการเพิ่มทุนเป็นไปตามยถากรรม ปล่อยให้ฝ่ายบริหาร”แมกซ์”ลุ้นระทึกว่า ผู้ถือหุ้นจะใส่เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนมาเท่าไหร่ และเตรียมทำใจไว้ ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้น จะหวังว่า ผู้ถือหุ้นเดิมเทเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนมาเต็มจำนวน รวมวงเงินประมาณ 2,500 ล้านบาทนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อย “แมกซ์”น่าจะกำลัง “กรอบ” กระเป๋าแห้งตามๆกัน ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่รู้ว่า จะมีใครใส่เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนสักเท่าไหร่
เพิ่มทุน ” MAX ” หืดขึ้นคอ
ราคาหุ้นบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือหุ้น”แมกซ์” อยู่ในภาวะที่อ่อนไหวมาก และหากพยุงตัวไม่ได้ จะมีผลกระทบต่อแผนการเพิ่มทุนครั้งใหญ่ ซึ่งเพิ่งผ่านมติการประชุมผู้ถือหุ้นมาสดๆร้อนๆ ที่24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
คณะกรรมการบริษัท แมกซ์ประชุมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 และมีมตีเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก29,602,897,628 บาท เป็น99,555,048,069 บาท โดยนำหุ้นใหม่จำนวน49,583,851,118 หุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน2หุนเดิมต่อ5 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 5 สตางค์
พร้อมแจกวอร์แร้นท์อายุ6 เดือนฟรี ในสัดส่วน4หุ้นใหม่ต่อ1 วอร์แร้นท์ กำหนดแปลงสภาพ1วอร์แร้นท์ต่อ1 หุ้นสามัญ ในราคา5 สตางค์
การเพิ่มทุนครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยบางส่วนไม่เห็นด้วย เพราะจะต้องควักกระเป๋าใส่เงินเพิ่มทุน จึงพยายามรวบรวมเสียง เพื่อคว่ำวาระการเพิ่มทุน แต่ไม่สำเร็จ เพราะเสียงโหวตค้านในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่เพียงพอ
ถ้าการเพิ่มทุนสำเร็จ แมกซ์จะระดมเงินเข้ามาได้ประมาณ 2,500 ล้านบาท และแผนการใช้เงินเพื่อขยายการลงทุนก็จัดเตรียมไว้แล้ว
แต่แผนการเพิ่มทุนกำลังยืนอยู่บนเส้นด้าย เพราะราคาหุ้นแมกซ์ที่ซื้อขายบนกระดาน เริ่มไม่จูงใจ โดยขยับขึ้นขยับลงแถว 5-6 สตางค์
ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงมาแถว 5 สตางค์ อาจเป็นผลจากการเทขายของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่โหวตค้านการเพิ่มทุนไม่สำเร็จ
และถ้าผู้ถือหุ้นรายย่อยฝ่ายที่ค้านมติการเพิ่มทุน ทยอยขายทิ้งหุ้นแมกซ์จริง ก็เป็นทางเลือกที่ถูก เพราะเมื่อไม่เห็นด้วยที่คณะกรรมการจะเพิ่มทุนระดมเงินจากผู้ถือหุ้นอีก ไม่พร้อมจะควักเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน ต้องขายหุ้นทิ้ง
ปล่อยให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อยที่เหลือควักกระเป๋าใส่เงินเพิ่มทุน แต่ราคาหุ้นบนกระดานต้องจูงใจกว่าที่เป็นอยู่
เพราะถ้าราคาหุ้นบนกระดานยืนอยู่ในระดับเดียวกับราคาหุ้นเพิ่มทุน หรือยืนอยู่แถว 5 สตางค์ ผู้ถือหุ้นรายย่อยอาจใจฝ่อ ไม่กล้าใส่เงิน
อย่างไรก็ตาม ยามนี้บริษัทจดทะเบียนใดก็ตามที่ประกาศเพิ่มทุน ไม่ว่าจะขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(พีพี)หรือขายผู้ถือหุ้นเดิม ต้องหืดขึ้นคอกันทั้งสิ้น
เพราะดูเหมือน “ตัวเงิน”จะถูกดูดจนเหือดแห้งจากตลาดหุ้น จนบริษัทจดทะเบียนบางแห่งไม่อาจระดมทุนได้ตามเป้า ซึ่งแม้แต่”แมกซ์”ยังต้องยกเลิกแผนการขายหุ้นพีพี และเปลี่ยนแผนมาระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม
เงินที่เหือดแห้งจากตลาดหุ้น เป็นผลจากการที่บริษัทจดทะเบียน แห่กันเพิ่มทุน แข่งกันสูบเงิน และสูบจนนักลงทุนเงินเกลี้ยงกระเป๋า
และนักลงทุนก็เริ่มทันเกมการเพิ่มทุน ไม่ยอมใส่เงินใหม่ลงในบริษัทจดทะเบียนง่ายๆเหมือนอดีต โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนที่ผลประกอบการไม่ดี หรือมีพฤติกรรมการบริหารงานที่ไม่น่าไว้วางใจ
การชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน “แม็กซ์” กำหนดระหว่างวันที่ 15-21 มีนาคมนี้ หรือไม่เกิน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ระยะเวลาการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นจึงกระชับเข้ามาทุกที ราคาหุ้นแมกซ์บนกระดานไม่จูงใจให้ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนเสียด้วย และใครจะลากขึ้นไปเพื่อล่อให้ผู้ถือ หุ้นรายย่อยซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ไม่ได้ เพราะถ้าราคาพุ่งทะยาน จะเกิดถล่มขายทำกำไร ทำให้คนลากต้องเจ็บตัวเปล่า
ถึงตอนนี้คงต้องปล่อยให้แผนการเพิ่มทุนเป็นไปตามยถากรรม ปล่อยให้ฝ่ายบริหาร”แมกซ์”ลุ้นระทึกว่า ผู้ถือหุ้นจะใส่เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนมาเท่าไหร่ และเตรียมทำใจไว้ ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้น จะหวังว่า ผู้ถือหุ้นเดิมเทเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนมาเต็มจำนวน รวมวงเงินประมาณ 2,500 ล้านบาทนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อย “แมกซ์”น่าจะกำลัง “กรอบ” กระเป๋าแห้งตามๆกัน ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่รู้ว่า จะมีใครใส่เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนสักเท่าไหร่