MAX เล็งนำเงินเพิ่มทุนเสริมสภาพคล่องซื้อขายเหล็ก รองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไร
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -27 มิ.ย. 57 15:16 น.
นายชำนิ จันทร์ฉาย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า การทำคำเสนอซื้อหุ้น MAX ของนาย ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ในราคา 0.05 สตางค์ จะเเล้วเสร็จภายในวันจันทร์นี้ จากนั้นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ (บริษัท เจวีเอส ที่ปรึกษาการเงิน จํากัด ) จะรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อ และเเจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหลังจากนั้น ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งว่านักลงทุนจะขายหุ้นให้หรือไม่ เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อ 0.05 สตางค์ นั้นต่ำว่าราคาซื้อขายในตลาด ณ ปัจจุบันที่ 0.66 สตางค์(ราคายังไม่ไดลูทจากการเพิ่มทุน)
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1.8 หมื่นล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.05 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 900 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง และเพิ่มปริมาณการซื้อขายเหล็กให้ขึ้นมาอยู่ที่ 6 เเสนตันต่อวัน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งเห็นได้จากเงินทุนหมุนเวียนที่มีประมาณ 60 - 70 ล้านบาท จึงไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มที่ รวมถึงบริษัทฯมีแผนซื้อโรงเหล็กใหม่เพื่อเพิ่มกำลังผลิตในอนาคต จึงหวังว่าการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเติบโตได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจขณะนี้ บริษัทฯจะนำเงินจำนวน 350 ล้านบาท มาใช้รองรับการซื้อขายเหล็กสำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่กำลังจะได้รับการอนุมัติจากคณะรักษาการความสงบเเห่งชาติ โดยบริษัทคาดการณ์รายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ส่วนมาร์จิ้นคาดว่าจะอยู่ที่ราว 2% และพลิกกลับมามีกำไรภายในปีนี้
รายงาน โดย ชุติมา แก้ววิเศษ
เรียบเรียง โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
อีเมล์. anurak@efinancethai.com
ข่าว MAX
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -27 มิ.ย. 57 15:16 น.
นายชำนิ จันทร์ฉาย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า การทำคำเสนอซื้อหุ้น MAX ของนาย ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ในราคา 0.05 สตางค์ จะเเล้วเสร็จภายในวันจันทร์นี้ จากนั้นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ (บริษัท เจวีเอส ที่ปรึกษาการเงิน จํากัด ) จะรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อ และเเจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหลังจากนั้น ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งว่านักลงทุนจะขายหุ้นให้หรือไม่ เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อ 0.05 สตางค์ นั้นต่ำว่าราคาซื้อขายในตลาด ณ ปัจจุบันที่ 0.66 สตางค์(ราคายังไม่ไดลูทจากการเพิ่มทุน)
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1.8 หมื่นล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.05 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 900 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง และเพิ่มปริมาณการซื้อขายเหล็กให้ขึ้นมาอยู่ที่ 6 เเสนตันต่อวัน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งเห็นได้จากเงินทุนหมุนเวียนที่มีประมาณ 60 - 70 ล้านบาท จึงไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มที่ รวมถึงบริษัทฯมีแผนซื้อโรงเหล็กใหม่เพื่อเพิ่มกำลังผลิตในอนาคต จึงหวังว่าการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเติบโตได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจขณะนี้ บริษัทฯจะนำเงินจำนวน 350 ล้านบาท มาใช้รองรับการซื้อขายเหล็กสำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่กำลังจะได้รับการอนุมัติจากคณะรักษาการความสงบเเห่งชาติ โดยบริษัทคาดการณ์รายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ส่วนมาร์จิ้นคาดว่าจะอยู่ที่ราว 2% และพลิกกลับมามีกำไรภายในปีนี้
รายงาน โดย ชุติมา แก้ววิเศษ
เรียบเรียง โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
อีเมล์. anurak@efinancethai.com